ทางหลวงสหรัฐหมายเลข 51

ทางหลวงสหรัฐหมายเลข 51 (อังกฤษ: U.S. Route 51 หรือ US 51) เป็นทางหลวงสหรัฐแนวเหนือ–ใต้สายหลัก ระยะทาง 1,286 ไมล์ (2,070 กิโลเมตร) จากชานเมืองทางตะวันตกของนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ไปจนถึงพรมแดนรัฐวิสคอนซินรัฐมิชิแกน ระยะทางส่วนใหญ่ของทางหลวงสายนี้ในรัฐอิลลินอยและตอนใต้ของรัฐวิสคอนซินนั้นมีเส้นทางวิ่งขนานไปกับอินเตอร์สเตต 39 รวมทั้งมีเส้นทางซ้อนกันด้วย และเส้นนี้ในหลาย ๆ รัฐก็ยังขนานไปกับทางรถไฟกลางอิลลินอย (Illinois Central Railroad) อีกด้วย ปลายทางทิศเหนือของทางหลวงสายนี้อยู่ระหว่างเมืองเฮอร์ลีย์ รัฐวิสคอนซิน และเมืองไอร์ออนวูด รัฐมิชิแกน บริเวณทางแยกต่างระดับรูปทรัมเป็ตบนทางหลวงสหรัฐหมายเลข 2 ส่วนปลายทางทิศใต้อยู่ที่ลาปลาซ รัฐลุยเซียนา บนทางหลวงสหรัฐหมายเลข 61

ทางหลวงสหรัฐหมายเลข 51 marker

ทางหลวงสหรัฐหมายเลข 51

ข้อมูลของเส้นทาง
ความยาว1,277 ไมล์[1] (2,055 กิโลเมตร)
มีขึ้นเมื่อ11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1926 (1926-11-11)[2]–ปัจจุบัน
ทางแยกที่สำคัญ
ปลายทางทิศใต้ US 61 ในลาปลาซ รัฐลุยเซียนา
 
ปลายทางทิศเหนือ US 2 ใกล้เฮอร์ลีย์ รัฐวิสคอนซิน
ตำแหน่งที่ตั้ง
ประเทศสหรัฐ
รัฐลุยเซียนา มิสซิสซิปปี เทนเนสซี เคนทักกี อิลลินอย วิสคอนซิน
ระบบทางหลวง

ทางหลวงสหรัฐหมายเลข 51 ปรากฎในเพลงโฟล์กซองชื่อ "ไฮเวย์ฟิฟตีวันบลูส์" (Highway 51 Blues) ของเคอร์ติส โจนส์ และฉบับคัฟเวอร์ของบ็อบ ดิลลัน ในอัลบั้มที่มีชื่อเดียวกันกับเขา นอกจากนี้ วงดนตรีที่ชื่อนอร์ทมิสซิสซิปปีออลสตาส์ยังได้นำหมายเลขทางหลวงสายนี้มาเป็นชื่ออัลบั้ม ฟิฟตีวันแฟนทอม (51 Phantom)

ในเมืองเมมฟิส ทางหลวงสหรัฐหมายเลข 51 ตั้งแต่แยกกับถนนเซาท์พาร์กเวย์อีสต์ลงไปทางใต้ ได้มีการเปลี่ยนชื่อจากถนนเบลเลอวู (Bellevue Boulevard) ไปเป็นถนนชื่อเอลวิส เพรสลีย์

ภาพ แก้

อ้างอิง แก้

  1. "U.S. Route Number Database". American Association of State Highway and Transportation Officials. December 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-04-04. สืบค้นเมื่อ December 6, 2016.
  2. Bureau of Public Roads & American Association of State Highway Officials (November 11, 1926). United States System of Highways Adopted for Uniform Marking by the American Association of State Highway Officials (Map). 1:7,000,000. Washington, DC: United States Geological Survey. OCLC 32889555. สืบค้นเมื่อ December 6, 2016 – โดยทาง University of North Texas Libraries.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้