เดอะวอลล์ (อังกฤษ: The Wall) เป็นสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 11 ของวงโพรเกรสซิฟร็อกจากประเทศอังกฤษ พิงก์ ฟลอยด์ และนับเป็นสตูดิโออัลบั้มสุดท้ายที่รวมสมาชิกดั้งเดิมของวง ได้แก่ เดวิด กิลมอร์ (มือกีตาร์), โรเจอร์ วอเทอรส์ (มือกีตาร์/ร้องนำ), ริชาร์ท ไรท์ (มือคีย์บอร์ด) และนิค เมสัน (มือกลอง) ก่อนที่ไรท์จะออกจากวง อัลบั้มได้รับการเปิดตัวในวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1979 จนภายหลังการทัวร์ "The Wall Tour" (1980–81) ได้ออกภาพยนตร์กึ่งมิวสิกวีดิโอในปี ค.ศ. 1982 ในชื่อ "Pink Floyd – The Wall" ในซิงเกิล Another Brick in the Wall, Part 2 ซึ่งครองอันดับ 1 บนชาร์ทต่าง ๆ เพียงซิงเกิลเดียวในอัลบั้ม

เดอะวอลล์
สตูดิโออัลบั้มโดย
วางตลาด30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1979
บันทึกเสียงธันวาคม ค.ศ. 1978 - พฤศจิกายน ค.ศ. 1979 ที่สตูดิโอ
แนวเพลง
ความยาว80:54
ค่ายเพลง
  • ฮาเวสต์/อีเอ็มไอ
  • โคลัมเบีย
ลำดับอัลบั้มของพิงก์ ฟลอยด์
แอนิมัลส์
(1977)แอนิมัลส์1977
เดอะวอลล์
(1979)
อะคอลเลคชันออฟเกรตแดนซ์ซองส์
(1981)อะคอลเลคชันออฟเกรตแดนซ์ซองส์1981

เช่นเดียวกับ 3 อัลบั้มก่อนหน้าของพิงก์ ฟลอยต์ ที่เน้นแต่งปรัชญากับเนื้อเพลง เดอะวอลล์ ได้นำเสนอคอนเซปต์ในธีมของความโดดเดี่ยว และการถูกทิ้ง ผ่านการถ่ายทอดเรื่องราวอันข่มขื่นของ ซิด บาร์เร็ตต์ อดีตสมาชิกวง ที่ได้สูญเสียพ่อในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาถูกต่อต้านจากครูในโรงเรียน ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่แม่เข้มงวด และการแต่งงานที่ล้มเหลว จากทั้งหมดนี้เองได้เปลี่ยนแปลงเขาเป็นคนโดดเดี่ยวในสังคม จึงได้นำมาเปรียบในมุมมองของผนังกำแพง โดยวอร์เทอรส์ในฐานะหัวหน้าวงได้คิดขึ้นระหว่างทัวร์ "In the Flesh Tour" ปี ค.ศ. 1977 จากจินตนาการภาพที่เห็นผู้ฟังกับเขาบนเวทีว่าเป็นดั่งกำแพง อัลบั้มยังนับว่าได้นำเสนอเนื้อหาที่รุนแรงขึ้นกว่าอัลบั้มก่อนหน้านี้มาก ไรท์ได้ออกจากวงในระหว่างบันทึกเสียง แต่ก็ยังคงร่วมเล่นให้กับวงเป็นครั้งคราวในทัวร์ "The Wall Tour" หน้าปกอัลบั้ม เดอะวอลล์ นับว่าเป็นหนึ่งในแบบหน้าปกมีความเรียบง่ายที่สุดของวง ด้วยการแสดงเพียงลายเส้นกำแพงอิฐสีขาว และไม่มีตัวหนังสือใด ๆ เลย

