การสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น
การสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น: 日本語能力試験; ทับศัพท์: นิฮงโงะโนเรียวคึชิเคง; อังกฤษ: Japanese Language Proficiency Test ตัวย่อ JLPT) เป็นการสอบเพื่อวัดผลและรับรองความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นของนักศึกษาต่างชาติที่ศึกษาภาษาญี่ปุ่นภายในและนอกประเทศ[1] ถูกจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2527 (ค.ศ. 1984) การสอบจะถูกจัดขึ้นในวันอาทิตย์แรกของเดือนกรกฎาคมและธันวาคมในทุก ๆ ปี โดยแบ่งระดับความยากง่ายเป็น 4 ระดับ และมีระดับ 1 เป็นระดับที่มีความยากที่สุด
ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น แบ่งออกเป็น 5 ระดับ ได้แก่ N5 N4 N3 N2 และ N1 ซึ่งเริ่มใช้สอบตั้งแต่เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีการรับสมัครสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์[2] JLPT Online โดยสมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่น (ส.น.ญ.)
ในการสอบครั้งที่ 24 ปี พ.ศ. 2550 นั้น ได้มีผู้เข้ารับการสอบกว่า 4 แสน 3 หมื่นคน โดยถูกจัดขึ้นใน 20 จังหวัดทั่วประเทศญี่ปุ่น และ 46 ประเทศ 127 เมืองทั่วโลก [2][1]
การสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นมักถูกเข้าใจสับสนกับการสอบรับรองความรู้ภาษาญี่ปุ่น (日本語検定) มาเป็นเวลานานแม้จวบจนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งการสอบรับรองความรู้ภาษาญี่ปุ่น (日本語検定) นี้เป็นการสอบวัดภาษาญี่ปุ่นภายในประเทศญี่ปุ่นสำหรับชาวญี่ปุ่นผู้ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาแม่ซึ่งมีระดับความยากที่ยากกว่าการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น (日本語能力試験) สำหรับชาวต่างชาติ เนื่องจากการสอบรับรองความรู้ภาษาญี่ปุ่น (日本語検定) สำหรับชาวญี่ปุ่นถูกออกแบบมาเพื่อทดสอบชาวญี่ปุ่นที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาแม่โดยเฉพาะ
ในทางตรงกันข้ามการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น (日本語能力試験) เป็นการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นของชาวต่างชาติที่เรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาต่างประเทศ ความเข้าใจสับสนนี้จึงกลายเป็นที่มาของคำกล่าวที่เข้าใจสับสนกันโดยทั่วไปในหมู่ชาวไทยผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นในฐานะภาษาต่างประเทศ (รวมถึงชาวญี่ปุ่นที่เข้าใจสับสนระหว่างการสอบสองประเภทนี้) ว่า "ระดับ1แม้แต่คนญี่ปุ่นก็ยังสอบไม่ผ่าน" ซึ่งระดับ1ตามความหมายของคำกล่าวนี้คือการสอบรับรองความรู้ภาษาญี่ปุ่น (日本語検定) ซึ่งเป็นการสอบสำหรับชาวญี่ปุ่น ไม่ได้หมายถึงการสอบวัดความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น (日本語能力試験) ซึ่งเป็นการสอบสำหรับชาวต่างชาติ
