ก้านกล้วย เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันแนวผจญภัยของไทยในปี พ.ศ. 2549 เรื่องราวเกี่ยวกับสยามในสมัยอยุธยา เล่าเรื่องราวของช้างไทยที่พเนจรไปจากแม่ของตนและได้รับตำแหน่งเป็นช้างทรงในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สร้างจากนิยายเรื่อง เจ้าพระยาปราบหงสาวดี โดย อริยา จินตพานิชการ ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เวลาสร้าง 3 ปี เข้าฉายในประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ในปี พ.ศ. 2551 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าฉายในสหรัฐอเมริกาในชื่อ The Blue Elephant ในวันที่ 2 กันยายน และเข้าฉายในอินเดียในชื่อ Jumbo ในวันที่ 25 ธันวาคม

ก้านกล้วย
ใบปิดประชาสัมพันธ์
กำกับคมภิญญ์ เข็มกำเนิด
เขียนบทอัมราพร แผ่นดินทอง
จรูญ ปรปักษ์ประลัย
สร้างจากเจ้าพระยาปราบหงสาวดี
โดย อริยา จินตพานิชการ
อำนวยการสร้างอัจฉรา กิจกัญจนาสน์
นักแสดงนำจุรี โอศิริ
รอง เค้ามูลคดี
เทพ โพธิ์งาม
ชาญณรงค์ ขันทีท้าว
ตัดต่อพรสวรรค์ ศรีบุญวงษ์
ดนตรีประกอบชาติชาย พงษ์ประภาพันธ์
บริษัทผู้สร้าง
ผู้จัดจำหน่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
วันฉาย18 พฤษภาคม พ.ศ. 2549
ความยาว104 นาที
ประเทศไทย
ภาษาไทย
ทุนสร้าง150 ล้านบาท
ทำเงิน196 ล้านบาท[1]
ต่อจากนี้ก้านกล้วย 2
ข้อมูลจาก IMDb
ข้อมูลจากฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทย
ข้อมูลจากสยามโซน

ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยคมภิญญ์ เข็มกำเนิด ซึ่งเคยไปศึกษาการทำแอนิเมชันที่สหรัฐและเคยทำภาพเคลื่อนไหวร่วมกับดิสนีย์และบลูสกาย สตูดิโอส์ ในภาพยนตร์แอนิเมชันอย่างทาร์ซาน, ไอซ์ เอจ และแอตแลนติส[2] ผลิตโดยกันตนา แอนิเมชัน เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันสามมิติเรื่องแรกของไทย และเป็นภาพยนตร์ของไทยลำดับต้น ๆ ต่อจากสุดสาคร ภาพยนตร์แอนิเมชันแนวเซล โดยปยุต เงากระจ่าง ในปี พ.ศ. 2522 ภาคต่อของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ก้านกล้วย 2 [เป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกช้างแฝดของก้านกล้วย และการโจมตีอีกครั้งของหงสาวดี ทำให้ตัวละครต้องเลือกทางระหว่ายอยู่ร่วมกับครอบครัวหรือรบกับพม่า] ซีรีส์แอนิเมชันทางโทรทัศน์เรื่อง ก้านกล้วยผจญภัยผลิตโดย กัญจนาแอนิเมชันสตูดิโอ ออกอากาศทาง BBTV ช่อง 7

เนื้อเรื่อง แก้

ก้านกล้วย เป็นลูกช้างสีฟ้ารูปงาม อาศัยอยู่ในป่าแห่งหนึ่งในประเทศไทย กับแสงดา แม่ของเขา ก้านกล้วยไม่เคยเห็นหน้าพ่อ เนื่องจากพ่อของเขาเป็นช้างศึกแห่งกองทัพอยุธยานาม ภูผา ซึ่งถูกงวงแดง ช้างขุนศึกพม่าร่างมหึมาฆ่าตายในสงครามคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่หนึ่ง ด้วยเหตุนี้ ทำให้ก้านกล้วยถูกเพื่อนช้างในโขลงล้อเลียนว่าเป็น "ลูกไม่มีพ่อ" ทำให้ก้านกล้วยน้อยใจอยู่เป็นประจำ

