ผักเขียด
ผักเขียด | |
---|---|
![]() | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Angiosperms |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Monocots |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Commelinids |
อันดับ: | Commelinales |
วงศ์: | Pontederiaceae |
สกุล: | Monochoria |
สปีชีส์: | M. vaginalis |
ชื่อทวินาม | |
Monochoria vaginalis (Burm.f.) C.Presl ex Kunth |
ผักเขียด หรือ ขาเขียด (ชื่อวิทยาศาสตร์: Monochoria vaginalis) เป็นพืชชนิดหนึ่งจัดเป็นวัชพืชน้ำ พบทั่วไปในบริเวณที่มีน้ำขัง หนอง คลอง บึง ชื่อเรียกอื่น ๆ ได้แก่ ขากบขาเขียด ผักเป็ด ผักเผ็ด ผักริ้น ผักหิน ผักฮิ้น ผักฮิ้นน้ำ ผักขี้เขียด กันจ้อง ผักลิ่น ผักลิ้น ริ้น ผักอีฮิน ผักอีฮินใหญ่ในภาษาอีสาน และขี้ใต้ในภาษาใต้[1]
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์แก้ไข
ผักเขียดเป็นวัชพืชที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ มีลักษณะคล้ายผักตบชวาแต่ขนาดเล็กกว่า ลำต้นตั้งตรง มีเหง้าอยู่ใต้ดิน มีไหลสั้น ๆ และรากฝอยสีน้ำตาลแดงจำนวนมาก ใบลักษณะเป็นใบเดี่ยวรูปหัวใจคล้ายผักตบชวาแต่เล็กกว่า เส้นของใบโค้งขนานไปตามความยาวของใบ ใบกว้าง 2–45 มิลลิเมตร ยาว 9–85 มิลลิเมตร ออกสลับกันที่โคน สีเขียวอ่อน ก้านใบยาวและอวบน้ำ โคนก้านใบแผ่ออกเป็นกาบหุ้มใบที่อ่อนกว่า ด้านในของก้านใบมีเยื่อบางสีขาว ออกดอกเป็นช่อ กลีบสีม่วง ทางก้านใบ มีดอกย่อย 6–15 ดอก ผลมีขนาดยาวประมาณ 1 เซนติเมตร เมล็ดสีน้ำตาล ขยายพันธุ์โดยใช้รากและเมล็ด
ประโยชน์แก้ไข
ทางเกษตรแก้ไข
เลี้ยงสัตว์ ทำปุ๋ยหมัก
ทางอาหารแก้ไข
ยอดอ่อน ใบอ่อนและดอก จะออกในช่วงหน้าฝนใช้รับประทานเป็นผัก นิยมรับประทานทั้งต้น มักเก็บช่วง 2–3 อาทิตย์แรกเท่านั้น หลังจากนั้นต้นจะแก่ รับประทานไม่อร่อย วิธีรับประทานเป็นอาหาร จะรับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก หรือกับแกงรสจัดของภาคใต้ หรืออาหารรสจัดประเภท ลาบ ยำ ก้อย ส้มตำได้ นอกจากนี้ยังนำไปแกงส้ม แกงกับปลา หรือเนื้อหมู
ทางยาแก้ไข
ใบของผักเขียด นำมาคั้นน้ำรับประทาน แก้ไอ ขับปัสสาวะ ตำพอกฝี หรือรับประทานใบสดจะมีสรรพคุณ ช่วยลดความร้อนในร่างกาย
รสและประโยชน์ต่อสุขภาพแก้ไข
ผักเขียดมีรสจืด เย็น เหมาะรับประทานเพื่อลดความร้อนในร่างกาย
ผักเขียด 100 กรัม ให้พลังงานต่อร่างกาย 13 กิโลแคลอรี[2]ประกอบด้วย
เส้นใย | แคลเซียม | ฟอสฟอรัส | เหล็ก | วิตามินเอ | วิตามินบีหนึ่ง | วิตามินบีสอง | ไนอาซิน | วิตามินซี |
0.8 กรัม | 13 มิลลิกรัม | 6 มิลลิกรัม | 6 มิลลิกรัม | 3000 IU | 0.04 มิลลิกรัม | 0.10 มิลลิกรัม | 0.1 มิลลิกรัม | 18 มิลลิกรัม |
การแพร่ระบาดทางระบบนิเวศแก้ไข
ระบาดในนาข้าวประเภทนาดำและนาหว่านน้ำตม
การป้องกันกำจัดแก้ไข
เนื่องจากผักเขียดชอบสภาพน้ำขัง การล่อให้งอกจึงต้องให้มีน้ำขังเล็กน้อยและปล่อยให้งอก 1–2 สัปดาห์ แล้วจึงไถกลบทำลาย[3]
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ วิเคราะห์คอลัมนิสต์ 30 03 59
- ↑ บทความวิทยุรายการสาระความรู้ทางการเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่[1] เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ องค์ความรู้เรื่องข้าวสำนักวิจัยและพัฒนา กรมการข้าว เก็บถาวร 2016-07-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข
- PLANTS Profile — Monochoria vaginalis (Burm. f.) C. Presl ex Kunth โดย Natural Resources Conservation Service – United States Department of Agriculture
- Jepson Manual Treatment
- USDA Plants Profile
- Pacific Island Ecosystems at Risk
- Flora of North America