ความเข้าใจสับสนกันโดยทั่วไปดังกล่าวข้างต้นอาจสืบเนื่องมาจากชื่อเรียกที่มีความคล้ายคลึงกัน อีกทั้งมีเป้าหมายการทดสอบที่เป็นภาษาญี่ปุ่นเหมือนกัน มีการแบ่งระดับความยากง่ายเป็นระดับต่างๆเหมือนกัน
รายละเอียดของการสอบและเกณฑ์การสอบวัดผล
แก้- รูปแบบเดิม
ระดับ | ไวยากรณ์ | ความรู้ | คันจิ | คำศัพท์ | ช.ม. เรียน | การวัดผล (ของคะแนนเต็มถือว่าสอบผ่าน) |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | ระดับสูง | มีความรู้พื้นฐานพอที่จะใช้ภาษาในการใช้ชีวิตในสังคม การศึกษาในระดับอุดมศึกษา หรือเพื่อการวิจัย | 2,000 ตัว | 10,000 ตัว | 1,800~4,500 ช.ม. | 70 % |
2 | ระดับค่อนข้างสูง | มีความสามารถที่จะใช้บทสนทนาทั่วไปได้ และสามารถอ่าน-เขียนได้ | 1,000 ตัว | 6,000 ตัว | 1,400~3,200 ช.ม. | 60 % |
3 | ระดับพื้นฐาน | มีความสามารถที่จะใช้บทสนทนาในชีวิตประจำวันได้ และอ่าน-เขียนประโยคง่าย ๆ ได้ | 300 ตัว | 1,500 ตัว | 375~750 ช.ม. | 60 % |
4 | ระดับต้น | ใช้บทสนทนาง่าย ๆ ได้ และอ่าน-เขียนประโยคง่าย ๆ ได้ | 100 ตัว | 800 ตัว | 200~400 ช.ม. | 60 % |
- รูปแบบใหม่
ระดับ | รอบการสอบ (เวลาการสอบ) |
รวมเวลาการสอบ | ||
---|---|---|---|---|
N1 | ความรู้เกี่ยวกับภาษา (คำศัพท์/ไวยากรณ์) ・การอ่าน (110 นาที) |
การฟัง (60 นาที) |
170 นาที | |
N2 | ความรู้เกี่ยวกับภาษา (คำศัพท์/ไวยากรณ์) ・การอ่าน (105 นาที) |
การฟัง (60 นาที) |
155 นาที | |
N3 | ความรู้เกี่ยวกับภาษา (คำศัพท์) (30 นาที) |
ความรู้เกี่ยวกับภาษา (ไวยากรณ์) ・การอ่าน (70 นาที) |
การฟัง (40 นาที) |
140 นาที |
N4 | ความรู้เกี่ยวกับภาษา (คำศัพท์) (30 นาที) |
ความรู้เกี่ยวกับภาษา (ไวยากรณ์) ・การอ่าน (60 นาที) |
การฟัง (35 นาที) |
125 นาที |
N5 | ความรู้เกี่ยวกับภาษา (คำศัพท์) (25 นาที) |
ความรู้เกี่ยวกับภาษา (ไวยากรณ์) ・การอ่าน (50 นาที) |
การฟัง (30 นาที) |
105 นาที |
คำศัพท์ดังกล่าวรวมทั้งคันจิ และคำศัพท์แล้ว (ก่อนหน้านี้คือ 文字・語彙)
ระดับของการสอบแบใหม่ | รายละเอียดของแต่ละระดับ | มาตรฐานการวัดผลภาษาต่างประเทศของกลุ่มในประเทศทวีปยุโรป |
---|---|---|
N1 | สามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ในวงกว้างได้ (การอ่าน) อ่านบทความ บทวิจารณ์ในหนังสือพิมพ์ที่เขียนเกี่ยวกับหัวเรื่องต่าง ๆ ในวงกว้างหรือข้อความที่เป็นแนวตรรกะ มีความซับซ้อน มีความเป็นนามธรรมสูง แล้วสามารถเข้าใจโครงสร้างและเนื้อหาได้ อ่านเรื่องที่มีหัวข้อหลากหลายและมีเนื้อหาลึกซึ้งแล้วสามารถเข้าใจลำดับเนื้อเรื่องและรายละเอียดของสิ่งที่ต้องการสื่อในสำนวน (การฟัง) – ฟังบทสนทนา ข่าว การบรรยายที่มีเรื่องราวในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยมีระดับความเร็วในการพูดที่เป็นธรรมชาติ แล้วสามารถเข้าใจลำดับเนื้อเรื่อง เนื้อหา ความสัมพันธ์ของบุคคลและโครงสร้างความเป็นมาของเนื้อหาอย่างละเอียดและจับประเด็นได้ | C1~C2 |
