ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หนังสืองานศพ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 3:
==ประวัติ==
 
ในรัชกาลที่ 5 ปี พ.ศ. 2412 มีพระราชประสงค์จะทรงพิมพ์ ''พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์'' ถวายพระราชกุศลในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] แต่ไม่บรรลุสมดังพระราชประสงค์ จนเกิดหนังสืองานศพเกิดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2423 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับสั่งให้จัดพิมพ์เป็นที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ[[สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี]] (พระนางเรือล่ม) และ[[สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรรัตน์ โสภางคทัศนิยลักษณ์ อรรควรราชกุมารี]] โดยมี[[กรมพระยาดำรงราชานุภาพ]]เป็นผู้เรียบเรียง เป็นหนังสือ ''สาราทานปริยายกถามรรค'' มีเนื้อหาเป็นแนวธรรมว่าด้วยบทสวดมนต์ต่าง ๆ ไม่ได้พิมพ์ด้วยกระดาษ แต่จารลงในใบลานเป็น[[อักษรขอม]] ก่อนจะถูกนำมาแปลเป็นภาษาอีกทีหนึ่ง มีการพิมพ์จำนวน 10,000 ฉบับ เพื่อพระราชทานให้วัดวาอารามในยุคนั้นทั่วราชอาณาจักร โดยถือเป็นหนังสือสวดหนังสือสวดมนต์เล่มแรกที่ตีพิมพ์ในประเทศไทยด้วย เล่มที่สองโปรดให้พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงพระศพ[[กรมขุนสุพรรณภาควดี]] คือหนังสือเรื่อง นิบาตชาดก เอกนิบาต<ref name="parliament">[http://library2.parliament.go.th/wichakarn/content-seminar/r20160830.pdf ขุมทรัพย์ที่รฦกหนังสืออนุสรณ์งานศพ ]</ref> อย่างไรก็ดี มีการพบข้อมุลว่า มีการตีพิมพ์ หนังสือเรื่อง ''พระอะไภยมะณี'' ([[พระอภัยมณี]]) แจกในงานพระเมรุรัชกาลที่ 4 จัดพิมพ์เป็นเล่มที่โรงพิมพ์ครูสมิท (มิชชันนารีอังกฤษ) พิมพ์จำนวน 120 ชุด แต่ละชุดมี 20 เล่มจบ น่าจะถือว่าเป็นหนังสืองานศพเล่มแรก และอาจเป็นหนังสือแจกงานศพเล่มเก่าที่สุด<ref name="happyreading">[http://www.happyreading.in.th/article/detail.php?id=640 จากเมรุสู่แผง... การเดินทางของ 'หนังสืองานศพ']</ref>
เล่มที่สองโปรดให้พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงพระศพ[[กรมขุนสุพรรณภาควดี]] คือหนังสือเรื่อง นิบาตชาดก เอกนิบาต<ref name="parliament">[http://library2.parliament.go.th/wichakarn/content-seminar/r20160830.pdf ขุมทรัพย์ที่รฦกหนังสืออนุสรณ์งานศพ ]</ref> อย่างไรก็ดี มีการพบข้อมุลว่า มีการตีพิมพ์ หนังสือเรื่อง ''พระอะไภยมะณี'' ([[พระอภัยมณี]]) แจกในงานพระเมรุรัชกาลที่ 4 จัดพิมพ์เป็นเล่มที่โรงพิมพ์ครูสมิท (มิชชันนารีอังกฤษ) พิมพ์จำนวน 120 ชุด แต่ละชุดมี 20 เล่มจบ น่าจะถือว่าเป็นหนังสืองานศพเล่มแรก และอาจเป็นหนังสือแจกงานศพเล่มเก่าที่สุด<ref name="happyreading">[http://www.happyreading.in.th/article/detail.php?id=640 จากเมรุสู่แผง... การเดินทางของ 'หนังสืองานศพ']</ref>
 
ต่อมาถือเป็นธรรมเนียมแพร่หลายในหมู่พระบรมวงศานุวงศ์ และขุนนางชั้นสูง นิยมนำงานนิพนธ์ วรรณคดี และบทสวดมนต์มาพิมพ์แจกในงานพระราชพิธี ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสนับสนุนให้ประชาชนคนทั่วไปพิมพ์หนังสือเป็นที่ระลึกในงานศพของบุคคลที่นับถือ โดยหอพระสมุดวชิรญาณ (หอสมุดแห่งชาติในปัจจุบัน) ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการคัดเลือกต้นฉบับให้แก่ผู้สนใจจัดพิมพ์หนังสืองานศพสำหรับผู้มาติดต่อ โดยมีหลักเกณฑ์ว่า เป็นเรื่องที่มีแก่นสารในทางวิชาความรู้ ต้องมีการตรวจชำระต้นฉบับให้คลาดเคลื่อนน้อยที่สุด และอนุญาตให้เจ้าของโรงพิมพ์พิมพ์หนังสือต้นฉบับของหอพระสมุดฯ จำหน่ายได้ด้วย ดังนั้นหนังสืองานศพในยุคแรก จึงมีเนื้อหาเรื่องทางพระพุทธศาสนาแล้วยังมีเรื่องทางประวัติศาสตร์ วรรณกรรม การท่องเที่ยวและตำราต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับประวัติของผู้วายชนม์<ref>[https://www.kwanruen.com/column/lifestyle.php?id=387 หนังสืองานศพ นิทรรศการไฮไลท์ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ]</ref> และในช่วงรัชกาลที่ 5 และ 6 นี้เอง ที่เริ่มมีการรวบรวมหนังสืองานศพไว้ที่[[หอสมุดแห่งชาติ]]ด้วย<ref>[https://www.amarinbooks.com/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%9E/ หนังสือที่ระลึกงานศพ]</ref> หนังสืออนุสรณ์งานศพที่ลงอัตชีวประวัติของผู้ตายล้วน ๆ เล่มแรก คือ ''ศรีสุนทราณุประวัติ'' ซึ่งเป็นชีวประวัติของ[[พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร)]] เจ้ากรมพระอาลักษณ์ในรัชกาลที่ 5 จนหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เนื้อหาหนังสืองานศพเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่เรื่องประวัติศาสตร์ ตำราเรียน ศาสนา กฎหมาย วรรณกรรม จนถึงเบ็ดเตล็ด<ref>[https://www.posttoday.com/politic/report/385790 หนังสือที่ระลึกงานศพ ขุมทรัพย์ของนักสะสม]</ref>