ดารูมะ (ญี่ปุ่น: だるまโรมาจิdaruma) เป็นตุ๊กตาไม้ ของญี่ปุ่น มีลักษณะกลมไม่มีแขนและขาคล้ายตุ๊กตาล้มลุก โดยหน้าตาจะคล้ายคลึงกับพระโพธิธรรม (ซึ่งชื่อว่า ดารูมะ ในภาษาญี่ปุ่น) มีหนวดและเครา โดยส่วนมากตุ๊กตาดารูมะจะมีสีแดง แต่อาจจะมีสีอื่นบ้าง เช่น สีเหลือง สีเขียว หรือสีขาว ตรงบริเวณคางจะมีการเขียนคำขอพรไว้ สมัยเอโดะส่วนใบหน้าผมของตุ๊กตาดารุมะมีลักษณะความหมายดั่งนี้ เคราคล้ายต้นสน รอบดวงหน้าคือไม้ไผ่และจมูกคือต้นพลัม ต้นไม้ทั้งหมดเป็นไม้มงคลสำหรับการดำรงชีวิตที่ดีและยืนยาว สมัยปัจจุบันก็มีการเปรียบเทียบใบหน้าดังนี้คือ ขนคิ้วเป็นนกกระเรียน และมีหนวดเคราเป็นเต่า มีความหมายที่แสดงถึงชีวิตที่ยืนยาวด้วยเช่นกัน ส่วนตัวอักษรที่เขียนนั้นก็แล้วแต่ว่าเราอยากจะเขียนอักษรที่มีความหมายดี ๆ ลงไป ส่วนใหญ่ก็มักจะเกี่ยวกับความเจริญก้าวหน้าต่าง ๆ ภายนอกทาด้วยสีแดงให้เหมือนกับอาภรณ์ของนักบวช ตุ๊กตาดารูมะสามารถหาซื้อได้บริเวณวัดพุทธในประเทศญี่ปุ่น ราคาประมาณ 1,000 เยน สำหรับตัวเล็ก (สูง 15 ซม.) ถึงราคา 10,000 เยน สำหรับตัวใหญ่ (สูง 60 ซม.)

ตุ๊กตาดารูมะ ที่วัดดารูมะจิ เมืองทากาซากิ จังหวัดกุมมะ ประเทศญี่ปุ่น

การขอพรกับตุ๊กตาดารูมะ ทำได้โดยใช้หมึกสีเขียนตาดำข้างหนึ่งของตุ๊กตาและทำการขอพร และจะเก็บตุ๊กตาไว้บนหิ้ง โดยเมื่อพรสมหวังจะเติมตาอีกข้างให้สมบูรณ์ จะเห็นได้จากช่วงการเลือกตั้ง พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งจะมีการเติมตาของดารูมะ

ในช่วง พ.ศ. 2538- 2543 ได้มีกลุ่มนักคุ้มครองสิทธิได้มีการเรียกร้องโดยกล่าวหาว่าวัฒนธรรมการเติมตาให้ดารูมะเป็นการล้อเลียนคนตาบอด

เหตุที่มีสีแดง แก้

สาเหตุที่ตุ๊กตาดารูมะมีสีแดงนั้น บ้างก็ว่าเพราะมีตำนานเล่าขานว่าพระโพธิธรรมท่านมักสวมเสื้อผ้าสีแดง บ้างก็ว่าเพราะในสมัยก่อนมีความเชื่อว่าสีแดงจะช่วยขับไล่มารร้าย และช่วยขจัดปัดเป่าเชื้อโรคฝีดาษ (ไข้ทรพิษ) ด้วย เนื่องจากมีความเชื่อว่า "เทพฝีดาษ" ที่ทำให้เกิดโรคฝีดาษนั้นไม่ชอบสีแดง ด้วยเหตุนี้คนญี่ปุ่นจึงได้มีการมอบตุ๊กตาดารูมะให้แก่เด็ก ๆ เป็นของเล่น เพื่อที่ดารูมะจะได้ช่วยขับไล่มารร้ายและโรคฝีดาษให้ไปจากเด็ก ๆ

อนึ่ง ในปัจจุบันนี้ได้มีการทาสีดารูมะเป็นสีอื่น ๆ นอกจากสีแดงแล้ว เช่น สีเหลือง สีขาว สีเขียว และสีทอง เป็นต้น

และเหตุที่ตุ๊กตาดารูมะมีลักษณะคล้ายตุ๊กตาล้มลุก เพราะเป็นคติธรรมที่หมายถึง ตุ๊กตายังล้มแล้วลุกขึ้นไป ชีวิตมนุษย์ก็ต้องล้มแล้วลุกขึ้นมาได้เช่นกัน[1]

อ้างอิง แก้

  1. "Say..Hi!". ช่อง 3. 27 December 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-01. สืบค้นเมื่อ 27 December 2014.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้