ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เช เกบารา"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ย้อนการแก้ไขของ 203.144.242.251 (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย B20180
ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว
ชาวไทย (คุย | ส่วนร่วม)
แก้ไขลิงก์
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 25:
ครั้งยังเป็นนักศึกษาแพทย์หนุ่ม เกบาราเดินทางไปทั่ว[[ทวีปอเมริกาใต้]]และรู้สึกสะเทือนใจกับความยากจนข้นแค้น ความหิวโหย และโรคภัยที่เขาพบระหว่างทาง<ref name="RevMedicine">[http://www.marxists.org/archive/guevara/1960/08/19.htm On Revolutionary Medicine] Speech by Che Guevara to the Cuban Militia on August 19, 1960. "Because of the circumstances in which I traveled, first as a student and later as a doctor, I came into close contact with poverty, hunger and disease; with the inability to treat a child because of lack of money; with the stupefaction provoked by the continual hunger and punishment, to the point that a father can accept the loss of a son as an unimportant accident, as occurs often in the downtrodden classes of our American homeland. And I began to realize at that time that there were things that were almost as important to me as becoming a famous or making a significant contribution to medical science: I wanted to help those people."</ref> ความปรารถนาทำลายล้างสิ่งที่เขามองว่าเป็นการขูดรีดของทุนนิยมในลาตินอเมริกาผลักดันให้เขาเข้ามีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิรูปสังคม[[กัวเตมาลา]]ภายใต้รัฐบาล[[ฮาโกโบ อาร์เบนซ์ กุซมัน|ฮาโกโบ กุซมัน]] แต่สุดท้ายประธานาธิบดีผู้นี้ก็พ้นจากตำแหน่งหลังถูกรัฐประหารซึ่งได้รับความช่วยเหลือจาก[[หน่วยสืบราชการลับกลางแห่งสหรัฐอเมริกา|ซีไอเอ]] ตามคำร้องขอของ[[บริษัทยูไนเต็ดฟรูต]] นั่นทำให้อุดมการณ์ทางการเมืองของเกบาราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น<ref name="RevMedicine" /> ต่อมา ขณะอาศัยอยู่ในกรุง[[เม็กซิโกซิตี]] เขาพบกับ[[ราอุล กัสโตร|ราอุล]]และ[[ฟีเดล กัสโตร]] เข้าร่วม[[ขบวนการ 26 กรกฎาคม]] และออกเดินทางสู่[[คิวบา]]โดยใช้เรือยนต์ขนาดเล็กชื่อ ''[[กรันมา (เรือ)|กรันมา]]'' ด้วยจุดประสงค์ขับไล่ผู้เผด็จการ[[ฟุลเคนเซียว บาติสตา]]ซึ่งสหรัฐอเมริกาหนุนหลังอยู่<ref>[[#refBeaubien2009|Beaubien, NPR Audio Report, 2009]], 00:09–00:13.</ref> ไม่ช้าเกบาราก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญในกองกำลังกบฏดังกล่าว ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองผู้บัญชาการ และมีบทบาทสำคัญยิ่งในการทัพกองโจรซึ่งสามารถล้มระบอบบาติสตาได้สำเร็จภายในเวลาสองปี<ref name="Castrosbrain1960">''"[[#refCastrosbrain1960|Castro's Brain]]"'' 1960.</ref>
 
หลังการปฏิวัติคิวบา เกบารามีบทบาทสำคัญหลายอย่างในรัฐบาลใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมพิจารณาคดีใน[[ศาลปฏิวัติคิวบา|ศาลปฏิวัติ]] และพิพากษาให้ผู้ต้องโทษ[[อาชญากรสงคราม]]ถูกยิงเป้าโดยชุดยิง<ref name="ReferenceA">[[#refTaibo1999|Taibo 1999]], p. 267.</ref> ริเริ่มการปฏิรูปที่ดินการเกษตรในฐานะรัฐมนตรีอุตสาหกรรม เป็นหัวหอกการรณรงค์เพื่อการรู้หนังสือทั่วประเทศซึ่งประสบผลสำเร็จ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติและผู้อำนวยการฝึกสอนให้แก่[[กองทัพคิวบา]] และเดินทางไปทั่วโลกในฐานะผู้แทนทางทูตจากสังคมนิยมคิวบา ตำแหน่งต่าง ๆ ดังกล่าวยังทำให้เขามีหน้าที่หลักในการฝึกสอนกองกำลังอาสาสมัครซึ่งสามารถขับไล่[[การบุกครองอ่าวพิกส์หมู|ผู้บุกครองอ่าวพิกส์หมู]]ออกไปได้<ref name="Kellner89pg69">[[#refKellner1989|Kellner 1989]], pp. 69–70.</ref> และชักนำให้[[สหภาพโซเวียต]]เข้ามาติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ในคิวบาซึ่งกระตุ้นให้เกิด[[วิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบา|วิกฤตการณ์ขีปนาวุธ]]ใน ค.ศ. 1962<ref>[[#refAnderson1997|Anderson 1997]], pp. 526–530.