ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ศาสนาพุทธในประเทศจีน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
บรรทัด 6:
== ประวัติพุทธศาสนาในประเทศจีน ==
 
ใน พ.ศ. 2455 [[ประเทศจีน]]ได้เปลี่ยนการปกครองเป็นแบบ[[สาธารณรัฐ]] รัฐบาลสนับสนุน[[ลัทธิมาร์กซิสต์]] ซึ่งลัทธิดังกล่าวได้โจมตีพระพุทธศาสนาตลอดมา และมีการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อ[[พระพุทธศาสนา]] เช่น เอาวัดเป็นสถานที่ราชการ
ใน พ.ศ. 2465 พระสงฆ์ชาวจีนรูปหนึ่งชื่อว่า [[พระอาจารย์ไท้สู]] ได้ช่วยกู้ฐานะของ[[พระพุทธศาสนา]]ไว้บางส่วนคือ ท่านได้ทำการปฏิรูปพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง แม้จะมีกำลังน้อย เริ่มด้วยการตั้งวิทยาลัยสงฆ์ขึ้นที่ [[วูซันเอ้หมิง]] [[เสฉวน]] และ[[หลิ่งนาน]] เพื่อฝึกผู้นำทาง[[พระพุทธศาสนา]]ให้มีความรู้ทาง[[พระธรรมวินัย]]และวิชาการทางโลกสมัยใหม่ และนำมาเผยแผ่เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม จนผู้คนเลื่อมใสมากขึ้น จึงตั้งพุทธสมาคมแห่ง[[ประเทศจีน]]ขึ้นใน พ.ศ. 2472 ความพยายามของ[[พระอาจารย์ไท้สู]] ทำให้ประชาชนและรัฐบาลเข้าใจใน[[พระพุทธศาสนา]]ดีขึ้น ทางราชการได้ออกคำสั้งพิทักษ์ทรัพย์สินของวัดห้ามนำไปใช้ในกิจการอื่น ใน พ.ศ. 2473 สาธารณรัฐจีนมีพระภิกษุและภิกษุณีรวม 738,000 รูป ซึ่งนับว่า[[พระพุทธศาสนา]]เจริญใน[[ประเทศจีน]]พอสมควร
พ.ศ. 2492 [[สาธารณรัฐจีน]]ได้เปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบ[[คอมมิวนิสต์]] ในระยะแรกพรรค[[คอมมิวนิสต์]]เห็นว่า[[พระพุทธศาสนา]]ยังมีอิทธิพลอยู่ในจิตใจของประชาชนจึงงไม่ใช้ความรุนแรง จนใน พ.ศ. 2494 รัฐบาลได้ออกกฎหมายเพิกถอนสิทธิวัดในการยึดครองที่ดิน ซึ่งเป็นการบีบให้พระสงฆ์ต้องลาสิกขาโดยทางอ้อม พระภิกษุที่ยังไม่ลาสิกขาก็ต้องไปประกอบอาชีพเอง เช่น ทำไร่ ทำนา เป้นต้น ทั้งที่ยังครองเพศเป็นภิกษุอยู่และในช่วงปฏิวัติวัมนะรรมครั้งใหญ่ของประเทศจีน เมื่อ พ.ศ. 2509-2512 ได้มีเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนต่อ[[พระพุทธศาสนา]]เป็นอย่างมาก คือ รัฐบาลได้ยึดวัดเป็นของราชการ ห้ามประกอบศาสนกิจต่างๆ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาถือเป้นความผิดทางกฎหมาย เมื่อ[[เหมา เจ๋อ ตุง]] ประธานพรรค[[คอมมิวนิสต์]]จีน ได้ถึงแก่อสัญกรรมใน พ.ศ. 2519 รัฐบาลชุดใหม่ของจีนก็คลายความเข้มงวดลงบ้าง และให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการเลือกนับถือศาสนา