ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การร้องเพลง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ย้อนการแก้ไขที่ 9218000 สร้างโดย พงศ์ สาริตาจินดา (พูดคุย) ไม่เป็นสารานุกรม+ก็อปวาง
ป้ายระบุ: ทำกลับ
 
บรรทัด 15:
| oclc=10418423
}}</ref> นักร้องมืออาชีพจะสร้างหนทางสู่อาชีพด้วยการเป็นนักร้องในแนวเพลงต่าง ๆ อย่างเช่น นักร้องคลาสสิก นักร้องร็อก พวกเขาต้องฝึกทักษะการร้องในแนวเพลงนั้น ทั้งจากครูสอนร้องหรือโค้ชร้อง ในอาชีพของพวกเขา
 
5 เทคนิคสู่การเป็นนักร้องมืออาชีพ
 
1. ท่วงท่า
 
สำหรับท่าทางนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีการกำหนดรูปแบบตายตัว ซึ่งท่าทางในการร้องที่เหมาะสมนั้นควรเป็นไปเองโดยธรรมชาติ วางตัวตามสบายอยู่ในท่าที่ผ่อนคลายไม่เกร็งตัว เมื่อเราเริ่มมีความมั่นใจและกล้าแสดงออกมากขึ้น ให้หันมาโฟกัสไปที่บุคลิกของตัวเรา
 
เริ่มจากยืนตรงให้รู้สึกว่ากระดูกสันหลังรับน้ำหนักทั้งหมด ฝึกยกหัว เชิดหน้า ไหล่ตรง แขม่วท้อง หลังตรง ไม่เกร็งตัว อาจจะฟังดูยุ่งยากแต่ท่วงท่าเหล่านี้ล้วนส่งผลกับการออกเสียงและบุคลิกในการร้อง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดสายตาของผู้ชม โดยการฝึกซ้อมหน้ากระจกเป็นประจำจะช่วยให้ประสบผลสำเร็จในข้อนี้ง่ายมากยิ่งขึ้น
 
2. ฝึกการหายใจ
 
แน่นอนว่าการหายใจนั้นคือหลักสำคัญของการร้องเพลง การร้องเพลงที่ไพเราะได้นั้นต้องเริ่มจากฝึกเทคนิคในการหายใจ เพราะเสียงร้องเกิดขึ้นจากลมที่ผ่านหลอดเสียงและออกมาจากปาก โดยเราจะต้องฝึกการเก็บลมไว้ใช้เปล่งเสียงและหาจังหวะในการหายใจเข้าออกให้เหมาะสม
 
สำหรับการฝึกเก็บลมหายใจนั้นให้ยืนตัวตรงหายใจเข้าให้สุด กลั่นไว้สักครู่แล้วค่อยๆ ผ่อนลมให้ใจออกนับ 1-5 เป็นประจำจะช่วยบริหารปอดและทำให้เราเก็บลมหายใจได้ดีขึ้น นอกจากนั้นให้พยายามรักษาสุขภาพอย่าให้เป็นหวัด เจ็บคอหรือต่อมทอมซินอักเสบ อย่าขากเสมหะแรงๆ หรือสั่งน้ำมูกแรงๆ หลีกเลี่ยงการดื่มสุราหรือสูบบุหรี่จัดจะมีผลทำให้ปอดและหลอดลมอักเสบ
 
3. เปล่งเสียง
 
เสียงของเราก็ไม่ต่างอะไรจากตู้แอมป์กีตาร์ดี ๆ สักตัว เสียงเกิดจากการสั่นสะเทือนภายในลำคอ และหลอดเสียง มีปากเป็นตัวเปล่งเสียง ดังนั้นในขณะที่ร้องเพลงจะรู้สึกถึงเสียงที่พุ่งไปข้างหน้า ระวังอย่าเกร็งคอหรือหน้า อย่าเกร็งลิ้น หรือกระดกลิ้นขึ้น เพราะจะไปบังให้เสียงที่ออกมาดูอั้นและเกร็ง ไม่น่าฟังสักเท่าไหร่ แสดงถึงการเปล่งเสียงที่ผิดและไม่มีคุณภาพ
 
การฝึกฝนการเปล่งเสียงที่ทำได้ง่ายก็คือ เลือกเพลงมาหนึ่งเพลงพยายามฟังและออกเสียงตาม กักเก็บลมหายให้ใจที่ใช้สำหรับท่อนต่างๆ ฝึกซ้ำพยายามออกเสียงทุกตัวโน๊ตได้โดยที่เสียงไม่ขาดช่วง การทำแบบนี้กับหลายๆเพลงจะช่วยให้เราสามารถเปล่งเสียที่ถูกต้องและมีคุณภาพได้
 
4. เข้าถึงอารมณ์เพลง
 
ถึงแม้ว่าจะร้องเพลงเพราะแต่ถ้าไร้ซึ่งอารมณ์แล้ว ก็คงทำให้บทเพลงๆนั้นขาดความน่าฟัง เพราะการขับร้องนั้นก็เหมือนกับสื่ออารมณ์ สื่อความหมาย จากเนื้อเพลงที่ผู้แต่งต้องการถ่ายทอด โดยตัวผู้ร้องจำเป็นต้องตีความหมายเนื้อร้องและร้องออกมาด้วยความรู้สึกนั้นจริงๆ จึงจะสามารถถ่ายทอดอารมณ์เพลงออกมาได้อย่างลึกซึ้ง
 
สำหรับวิธีการฝึกสื่ออารมณ์เพลงนั้นให้เริ่มจากการอ่านและตีความหมายของเนื้อเพลงเสียก่อน ให้จินตนาการสมมุติเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเข้าถึงอารมณ์แล้วจึงค่อยเรียบเรียงคำร้องออกมาตามความรู้สึก หลังจากนั้นจึงค่อยมาปรับแต่งการเอื้อนหรือการใช้เสียงที่เน้นลงในท่อนต่างๆ ที่ละจุดอย่างเหมาะสม
 
5. เลือกใช้ไมโครโฟน
 
เมื่อร้องเพลงได้ดีขึ้นตามลำดับแล้ว ไมค์คืออุปกรณ์เสริมสำคัญที่จะถ่ายทอดเสียงของเรา เปรียบเสมือนเครื่องดนตรีชิ้นหนึ่งที่ยกระดับ performance ของเราให้ดียิ่งขึ้น ข้อสำคัญคือไมค์ส่วนตัวจะมีความปลอดภัยมากกว่า เพราะไมค์บนเวทีที่มีให้อาจเป็นเหมือนกับแหล่งสะสมเชื้อโรคซึ่งอาจจะทำให้ป่วยได้ นอกจากนั้นไมค์แต่ละตัวยังมีไดนามิคต่างกัน เมื่อเป็นไมค์ของเราเอง เราย่อมชำนาญการใช้งานได้ดีกว่า
 
ไมค์ส่วนตัวจึงถือเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับนักร้อง ซึ่งไมค์ที่ดีควรมีคุณสมบัติที่รับเสียงได้ดี ช่วยเซฟลำคอเราเวลาร้อง และต้องมีราคาที่ไม่แพงเว่อร์จนเกินไป อย่างเช่นไมค์ Carol ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี มีหลากหลายรุ่นให้เลือกตามการใช้งาน ซึ่งเราขอแนะนำให้คุณได้ลองก่อนตัดสินใจซื้อไมโครโฟนสักตัว รับรองไม่มีผิดหวัง! <ref>{{Cite web|title=Cin Guitars|url=http://www.cinguitars.com/event_detail.php?id=37|website=www.cinguitars.com}}</ref>
 
== อ้างอิง ==