อัลบั้มได้ถูกนำไปใช้ในวงการต่อต้านเป็นวงกว้างโดยเฉพาะการศึกษา ในปี ค.ศ. 1980 ประเทศแอฟริกาใต้ ได้ทำการแบนเพลง Another Brick in the Wall ที่นักศึกษาได้นำเพลงมาปรับใช้ในการออกมาประท้วงด้านความไม่เท่าเทียมทางเชื้อชาติในโรงเรียนภายใต้ระบอบการแบ่งแยกสีผิว[4][5]

อัลบั้ม ประสบผลสำเร็จในยอดขายด้วยการเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ขายดีที่สุดใน ปี ค.ศ. 1980 และในปี ค.ศ. 1999 ก็สามารถจำหน่ายไปแล้วกว่า 23 ล้านการยืนยันจากสมาคมอุตสาหกรรมบันทึกเสียงของสหรัฐ (RIAA) หรือคิดเป็นกว่า 15 ล้านชุด ทำให้เป็นอัลบั้มที่ได้รับการยืนยันยอดจำหน่ายสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ในสหรัฐ นิตยสารโรลลิงสโตน ได้จัดอันดับ เดอะวอลล์ ไว้ที่ 87 บนหัวข้อ "500 อัลบั้มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล"

คอนเซปต์และเรื่องราว แก้

เดอะวอลล์เป็นแนวร็อกโอเปรา[6] ที่นำเสนอการถูกละทิ้งและความโดดเดี่ยว ผ่านกำแพง ในเพลงได้ถ่ายทอดเนื้อเรื่องของตัวละครเอก คือ "พิงก์" (Pink) ซึ่งมีความหมายถึง ซิด บาร์เร็ตต์[7] และเช่นเดียวกับวอร์เทอรส์เอง ที่พ่อของพวกเขาเสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 2[8] "พิงก์" จึงอยู่ในครอบครัวที่มีแม่เป็นเสาหลัก ซึ่งแม่ของเขาก็เป็นคนที่เข้มงวด เจ้าระเบียบ แต่ในเพลง "Mother" กลับสื่อออกมาในเชิงชื่นชมว่า แม่ของเขาต่างหากที่ช่วยพิงก์ในการสร้างกำแพงเพื่อปกป้องเขาจากโลกภายนอกนี้ จากประโยคที่ว่า "Of course Momma's gonna help build the wall," โดยได้เน้นว่าแม่จะอยู่เคียงข้างเขาจนกว่าเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่ และเมื่อเขาโตขึ้นก็กังวลที่จะเอาความรักไปให้กับหญิงอื่น

เมื่อเขาไปโรงเรียนก็ถูกรังแกกดขี่ข่มเหง จากคุณครู ความชอกช้ำนี้เองที่ทำให้ตอกย้ำว่า "เป็นกลุ่มก้อนอิฐในกำแพง" (Bricks in the wall) เช่นเดียวกับในเพลง "Another Brick in the Wall Part II" ที่ได้สื่ออย่างชัดเจนว่า เขาต้องการประท้วงความเข้มงวดและความเจ้าระเบียบของโรงเรียนลง รวมถึงต้องการเสรีภาพ เมื่อพิงก์ เติบโตขึ้นได้กลายเป็นร็อกเกอร์ที่มีชื่อเสียง เขาก็พบกับการนอกใจ ที่ทำให้การแต่งงานเขายุติลง จนเขาติดยา และระเบิดความรุนแรงที่สะสมมาเนิ่นนานในตัวของเขา ในที่สุดเขาก็สร้างกำแพงสำเร็จ เป็นการสิ้นสุดความโดดเดี่ยวของเขาจากการติดต่อกับโลกมนุษย์[9]

