การใช้ความรุนแรงกับแฟน
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
การใช้ความรุนแรงกับแฟน (อังกฤษ: dating violence) หรือ การทารุณกรรมแฟน (อังกฤษ: dating abuse) ถูกให้ความหมายว่าเป็นการใช้ความรุนแรง หรือ การข่มขู่ว่าจะใช้ความรุนแรง ที่เกิดขึ้นระหว่างคู่ที่อยู่ในระหว่างการเดทหรือการจีบ และยังไม่แต่งงาน สิ่งนี้ยังหมายถึงการที่คนใดคนหนึ่งในความสัมพันธ์พยายามคงอำนาจและควบคุมอีกคนหนึ่งโดยใช้ความรุนแรงหรือการทารุณกรรม โดยอาจอยู่ในรูปแบบของการประทุษร้ายทางเพศ, การคุกคามทางเพศ, การข่มขู่, การทำร้ายร่างกาย, การข่มเหงทางวาจา ทางจิต หรือ ทางอารมณ์, การทำร้ายทางสังคม, และการเฝ้าติดตาม อาจรวมถึง การกรรโชกทางอารมณ์, การทารุณกรรมทางเพศ, ทารุณกรรมทางร่างกาย และการชักใยทางจิตวิทยา[1]
การใช้ความรุนแรงกับแฟนพบได้ในทุกชาติพันธุ์ อายุ เส้นสังคมและเศรษฐกิจ สถาบันเพื่อความตระหนักเกี่ยวกับความรุนแรงในความสัมพันธ์ บรรยายการใช้ความรุนแรงกับแฟนว่าเป็น "รูปแบบพฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรงและบีบบังคับเพื่อคงอำนาจและการควบคุมต่อคู่ครองปัจจุบันหรือคู่ครองในอดีต"[2]
ข้อมูลของผู้กระทำและเหยื่อ
แก้คนทุกเพศทุกวัยสามารถตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่มีการทำร้าย ไม่ว่าจะมีชาติพันธุ์แบบใด รายได้เท่าไหร่ก็ตาม ทว่ามีลักษณะบางอย่างที่ผู้กระทำและเหยื่อมักมี
สถาบันสนับสนุนทางเลือกสำหรับความรุนแรงบรรยายผู้กระทำว่ามัก ขี้อิจฉาและขี้หวง, มีความมั่นใจที่ล้นหลาม, มีการแกว่งของอารมณ์ หรือ มีประวัติการใช้ความรุนแรงหรือโมโห, พยายามแยกตัวแฟนออกจากครอบครัว เพื่อน และเพื่อนร่วมงาน, และมีแนวโน้มที่จะว่าโทษสิ่งอื่น[3]
ส่วนเหยื่อในความสัมพันธ์ที่มีการทำร้ายมักมีลักษณะเช่น บาดแผลตามร่างกาย, หายไปจากที่ทำงานหรือโรงเรียน, มีความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์หรือบุคลิกภาพ, ดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้ยาเสพติดมากขึ้น, และออกห่างจากครอบครัวและเพื่อน[4] เหยื่ออาจโทษว่าความรุนแรงมีต้นเหตุจากตนเองเพื่อลดความรุนแรงของอาชญากรรม สิ่งนี้มักทำให้เหยื่อเลือกที่จะอยู่ในความสัมพันธ์ที่มีการทำร้าย
สเตราส์ (พ.ศ. 2548)[5] อ้างว่าแม้ผู้ชายจะสร้างการบาดเจ็บที่มากกว่าในความรุนแรงในครอบครัว นักวิจัยและสังคมไม่ควรมองข้าม อาการบาดเจ็บที่ทำโดยผู้หญิง โดยเขายังบันทึกว่า การกระทำโดยผู้หญิงอาจดูเหมือนเล็กน้อยทว่าอาจส่งผลร้ายแรงได้:
- การทำร้ายแบบ 'เล็กน้อย' โดยผู้หญิงเป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน แม้เมื่อพวกมันไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ เพราะว่าพวกมันทำให้ผู้หญิงตกอยู่ในอันตรายจากการเอาคืนที่ร้ายแรงกว่ามากโดยผู้ชาย [...] การที่จะจบ 'การทำร้ายภรรยา' เป็นการสำคัญที่ผู้หญิงจะหยุดสิ่งที่หลายคนเรียกว่าเป็นรูปแบบที่ 'ไม่เป็นอันตราย' เช่น การตบ, เตะ, หรือ โยนสิ่งของใส่ผู้ชาย ผู้ยังคงพฤติกรรมอุกอาจและ 'ไม่ยอมฟังเหตุผล'
ในทางเดียวกัน Deborah Capaldi [6] รายงานว่างานวิจัยความยาว 13 ปีพบว่าการรุกรานของผู้หญิงต่อผู้ชายมีความสำคัญเท่า ๆ กับ โอกาสการใช้ความรุนแรงของผู้ชาย ในการทำนายความน่าจะเป็นของความรุนแรงโดยรวม: "ด้วยความที่ความรุนแรงต่อคู่ครองเกิดขึ้นจากทั้งสองฝ่าย และทั้งผู้ผญิงและผู้ชายเป็นตัวเริ่ม การป้องกันและวิธีการรักษาควรพยายามลดความรุนแรงของผู้หญิงเช่นเดียวกับความรุนแรงของผู้ชาย โดยวิธีนี้มีโอกาสมากกว่าที่จะเพิ่มความปลอดภัยของผู้หญิง" อย่างไรก็ตาม งานวิจัยของ Capaldi เพ่งความสนใจไปที่วัยรุ่นที่มีความเสี่ยง ไม่ใช่ผู้หญิงทั่วไป ดังนั้นไม่จึงไม่สามารถนำมาใช้กับประชากรทั้งหมด
คุณลักษณะ
แก้การห่มเหงทางอารมณ์
แก้- เขา/เธอ กลัวแฟนของตน
- เขา/เธอ กลัวที่จะทำให้แฟนโกรธและไม่สามารถแม้แต่จะไม่เห็นด้วยกับแฟน
- เขา/เธอ ถูกแฟนทำให้อับอายและขายหน้า
การข่มเหงทางจิต
