ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จารึกเบฮิสตูน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
แจ้งต้องการอ้างอิงด้วยสจห.
Samai2008 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 14:
หลังจากการล้มสลายของราชวงศ์[[จักรวรรดิอะคีเมนิด]]และรัชทายาทของจักรวรรดิ และการหมดสิ้นไปของอักขระรูปลิ่มของชาวเปอร์เซียโบราณนำไปสู่การเลิกใช้ไป ธรรมชาติของการเขียนจารึกถูกลืมเลือนและคำอธิบายประหลาดกลายเป็นบรรทัดฐานแทนที่เป็นเวลาหนึ่งศตวรรษ ซึ่งถูกนำมาประกอบกับเรื่องราวของพระเจ้าดาไรอัสที่ 1 มหาราช มันเป็็นที่เชื่อกันตั้งแต่รัชกาลของพระเจ้า Khosrau II หนึ่งในบรรดากษัตริย์ราชวงศ์อะคีเมนิดพระองค์สุดท้าย ผู้ที่มีพระชนม์ชีพอยู่ในช่วง 1000 ปีหลังจากยุคของพระเจ้าดาไรอัส ที่ 1 มหาราช
 
จารึกได้ถูกกล่าวถึงโดยนักปราชญ์ชาวกรีกผู้ตั้งข้อสังเกตบรรทึกไว้ช่วงระยะเวลาของอายุมันประมาณ 400 ปีก่อนคริสตกาลและได้กล่าวถึงบ่อน้ำและสวนที่อยู่ข้างใต้จารึก เขาสรุปอย่างไม่ถูกต้องว่าจารึกเพื่อเพื่ออุทศถวายพระเจ้าซุสโดยพระราชินี Semiramis of Babylon นักประวัติศาสตร์ชาวโรมันชื่อ ทาสิทัส ยังได้กล่าวถึงมันและรวมไปถึงจารึกของบางส่วนของอนุสาวรีย์เสริมที่หายไปนาน ณ ฐานของหน้าผารวมไปถึงแท่นบูชาเทพเฮอคิวลิส เป็นสิ่งที่ถูกนำกลับคืนของพวกมัน รวมไปถึงรูปปั้นที่อุทิศถึงสร้างในปีที่ 148 ก่อนคริสตกาล เป็นของที่อยู่คงทนพร้อมด้วยจารึกของทาสิทัส Diodorus นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกยังได้เขียนถึง Bagistanon และอ้างว่ามันถูกจารึกไว้โดย Semiramis
 
ในปี ค.ศ.1598 (พ.ศ.2141) Robert sherley ชาวอังกฤษได้เห็นจารึกในช่วงภาระกิจทางการทูตที่ไปยังเปอร์เซียในฐานะตัวแทนของ ออสเตรีย