ซินเหวินเหลียนปัว

รายการข่าว
(เปลี่ยนทางจาก ซินเหวินเหลียนโป)

ซินเหวินเหลียนปัว (จีนตัวย่อ: 新闻联播; จีนตัวเต็ม: 新聞聯播; พินอิน: Xīnwén Liánbō; แปลตรงตัว: "เครือข่ายข่าว") เป็นรายการข่าวประจำวันที่ผลิตโดยสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CCTV) สถานีโทรทัศน์ของรัฐ ออกอากาศพร้อมกันโดยสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นทุกแห่งในแผ่นดินใหญ่ของจีน ทำให้เป็นหนึ่งในรายการที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก ออกอากาศครั้งแรกเมื่อ 1 มกราคม ค.ศ. 1978[1]

ซินเหวินเหลียนปัว
ไฟล์:Xinwen Lianbo.jpg
ชื่อเปิดรายการใช้ตัวอักษรจีนและพินอิน ฉากเปิดและเพลงประกอบซึ่งเริ่มใช้ครั้งแรกใน ค.ศ. 1988 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
อักษรจีนตัวเต็ม新聞聯播
อักษรจีนตัวย่อ新闻联播
ประเภทข่าว
ผู้ประพันธ์ดนตรีแก่นเรื่องเมิ่ง เว่ย์ตง
ดนตรีแก่นเรื่องปิดTogether Again โดยอลาสเตอร์ แกวิน
ประเทศแหล่งกำเนิดจีน
ภาษาต้นฉบับแมนดาริน
ออกอากาศ
เครือข่ายมีต้นกำเนิดจากสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (ดูรายละเอียดด้านล่าง)
ออกอากาศ1 มกราคม ค.ศ. 1978 (1978-01-01) –
ปัจจุบัน

รายการนี้ถูกใช้เป็นสื่อกลางในการประกาศข่าวสารและการประชุมของรัฐบาล ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นเศรษฐกิจและนโยบายสำคัญ และกิจกรรมของผู้นำระดับชาติ รายการนี้นำเสนอมุมมองอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ อย่างครอบคลุม มีผู้กล่าวหาว่ารายการนี้ถูกใช้เป็นช่องทางให้พรรคเปิดเผยวาระทางการเมืองของตนมากกว่าจะเป็นการตรวจสอบเหตุการณ์ข่าวสำคัญประจำวัน รายการนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั้งภายในประเทศจีนและระดับนานาชาติถึงการขาดความเป็นกลาง แม้ความนิยมจะลดลง แต่รายการนี้ก็ยังคงเป็นรายการที่มีผู้ชมจำนวนมาก

รูปแบบรายการ

แก้

ปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดคำแปลภาษาอังกฤษที่เป็นมาตรฐานสำหรับชื่อรายการนี้ การแปลที่นิยมใช้กัน ได้แก่ "ข่าวภาคค่ำ" และ "เครือข่ายข่าวออกอากาศ"[2] พจนานุกรมออกซฟอร์ดให้คำแปลว่า news hook-up อาจแปลได้ว่า "การเชื่อมต่อข่าวสาร" หรือ "การเชื่อมโยงข่าว"[3] ชื่อภาษาจีนของรายการประกอบด้วยสองคำ ได้แก่ ซินเหวิน (新闻/新聞) หมายถึง "ข่าว" และ เหลียนปัว (联播/聯播) ซึ่งแปลได้ใกล้เคียงกับ "ออกอากาศร่วมกัน/พร้อมกัน" หมายถึงเนื้อหารายการจะถูกออกอากาศโดยสถานีโทรทัศน์ระดับมณฑลและเทศบาลทั่วประเทศจีน (ปกติจะเป็นช่องหลักของแต่ละสถานี) ทำให้รับประกันได้ว่าผู้ชมจะสามารถรับชมรายการผ่านทางโทรทัศน์ภาคพื้นดินได้ทั่วประเทศ และสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นทุกแห่งมีผู้สื่อข่าวที่มีหน้าที่ส่งข่าวและรายงานพิเศษจากพื้นที่ของตนมาให้รายการนี้[4]

รายการนี้ยังได้รับการแปลเป็นภาษาของชนกลุ่มน้อย เช่น เวอร์ชันภาษาเกาหลีที่ออกอากาศในจังหวัดปกครองตนเองชนชาติเกาหลี หยันเปียน มณฑลจี๋หลิน ซึ่งมีชื่อว่า "ข่าวในและต่างประเทศ" (เกาหลี국내외뉴스; ฮันจา國內外뉴스)[5]

รายการนี้เป็นรายการข่าวประจำวันยาวประมาณ 30 นาที เริ่มจากการนำเสนอหัวข้อข่าวสำคัญแล้วจึงรายงานรายละเอียดของแต่ละข่าว[6] ในสถานการณ์พิเศษ เวลาออกอากาศอาจถูกขยายออกไปเกินกว่า 30 นาทีเมื่อเห็นว่าจำเป็น ตัวอย่างเช่น ใน ค.ศ. 1997 การถึงแก่อสัญกรรมของเติ้ง เสี่ยวผิง ทำให้ซินเหวินเหลียนปัวออกอากาศเกินเวลาปกติเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ผู้ประกาศข่าวปรากฏตัวในท่านั่งโดยมีฉากหลังเป็นกระจกใสที่มองเห็นห้องควบคุมอยู่เบื้องหลัง[7] รูปแบบแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยตลอดสามทศวรรษ แม้กระทั่งรายละเอียดเล็กน้อย ภาษาจีนกลางถูกใช้ตลอดรายการตามนโยบายด้านภาษาของรัฐบาล และใช้ภาษาที่เป็นทางการและสุภาพตลอดการออกอากาศ การนำเสนอนั้นแข็งทื่อ ไร้ซึ่งการพูดคุยที่เป็นกันเองหรืออารมณ์ขัน[1]

ก่อนเดือนมกราคม ค.ศ. 2013 ซินเหวินเหลียนปัวไม่เคยนำเสนอรูปแบบการสัมภาษณ์สดหรือการรายงานสดจากสถานที่ (ยกเว้นกรณีพิเศษ เช่น การถ่ายทอดสดการปล่อยดาวเทียมสำรวจดวงจันทร์ฉางเอ๋อ 2 เมื่อ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2010) รายงานสดฉบับแรกถูกเผยแพร่เมื่อ 26 มกราคม ค.ศ 2013 รายการนำเทคโนโลยีสร้างภาพกราฟิกจากซอฟต์แวร์ Vizrt ในการออกอากาศข่าวมาใช้เป็นหลักตั้งแต่ 25 กันยายน ค.ศ. 2011 เป็นต้นมา ณ ค.ศ. 2023 ฉากเปิดและดนตรีประกอบแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ มาตั้งแต่ ค.ศ. 1988[6][8][โปรดขยายความ]

รายการนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าสมควรแก่ชื่อเสียง ด้วยระบบการเผยแพร่ที่ครอบคลุมทั่วถึงจนทำให้ วอชิงตันโพสต์ยกย่องให้เป็นหนึ่งในรายการข่าวที่ผู้คนทั่วโลกชมมากที่สุด การคำนวณจากสถิติอย่างเป็นทางการชี้ว่ามีผู้ชมรายการนี้อย่างน้อยวันละ 135 ล้านคน ซึ่งก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลหากพิจารณาจากจำนวนประชากรของประเทศจีน[2] ใน ค.ศ. 2006 เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลทำการวิเคราะห์ว่ารายการนี้มีผู้ชมมากกว่ารายการข่าวที่ได้รับเรตติงสูงสุดของสหรัฐถึง 14 เท่า

การออกอากาศครั้งแรกในเวลา 19:00 น. ตามเวลา UTC+8 ถูกเผยแพร่พร้อมกันทางช่อง CCTV-1, CCTV-7 และ CCTV-13 (ออกอากาศพร้อมกันทาง CCTV) รวมถึงช่องหลักของสถานีโทรทัศน์ระดับมณฑลและเทศบาลทั่วประเทศ ตลอดจนสถานีวิทยุกระจายเสียงบางแห่งทั่วประเทศ ตามปกติแล้ว CCTV-13 จะออกอากาศซ้ำ (หรือออกอากาศสดหากการออกอากาศครั้งแรกมีข้อผิดพลาด) ในเวลา 21:00 น. ขณะที่ CCTV-4 มักออกอากาศซ้ำในเวลาหลังจากนั้น และ CCTV-1 มักออกอากาศซ้ำในเวลา 05:00 น. มีการพากย์เสียงภาษาชนกลุ่มน้อยในภายหลังสำหรับผู้ชมในภูมิภาคนั้น ๆ สิ่งนี้ทำให้แน่ใจว่าผู้ชมรายการทั้งแบบฟรีทีวีและแบบเสียเงินในประเทศอาจจะได้รับชมรายการนี้ได้ประมาณครึ่งหนึ่งของช่องทั้งหมดที่มี

เมื่อ 18 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 ซินเหวินเหลียนปัวเปลี่ยนระบบภาพเป็นความละเอียดสูงแบบ 16:9[9]

ประวัติ

แก้

ต้นกำเนิด

แก้

เมื่อ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1958 สถานีวิทยุโทรทัศน์ปักกิ่ง สถานีโทรทัศน์แห่งแรกของจีน เริ่มออกอากาศรายการ "สรุปข่าว" (News Bulletin) ในเวลา 18:50–19:00 น. ของทุกวันอาทิตย์ โดยนำเสนอข่าวสารทางการเมืองที่สำคัญในประเทศ ข้อมูลเกี่ยวกับพลวัตทางสังคม และรายงานเกี่ยวกับบุคคลตัวอย่าง ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของ "เครือข่ายข่าว" ในอนาคต

เมื่อ 29 มีนาคม ค.ศ. 1976 การประชุมนักข่าวโทรทัศน์แห่งชาติซึ่งจัดขึ้นที่ปักกิ่งเสนอให้ "รวมศูนย์สถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศและสร้างรายการข่าวโทรทัศน์แห่งชาติ" ในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1976 สถานีวิทยุโทรทัศน์ปักกิ่งออกอากาศ "เครือข่ายข่าวโทรทัศน์แห่งชาติ" (National Television News Network) เป็นครั้งแรกโดยส่งสัญญาณไปยังสถานีโทรทัศน์ระดับมณฑลมากกว่า 10 สถานีผ่านสายไมโครเวฟ

ผู้ประกาศข่าว

แก้

รายการดำเนินโดยผู้ประกาศข่าวสองคน ปกติเป็นชายหญิงอย่างละหนึ่งคน ตั้งแต่ ค.ศ. 1989 ถึง 2006 ผู้ประกาศข่าวหลักคือสิง จื้อปิน และหลัว จิง[2] โดยมีผู้ช่วยอีกสี่คน[1] วันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 2006 มีการแนะนำผู้ประกาศข่าวคนใหม่สองคนคือหลี จื่อเหมิง และคัง ฮุย[1]

ปัจจุบัน

แก้

อดีต

แก้

ความสำคัญทางการเมือง

แก้

คุณค่าข่าว

แก้

ซู จ้าวหรง นักข่าวของสำนักข่าวซินหัว ได้เสนอมุมมอง 4 ประการเกี่ยวกับเกณฑ์การตัดสินใจเลือกข่าวสำคัญในปัจจุบันของนักข่าวจีนที่ทำงานในสื่อทางการหรือสื่อโฆษณาชวนเชื่อ (การประชุมวิชาการด้านวารสารศาสตร์ประจำปี 1998):

  • 1. กิจกรรมสำคัญ การเปลี่ยนแปลงบุคลากร และการประชุมของพรรคและรัฐบาล เช่น งานเลี้ยงฉลองวันชาติ การประชุมของพรรคและการประชุมของสภาประชาชนแห่งชาติ;
  • 2. กิจกรรมของผู้นำพรรคและประเทศ เช่น การเดินทางตรวจเยี่ยม การพบปะกับแขกต่างประเทศ การประชุมกับผู้แทนในประเทศ การเดินทางเข้าออกประเทศ และงานเลี้ยงน้ำชาที่ผู้นำพรรคเป็นเจ้าภาพ;
  • 3. นโยบาย แนวปฏิบัติ กฎหมาย กฎระเบียบ และเอกสารสำคัญของพรรคและรัฐ;
  • 4. ความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์และนโยบายที่สำคัญ...
    — หลี สี่กวง

แท้จริงแล้วซินเหวินเหลียนปั คือเครื่องมือในการสื่อสารของพรรคและรัฐ เช่นเดียวกับรายการข่าวทั้งหมดในแผ่นดินใหญ่ของจีน ลำดับการนำเสนอจะถูกกำหนดโดยความสำคัญทางสังคมและการเมืองของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง (มากกว่าจะพิจารณาจากคุณค่าข่าวอื่น ๆ) ดังนั้น กิจกรรมของเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงมักถูกนำเสนอเป็นรายการแรกเสมอ ตามด้วยรายงานเกี่ยวกับสมาชิกคณะกรรมาธิการสามัญของกรมการเมืองซึ่งเรียงตามลำดับอาวุโส[2] กิจกรรมทางการทูตมักได้รับการนำเสนอก่อนกิจกรรมภายในประเทศ หลังการนำเสนอหัวข่าวแล้วจะมีการอ่านแถลงการณ์จากคณะรัฐมนตรีหรือพรรคคอมมิวนิสต์จีน[11] เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญหรือการกล่าวสุนทรพจน์ที่ควรได้รับการรายงาน กล้องจะค่อย ๆ ปัดไปตามกรรมาธิการสามัญกรมการเมือง[12]

รายการนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากรูปแบบการนำเสนอที่ตายตัว การให้ความสำคัญกับผู้นำพรรคและรัฐเป็นอย่างมาก และขาดการวิเคราะห์เชิงวิพากษ์ โดยเฉลี่ยแล้ว ประมาณครึ่งหนึ่งของรายการทั้งหมดนั้นอุทิศให้กับเนื้อหาทางการเมือง เป็นต้นว่า ประกาศจากพรรคการเมือง การประชุมรัฐบาล หรือกิจกรรมของผู้นำ[13]

การวางแนวข่าว

แก้

รายการนี้มีบทบาทในกลไกการสื่อสารของพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั้งในระดับมวลชนและชนชั้นนำ จ้าน เจียง อาจารย์มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การเมืองเยาวชนแห่งประเทศจีน สรุปเนื้อหาของรายการอย่างชัดเจนในสามประโยค คือ "ผู้นำกำลังยุ่งกับการทำงาน ประเทศชาติกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และประเทศอื่นกำลังวุ่นวาย"[14]

ในแง่หนึ่ง รายการนี้เป็นแหล่งข่าวที่เข้าถึงประชาชนจำนวนมากที่สุดในประเทศจีน ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์มีโอกาสในการส่งอิทธิพลต่อมวลชน[15] ตามที่หลี่กล่าวไว้ การรับชมรายการข่าวประจำวันนั้นเป็นเสมือน "พิธีการแห่งชาติ" ที่ปฏิบัติกันมาโดยตลอดในช่วงมื้อค่ำร่วมกันของครอบครัว