วันหนึ่ง ก้านกล้วยรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับพ่อของเขา ก้านกล้วยจึงถามแสงดา แม่ของเขา ว่าพ่อเป็นใคร และอยู่ที่ใด แสงดาได้บอกแก่ลูกชายว่า พ่อของเขาถูกมนุษย์จับตัวไปเป็นช้างศึกก่อนที่ก้านกล้วยจะเกิดเสียอีก เมื่อแสงดางีบหลับไป ก้านกล้วยจึงแอบหนีแม่มาสำรวจค่ายทหารพม่าเพื่อตามหาพ่อของเขา ก้านกล้วยมาพบงวงแดง ณ เต็นท์แห่งหนึ่ง ก้านกล้วยถามงวงแดงเกี่ยวกับพ่อของเขา แต่งวงแดงปฏิเสธที่จะตอบคำถามและพยายามฆ่าก้านกล้วย แต่พระนเรศวรทรงช่วยก้านกล้วยไว้ และทรงผูกมิตรไมตรีกับเขา

ก้านกล้วยหลบหนีทหารจากค่ายพม่ามาพบกับชบาแก้ว ช้างสาวสีชมพูวัยเดียวกับก้านกล้วย ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน ชบาแก้วได้พาก้านกล้วยไปอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านหินขาวกับเธอและคุณตามะหูด ควาญช้างชาวอยุธยา ผู้เปรียบเสมือนบิดาบุญธรรมของเธอ ก้านกล้วยได้พบกับจิ๊ดริด นกพิราบสื่อสารแห่งอาณาจักรอยุธยา ก้านกล้วยสอบถามจิ๊ดริดเกี่ยวกับที่พำนักของพ่อของเขา จิ๊ดริดจึงแนะนำให้เขาฝึกฝนทักษะการต่อสู้โดยมะหูด เพื่อที่เขาจะได้มีสิทธิ์เป็นช้างศึก เข้าพระราชวัง โดยบอกว่า ภูผาเป็นช้างศึก ซึ่งควรจะอยู่ในวัง

เมื่อก้านกล้วยเติบใหญ่เป็นช้างหนุ่มรูปงามผู้ทรงพละกำลัง คุณตามะหูดได้พาเขาไปรับคัดเลือกเป็นช้างศึกแห่งกรุงศรีอยุธยา และได้เป็นช้างทรงในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช รับบรรดาศักดิ์เป็น "เจ้าพระยาไชยานุภาพ" ก้านกล้วยได้พบแสงดาอีกครั้ง ต่อมา ก้านกล้วยได้พาแสงดาและจิ๊ดริดเข้าไปตามหาภูผาในหอเทพกุญชร แต่กลับพบช้างเฒ่านาม สิงขร สิงขรเล่าความในอดีตว่า ในสงครามคราวเสียกรุงฯนั้น ตนเกือบถูกงวงแดงปลิดชีพ แต่ทว่าภูผาได้สละชีวิตช่วยตนไว้ ก้านกล้วยและแสงดาพอได้ทราบก็เสียใจมาก แสงดาหวังจะพาก้านกล้วยหนีไปกับตนเพราะไม่อยากให้ลูกต้องพบชะตากรรมเช่นเดียวกับพ่อ แต่ด้วยคำแนะนำของสิงขร ก้านกล้วยจึงตัดสินใจออกรบเพื่อฝากตำแหน่งวีรชนไว้กับสยามดังเช่นภูผาผู้เป็นบิดา

สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงนำกองกำลังนักรบหนึ่งแสนคน ออกจากกรุงศรีอยุธยา สู่สนามรบ ณ ตำบลหนองสาหร่าย สุพรรณบุรี กองทัพอยุธยาได้เข้าประจันหน้ากับกองทัพหงสาวดี ซึ่งมีกำลังพลสองแสนสี่หมื่นคน ก้านกล้วยได้นำทัพออกสู้อย่างเต็มที่ ล้มช้างฝ่ายศัตรูได้เกือบหมด เมื่อถูกล้อมรอบด้วยกองทัพข้าศึก สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงตรัสเชิญมังกยอชวา พระมหาอุปราชาแห่งหงสาวดี ผู้ทรงเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพหงสาวดี ซึ่งทรงช้างงวงแดง เข้าทำยุทธหัตถีกับพระองค์ งวงแดงพอต่อสู้ได้สักพักก็ทราบทันทีว่าก้านกล้วยเป็นลูกชายของภูผา และพยายามจะสังหารเขา จนก้านกล้วยเริ่มเสียแรง หลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงฟันพระอังสะขวาของพระมหาอุปราชาจนสิ้นพระชนม์แล้ว ก้านกล้วยได้อาศัยจังหวะนี้ยันโคนต้นพุทราสามารถล้มงวงแดงได้สำเร็จ อยุธยาจึงเป็นฝ่ายชนะ และได้รับเอกราชคืนจากหงสาวดี

