นิสสัน สกายไลน์

สกิบิดี้ทอยเล้ต (อังกฤษ: Nissan Skyline / ญี่ปุ่น: 日産・スカイライン Nissan Sukairain) เป็นรุ่นรถยนต์ขนาดกลาง รถสปอร์ต ของบริษัทนิสสัน โดยเริ่มผลิตครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 จากบริษัทพรินซ์มอเตอร์[1] หลังจากนั้นก็ถูกรวมเข้ากับนิสสันในปี 2509

สกายไลน์
Nissan Skyline
ภาพรวม
บริษัทผู้ผลิตนิสสัน
พรินซ์ (พ.ศ. 2500–2509)
เริ่มผลิตเมื่อ2500–present
ตัวถังและช่วงล่าง
ประเภทรถยนต์นั่งขนาดเล็ก (Compact car) (2500–2532)
รถสปอร์ตขนาดกลาง (Mid-size car) (2532–2545)
รถยนต์นั่งหรูขนาดเล็ก (Compact executive car) (2544–ปัจจุบัน)
รถไฮบริดไฟฟ้า (2557―ปัจจุบัน)
สปอร์ตคูเป้ (2550-2560)
รุ่นที่คล้ายกันนิสสัน สกายไลน์ จีที-อาร์ (2512–2516, 2532–2545)
ระยะเหตุการณ์
รุ่นก่อนหน้าพรินซ์ ซีดาน (2495–2500)
รุ่นต่อไปNissan GT-R (R35) (สำหรับ Nissan Skyline GT-R models)
โลโก้ของนิสสัน สกายไลน์

สกายไลน์นั้นได้ออกแบบและได้วิศวกรรมโดย Shinichiro Sakurai ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าแผนกรถรุ่นนี้ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี 2554

Generation ที่ 1 (ALSI/BLSI/S21/R21/BLRA-3; พ.ศ. 2500-2506) แก้

 
นิสสัน สกายไลน์ โฉมที่ 1 (Prince Skyline)

สกายไลน์โฉมแรกนี้ เปิดตัวในเดือนเมษายน พ.ศ. 2500 ในช่วงแรกนี้ สกายไลน์ถูกผลิตในยี่ห้อ Prince Skyline ด้วยชื่อโฉม ALSI-1 ใช้เครื่องยนต์ GA-30 ขนาด 1,482 ซีซี ให้กำลัง 60 แรงม้า ที่ 4,400 รอบต่อนาที มีน้ำหนัก 1,300 กิโลกรัม มีตัวถังรถ 2 แบบ คือ ซีดาน 4 ประตู และสเตชันวากอน 5 ประตู ในช่วงแรกๆ นี้ สกายไลน์เป็นที่รู้จักในฐานะรถครอบครัวระดับหรูหรา

ในพ.ศ. 2501 มีการเปลี่ยนแปลงไมเนอร์เชนจ์ (การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยระหว่างโฉม เปลี่ยนแปลงไม่มากพอที่จะนับเป็นโฉมใหม่) ด้วยชื่อว่า ALSI-2 ใช้เครื่องยนต์ GA-4 ขนาด 1,484 ซีซี ให้กำลัง 70 แรงม้า ที่ 4,800 รอบต่อนาที และยังมีสกายไลน์รุ่นสปอร์ต ชื่อว่า BLRA-3 ด้วย

และนอกจากนี้ สกายไลน์ยังมีการผลิตรถกระบะ ซึ่งภายหลังได้แยกตัวไปเป็นรุ่น Prince Miler และรถตู้ ซึ่งก็แยกตัวออกไปเป็นรุ่น Prince Skyway

รวมแล้ว สกายไลน์ Generation ที่ 1 มียอดขายทั้งสิ้น 33,759 คัน (ไม่นับ Miler และ Skyway)

Generation ที่ 2 (S50/S54/S56/S57/V51/W50; พ.ศ. 2506-2511) แก้

 
นิสสัน สกายไลน์ โฉมที่ 2 (Prince Skyline)