จากนั้นพิงก์ได้พบว่าตนเองเป็นโรคซึมเศร้า จึงได้ไปปรึกษาแพทย์ไห้ช่วยรักษาอาการของเขา แต่ปรากฎว่าการรักษาครั้งนี้มีผลข้างเคียงจนทำให้พิงก์เชื่อว่าตนเองเป็นเผด็จการฟาสซิสต์ที่กำลังทำการแสดงอยู่ในคอนเสิร์ตธีมนีโอนาซี เมื่อเขาได้ฟื้นคืนสติมา เขากลับตกอยู่ในห้วงความคิด ที่เขากำลังถูกไต่สวนจากศาลในสิ่งที่เขาทำลงไป และเขาได้ถูกพิพากษาจากศาล (หรือคือความคิดของเขา) ให้ "ทลายกำแแพงลงเสีย" จนทำให้พิงก์กลับเข้าสู่ความจริงอีกครั้ง[10]

เช่นเดียวกับอัลบั้มอื่น ๆ ของวง ยังคงมีการรำลึกถึงซิด บาร์เร็ตต์อยู่หลายครั้งในอัลบั้ม อาทิเช่นในเพลง "Nobody Home" และเพลง "Comfortbly Numb"[11]

รายชื่อเพลง แก้

เพลงแต่งโดยโรเจอร์ วอร์เทอรส์ เป็นหลัก

แผ่นที่หนึ่ง
ลำดับชื่อเพลงร้องนำยาว
1."In the Flesh?"วอร์เทอรส์3:16
2."The Thin Ice"กิลมอร์, วอร์เทอรส์2:27
3."Another Brick in the Wall"วอร์เทอรส์3:21
4."The Happiest Days of Our Lives"วอร์เทอรส์1:46
5."Another Brick in the Wall"กิลมอร์, วอร์เทอรส์3:59
6."Mother"กิลมอร์, วอร์เทอรส์5:32
ความยาวทั้งหมด:20:21
แผ่นที่สอง
ลำดับชื่อเพลงประพันธ์ร้องนำยาว
1."Goodbye Blue Sky" กิลมอร์2:45
2."Empty Spaces" วอร์เทอรส์2:10
3."Young Lust"วอร์เทอรส์, กิลมอร์กิลมอร์3:25
4."One of My Turns" วอร์เทอรส์3:41
5."Don't Leave Me Now" วอร์เทอรส์4:08
6."Another Brick in the Wall (Part III)" วอร์เทอรส์1:48
7."Goodbye Cruel World" วอร์เทอรส์0:48
ความยาวทั้งหมด:18:45
แผ่นที่สาม
ลำดับชื่อเพลงประพันธ์ร้องนำยาว
1."Hey You" กิลมอร์, วอร์เทอรส์4:40
2."Is There Anybody Out There?" วอร์เทอรส์2:44
3."Nobody Home" วอร์เทอรส์3:26
4."Vera" วอร์เทอรส์1:35
5."Bring the Boys Back Home" วอร์เทอรส์1:21
6."Comfortably Numb"กิลมอร์, วอร์เทอรส์วอร์เทอรส์, กิลมอร์6:23
ความยาวทั้งหมด:20:09
แผ่นที่สี่
ลำดับชื่อเพลงประพันธ์ร้องนำยาว
1."The Show Must Go On" กิลมอร์1:36
2."In the Flesh" วอร์เทอรส์4:15
3."Run Like Hell"กิลมอร์, วอร์เทอรส์วอร์เทอรส์, กิลมอร์4:20
4."Waiting for the Worms" วอร์เทอรส์, กิลมอร์4:04
5."Stop" วอร์เทอรส์0:30
6."The Trial"วอร์เทอรส์, เอซรินวอร์เทอรส์5:13
7."Outside the Wall" วอร์เทอรส์1:41
ความยาวทั้งหมด:21:39

