นิค ฮอร์นบี้ (อังกฤษ: Nick Hornby) เกิดเมื่อวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 1957 เป็นนักเขียนชาวอังกฤษ ผลงานที่เป็นที่รู้จักเช่นผลงานประพันธ์เรื่อง Fever Pitch, High Fidelity และ About a Boy เป็นต้น

นิก ฮอร์นบี

ประวัติ แก้

นิค ฮอร์นบี้ เกิดที่เรดฮิลล์, เซอร์เรย์ ในครอบครัวของชนชั้นกลาง ที่แม้จะมีหัวหน้าครอบครัว เซอร์ เดเร็ค ฮอร์นบี้ เป็นนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จก็ตาม แต่ด้วยความที่ทุ่มเทเวลาให้กับงานมากจนเกินไป ก็นำมาสู่การหย่าร้าง เมื่อนิค ฮอร์นบี้ อายุแค่ 11 ปี ซึ่งทำให้เขาปลีกตัวไปทุ่มเทให้กับการเป็นแฟนพันธุ์แท้ของทีม อาร์เซนอล

หลังจบมัธยมในช่วงกลางยุค 70’s ฮอร์นบี้ก็เข้าเรียนในสาขาวรรณกรรมอังกฤษ มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ โดยระหว่างที่เรียนอยู่ ฮอร์นบี้ก็รับงานเป็นครูสอนภาษาให้กับบรรดาคนต่างชาติ และพนักงานของบริษัทซัมซุง รวมทั้งเขียนวิจารณ์เพลงลงในนิตยสาร ไทม์เอาท์ ในปี 1984 นิค ฮอร์นบี้ก็กลายเป็นนักข่าว และนักเขียน อิสระ

หนังสือเล่มแรกของนิค ฮอร์นบี้ Fever Pitch ออกวางจำหน่ายในปี 1992 ซึ่งเป็นงานกึ่งชีวประวัติ เพราะเป็นเรื่องของทีมอาร์เซนอล หนังสือเล่มนี้ประสบความสำเร็จแป็นอย่างดี ฮอร์นบี้ได้รับรางวัล the William Hill Sports Book of the Year Award ตัวหนังสือถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์ในปี 1997 ก่อนที่ปี 2005 จะถูกนำไปสร้างเป็นหนังอเมริกัน และเปลี่ยนเป็นเรื่องราวของแฟนทีมเบสบอลแทน หลังออกหนังสือเล่มแรก ฮอร์นบี้ก็มีคอลัมน์ลงในหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์, ไทม์เอาท์ ตามด้วยการวิจารณ์เพลงใน เดอะ นิวยอร์กเคอร์

High Fidelity หนังสือเล่มที่ 2 ของฮอร์นบี้ที่ว่าด้วยคนคลั่งเพลงกับสัมพันธภาพที่ล้มเหลว ตีพิมพ์ออกมาในปี 1995 และกลายมาเป็นภาพยนตร์ในปี 2000 นิยายเรื่องที่ 3 About a Boy ออกวางจำหน่ายในปี 1998 คราวนี้ฮอร์นบี้หันมาเขียนเรื่องความสัมพันธ์ของ “เด็ก” 2 คน คนหนึ่งคือผู้ใหญ่ในร่างเด็กชายจากครอบครัวที่แตกร้าว ส่วนอีกคนเป็นเด็กในร่างผู้ใหญ่ นิยายเรื่องนี้ถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์อีกเช่นเคย โดยออกฉายในปี 2002 โดยในปี 1999 ฮอร์นบี้ยังได้รับรางวัล the E.M. Forster Award of the American Academy of Arts and Letters อีกด้วย