สกายไลน์ในช่วงนี้ การผลิตยังอยู่ในยี่ห้อ Prince Skyline ในช่วงแรกของโฉม ใช้ชื่อโฉมว่า S50 ใช้เครื่องยนต์ประเภท G-1 ต่อมาใน พ.ศ. 2507 ได้ออกรุ่นสปอร์ตออกมา ชื่อว่า S54 และได้รับความนิยมในระดับที่ใกล้เคียงกับรถ ปอร์เช่ 904

ในพ.ศ. 2510 ได้มีการเปลี่ยนแปลงไมเนอร์เชนจ์ ด้วยชื่อโฉม S57 ในช่วงนี้ ปรินซ์ได้รวมสายการผลิตเข้ากับนิสสันแล้ว เป็นรุ่นแรกที่ใช้เครื่องยนต์ของนิสสัน และเครื่องยนต์ของ S57 เป็นเครื่องยนต์ขนาด 1,487 ซีซี ที่มีกำลังถึง 88 แรงม้า หนึ่งในเครื่องยนต์ขนาดพันห้าร้อยซีซีที่แรงที่สุดในรถญี่ปุ่น

รวมแล้ว สกายไลน์ Generation ที่ 2 มียอดขายทั้งสิ้น 114,238 คัน

Generation ที่ 3 (C10; พ.ศ. 2511-2515) แก้

 
นิสสัน สกายไลน์ โฉมที่ 3

โฉมนี้ ใช้ชื่อโฉมว่า C10 หรือ Hakosuka [ Hako คือ กล่องนม ] [ Suka คือ Skyline ] ได้มีการออกรถรุ่น GT-R และ GT-X ออกมาเป็นครั้งแรก ซึ่งใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,958 ซีซี เป็นรถยนต์ประเภทสปอร์ต ทำให้สกายไลน์เริ่มกลายเป็นที่รู้จักในฐานะรถสปอร์ตแทนรถครอบครัวระดับหรูหราเหมือนโฉมก่อนๆ แต่แบบสปอร์ตยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก

ในโฉมที่ 3 นี้ มียอดขายรวมทั้งสิ้น 310,447 คัน

GT-R แก้

Generation ที่ 4 (C110; พ.ศ. 2515-2520) แก้

 
นิสสัน สกายไลน์ โฉมที่ 4

โฉมนี้ ใช้ชื่อโฉมว่า C110 แต่ในบางประเทศ จะเป็นที่รู้จักในชื่อ ดัตสัน เค-ซีรีส์ (Datsun K-series) และมี GT-R ขายด้วย

สกายไลน์โฉมที่ 4 มียอดขายสูงถึง 670,562 คัน เป็นโฉมที่ขายดีที่สุดของสกายไลน์

GT-R แก้

Generation ที่ 5 (C210; พ.ศ. 2520-2524) แก้

 
นิสสัน สกายไลน์ โฉมที่ 5

โฉมนี้ ใช้ชื่อโฉมว่า C210 มีด้านหน้ารถที่ยาวขึ้น เครื่องยนต์ 6 สูบ และยังมีการผลิตรุ่น GT-EX และ GT-EX ก็เป็นรุ่นแรกของสกายไลน์ที่มีการใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ แต่ไม่มี GT-R ในโฉมนี้

สกายไลน์โฉมที่ 5 มียอดขายรวม 539,727 คัน

Generation ที่ 6 (R30; พ.ศ. 2524-2528) แก้

 
นิสสัน สกายไลน์ โฉมที่ 6

โฉมนี้ ใช้ชื่อโฉมว่า R30 เป็นโฉมแรกและโฉมเดียวที่มีการทำรถรุ่นแบบ Hatchback 5 ประตู (ท้ายกุด ไม่มีกระโปรงหลัง คล้ายกับ ฮอนด้า แจ๊ซ และ โตโยต้า ยาริส)