แก้- แฟนขู่ว่าจะใช้ความรุนแรงกับ เขา/เธอ หรือ ต่อตนเอง เช่น การพูดว่า "หากเธอทิ้งฉันไป ฉันจะฆ่าตัวตาย"
การทารุณกรรมทางเพศ
แก้- แฟนบังคับให้คู่ของ เขา/เธอ มีเพศสัมพันธ์กับ เขา/เธอ
- เขา/เธอ กลัวที่จะปฏิเสธเมื่อแฟนขอร่วมเพศด้วย
- แฟนไม่ให้ความเคารพต่อ เขา/เธอ ทว่าสนใจเพียงการตอบสนองความต้องการทางเพศของตนเท่านั้น
- แฟนไม่สนใจต่อผลของการร่วมเพศ หรือความรู้สึกของคู่
การทารุณกรรมทางร่างกาย
แก้- เขา/เธอ ถูกแฟนทำร้ายร่างกายโดย
- แฟนเคยยึดไม่ให้ เขา/เธอ ขยับ, ผลัก, หรือ แม้กระทั่ง ต่อย,เตะ, หรือปาของใส่ เขา/เธอ
พฤติกรรมทางการควบคุม
แก้- แฟนพยายามห้าม เขา/เธอ ไม่ให้พบกับเพื่อน
- เขา/เธอ ถูกห้ามไม่ให้ติดต่อครอบครัว
- เขา/เธอ ถูกบังคับให้เลือกระหว่างแฟน กับ ครอบครัวและเพื่อน
- แฟนยืนยันว่าต้องการจะรู้ว่า เขา/เธอ อยู่ที่ไหนตลอดเวลาและขอให้อธิบายเหตุผลของทุกอย่างที่ทำ
- แฟนจะโมโหมากหาก เขา/เธอ พูดกับ หญิง/ชาย อื่น
- แฟนคาดหมายให้ เขา/เธอ ขออนุญาตก่อนจะดูแลสุขภาพตนเอง
- แฟนกำหนดชุดที่ เขา/เธอ ใส่และรูปแบบที่ เขา/เธอ ปรากฏในสาธารณะ
ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ "Family and Community Development @eCitizen". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-30. สืบค้นเมื่อ 2017-12-27.
- ↑ http://www.stoprelationshipabuse.org/signs.html
- ↑ Centre for Promoting Alternatives to Violence http://www.pavecentre.org.sg/ เก็บถาวร 2010-10-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ "Dating Violence, (ACADV)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2002-10-08. สืบค้นเมื่อ 2017-12-27.
- ↑ Strauss, Murray A. (2005) "Women's Violence Towards Men Is A Serious Social Problem เก็บถาวร 2015-11-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน."
- ↑ "quoted in Sacks, Glenn. (2009) Researcher Says Women's Initiation of Domestic Violence Predicts Risk to Women." on HuffingtonPost.com, 6 July 2009.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- แหล่งข้อมูลในประเทศไทย
- ความรุนแรงในครอบครัว เก็บถาวร 2018-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จาก ศูนย์บริการข้อมูล สสส.
- มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก เบอร์โทร 0-2412-1196
- ศูนย์ช่วยเหลือสังคม เก็บถาวร 2018-02-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน สายด่วน 1300
- แหล่งข้อมูลในประเทศแคนาดา
- RespectED เก็บถาวร 2011-07-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Provided by the Canadian Red Cross, give information to teens, parents, and teachers about abuse in dating relationships.
- แหล่งข้อมูลในสหราชอาณาจักร
- แหล่งข้อมูลในสหรัฐอเมริกา
- Center for Relationship Abuse Awareness
- National Domestic Violence Hotline
- ACADV.org เก็บถาวร 2002-10-08 ที่ Library of Congress Web Archives - created by the Alabama Coalition Against Dating Violence, provides a Dating Bill of Rights.
- Jennifer Ann.org - provides free educational materials to schools and groups and sponsors video game contests about teen dating violence from Jennifer Ann's Group.
- Love Is Not Abuse.org - sponsored by Liz Claiborne, provides educational materials.
- Love Is Respect.org - runs the National Teen Dating Abuse Helpline.
- National Youth Violence Prevention Center เก็บถาวร 2010-01-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - offers articles and fact sheets.
- The Safe Space.org เก็บถาวร 2019-08-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - created by Break the Cycle, offers information and allows teens to submit questions.