อีกด้านหนึ่ง มันถูกใช้เป็นกลไกในการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงและความต่อเนื่องในนโยบายและบุคลากร นโยบายใหม่ ๆ ถูกนำมาใช้โดยมีลักษณะพิเศษ เช่น "กรอบแนวคิดของผู้บริหารตัวอย่าง" ที่ใช้เพื่อส่งเสริมทฤษฎีสามตัวแทนใน ค.ศ. 2002 ลำดับภาพของคณะกรรมาธิการสามัญประจำกรมการเมืองแสดงให้เห็นถึงอำนาจสัมพัทธ์ของแต่ละคน ผู้เชี่ยวชาญสื่อจีนกล่าวว่า "ผู้นำแต่ละคนได้รับการจัดสรรเวลาปรากฏตัวบนหน้าจอเป็นจำนวนวินาที โดยฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อของพรรคจะเป็นผู้ควบคุมเวลาของแต่ละคนอย่างรอบคอบ"[2] ความเป็นทางการอย่างมากของรายการนี้มีสาเหตุมาจากความกังวลว่าหากเกิดความเข้าใจผิดใด ๆ ขึ้นมาอาจนำไปสู่ผลกระทบร้ายแรง

ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ การรายงานข่าวเหตุการณ์การประท้วงและการสังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินใน ค.ศ. 1989 ที่นำไปสู่การปลดผู้ประกาศข่าวชื่อดังอย่างตู้ เซี่ยน และเซฺว เฟย์ หลังทั้งคู่สวมชุดสีดำและอ่านข่าวช้ากว่าปกติ[16]

เสื่อมความนิยม

แก้

....ผู้ชมหลักของรายการนี้คือข้าราชการและเจ้าหน้าที่พรรคจำนวนมากของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับมณฑล และนักธุรกิจที่ต้องการติดตามนโยบายและทัศนคติที่จะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของพวกเขา

— เอ็ดเวิร์ด โคดี, วอชิงตันโพสต์, อ้างอิงจากโจว เสี่ยวผู จากมหาวิทยาลัยเหรินหมิน[2]

รายการทั้งหมดของ CCTV ต่างเผชิญแรงกดดันทางการค้า แต่ซินเหวินเหลียนปัวนั้นกลับได้รับผลกระทบน้อยกว่ารายการอื่น ๆ รายการนี้มีคู่แข่งน้อยราย แม้จะมีรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ Phoenix Television ของฮ่องกง และ Dragon TV ของเซี่ยงไฮ้เข้ามาแข่งขัน[17] นอกจากนี้ซินเหวินเหลียนปัวยังเป็นหนึ่งในรายการที่สร้างรายได้หลักให้แก่ CCTV[ต้องการอ้างอิง] แม้จะไม่มีโฆษณาแทรกระหว่างรายการ แต่ช่วงโฆษณาที่ตามมาทันทีหลังรายการนั้นมีการขายไปในราคาสูงถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อช่วงเวลา[18] และช่วง 5 วินาทีก่อนเวลา 19:00 น. นั้นถือเป็นช่วงที่โฆษณามีราคาแพงที่สุดที่ CCTV เคยเสนอขาย โดยมีมูลค่าถึง 24 ล้านหยวนใน ค.ศ. 2003 (คิดเป็นประมาณร้อยละ 7 ของรายได้จากการโฆษณาประจำปีของ CCTV)[19]

ไชนาเดลีรายงานว่าความสนใจในรายการนี้ลดลง โดยได้รับส่วนแบ่งผู้ชมเพียงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับร้อยละ 40 ก่อน ค.ศ. 1998 สาเหตุหนึ่งมาจากการรายงานข่าวประกาศอย่างเป็นทางการของรัฐบาลซึ่งไม่ได้ดึงดูดความสนใจนัก หลัง 20 มิถุนายน ค.ศ. 2009 ซินเหวินเหลียนปัวให้ความสำคัญกับการรายงานข่าวเชิงวิพากษ์และเรื่องราวที่สะท้อนความเป็นมนุษย์มากขึ้น[20]

เวลาออกอากาศ

แก้

เวลาทั้งหมดคือ (UTC+08:00)