โฉมนี้ ไม่มี GT-R แต่ได้มีการออกรถรุ่นพิเศษ ที่พิเศษกว่าโฉมอื่นๆ นั่นคือ Paul Newman Version ซึ่งเป็นรถที่ออกมาเพื่อเป็นที่ระลึกในความสัมพันธ์ระหว่างนิสสัน กับ พอล นิวแมน ผู้กำกับและนักแสดงชื่อดังในช่วงนั้น เนื่องจากพอล นิวแมน ได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมการขายของนิสสันมานาน โดยรถสกายไลน์รุ่นนิวแมน จะมีลายเซ็นของนิวแมนบนกระโปรงหน้ารถ และยังเป็นที่ต้องการของนักสะสมจากทั่วโลกในปัจจุบัน

สกายไลน์โฉมที่ 6 รวมทุกรุ่นมียอดขายรวมทั้งสิ้น 406,432 คัน

RS แก้

 
1983–1985 Nissan Skyline RS coupé (DR30), nicknamed "Iron Mask" for its distinctive front end treatment
 
1983–1985 Nissan Skyline 2000 RS-X Turbo coupé (DR30, Japan)

Generation ที่ 7 (R31; พ.ศ. 2528-2532) แก้

 
นิสสัน สกายไลน์ โฉมที่ 7

โฉมที่ 7 ใช้ชื่อโฉมว่า R31 เป็นโฉมที่มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาลงเป็นจำนวนมาก และมีรูปทรงที่ทันสมัยกว่าโฉมที่ 6 อยู่มาก และเป็นโฉมแรกที่ใช้เครื่องยนต์กลุ่ม RB และเป็นโฉมที่ทำให้สกายไลน์ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางขึ้นในฐานะรถสปอร์ต แต่โฉมนี้ ก็ยังไม่มี GT-R และนอกจากนี้ R31 ก็ยังเป็นโฉมสุดท้ายที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลังเพียงระบบเดียว หลังจากโฉมนี้ไป จะมีระบบขับเคลื่อน 2 แบบ คือระบบขับเคลื่อนล้อหลัง กับขับเคลื่อนสี่ล้อจนถึงปัจจุบัน

สกายไลน์โฉมที่ 7 มียอดขายรวม 309,716 คัน

GTS-R แก้

 
Nissan Skyline 2000 GTS-R (HR31)
 
Nissan Skyline 2000 GTS-R (HR31)

Generation ที่ 8 (R32; พ.ศ. 2532-2537) แก้

 
นิสสัน สกายไลน์ โฉมที่ 8

โฉมที่ 8 ใช้ชื่อโฉมว่า R32 รหัส bnr32 สกายไลน์มี 2 รุ่นที่สำคัญ คือ

  • Nissan Skyline GT-S R32 เครื่องยนต์ RB20DET 2.0 ลิตร
  • Nissan Skyline GT-R R32 (BNR32) เครื่องยนต์ RB26DETT

GT-R แก้

และโฉมนี้ กลับมาผลิตสกายไลน์ GT-R อีกครั้ง หลังจากหายไปตั้งแต่โฉมที่ 4 เป็นโฉมที่ทำให้สกายไลน์ GT-R เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและโด่งดังไปในวงกว้าง จากการที่สกายไลน์ R32 ชนะการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบในญี่ปุ่น 29 รางวัล และชนะเลิศซูเปอร์จีที ถึง 2 ปีติดต่อกัน นอกเหนือจากการแข่งขันในประเทศ GT-R ยังได้ชนะการแข่งขันออสเตรเลียนทัวริง 3 ปีติดต่อกันระหว่างปี 2533-2535 (ซึ่งในปี 2536 มีการเปลี่ยนแปลงกติกาซึ่งทำให้ GT-R ไม่สามารถร่วมลงแข่งได้[2])

ส่วนในแง่ของรถทั่วไป สกายไลน์โฉมที่ 8 เป็นรถรุ่นแรกที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นที่มีการผลิตเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดออกขาย (ปัจจุบัน รถบางรุ่นบางยี่ห้อยังใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด ไม่ใช่ 5 สปีด) ควบคู่กับเกียร์ธรรมดา