ชาร์ท แก้

อัลบั้ม
ชาร์ท (1979–80) อันดับ
Australia (Kent Music Report)[12] 1
Austrian Albums (Ö3 Austria)[13] 1
Canada Top Albums/CDs (RPM)[14] 1
Dutch Albums (Album Top 100)[15] 1
German Albums (Offizielle Top 100)[16] 1
New Zealand Albums (RMNZ)[17] 1
Norwegian Albums (VG-lista)[18] 1
Swedish Albums (Sverigetopplistan)[19] 1
UK Albums (OCC)[20] 3
US Billboard 200[21] 1
ชาร์ท(1990) อันดับ
Dutch Albums (Album Top 100)[22] 19
ชาร์ท (2005–06) อันดับ
Austrian Albums (Ö3 Austria)[23] 11
Belgian Albums (Ultratop Flanders)[24] 85
Belgian Albums (Ultratop Wallonia)[25] 81
Danish Albums (Hitlisten)[26] 19
Finnish Albums (Suomen virallinen lista)[27] 21
Italian Albums (FIMI)[28] 13
Spanish Albums (PROMUSICAE)[29] 9
Swiss Albums (Schweizer Hitparade)[30] 29
ชาร์ท (2011–12) อันดับ
Australian Albums (ARIA)[31] 20
Austrian Albums (Ö3 Austria)[32] 15
Belgian Albums (Ultratop Flanders)[33] 44
Belgian Albums (Ultratop Wallonia)[34] 20
Czech Albums (ČNS IFPI)[35] 7
Danish Albums (Hitlisten)[36] 10
Dutch Albums (Album Top 100)[37] 15
Finnish Albums (Suomen virallinen lista)[38] 17
French Albums (SNEP)[39] 12
German Albums (Offizielle Top 100)[16] 4
Irish Albums (IRMA)[40] 38
Italian Albums (FIMI)[41] 4
New Zealand Albums (RMNZ)[42] 14
Norwegian Albums (VG-lista)[43] 10
Polish Albums (ZPAV)[44] 11
Portuguese Albums (AFP)[45] 10
Spanish Albums (PROMUSICAE)[46] 15
Swedish Albums (Sverigetopplistan)[47] 13
Swiss Albums (Schweizer Hitparade)[48] 8
UK Albums (OCC)[49] 22
US Billboard 200[50] 17

