ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 43:
 
=== พระนาม ===
พระนามของสมเด็จเจ้าฟ้าพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้นได้รับพระราชทานจาก[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ในการ[[พระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่]] เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2468<ref name="สมโภชเดือน">ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2468/D/3094.PDF การสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่เจ้าฟ้าพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งประสูติ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 ที่ในพระบรมมหาราชวัง], เล่ม 42, ตอน 0 ง, 10 มกราคม พ.ศ. 2468, หน้า 3094 </ref> และมีคำนำพระนามว่า '''สมเด็จพระเจ้าภาติกาเธอ''' (ภาติกา หมายถึง หลานสาวที่เป็นลูกสาวของพี่ชาย) โดยก่อนสมโภชมีการคิดพระนามไว้ 3 พระนาม ได้แก่ <br>1. สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชอรสา สิริโสภาพัณณวดี<br>2., สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนจุฬิน สิริโสภิณพัณณวดี <br>3. และสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี<ref>[http://library.stou.ac.th/ODI/Petcharat/HTML/Pakine-3.html พระนามและคำนำพระนาม สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ดวงแก้วแห่งมงกุฎเกล้า]</ref> ท้ายที่สุด พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ทรงเลือกพระนามสุดท้ายพระราชทาน<ref name="ท้ายวัง"/> <br>โดยพระนาม แปลว่า ''เจ้าฟ้าพระราชธิดาผู้มีพระชาติกำเนิดเป็นศรีดั่งดวงแก้ว เป็นพัชรแห่งมหาวชิราวุธ มีพระฉวีพรรณสิริโฉมงามพร้อม''<ref>คุณหญิงวนิตา ดิถียนต์ และ ดร.ชัชพล ไชยพร, ดวงแก้วแห่งพระมงกุฎเกล้า, อมรินทรพริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, 2552, ISBN 978-974-9559-96-3</ref>
 
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 (ปฏิทินสากลคือ พ.ศ. 2478) [[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ทรงสละราชสมบัติ [[พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร|พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล]] ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบต่อพระปิตุลา คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีประกาศเปลี่ยนคำนำพระนาม “สมเด็จพระเจ้าภาติกาเธอ” เป็น “'''สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ”'''<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2478/D/1179.PDF ประกาศคำนำพระนามพระบรมวงศานุวงศ์], เล่ม 52, ตอน 0 ง, 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2478, หน้า 1179 </ref>
 
จากนั้นในปี พ.ศ. 2489 เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เสด็จสวรรคต [[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช|สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช]] เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบต่อพระเชษฐา ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คงคำนำพระนามของสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ ที่ '''สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ''' ดังเดิม เนื่องจากคำว่า "ภคินี" หมายถึง ลูกพี่ลูกน้องหญิง<ref>บ. บุหงามาศ. "สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ" เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี. ใน''ศิลปวัฒนธรรม'' ปีที่ 33 ฉบับที่ 9 กรกฎาคม 2555. กรุงเทพฯ:มติชน. 2555, หน้า 24</ref> เนื่องจากสังคมไทยจะพิจารณาจากความเป็น "ลูกผู้พี่" และ "ลูกผู้น้อง"<ref>บ. บุหงามาศ. "สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ" เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี. ใน''ศิลปวัฒนธรรม'' ปีที่ 33 ฉบับที่ 9 กรกฎาคม 2555. กรุงเทพฯ:มติชน. 2555, หน้า 25</ref> จึงทรงพระนามตามพระฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ดังปรากฏในปัจจุบันว่า '''สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี''' ส่วนพระนามในภาษาอังกฤษตามทางราชการใช้ว่า "''Her Royal Highness Princess Bejaratana Rajasuda Sirisobhabannavadi''"<ref>[http://www.ohmpps.go.th/pramhaksat_en.php?cg_id=518&ct_id=300 Office of His Majesty's principal private secretary: Royal Signatures], สืบค้นข้อมูลวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554</ref>