สกายไลน์โฉมที่ 8 นี้ มียอดขายรวมทั้งสิ้น 313,491 คัน (ประกอบไปด้วย Standard - 269,554 คัน และ GT-R - 43,937 คัน)

Generation ที่ 9 (R33; พ.ศ. 2536-2541) แก้

 
นิสสัน สกายไลน์ โฉมที่ 9

โฉมที่ 9 ใช้ชื่อโฉมว่า R33 มีรถ 2 รุ่นที่สำคัญ คือ

  • Nissan Skyline GT-S R33 เครื่องยนต์ RB25DET 2.5 L 250 แรงม้า
  • Nissan Skyline GT-R R33 (BCNR33) เครื่องยนต์ RB26DETT 156.7 cu.in. / 2,568 c.c. 280 แรงม้า

ปรับปรุงโฉม (1996) แก้

รุ่นต่างๆ:

  • HR33 GTS – 2.0 L RB20E SOHC I6, 130 PS (96 kW; 128 hp), 172 N·m (127 lb·ft)
  • ER33 GTS-25 – 2.5 L RB25DE DOHC I6, 190 PS (140 kW; 187 hp), 231 N·m (170 lb·ft)
  • ENR33 GTS-4 – 2.5 L RB25DE DOHC I6, 190 PS (140 kW; 187 hp), 231 N·m (170 lb·ft) 4WD
  • ECR33 GTS-25t – 2.5 L RB25DET DOHC turbo I6, 250 PS (184 kW; 247 hp), 294 N·m (217 lb·ft)
  • ECR33 P.Ride 280 Type MR – 2.8L RB28DET DOHC turbo I6, 300 PS (221 kW; 296 hp)

GT-R แก้

สกายไลน์โฉมที่ 9 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 217,113 คัน

Generation ที่ 10 (R34; พ.ศ. 2541-2545) แก้

 
นิสสัน สกายไลน์ โฉมที่ 10

โฉมที่ 10 ใช้ชื่อโฉมว่า R34 มีรถ 2 เกรดที่สำคัญคือ

  • Nissan Skyline GT-S R34 (ER/HR34) เครื่องยนต์ RB25DET NEO6 (25GT) 2.5L / 152.4 cu in / 2,498 cc กำลัง 200–284 PS (147–209 kW; 197–280 hp) เกียร์อัตโนมัติ 4-speed ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)
  • Nissan Skyline GT-R R34 (BNR/ENR34) เครื่องยนต์ RB26DETT เทอร์โบคู่ (Twin-turbo) 2.6L / 156.7 cu.in. / 2,568 c.c. กำลัง 276 bhp (280 PS; 206 kW) จนถึง 493 hp (500 PS; 368 kW) ขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD)

ในโฉมนี้ เกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด ถูกยกเลิกชั่วคราว ทำให้สกายไลน์โฉมนี้มี 6 เกียร์ธรรมดา Magna (Getrag) 233 (GT-R) กับอัตโนมัติแบบ 4 สปีดเท่านั้น แต่ในโฉมนี้ สกายไลน์ได้มีการผลิตเกียร์แบบ Triptonic ออกขาย (เกียร์ Triptonic คือเกียร์ที่สามารถปรับใช้เป็นเกียร์ธรรมดาก็ได้ เกียร์อัตโนมัติก็ได้ ในเกียร์ชุดเดียวกัน) เป็นครั้งแรกของสกายไลน์ ในแบบ GT-S จะมี sunroof ในแบบ GT-R จะไม่มี sunroof

GT-R (BNR34) แก้

 
Nissan Skyline GT-R V·spec II (BNR34)
 
Nissan Skyline GT-R V·spec II (BNR34)

รุ่นต่างๆ: (all ATTESA E-TS Pro AWD)