</ref> นอกจากนี้ เขายังเป็นนักจดบันทึกและนักเขียนที่ผลิตผลงานออกมาจำนวนมาก โดยเขียนคู่มือปฏิบัติการรบแบบกองโจรซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อเหตุการณ์ภายหน้า ร่วมกับบันทึกความทรงจำเกี่ยวกับการเดินทางไปทั่วทวีปด้วยจักรยานยนต์ในวัยหนุ่มของเขา ประสบการณ์ชีวิตและความรู้เกี่ยวกับ[[ลัทธิมากซ์-เลนิน]]นำพาให้เขาสรุปว่าความด้อยพัฒนาและ[[ทฤษฎีการพึ่งพา|การตกอยู่ในภาวะพึ่งพา]]ของ[[โลกที่สาม]]เป็นผลที่แท้จริงจาก[[จักรวรรดินิยม]] [[ลัทธิอาณานิคมแนวใหม่]] และ[[ทุนนิยมผูกขาดโดยรัฐ|ทุนนิยมผูกขาด]] ทางเยียวยามีเพียงทางเดียวคือการใช้แนวคิด[[สากลนิยมของชั้นชนกรรมาชีพ]]และ[[การปฏิวัติโลก]]<ref>[http://www.marxists.org/archive/guevara/1964/03/25.htm "On Development"] Speech delivered by Che Guevara at the plenary session of the United Nations Conference on Trade and Development in Geneva, Switzerland on March 25, 1964. "The inflow of capital from the developed countries is the prerequisite for the establishment of economic dependence. This inflow takes various forms: loans granted on onerous terms; investments that place a given country in the power of the investors; almost total technological subordination of the dependent country to the developed country; control of a country's foreign trade by the big international monopolies; and in extreme cases, the use of force as an economic weapon in support of the other forms of exploitation."</ref><ref name="AfroAsian1965">[http://www.marxists.org/archive/guevara/1965/02/24.htm At the Afro-Asian Conference in Algeria] A speech by Che Guevara to the Second Economic Seminar of Afro-Asian Solidarity in Algiers, Algeria on February 24, 1965."The struggle against imperialism, for liberation from colonial or neocolonial shackles, which is being carried out by means of political weapons, arms, or a combination of the two, is not separate from the struggle against backwardness and poverty. Both are stages on the same road leading toward the creation of a new society of justice and plenty." ... "Ever since monopoly capital took over the world, it has kept the greater part of humanity in poverty, dividing all the profits among the group of the most powerful countries. The standard of living in those countries is based on the extreme poverty of our countries. To raise the living standards of the underdeveloped nations, therefore, we must fight against imperialism." ... "The practice of proletarian internationalism is not only a duty for the peoples struggling for a better future, it is also an inescapable necessity."</ref> เกบาราออกจากคิวบาใน ค.ศ. 1965 เพื่อก่อการปฏิวัติคอมมิวนิสต์ในประเทศอื่น ครั้งแรกใน[[สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก|คองโก-กินชาซา]]แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และครั้งต่อมาใน[[โบลิเวีย]] ที่นี่เขาถูก[[กองทัพโบลิเวีย]]ซึ่งมี[[ซีไอเอ]]สนับสนุนอยู่จับ และถูก[[การประหารชีวิตอย่างรวบรัด|ประหารชีวิตโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม]]<ref>[[#refRyan1998|Ryan 1998]], p. 4.</ref>
 
เกบาราเป็นบุคคลทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับทั้งเสียงยกย่องและเสียงประณาม มุมมองต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวเขาได้รับการรวบรวมไว้ในจินตนาการร่วมในรูปของสื่อจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังสือชีวประวัติ บันทึกความทรงจำ ความเรียง สารคดี เพลง หรือภาพยนตร์ เนื่องจากการยอมสละชีพเพื่อความเชื่อของเขา การปลุกเร้าด้วยบทกวีเพื่อให้เกิด[[การต่อสู้ระหว่างชนชั้น]] และความปรารถนาที่จะสร้างความสำนึกของการเป็น "คนใหม่" ซึ่งขับเคลื่อนด้วยจริยธรรมแทนที่จะเป็นสิ่งจูงใจทางวัตถุ เกบาราจึงกลายมาเป็นบุคคลสัญลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบของขบวนการทางการเมืองต่าง ๆ ที่นิยมฝ่ายซ้าย เขาได้รับเลือกจาก[[นิตยสารไทม์]]ให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20<ref>[[#refDorfman1999|Dorfman 1999]].</ref> ส่วนภาพถ่ายของเขาที่มีชื่อว่า ''[[Guerrillero Heroico|นักรบกองโจรผู้เป็นวีรบุรุษ]]'' ({{lang|es|''Guerrillero Heroico''}}) และถ่ายโดย[[อัลเบร์โต กอร์ดา]] ก็ได้รับการยกย่องจาก[[สถาบันวิทยาลัยศิลปะแมริแลนด์]]ว่าเป็น "ภาพถ่ายที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก"<ref>Maryland Institute of Art, referenced at [[#refBBCNews2001b|BBC News May 26, 2001]].</ref>