N2 | สามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในสถานการณ์ชีวิตประจำวันได้ และสามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในสถานการณ์ในวงกว้างได้ในระดับหนึ่ง (การอ่าน) อ่านบทความที่มีประเด็นชัดเจนอย่างเช่น บทความในหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารที่เขียนเกี่ยวกับหัวเรื่องต่าง ๆ ในวงกว้าง หรือคำอธิบายหรือบทวิจารณ์ง่าย ๆ และสามารถเข้าใจเนื้อหาของบทความได้ (การฟัง) – ฟังบทสนทนา ข่าว ที่มีเรื่องราวในสถานการณ์ต่าง ๆ รวมทั้งสถานการณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันโดยมีระดับความเร็วในการพูดที่ใกล้เคียงกับ ธรรมชาติ แล้วสามารถเข้าใจลำดับเนื้อเรื่อง เนื้อหา ความสัมพันธ์ของบุคคลและจับประเด็นได้ | B2~C1 |
N3 | สามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ในระดับหนึ่ง (การอ่าน) อ่านบทความที่มีเนื้อหาเป็นรูปธรรมที่เป็นหัวเรื่องเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน แล้วสามารถเข้าใจได้ สามารถจับใจความคร่าว ๆ ของข้อมูลที่มาจากหัวข้อข่าว เป็นต้น หากให้ข้อความที่ใช้สำนวนอีกแบบหนึ่ง จะสามารถเข้าใจความสำคัญของข้อความที่พบเห็นในชีวิตประจำวันที่ค่อนข้างมีความยากได้ (การฟัง) - ฟังบทสนทนาในชีวิตประจำวัน โดยมีระดับความเร็วในการพูดใกล้เคียงกับระดับธรรมชาติเล็กน้อย แล้วสามารถพอจะเข้าใจเนื้อหารวมทั้งความสัมพันธ์ของบุคคลได้ | B1~B2 |
N4 | เข้าใจภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานได้ (การอ่าน) – อ่านทำความเข้าใจเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวันที่เขียนด้วยคำศัพท์และอักษรคันจิขั้นพื้นฐานได้ (การฟัง) - ฟังบทสนทนาในชีวิตประจำวันที่พูดช้าเล็กน้อยแล้วพอที่จะเข้าใจเนื้อหาได้เป็นส่วนใหญ่ | A2~B1 |
N5 | เข้าใจภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานได้ในระดับหนึ่ง (การอ่าน) – อ่านประโยค วลีที่เขียนด้วยอักษรฮิรางานะ คาตากานะ และคันจิอย่างง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันได้ (การฟัง) - ฟังบทสนทนาสั้น ๆ ในห้องเรียน ในชีวิตประจำวันที่พูดอย่างช้า ๆ แล้วเข้าใจเนื้อหาข้อมูลได้ | A1~A2 |
จำนวนผู้เข้ารับการสอบ
แก้- ข้อมูลปี 2551
ประเทศ | ผู้เข้ารับการสอบ | ร้อยละของจำนวนทั้งหมด |
---|---|---|
จีน (31 เมือง) | 223,378 | 49.7% |
เกาหลีใต้ (5 เมือง) | 81,739 | 18.1% |
ไต้หวัน (3 เมือง) | 59,186 | 13.2% |
ไทย (4 เมือง ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ สงขลา และขอนแก่น) | 15,846 | 3.5% |
เวียดนาม (2 เมือง) | 13,854 | 3.1% |
อินโดนีเซีย (7 เมือง) | 8,397 | 1.9% |
อื่น ๆ | 47,410 | 10.5% |
รวม (144 เมืองใน 51 ประเทศนอกญี่ปุ่น) | 449,810 | 100% |
ในญี่ปุ่น(29 จังหวัด) | 109,247 | - |
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-03-21. สืบค้นเมื่อ 2008-03-04.
- ↑ 2.0 2.1 http://www.jees.or.jp/cgi-bin/jlpt-faq.cgi เก็บถาวร 2008-03-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน 日本語能力試験 (にほんごのうりょくしけん) よくある質問