จิตวิเคราะห์ยังทรงอิทธิพลอยู่ในทาง[[จิตเวชศาสตร์]]<ref>[http://americanmentalhealthfoundation.org/a.php?id=24 Michels, undated]<br />Sadock and Sadock 2007, p. 190: "Certain basic tenets of Freud's thinking have remained central to psychiatric and psychotherapeutic practice."</ref> และต่อ[[มนุษยศาสตร์]]โดยรวม แม้ผู้วิจารณ์บางคนจะมองว่าเป็นวิทยาศาสตร์ลวงโลก<ref>Webster 1995, p. 12.</ref>และกีดกันทางเพศ<ref>Mitchell 2000, pp. xxix, 303–356.</ref> การศึกษาเมื่อ ค.ศ. 2008 เสนอว่า จิตวิเคราะห์ถูกลดความสำคัญในสาขาจิตวิทยาในมหาวิทยาลัย<ref>[http://www.nytimes.com/2007/11/25/weekinreview/25cohen.html?_r=3&ref=education&oref&oref=slogin Cohen, 25 November 2007].</ref> แม้ว่าทฤษฎีของฟรอยด์จะมีเนื้อหาทางวิทยาศาสตร์อยู่ก็ตาม แต่ผลงานของเขาได้รับการตีแผ่ในความคิดเชิงปัญญาและวัฒนธรรมสมัยนิยม
บรรทัด 54:
{{บทความหลัก|พัฒนาการความต้องการทางเพศ}}
ฟรอยด์เชื่อว่า libido หรือความต้องการทางเพศนี้พัฒนาขึ้นในปัจเจกบุคคลโดยการเปลี่ยนแปลงวัตถุ ขบวนการกระบวนการซึ่งประมวลโดยมโนทัศน์[[การเปลี่ยนให้เป็นที่ยอมรับ]] (sublimation) เขาแย้งว่า มนุษย์เกิดมา "วิตถารหลายรูปแบบ" หมายความว่า วัตถุใด ๆ ก็เป็นแหล่งความพึงพอใจได้ เขายังแย้งต่อไปว่า เมื่อมนุษย์พัฒนาขึ้น พวกเขาจะติดข้องในวัตถุต่าง ๆ ผ่านขั้นพัฒนาการของเขา ได้แก่ [[ขั้นปาก]] ยกตัวอย่างเช่น ความพึงพอใจของทารกในการเลี้ยงดู [[ขั้นทวารหนัก]] ยกตัวอย่างเช่น ความพึงพอใจของเด็กเล็กในการถ่ายที่กระโถนของตน แล้วมาสู่[[ขั้นอวัยวะเพศ]] ในขั้นอวัยวะเพศนี้ ฟรอยด์ยืนยันว่า ทารกชายจะติดข้องต่อมารดาของตนเป็นวัตถุทางเพศ (รู้จักในชื่อ [[ปมเอดิเพิส]]) ระยะซึ่งสิ้นสุดลงด้วยการขู่ว่าจะตอน (castration) ซึ่งส่งผลให้เกิด ''ปมการตอน'' อันเป็นแผลที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตวัยเยาว์ของเขา<ref>Freud, S. ''An Outline of Psychoanalysis'' (1940), ''Standard Edition 23'', pp. 189–192.</ref> ในงานเขียนภายหลังของเขา ฟรอยด์ได้ตั้งสมมุติฐานถึงสถานการณ์ที่เทียบเท่ากับปมเอดิปุสในทารกหญิง โดยเป็นการติดข้องทางเพศอยู่กับบิดาของตน<ref>Freud S. ''An Outline of Psychoanalysis'', pp. 193–194.</ref> เรียกว่า "[[ปมอิเล็กตรา]]" ในบริบทนี้ แม้ว่าฟรอยด์จะมิได้เสนอคำดังกล่าวเองก็ตาม พัฒนาการความต้องการทางเพศ[[ขั้นแฝง]]อยู่ก่อนพัฒนาการความต้องการทางเพศ[[ขั้นสนใจเพศตรงข้าม]] เด็กต้องการได้รับความพึงพอใจในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละขั้นเพื่อที่จะก้าวสู่ขั้นพัฒนาการต่อไปอย่างง่ายดาย แต่การได้รับความพึงพอใจน้อยหรือมากเกินไปอาจนำไปสู่การติดข้องในขั้นนั้น และอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมถดถอยกลับไปยังขั้นนั้นในชีวิตภายหลังได้<ref name="Hothersall, D 2004. p. 290">Hothersall, D. 2004. "History of Psychology", 4th ed., Mcgraw-Hill:NY p. 290</ref>