คิมเบอร์ลี "คิม" ซูซาน โรด (อังกฤษ: Kimberly "Kim" Susan Rhode; 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1979 [1] — ) เป็นนักกีฬายิงปืนดับเบิลแทร็ปและเป้าบินชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นคนพื้นเมืองในรัฐแคลิฟอร์เนีย เธอเป็นผู้ได้รับเหรียญรางวัลกีฬาโอลิมปิกห้าสมัย ซึ่งรวมถึง สามรางวัลเหรียญทอง และเป็นแชมป์ดับเบิลแทร็ประดับชาติหกกสมัย เธอเป็นนักยิงปืนหญิงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในกีฬาโอลิมปิก ในฐานะเป็นแชมป์โอลิมปิกสามปีซ้อนเพียงคนเดียว และเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัลสองเหรียญทองโอลิมปิกในรายการดับเบิลแทร็ป ล่าสุด เธอได้รับรางวัลเหรียญทองจากการแข่งยิงเป้าบินในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 โดยมีคะแนนเท่ากับสถิติโลกด้วย 99 คะแนน จากที่มีอยู่ทั้งหมด 100 คะแนน[2]

คิม โรด
คิม โรด ที่เท็กซัสพาร์ค และไวล์ดไลฟ์เอ็กซ์โป 2007
ข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อเต็มคิมเบอร์ลี ซูซาน โรด
เกิด (1979-07-16) 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1979 (44 ปี)
ส่วนสูง5 ฟุต 4 นิ้ว (163 เซนติเมตร) (1.63 ม.)
น้ำหนัก150 ปอนด์ (68 กิโลกรัม) (68 กก.)
กีฬา
กีฬายิงปืน
ประเภทดับเบิลแทร็ป, เป้าบิน

ประวัติ แก้

คิม โรด เกิดในวิตทีเออร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย[1] เธอเริ่มเล่นกีฬาล่าสัตว์ตั้งแต่สมัยยังเด็ก โดยเดินทางไปยังซาฟารีของทวีปแอฟริกาเมื่ออายุได้ 12 ปี และเมื่อเธออายุ 13 ปี ก็ชนะรายการแข่งขันชิงแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรกในประเภทดับเบิลแทร็ป โรดได้รับรางวัลเหรียญทองในโอลิมปิกฤดูร้อน 1996 ส่งผลให้เธอเป็นนักกีฬาหญิงที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้รับเหรียญทองของประวัติศาสตร์กีฬายิงปืนในโอลิมปิก หลังจากนั้น เธอก็ได้รับรางวัลเหรียญทองแดงในโอลิมปิกฤดูร้อน 2000 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และโรดยังได้รับรางวัลเหรียญทองในโอลิมปิกฤดูร้อน 2004 ที่กรุงเอเธนส์

ภายหลังจากการยกเลิกประเภทดับเบิลแทร็ปออกจากกีฬาโอลิมปิก เธอก็ได้หันมาจดจ่อในประเภทเป้าบินแทน ในการแข่งขันเวิลด์คัพ 2007 ที่ซานโตโดมิงโก เธอทำสถิติโลกในท้ายสุดของรายการด้วย 98 แต้ม (73 คะแนนในรอบคัดเลือก และได้คำแนนเต็ม 25 ในรอบไฟนอล) เธอยังได้ก้าวสู่การรับรางวัลเหรียญเงินในโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ในประเภทเป้าบินหญิง

โรดเป็นผู้ร่วมรายการ สเต็ปเอาท์ไซด์ ทางช่องเอาท์ดอร์แชนแนล และโรดได้ศึกษาด้านสัตวแพทย์ศาสตร์ที่แคลโพลีโพโมนา

ในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2008 โรดถูกขโมย "old faithful" ปืนลูกซองสำหรับการแข่งขันจากรถกระบะของเธอ เธอได้ใช้ปืนกระบอกนี้ในการแข่งขันมาตั้งแต่อายุ 18 ปี ผ่านการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนมาแล้ว 4 ครั้ง [3] เธอได้ปืนกลับคืนมาในเดือนมกราคม ค.ศ. 2009 หลังจากการค้นหาในบ้านของผู้พ้นโทษก่อนกำหนด ซึ่งผู้พ้นโทษดังกล่าวได้รับการตั้งข้อหาการครอบครองทรัพย์สินที่ได้ขโมยมา[4] ในขณะเดียวกัน บรรดาผู้ที่ชื่นชอบเธอได้บริจาคเงินเพื่อซื้อปืนลูกซองเปรัซซีใหม่ให้แก่เธอในราคา 13,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกลายเป็นปืนที่ใช้ในการฝึกซ้อมกระบอกใหม่ เธอเลือกที่จะใช้ปืนกระบอกใหม่แทนกระบอกเดิมในการแข่งขันมาจนถึงปัจจุบัน [5]

ณ วันที่ 29 กรกฎาคมในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่กรุงลอนดอน โรดได้รับรางวัลเหรียญทองจากการแข่งขันยิงเป้าบินที่ 99 คะแนน ซึ่งเท่ากับสถิติโลกที่มีอยู่ในปัจจุบัน[6] และโรดยังได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งกีฬาโอลิมปิกห้าครั้งติดต่อกัน เธอยังเป็นหนึ่งในสามนักกีฬา (และเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว) ที่ได้รับสามรางวัลเหรียญทองของกีฬายิงปืนในโอลิมปิก เช่นเดียวกันกับ ราล์ฟ ชูมันน์ จากประเทศเยอรมนี และ จิน จงโอ จากประเทศเกาหลี

โรดได้เก็บสะสมหนังสือเด็กรุ่นโบราณฉบับตีพิมพ์ครั้งแรก กับรถรุ่นคลาสสิกที่ได้รับการซ่อมแซมขึ้นใหม่ รวมทั้งของมีค่าอย่าง เอซีเชลบีคอบร้า 1965 และเธอได้สมรสกับ ไมค์ แฮร์รี่แมน ใน ค.ศ. 2009 [5]

ผลงาน แก้

ผลงานในโอลิมปิก
รายการ ค.ศ. 1996 ค.ศ. 2000 ค.ศ. 2004 ค.ศ. 2008 ค.ศ. 2012
ดับเบิลแทร็ป   เหรียญทอง
108+33
  เหรียญทองแดง
103+36
  เหรียญทอง
110+36
ไม่ได้จัด ไม่ได้จัด
เป้าบิน ไม่ได้จัด อันดับ 7
69
อันดับ 5
68+23
  เหรียญเงิน
70+23
  เหรียญทอง
74+25

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 "2008 Beijing Summer Olympics – Kimberly Rhode Profile & Bio, Photos & Videos". NBC Olympics. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-11. สืบค้นเมื่อ 2008-09-16.
  2. "Kim Rhode plans to keep on shooting for Olympic medals". 30 July 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-08-02. สืบค้นเมื่อ 2012-08-25.
  3. Vara-Orta, Francisco (2008-09-13). "Olympic champion Kim Rhode's shotgun is stolen – Los Angeles Times". สืบค้นเมื่อ 2008-09-16.
  4. Police find Olympian Kim Rhode's shotgun ESPN, January 29, 2009
  5. 5.0 5.1 Bonnie D. Ford (May 10, 2012). "Kim Rhode is not your typical Olympian". ESPN.com. สืบค้นเมื่อ August 12, 2012.
  6. "Olympics skeet shooting: Kim Rhode wins to make US history". สืบค้นเมื่อ 29 July 2012.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้