พิธีมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์
พิธีมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์[1] หรือพิธีมหาสนิท[2][3](อังกฤษ: Eucharist; Holy Communion) คริสต์ศาสนิกชนโรมันคาทอลิก, อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ และโปรเตสแตนต์บางคณะเรียกว่าศีลมหาสนิท[1][4] เป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาคริสต์ เพื่อแสดงถึงการร่วมสนิทกับพระเยซู โดยการรับประทานขนมปัง (สัญลักษณ์แทนพระกายของพระองค์) และไวน์ (สัญลักษณ์แทนพระโลหิต)
ซึ่งเป็นเหตุการณ์เดียวกันกับพระกระยาหารมื้อสุดท้าย มีบันทึกอยู่ในพระวรสารทั้ง 4 เล่มในพันธสัญญาใหม่
เมื่อถึงเวลา พระองค์ประทับลงและเสวยพร้อมกับพวกอัครทูต พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “เรามีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะรับประทานปัสกานี้กับท่านก่อนที่เราจะต้องทนทุกข์ เราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่รับประทานปัสกานี้อีกจนกว่าจะสำเร็จความหมายของปัสกานั้นในแผ่นดินของพระเจ้า” พระองค์ทรงหยิบถ้วย เมื่อขอบพระคุณแล้วตรัสว่า “จงรับถ้วยนี้ไปแบ่งกันดื่ม เราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่มจากผลของเถาองุ่นอีกต่อไปจนกว่าแผ่นดินของพระเจ้าจะมา” พระองค์ทรงหยิบขนมปัง เมื่อขอบพระคุณแล้วก็ทรงหักส่งให้พวกเขา ตรัสว่า “นี่เป็นกายของเรา [ซึ่งให้ไว้สำหรับท่านทั้งหลาย จงทำอย่างนี้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเรา” เมื่อรับประทานแล้ว จึงทรงหยิบถ้วยและทรงทำเหมือนกันตรัสว่า “ถ้วยนี้ที่เทออกเพื่อท่านทั้งหลาย เป็นพันธสัญญาใหม่โดยโลหิตของเรา] ลูกา 22:14-20 (THSV11)
การประกอบพิธีมหาสนิท เพื่อให้ชาวคริสต์ระลึกถึงคุณของพระเป็นเจ้า เพื่อการประกาศยอมรับว่าพระเจ้าได้สถิตอยู่ในกายตน เพื่อแนบแน่นเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ และเพื่ออยู่ร่วมกันด้วยความรักในประชาคมเดียวกัน
ในนิกายโปรเตสแตนต์ กล่าวคำที่ใช้ในพิธีมหาสนิทตามพระวรสารนักบุญลูกา ส่วนนิกายโรมันคาทอลิก กล่าวคำที่ใช้ในพิธีมหาสนิทเฉพาะตามที่พระศาสนจักรคาทอลิกกำหนด
ที่มา
แก้พิธีมหาสนิทมีที่มาจากเหตุการณ์ในคืนวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ก่อนการตรึงพระเยซูที่กางเขน ขณะนั้นพระเยซูรับประทานอาหารร่วมกับอัครทูตอันเป็นอาหารค่ำมื้อสุดท้าย ในการรับประทานอาหารครั้งนั้นอยู่ในช่วงปัสคา มีเพียงขนมปังและเหล้าองุ่น ซึ่งพระองค์ใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งพันธสัญญาใหม่ ในการไถ่บาปด้วยเนื้อและเลือดของพระองค์ดังที่ทรงพยากรณ์ไว้แล้ว
พระวรสารนักบุญมัทธิว
แก้การทรงตั้งพิธีมหาสนิท[5]
ระหว่างรับประทานอยู่นั้น พระเยซูทรงหยิบขนมปังขึ้นมา และเมื่อขอพระพรแล้ว ก็ทรงหักส่งให้บรรดาสาวกตรัสว่า “จงรับไปกินเถิด นี่เป็นกายของเรา” แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย เมื่อขอบพระคุณแล้ว ก็ทรงส่งให้พวกเขาตรัสว่า “จงรับไปดื่มทุกคนเถิด เพราะว่านี่เป็นโลหิตของเราอันเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญาที่หลั่งออกเพื่อยกบาปโทษคนจำนวนมาก เราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่มจากผลของเถาองุ่นนี้อีกต่อไปจนกว่าจะถึงวันนั้น ที่เราจะดื่มกับพวกท่านอีกในแผ่นดินแห่งพระบิดาของเรา” เมื่อร้องเพลงสรรเสริญแล้ว เขาทั้งหลายก็พากันไปที่ภูเขามะกอกเทศ
— พระวรสารนักบุญมัทธิว 26:26-30
พระวรสารนักบุญมาระโก
แก้การทรงตั้งพิธีมหาสนิท[6]
ระหว่างอาหารมื้อนั้น พระเยซูทรงหยิบขนมปังมา เมื่อขอพระพรแล้ว ทรงหักส่งให้แก่เหล่าสาวกตรัสว่า “จงรับเถิด นี่เป็นกายของเรา” แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย เมื่อขอบพระคุณแล้วจึงส่งให้พวกเขา พวกเขาก็รับไปดื่มทุกคน แล้วพระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “นี่เป็นโลหิตของเราซึ่งเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญาที่จะต้องหลั่งออกเพื่อคนจำนวนมาก เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่มน้ำจากผลของเถาองุ่นอีกต่อไปจนกว่าจะถึงวันนั้น คือวันที่เราจะดื่มใหม่ในแผ่นดินของพระเจ้า”
— พระวรสารนักบุญมาระโก 14:22-25
พระวรสารนักบุญลูกา