หลังจากสงครามยุทธหัตถี ก้านกล้วยได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชว่า "เจ้าพระยาปราบหงสาวดี" ช้างทรงคู่บารมีของพระองค์ จากนั้น ผู้คนอาณาจักรอยุธยา ก็อาศัยอยู่อย่างสงบสุข ไม่ถูกพม่ารุกราน ส่วนก้านกล้วยนั้น ได้มีช้างคู่สมรสคือ ชบาแก้ว เพื่อนสนิทในวัยเด็ก และอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

งานพากย์ แก้

ภาพยนตร์ พ.ศ. 2549
ตัวละคร ให้เสียงพากย์ไทย
ก้านกล้วย อัญญาฤทธิ์ พิทักษ์ติกุล (วัยเด็ก)
ภูริ หิรัญพฤกษ์ (วัยหนุ่ม)
ชบาแก้ว นวรัตน์ เตชะรัตนประเสริฐ (วัยเด็ก)
วรัทยา นิลคูหา (วัยสาว)
จิ๊ดริด พงษ์สุข หิรัญพฤกษ์
แสงดา นันทนา บุญ-หลง
พังนวล จุรี โอศิริ
คุณตามะหูด สุเทพ โพธิ์งาม
สิงขร รอง เค้ามูลคดี
งวงแดง เอกชัย พงศ์สมัย
นายกองพม่า ชาญณรงค์ ขันทีท้าว
หัวหมู่พม่า วสันต์ พัดทอง
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช บุญชลิด โชคดีภูษิต (วัยเด็ก)
สุเมธ องอาจ (วัยหนุ่ม)
พระมหาอุปราชา สราวุธ เจริญลาภ (วัยเด็ก)
กลศ อัทธเสรี (วัยหนุ่ม)
มะโรง ฤทธิเดช ฤทธิชุ
มะโหนก เจริญพร อ่อนละม้าย
เสริม วิยะดา จิตมะหิมา
บักอึด พุทธิพันธ์ พรเลิศ
ทหารพม่า ธงชัย คะใจ
องอาจ เจียมเจริญพรกุล
ธีระวัฒน์ ทองจิตติ

การเปิดตัวและรางวัล แก้

การเปิดตัวของภาพยนตร์

ก้านกล้วย ได้รับการเปิดตัวในรูปแบบดีวีดีที่สหรัฐอเมริกา ในช่วงเดือนกันยายน ค.ศ. 2008 โดยใช้ชื่อในเวอร์ชันอเมริกันคือ The Blue Elephant

บริษัทเพอร์เซ็ปต์พิคเจอร์คอมพานีของอินเดีย ได้ซื้อสิทธิ์ภาพยนตร์และเปิดตัวในเวอร์ชันภาษาฮินดีโดยใช้ชื่อ Jumbo ซึ่งนักแสดงอินเดียชื่อ อักษัย กุมาร เป็นผู้ให้เสียงพากย์ตัวเอกของเรื่องที่ใช้ชื่อในเวอร์ชันนี้ว่า จัมโบ้[3]

รางวัล

  • ภาพยนตร์เรื่องก้านกล้วย ได้รับรางวัล Best Feature Film จากการประกวดแอนิเมชัน AniMadrid 2006 ที่ประเทศสเปน
  • ภาพยนตร์เกียรติยศแห่งปี, ภาพยนตร์ยอดนิยมแห่งปี ที่ทำรายได้สูงสุด, บันทึกเสียงยอดเยี่ยม, ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี (ตุ๊กตาทอง) ครั้งที่ 28 ประจำปี พ.ศ. 2549

อ้างอิง แก้

  1. [boxofficemojo\khankluay boxofficemojo\khankluay]. {{cite web}}: |title= ไม่มีหรือว่างเปล่า (help); ตรวจสอบค่า |url= (help)
  2. "คมภิญญ์ เข็มกำเนิด ผู้นำหนัง "ก้านกล้วย"". Positioning Magazine. 10 กุมภาพันธ์ 2548. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  3. "Akshay Kumar's Jumbo is actually a Thai film", ScreenIndia; retrieved 2008-12-13

แหล่งข้อมูลอื่น แก้