ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โอกุสต์ เดอ มาร์มง"

ในช่วง[[สงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่ห้า]] มาร์มงสามารถเอาชนะกองทัพออสเตรียได้ใน[[การรบแดลเมเชีย]]ของเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1809 และสามารถจับผู้บัญชาการฝ่ายศัตรูได้ เขามาทันใน[[ยุทธการที่วากรัม|การรบที่วาแกรมวากรัม]]แต่ถูกทหารของ[[อาร์ชดยุกคาร์ล ดยุกแห่งเทเชิน|อาร์ชดยุคคาร์ล]]แห่งออสเตรียเข้าโอบล้อมจนตกอยู่ในสภาวะคับขัน ในที่สุดกำลังเสริมของนโปเลียนก็มาถึงและได้รับชัยชนะ นโปเลียนแต่งตั้งให้เขาเป็นจอมพลถึงแม้เขาจะพูดว่า "ระหว่างตัวคุณเองคุณยังไม่ได้ทำอะไรมากพอที่จะปรับตัวเลือกทั้งหมด" จนทำให้เหล่าทหารพร้อมใจกันพูดว่า

เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นชาวฝรั่งเศสและนายพลตรีแห่งกองทหารรักษาการแห่ง[[ราชอาณาจักรฝรั่งเศส|ราชอาณาจักร]]และใน ค.ศ. 1820 ได้รับ[[เครื่องอิสริยาภรณ์พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์"|เครื่องอิสริยาภรณ์พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์]]และ[[เครื่องอิสริยาภรณ์นักบุญหลุยส์]] เขาเป็นนายพลผู้พิทักษ์ประจำการในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1830 ระหว่าง[[การปฏิวัติเดือนกรกฎาคม]]และได้รับคำสั่งให้ลงมือด้วยความเข้มแข็งในการคัดค้านกฎหมาย ตัวเองต่อต้านนโยบายศาลเขายังพยายามที่จะทำหน้าที่ของเขาและเพียงแต่ให้ความพยายามที่จะปราบปรามการปฏิวัติเมื่อมันเป็นที่ชัดเจนว่ากองกำลังของเขาถูกปราบเรื่องนี้ทำให้คนอ่อนน้อมถ่อมตนมากขึ้นและ[[พระเจ้าชาร์ลที่ 10 แห่งฝรั่งเศส|ดยุคอ็องกูแลม]] แม้สั่งให้เขาถูกจับกุม ตรัสว่า

มาร์มงยอมรับในคำสั่งของกษัตริย์ที่ขอริบทรัพย์สินและตำแหน่งของเขา ทำให้เขาตัดสินใจไม่อยู่ต่อฝรั่งเศส เขาหลงไหลใน[[ยุโรปกลาง|ภาคกลาง]]และ[[ยุโรปตะวันออก|ภาคตะวันออก]]ของ[[ทวีปยุโรป|ยุโรป]] จนสุดท้ายเขาก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่[[เวียนนา|กรุงเวียนนา]] ซึ่งเขาได้รับการต้อนรับอย่างดีจากรัฐบาลออสเตรีย และได้เป็นราชครูให้กับดยุคไรซ์สตาร์ด ชายหนุ่มซึ่งเคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็น[[นโปเลียนที่ 2|นโปเลียนที่สอง]]ไม่กี่สัปดาห์ แม้จะมีมิตรภาพอันยาวนานของเขากับนโปเลียนมาถึงตอนนี้คำกริยา "รากูเซอร์" ซึ่งมาจากชื่อ[[ดยุก|ดยุค]]แห่งรากูซา เป็นคำในครัวเรือนของฝรั่งเศสนั่นหมายถึง "[[กบฏต่อแผ่นดิน|ทรยศ]]" เขาเสียชีวิตที่เมืองเวนิสในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1852 ซึ่งเป็น[[จอมพล]]ของจักรพรรดินโปเลียนคนสุดท้าย