แก้การทรงตั้งพิธีมหาสนิท[7]
พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “เรามีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะรับประทานปัสกานี้กับท่านก่อนที่เราจะต้องทนทุกข์ เราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่รับประทานปัสกานี้อีกจนกว่าจะสำเร็จความหมายของปัสกานั้นในแผ่นดินของพระเจ้า” พระองค์ทรงหยิบถ้วย เมื่อขอบพระคุณแล้วตรัสว่า “จงรับถ้วยนี้ไปแบ่งกันดื่ม เราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่มจากผลของเถาองุ่นอีกต่อไปจนกว่าแผ่นดินของพระเจ้าจะมา” พระองค์ทรงหยิบขนมปัง เมื่อขอบพระคุณแล้วก็ทรงหักส่งให้พวกเขา ตรัสว่า “นี่เป็นกายของเรา [ซึ่งให้ไว้สำหรับท่านทั้งหลาย จงทำอย่างนี้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเรา” เมื่อรับประทานแล้ว จึงทรงหยิบถ้วยและทรงทำเหมือนกันตรัสว่า “ถ้วยนี้ที่เทออกเพื่อท่านทั้งหลาย เป็นพันธสัญญาใหม่โดยโลหิตของเรา]
— พระวรสารนักบุญลูกา 22:15-20
จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่ 1
แก้การตั้งพิธีมหาสนิท[8]
เพราะว่าเรื่องซึ่งข้าพเจ้ามอบไว้กับพวกท่านนั้น ข้าพเจ้าได้รับจากองค์พระผู้เป็นเจ้า คือในคืนที่เขาทรยศพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงหยิบขนมปัง เมื่อขอบพระคุณแล้วจึงทรงหัก และตรัสว่า “นี่เป็นกายของเรา ซึ่งให้แก่ท่านทั้งหลาย จงทำอย่างนี้เพื่อระลึกถึงเรา” หลังจากรับประทานอาหารแล้ว พระองค์ทรงหยิบถ้วยด้วยอากัปกิริยาเดียวกัน ตรัสว่า “ถ้วยนี้คือพันธสัญญาใหม่ โดยโลหิตของเรา จงทำอย่างนี้ คือเมื่อใดที่พวกท่านดื่มจากถ้วยนี้ จงดื่มเพื่อระลึกถึงเรา” เพราะว่าเมื่อใดที่พวกท่านกินขนมปังและดื่มจากถ้วยนี้ ท่านก็ประกาศการวายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จนกว่าพระองค์จะเสด็จมา
— จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่ 1 11:23-26
การถือพิธีมหาสนิทอย่างไม่เหมาะสม[9]
ฉะนั้นถ้าใครกินขนมปัง หรือดื่มจากถ้วยขององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่เหมาะสม เขาก็ทำผิดต่อพระกายและพระโลหิตขององค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกคนจงสำรวจตัวเอง แล้วจึงกินขนมปังและดื่มจากถ้วยนี้ เพราะว่าคนที่กินและดื่มโดยไม่ได้ตระหนักถึงพระกายขององค์พระผู้เป็นเจ้า ก็กินและดื่มเป็นเหตุให้ตนเองถูกลงโทษ เพราะเหตุนี้พวกท่านหลายคนจึงอ่อนแอและเจ็บป่วย และบ้างก็ล่วงหลับไป แต่ถ้าเราวินิจฉัยตัวเอง เราคงไม่ต้องถูกพิพากษา เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพิพากษาเรานั้น พระองค์ทรงตีสอนเรา เพื่อไม่ให้เราถูกพิพากษาด้วยกันกับโลก ฉะนั้นพี่น้องของข้าพเจ้า เมื่อท่านทั้งหลายมาชุมนุมกันเพื่อรับประทานอาหารนั้น จงรอกันและกัน ถ้ามีใครหิว ก็ให้กินที่บ้านก่อน เพื่อว่าเมื่อมาชุมนุมกัน พวกท่านจะไม่ถูกลงโทษ
— จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่ 1 11:27-34
ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 ราชบัณฑิตยสถาน, พจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล อังกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, พิมพ์ครั้งที่ 3, ราชบัณฑิตยสถาน, 2552, หน้า 248
- ↑ สมาคมพระคริสตธรรมไทย, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1971, ลูกา, หน้า 133
- ↑ สมาคมพระคริสตธรรมไทย, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011
- ↑ สมาคมพระคริสตธรรมไทย, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1971, มัทธิว, หน้า 46
- ↑ พระวรสารนักบุญมัทธิว 26:26-30, พระคริสตธรรมคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน 2011
- ↑ พระวรสารนักบุญมาระโก 14:22-25, พระคริสตธรรมคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน 2011
- ↑ พระวรสารนักบุญลูกา 22:15-20, พระคริสตธรรมคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน 2011
- ↑ จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่ 1 11:23-26, พระคริสตธรรมคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน 2011
- ↑ จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่ 1 11:27-34, พระคริสตธรรมคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน 2011