ตราตั้งห้าง
ตราตั้ง หรือ ตราตั้งห้าง คือ หนังสือรับรองการพระราชทานพระบรมราชานุญาตที่ออกให้แก่บุคคลหรือห้างร้านบริษัท เพื่อแสดงว่าบุคคลหรือห้างร้านบริษัทตามที่ระบุชื่อเป็นผู้ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้เครื่องหมายครุฑพ่าห์ในกิจการที่ระบุได้[1] ทั้งนี้ เครื่องหมายตราตั้ง คือ เครื่องหมายครุฑพ่าห์ที่มีข้อความประกอบเบื้องล่างว่า "โดยได้รับพระบรมราชานุญาต" หรือข้อความเป็นอักษรต่างประเทศตามที่สำนักพระราชวังกำหนด ที่บุคคลหรือห้างร้านบริษัทมีสิทธิที่จะใช้เมื่อได้รับตราตั้งแล้ว
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/9/96/Garuda_Emblem_of_Thailand_%28Royal_Warrant%29.svg/220px-Garuda_Emblem_of_Thailand_%28Royal_Warrant%29.svg.png)
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/e/e1/Bangkok_Bank_head_office_%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E_2021.jpg/220px-Bangkok_Bank_head_office_%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E_2021.jpg)
การพระราชทานตราตั้งเริ่มมีมาแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเดิมเป็นตราอาร์มมีข้อความประกอบว่า "โดยได้รับพระบรมราชานุญาต" ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้เปลี่ยนตราแผ่นดินเป็นตราพระครุฑพ่าห์
ปัจจุบัน ต้องยื่นคำขอพระราชทานตราต่อสำนักพระราชวัง เพื่อที่จะได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ภายหลังตรวจสอบและพิจารณาเห็นว่าห้างร้านหรือบริษัทใดที่ขอพระราชทานตราตั้งสมควรได้รับพระราชทานตราตั้ง ทั้งนี้ เมื่อได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้วให้เลขาธิการพระราชวังออกตราตั้งให้ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ตราตั้งนี้ถือเป็นของพระราชทานเฉพาะบุคคล สิทธิรับพระราชทานและการใช้เครื่องหมายนี้จะสิ้นสุดเมื่อสำนักพระราชวังเรียกคืน เนื่องจากบุคคล ห้างร้าน บริษัทที่ได้รับพระราชทาน ตายหรือเลิกประกอบกิจการ หรือโอนกิจการให้ผู้อื่น หรือสำนักพระราชวังเห็นสมควรเพิกถอนสิทธิ
อ้างอิง
แก้- ↑ พระราชบัญญัติเครื่องหมายครุฑพ่าห์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐๙ ตอนที่ ๑๐ หน้า ๕ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