ออกอากาศสด

แก้

ออกอากาศซ้ำ

แก้
  • CCTV-4 (ช่องต่างประเทศ): วันถัดไป เวลา 22:30–23:00 น., 02:00–02:30 น. (เอเชีย), 03:00–03:30 น. (ยุโรป), 05:30–06:00 น. (อเมริกา) ตามเวลามาตรฐานจีน
  • CCTV-13: ทุกวัน เวลา 21:00-21:30 น. ตามเวลามาตรฐานจีน
  • CCTV-1 (ฟรีทีวี): วันถัดไป เวลา 05:00–05:30 น. ตามเวลามาตรฐานจีน

เวอร์ชันภาษาต่างประเทศ

แก้

ข้อโต้แย้ง

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 Jason Dean and Geoffrey A.Fowler (9 June 2006). "Two Youthful Anchors Give China's TV News A Jolt of Personality". Wall Street Journal.
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 Edward Cody (23 March 2007). "In a Changing China, News Show Thrives With Timeworn Ways". Washington Post. p. A01.
  3. Manser, Martin H. (1999). Concise English-Chinese Chinese-English Dictionary (New ed.). Oxford University Press/Commercial Press. pp. 345, 联.
  4. "为每晚七点都要转播中央电视台新闻联播?" [Why "Xinwen Lianbo" must simulcast on 7pm?]. Guangzhou Daily. 22 มกราคม 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 มีนาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2016.
  5. "Korean-language broadcasting in China". North Korea Tech. 22 July 2021.
  6. 6.0 6.1 See the Duowei external link below, passim.
  7. See this edition at 00:16, where a lady clearly walks behind the window: CCTV (4 September 2007). "- YouTube" 新闻联播20070904 (ภาษาจีน). สืบค้นเมื่อ 2007-09-11 – โดยทาง YouTube.แม่แบบ:Dead YouTube link
  8. 1991年的新闻联播 (Flash) (ภาษาจีน). via 6rooms. 1991. สืบค้นเมื่อ 2007-09-13.
  9. "Xinwen Lianbo" for 18 July 2020 (YouTube) (ภาษาจีน). 18 July 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-12-21. สืบค้นเมื่อ 2 November 2020.
  10. 10.0 10.1 "北京避谈1989年天安门屠杀纪念日 (Chinese)". Voice of America (China). June 4, 2018. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018.
  11. See this edition at 01:09, where a Party announcement related to the 17th Party Congress preceded coverage of the one-year countdown to the Beijing Olympics: CCTV (9 August 2007). "- YouTube" 新闻联播20070809 (ภาษาจีน). via Duowei and Youtube. สืบค้นเมื่อ 2007-09-11.แม่แบบ:Dead YouTube link
  12. See this edition, where Standing Committee members are mentioned by rank at 00:42 and shown at approx. 01:50: CCTV (7 June 2007). "- YouTube" 新闻联播20070625 (ภาษาจีน). via Duowei via YouTube. สืบค้นเมื่อ 2007-09-11.แม่แบบ:Dead YouTube link
  13. Zhu, Ying (2009). TV China. Indiana University Press. pp. 50–1. ISBN 978-0-253-22026-4.
  14. Zhan, Jiang (2009-08-05). "展江:轻松和包装不是央视新闻的出路". Yangtze Commercial Times via People's Daily. สืบค้นเมื่อ 2011-02-08.
  15. "No news is bad news". The Economist. 6 February 2016. สืบค้นเมื่อ 5 February 2016.
  16. Tsai, Wen-Hsuan; Liao, Xingmiu (2020-06-08). "A Mechanism of Coded Communication: Xinwen Lianbo and CCP Politics". Modern China (ภาษาอังกฤษ). 47 (5): 569–597. doi:10.1177/0097700420920204. ISSN 0097-7004. S2CID 225785676.
  17. . Note that the station's Chinese name translates as "Eastern TV" or "Oriental TV". It is the flagship station of the Shanghai Media Group.
  18. Dean and Fowler, op.cit. CCTV commercial spots have sold through a complex auction process, so this is likely to be an estimate.
  19. Zhao Yuan (3 December 2003). "Ads Tender Reflects Booming Economy". CCTV. สืบค้นเมื่อ 2007-09-13.
  20. CCTV to revamp flagship news program, China Daily, June 10, 2009

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้