  • GT-R – 2.6 L RB26DETT twin-turbo I6, 327 hp; 244 kW (332 PS) 392 N·m (289 lb·ft) (advertised as 276 hp)[3]
  • GT-R V·spec – Additional aero parts, brake ventilation ducts, diffuser, ALSD.
  • GT-R V·spec UK – V·spec with three additional oil coolers, an extra measurement on the MFD, leather interior, new features on the display (ผลิตเพียง 80 คันเท่านั้น).
  • GT-R V·spec N1 - V·spec with Blueprinted N1 motor, no A/C, no stereo, no rear wiper, basic interior trim. (ผลิตเพียง 45 คันเท่านั้น)
  • GT-R V·spec II – As V·spec + carbon fiber hood with NACA duct.
  • GT-R V·spec II N1 – V·spec II with N1 motor, no A/C, no stereo, no rear wiper, basic interior trim. (ผลิตเพียง 18 คันเท่านั้น)
  • GT-R M·spec – Leather interior, softer suspension with "Ripple Control" dampers, heated seats.
  • GT-R V·spec II Nür – As above V·spec II + N1 motor, 300 km/h speedometer. (ผลิตเพียง 750 คันเท่านั้น)
  • GT-R M·spec Nür – As above M·spec + N1 motor, 300 km/h speedometer. (ผลิตเพียง 253 คันเท่านั้น)
  • GT-R NISMO S-tune- The S-tune - Tuning package from Nismo, targeting street drivers that want to bring out the "potential" of their GT-R.
  • GT-R NISMO R-tune- Same as the S-tune, the R-tune is further modified with more emphasize towards circuit racing.
  • GT-R NISMO Z-tune – 2.8 L (bored and stroked) 'RB28DETT' twin-turbo I6, 500 PS (368 kW; 493 hp), 540 N·m (398 lb·ft) Z1 and Z2 (ผลิตเพียง 20 คันเท่านั้น)

โฉมที่ 10 มียอดขายรวม 64,623 คัน

Generation ที่ 11 (V35; พ.ศ. 2544-2550) แก้

 
นิสสัน สกายไลน์ โฉมที่ 11

โฉมที่ 11 ใช้ชื่อโฉมว่า V35 เป็นโฉมที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสกายไลน์ เพราะหลังโลดแล่นในวงการรถสปอร์ตมานาน ทางนิสสัน ได้ตัดสินใจให้นิสสัน สกายไลน์ GT-R แยกตัวออกไปเป็นรถรุ่นใหม่ สายการผลิตใหม่ ของนิสสัน (คือ นิสสัน จีที-อาร์) ไม่ขึ้นตรงกับชื่อสกายไลน์อีกต่อไป ทำให้สกายไลน์ โฉมที่ 11 กลับคืนสู่การเป็นรถครอบครัวขนาดใหญ่อีกครั้ง

นอกจากนี้ ในโฉมนี้ ยังมีเกียร์ CVT (Continuously variable transmission เกียร์อัตโนมัติที่ซอยเป็นหลายสปีด เพื่อให้มีความต่างของอัตราทดของแต่ละเกียร์น้อยลง ทำให้การเปลี่ยนเกียร์มีความนุ่มนวลมากกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไป) เป็นครั้งแรก เฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น

แต่ถึงกระนั้น มันก็มีคุณภาพที่สูงมาก จนได้รับฉายาว่า "The best Skyline ever." หรือ สกายไลน์ที่ดีที่สุด (ใน 11 โฉมแรก)

ชื่อรุ่น:

  • 250GT (V35) – 2.5 L VQ25DD V6, 215 PS (212 hp; 158 kW), 270 N·m (199 lb·ft)
  • 250GT Four (NV35) – 2.5 L VQ25DD V6, 215 PS (212 hp; 158 kW), 270 N·m (199 lb·ft) 4WD
  • 300GT (HV35) – 3.0 L VQ30DD V6, 260 PS (256 hp; 191 kW), 324 N·m (239 lb·ft)
  • 350GT-8 (PV35) – 3.5 L VQ35DE V6, 272 PS (268 hp; 200 kW), 353 N·m (260 lb·ft)
  • 350GT Coupe (CPV35) – 3.5 L VQ35DE V6, 280 PS (276 hp; 206 kW), 363 N·m (268 lb·ft)