หนังสือ How to Be Good ออกมาในปี 2001 และทำให้ฮอร์นบี้คว้ารางวัล the WH Smith Award for Fiction ในปี 2002 และในปีนี้เอง ฮอร์นบี้ก็ออกหนังสือรวมเรื่องสั้น Speaking With The Angels ออกมา โดยหนังสือเล่มนี้จะเป็นการรวมเรื่องสั้น 12 เรื่องไว้ด้วยกัน โดยหนึ่งในจำนวนนั้นคือเรื่อง Nipple Jesus ของฮอร์นบี้ ที่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการด้วย ผลกำไรจากหนังสือจะนำไปมอบให้กับองค์กรทรีเฮาส์ ที่ทำหน้าที่ดูแลเด็กที่ป่วยเป็นออทิสติค ซึ่งแดนนี่ ลูกของฮอร์นบี้ที่เกิดในปี 1993 ก็อยู่ในการดูแลขององค์กรนี้เช่นกัน ปัจจุบันแม้จะแยกทางกับแม่ของแดนนี่แล้ว แต่ฮอร์นบี้ก็ยังพบกับเธอเสมอๆ เพื่อทำหน้าที่ดูแลลูกชาย

ปี 2003 ฮอร์นบี้ เอาความรู้สึก และอารมณ์ต่างๆ ที่เขามีต่องานเพลงมาเขียนเป็นหนังสือชื่อ 31 Songs (ในอเมริกาใช้ชื่อ Songbook) นอกจากเรื่องราวเกี่ยวกับเพลง ที่เป็นเรื่องแแบบวัฒนธรรมป็อป ฮอร์นบี้ยังเขียนเรื่องในลักษณะเดียวกันนี้อีกหลายๆ ครั้งในคอลัมน์ จนกลายเป็นที่รู้จักในฐานะมือเขียนเรื่องเพลงป็อป และนักรวมเพลงชั้นดี นอกจากนี้ฮอร์นบี้ยังมีงานเขียนวิจารณ์หนังสือที่ชื่อ Stuff I've Been Reading ลงในนิตยสารรายเดือนเดอะบีลีฟเวอร์ ซึ่งหลายๆ บทความที่ฮอร์นบี้เขียนยังถูกนำไปรวมเล่มไว้ในหนังสือ The Polysyllabic Spree ที่ออกเมื่อปี 2004 อีกด้วย

นิยายเล่มล่าสุด (ในปี 2005) ของ นิค ฮอร์นบี้ก็คือ A Long Way Down

ผลงาน แก้

วรรณกรรม แก้

สารคดี แก้

กวีนิพนธ์ แก้

ผลงานของฮอร์นบี้ในภาพยนตร์ แก้

นิยายของฮอร์นบี้ ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์แทบจะทุกเรื่อง กระทั่งผลงานเรื่องล่าสุด A Long Way Down ก็ถูกบริษัทสร้างภาพยนตร์ของจอห์นนี่ เด็พพ์ซื้อสิทธิ์ในการทำเป็นหนังเอาไว้แล้ว ขณะที่ High Fidelity ก็เคยนำไปสร้างเป็นละครเวที แบบมิวสิคัลมาแล้วในปี 2006 โดยดัดแปลงเรื่องราวจากหนังสือ ด้วยการย้ายแบ็คกราวนด์เป็นบรู๊คลีนน์ บทละครเขียนโดย เดวิด ลินด์เซย์-อแบร์ ส่วนเพลงนั้นเนื้อร้องเขียนโดย อาแมนด้า กรีน ดนตรีเป็นฝีมือของ ทอม คิทท์ ละครเพลง High Fidelity เปิดการแสดงที่บอสตัน 1 เดือนเต็มๆ ก่อนจะมาเล่นที่บรอดเวย์ หลังจากเปิดแสดงรอบพรีวิวไป 18 รอบ และรอบปกติ 14 รอบ

  • 1997 Fever Pitch — กำกับภาพยนตร์โดย เดวิด เอแวนส์ บทภาพยนตร์โดย นิค ฮอร์นบี้
  • 2000 High Fidelity — กำกับภาพยนตร์โดย สตีเฟ่น เฟรียส์
  • 2002 About a Boy — กำกับภาพยนตร์โดย คริส และ พอล ไวทซ์
  • 2005 Fever Pitch — กำกับภาพยนตร์โดย บ็อบ และปีเตอร์ ฟาร์เรลลี่


แหล่งข้อมูลอื่น แก้