อ้างอิง แก้

  1. Murphy, Sean (17 November 2015). "The 25 Best Classic Progressive Rock Albums". PopMatters. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-11. สืบค้นเมื่อ 7 June 2016.
  2. Breithaupt, Don; Breithaupt, Jeff (2000), Night Moves: Pop Music in the Late '70s, St. Martin's Press, p. 71, ISBN 978-0-312-19821-3
  3. Brown, Jake (2011). Jane's Addiction: In the Studio. SCB Distributors. p. 9. ISBN 978-0-9834716-2-2.
  4. "Counting out time Pink Floyd the wall – song was banned in South Africa in 1980". Dprp.net. 30 November 1979. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 June 2011. สืบค้นเมื่อ 11 May 2011.
  5. (UPI) "South Africa Bans Floyd's 'The Wall'" The New York Times 15 July 1980: C6
  6. "Rock Milestones: Pink Floyd – The Wall", The New York Times, สืบค้นเมื่อ 30 May 2010; Pink Floyd's Roger Waters Announces The Wall Tour, MTV, สืบค้นเมื่อ 30 May 2010; Top 14 Greatest Rock Operas/Concept Albums Of All Time, ign.com, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-03-09, สืบค้นเมื่อ 30 May 2010
  7. Schaffner 1991, pp. 225–226
  8. Scarfe 2010, p. 57
  9. Schaffner 1991, pp. 210–211
  10. Fitch & Mahon 2006, pp. 71, 113
  11. Blake 2008, p. 274
  12. Kent, David (1993). Australian Chart Book 1970–1992 (Illustrated ed.). St. Ives, N.S.W.: Australian Chart Book. p. 233. ISBN 0-646-11917-6.
  13. "Austriancharts.at – Pink Floyd – The Wall" (ภาษาเยอรมัน). Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  14. "Top RPM Albums: Issue 9481a". RPM. Library and Archives Canada. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  15. "Dutchcharts.nl – Pink Floyd – The Wall" (ภาษาดัตช์). Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  16. 16.0 16.1 "Offiziellecharts.de – Pink Floyd – The Wall" (ภาษาเยอรมัน). GfK Entertainment Charts. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  17. "New Zealand charts portal (23/12/1979)". charts.org.nz. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  18. "Norwegian charts portal (50/1979)". norwegiancharts.com. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  19. "Swedish charts portal (14/12/1979)". swedishcharts.com. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  20. "Pink Floyd | Artist | Official Charts". UK Albums Chart. สืบค้นเมื่อ 11 June 2016.
  21. "Pink Floyd Chart History (Billboard 200)". Billboard. สืบค้นเมื่อ 11 June 2016.
  22. "Dutchcharts.nl – Pink Floyd – The Wall" (ภาษาดัตช์). Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 22 June 2016.
  23. "Austriancharts.at – Pink Floyd – The Wall" (ภาษาเยอรมัน). Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 22 June 2016.
  24. "Ultratop.be – Pink Floyd – The Wall" (ภาษาดัตช์). Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 22 June 2016.
  25. "Ultratop.be – Pink Floyd – The Wall" (ภาษาฝรั่งเศส). Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 22 June 2016.
  26. "Danishcharts.dk – Pink Floyd – The Wall". Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 22 June 2016.
  27. "Pink Floyd: The Wall" (ภาษาฟินแลนด์). Musiikkituottajat – IFPI Finland. สืบค้นเมื่อ 22 June 2016.
  28. "Italiancharts.com – Pink Floyd – The Wall". Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 22 June 2016.
  29. "Spanishcharts.com – Pink Floyd – The Wall". Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 22 June 2016.
  30. "Swisscharts.com – Pink Floyd – The Wall". Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 22 June 2016.
  31. "Australiancharts.com – Pink Floyd – The Wall". Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  32. "Austriancharts.at – Pink Floyd – The Wall" (ภาษาเยอรมัน). Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  33. "Ultratop.be – Pink Floyd – The Wall" (ภาษาดัตช์). Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  34. "Ultratop.be – Pink Floyd – The Wall" (ภาษาฝรั่งเศส). Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  35. "Czech Albums – Top 100". ČNS IFPI. Note: On the chart page, select 09.Týden 2012 on the field besides the words "CZ – ALBUMS – TOP 100" to retrieve the correct chart. สืบค้นเมื่อ 17 June 2016.
  36. "Danish charts portal (09/03/2012)". danishcharts.com. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  37. "Dutchcharts.nl – Pink Floyd – The Wall" (ภาษาดัตช์). Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  38. "Finnish charts portal (10/2012)". finnishcharts.com. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  39. "Les charts francais (03/03/2012)". lescharts.com. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  40. "GFK Chart-Track Albums: Week 9, 2012". Chart-Track. IRMA. สืบค้นเมื่อ 22 June 2016.
  41. "Italian charts portal (08/03/2012)". italiancharts.com. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  42. "New Zealand charts portal (05/03/2012)". charts.org.nz. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  43. "Norwegian charts portal (10/2012)". norwegiancharts.com. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  44. "Oficjalna lista sprzedaży :: OLiS - Official Retail Sales Chart". OLiS. Polish Society of the Phonographic Industry. สืบค้นเมื่อ 22 June 2016.
  45. "Portuguese charts portal (10/2012)". portuguesecharts.com. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  46. "Spanish charts portal (04/03/2012)". spanishcharts.com. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  47. "Swedish charts portal (02/03/2012)". swedishcharts.com. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  48. "Swisscharts.com – Pink Floyd – The Wall". Hung Medien. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  49. "Pink Floyd | Artist | Official Charts". UK Albums Chart. สืบค้นเมื่อ 11 June 2016.
  50. "Pink Floyd Chart History (Billboard 200)". Billboard. สืบค้นเมื่อ 11 June 2016.