Generation ที่ 12 (V36/J50; พ.ศ. 2549-2556) แก้

 
นิสสัน สกายไลน์ โฉมที่ 12

โฉมที่ 12 ใช้ชื่อโฉมว่า V36 เป็นอีกโฉมหนึ่งของสกายไลน์ที่เป็นรถครอบครัว ตัวถังมีให้เลือกคือ 4 ประตู,2 ประตู คูเป้,2 ประตู เปิดประทุน,5 ประตู SUV (ใช้ชื่อนิสสัน สกายไลน์ ครอสโอเวอร์ J50 ผลิตในปี พ.ศ. 2552) เครื่องยนต์มีให้เลือก คือ 2.5,3.5 และ 3.7 Nissan VQ-Series V6 เกียร์มีให้เลือก 5,7 สปีด ออโตเมติก,ธรรมดา 6 สปีด ความยาวระยะฐานล้อ ยาว 2,850 มม. รุ่นนี้ใช้อีกชื่อในอเมริกา ในแบรนด์ Infiniti G35,G37 ส่วนนิสสัน สกายไลน์ ครอสโอเวอร์ ในอเมริกา จะใช้ชื่อ Infiniti EX

Skyline 370GT Coupe (DBA-CKV36, พ.ศ. 2550—2557) แก้

Skyline Crossover (DBA-J50, DBA-NJ50) แก้

 
Nissan Skyline Crossover

Nissan Skyline Crossover เป็นรถออฟโรดรุ่นหนึ่งจากตราสินค้าหนึ่ง คือ Nissan แต่รุ่นเดิมคือ Infiniti QX50 รุ่นที่หนึ่งยังเป็นรุ่นแรกของค่ายอินฟินิที

Generation ที่ 13 (V37 (HV37/ZV37/RV37); พ.ศ. 2557-ปัจจุบัน) แก้

 
นิสสัน สกายไลน์ โฉมที่ 13

มาในชื่อรุ่น HV37 เป็นนิสสัน สกายไลน์ รุ่นล่าสุด ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2014 เป็น Skyline Hybrid ด้วยให้ความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ใช้เครื่องยนต์ 3.5 ลิตร VQ35HR คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า HM34 เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ให้แรงม้า 359 แรงม้า เป้าหมายการตลาดของ Nissan Skyline Gen 13 นี้ จะแตกต่างออกไปจากรุ่นก่อน คือเน้นไปที่ผู้ใหญ่วัยทำงานอายุ 40 ปีขึ้นไป เป็นสกายไลน์ที่ให้ความหรูหรามากกว่าดูสปอร์ตเหมือนวัยรุ่น ในเจเนอเรชั่น 13 นี้ จะไม่มีตัวถังแบบคูเป้ เพราะ Nissan GT-R ได้แยกไลน์การผลิตไปแล้ว และยังมี นิสสัน 370z ให้เลือกสำหรับคนชอบรถสปอร์ตอีกด้วย ทำให้ Nissan Skyline จะเริ่มดูเป็นรถผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้น รุ่นนี้ใช้อีกชื่อในอเมริกา ในแบรนด์ Infiniti Q50

Skyline sedan (2014) แก้

 
2014–2017 Nissan Skyline 350GT Hybrid Type SP (V37, Japan)
 
2014–2017 Nissan Skyline 350GT Hybrid Type SP (V37, Japan)
 
2014–2017 Nissan Skyline 350GT Hybrid Type SP (V37, Japan)

ปรับปรุงครั้งที่ 1 (2017) แก้

ปรับปรุงครั้งที่ 2 (2019) แก้

อ้างอิง แก้

  1. ประวัติสกายไลน์ เก็บถาวร 2006-10-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (ภาษาญี่ปุ่น)
  2. GT-R may race in Australia Autoblog
  3. "Nissan Skyline GT-R 34". Keith Michaels. สืบค้นเมื่อ 2015-12-16.


แหล่งข้อมูลอื่น แก้