ผลต่างระหว่างรุ่นของ "องค์การสนธิสัญญาป้องกันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560 |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
{{Infobox organization
|name
|image
|image_border =
|size
|alt
|caption
|map
|mcaption
|abbreviation = SEATO
|motto
|formation
|extinction
|type
|status
|purpose
|headquarters = [[กรุงเทพมหานคร]]
|location
|coords
|region_served = [[เอเชียตะวันออกเฉียงใต้]]
|membership =
บรรทัด 29:
|{{flag|United Kingdom}}
|{{flag|United States}}}}<br />'''รัฐที่ปกป้องโดย SEATO'''{{Collapsible list|title=2 ชาติ|{{flag|South Vietnam}}|{{flag|Kingdom of Laos}}}}
|language
|leader_title = <!-- position title for the leader of the org -->
|leader_name
|main_organ
|parent_organization = <!-- if one -->
|affiliations = <!-- if any -->
|num_staff
|num_volunteers =
|budget
|website
|remarks
}}
'''องค์การสนธิสัญญาป้องกันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้''' (สปอ. หรือ ซีโต้) ({{lang-en|Southeast Asia Treaty Organization - SEATO}}) เป็นองค์การที่ก่อตั้งขึ้นตาม '''สนธิสัญญามะนิลา''' ลงนามเมื่อวันที่ [[8 กันยายน]] [[พ.ศ. 2497]] ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ [[19 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2498]] ในช่วง[[สงครามเย็น]] โดย 8 ประเทศ คือ:
บรรทัด 53:
ในภาคอารัมภบทของสัญญานี้ บรรดาประเทศสมาชิกต่างแสดงความปรารถนาที่จะประสานความพยายามของตนที่จะป้องกันร่วมกัน เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคง โดยเฉพาะข้อ 4 ของสนธิสัญญาเป็นข้อสำคัญที่สุด คือ แต่ละประเทศภาคีคู่สัญญาตกลงเห็นพ้องกันว่า หากดินแดนของประเทศใดถูกรุกรานจาการโจมตีด้วยกำลังอาวุธ ประเทศภาคีทั้งหมดที่เหลือจะถือว่าเป็นอันตรายร่วมกัน และจะปฏิบัติการเพื่อเผชิญหน้ากับอันตรายร่วมกัน หรือถ้าหากพื้นที่ภายในเขตครอบคลุมของสนธิสัญญาถูกคุกคามด้วยประการใด ๆ ประเทศภาคีทั้งหมดจะปรึกษากันในทันที เพื่อตกลงในมาตรการเพื่อการป้องกันร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ซีโต้ประสบความล้มเหลวในการเข้าแทรกแซงความขัดแย้งใน[[ประเทศลาว]]และ[[ประเทศเวียดนาม|เวียดนาม]] เนื่องจากการตัดสินใจนั้นต้องการมติเอกฉันท์ แต่ฝรั่งเศสและฟิลิปปินส์นั้นไม่เห็นด้วย
สำนักงานใหญ่ขององค์การเคยตั้งอยู่ที่[[กรุงเทพมหานคร]] มี[[พจน์ สารสิน|นายพจน์ สารสิน]] จาก[[ประเทศไทย]] ดำรงตำแหน่งเลขาธิการทั่วไป ซึ่งเป็นตำแหน่งผู้นำอย่างเป็นทางการขององค์การ ตั้งแต่ [[พ.ศ. 2500]] ถึง [[พ.ศ. 2507|2507]] ปัจจุบันนี้บริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ขององค์การ ที่ถนนศรีอยุธยา ได้กลายเป็นที่ตั้งของ [[กระทรวงการต่างประเทศ]]ของประเทศไทย
ซีโต้ยุบเลิกอย่างเป็นทางการเมื่อ 30 มิถุนายน [[พ.ศ. 2520]] <ref name=EB60>{{harvnb|Encyclopaedia Britannica (India)|2000|p=60}}</ref>เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองของโลกได้เปลี่ยนไปมาก [[สหรัฐอเมริกา]]ถอนกำลังทหารออกจาก [[เวียดนามใต้]] และรัฐบาลที่อเมริกาสนับสนุนประสบความพ่ายแพ้ทั้งในเวียดนาม ลาว และกัมพูชา และทำให้องค์การซีโต้หมดความจำเป็นในฐานะเครื่องมือในการดำเนินนโยบายต่างประเทศของ[[สหรัฐอเมริกา]]ในภูมิภาคนี้
มรดกของซีโต้ในประเทศไทยคงเหลือเพียงอาคารสำนักงานใหญ่ ซึ่งรัฐบาลไทยได้ใช้เป็นที่ทำการส่วนหนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศไทยอยู่หลายปี ต่อมาถูกรื้อถอนลงและมีการสร้างอาคารที่ทำการแห่งใหม่ของกระทรวงการต่างประเทศ (หลังปัจจุบัน)ในพื้นที่เดิม กับโรงเรียนวิศวกรรม สปอ. ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนรูปมาเป็นสถาบันวิชาการอิสระ เรียกว่า[[สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย]] หรือ AIT ในปัจจุบันนี้{{อ้างอิง}}
== อ้างอิง ==
|