การประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษา

การประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษา (อังกฤษ: credential evaluation) เป็นวิธีการเปรียบเทียบวุฒิการศึกษาและวุฒิทางวิชาชีพที่ได้รับในประเทศหนึ่งกับที่ได้รับในประเทศอื่น[1] มหาวิทยาลัย วิทยาลัย และนายจ้างทั่วโลกใช้การประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจการศึกษาในต่างประเทศ และเพื่อตัดสินผู้สมัครเข้าศึกษาหรือการจ้างงาน[2]

ผู้อพยพสามารถใช้การประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาเพื่อให้ได้รับการยอมรับสำหรับการศึกษาที่สำเร็จแล้วนอกประเทศที่พวกเขาอพยพเข้าไป และในการทำเช่นนั้นจะทำให้สามารถสมัครงานในฐานะผู้อพยพที่มีทักษะ[3] นักศึกษาต่างชาติใช้การประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาเพื่อนำเสนอหลักสูตรและผลการเรียนก่อนหน้านี้แก่มหาวิทยาลัยเพื่อสมัครเข้าศึกษาต่อ

สหรัฐ

แก้

มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยในสหรัฐมีจำนวนนักศึกษาต่างชาติที่สมัครเข้าเรียนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศในยุโรปหลายประเทศกำลังฟื้นตัวจากสงคราม ความต้องการความเข้าใจที่ถูกต้องและเป็นธรรมเกี่ยวกับประวัติการศึกษาของนักเรียนเกิดขึ้นและมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ตามข้อมูลของสมาคมนักการศึกษานานาชาติ (NAFSA: Association of International Educators) เนื่องจากจำนวนนักเรียนต่างชาติที่กำลังศึกษาอยู่ในสหรัฐเพิ่มขึ้นจาก 25,000 คนในช่วงหลังสงคราม เป็นมากกว่า 866,000 คนที่กำลังศึกษาอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 2013 ถึง 2014[4] ในปี ค.ศ. 2019 สหรัฐรับนักศึกษาต่างชาติมากกว่า 1,000,000 คนเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน[5]

ในขณะที่มหาวิทยาลัยต้องเผชิญกับการสนับสนุนทางการเงินจากสาธารณะที่ลดลงและความกดดันในการรักษาค่าเล่าเรียนให้ไม่แพง สถาบันการศึกษาจึงอาศัยนักศึกษาต่างชาติเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นของการศึกษาระดับอุดมศึกษา[6] นักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่ในสหรัฐมาจากประเทศจีน อินเดีย และเกาหลีใต้[7] อย่างไรก็ตาม มีการเติบโตอย่างมากและสม่ำเสมอของจำนวนนักศึกษาต่างชาติจากบราซิล เวียดนาม อินโดนีเซีย และไนจีเรีย[8]

ไม่มีข้อบังคับของการประเมินวุฒิการศึกษาจากนานาชาติในสหรัฐ และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ หรือหน่วยงานภาครัฐไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับรองหน่วยงานประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาจากต่างประเทศใด[9] ดังนั้นจึงไม่มีหน่วยงานระดับชาติของรัฐบาลกลางที่กำกับดูแลการประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาในสหรัฐ[10] มีสมาคมวิชาชีพต่างๆ เช่น สมาคมผู้ประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษานานาชาติ (Association of International Credential Evaluators, Inc.; AICE) และสมาคมผู้ประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาแห่งชาติ (National Association of Credential Evaluators; NACES) ที่สร้างและรักษามาตรฐานทางจริยธรรมในสาขานี้ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นหน่วยงานกำกับและการเป็นสมาชิกของผู้ประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษานั้นเป็นความสมัครใจ[11] อย่างไรก็ตามผู้ประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์บางประการจึงจะเป็นสมาชิกของ AICE และ NACES ได้ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยยังประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาเอง โดยปกติแล้วหน่วยงานของ NACES หรือ AICE จะถูกกำหนดให้เป็นผู้ดำเนินการให้กับมหาวิทยาลัยต่างๆ ในสหรัฐ[12][13]

แคนาดา

แก้

การประเมินหนังสือรับรองทางการศึกษา (Educational credential assessment, ECA) สามารถนำมาใช้สำหรับการย้ายถิ่นฐาน การศึกษา และการออกใบอนุญาต[14] ECA เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้อพยพที่กำลังมองหาการเข้าประเทศแคนาดาภายใต้โครงการต่างๆ สำหรับการเป็นพลเมืองและการย้ายถิ่นฐานของแคนาดา (Citizenship and Immigration Canada, CIC) รวมถึงโครงการแรงงานมีฝีมือของรัฐบาลกลาง (Federal Skilled Worker Program, FWSP) ผ่านทางโปรแกรมการย้ายถิ่นฐานแบบด่วนสำหรับผู้มีทักษะ (Express Entry) ซึ่งกำหนดให้ผู้อพยพต้องสำเร็จการศึกษาขั้นต่ำเทียบเท่ากับประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาของแคนาดา[14] รัฐบาลแคนาดาไม่ได้ดำเนินการประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาจากต่างประเทศ โดย CIC ได้มอบหมายให้ตั้งหน่วยงานประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาเจ็ดแห่งซึ่งทำหน้าที่ประเมินสำหรับผู้ที่อพยพเข้าไปยังแคนาดา หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายเหล่านี้เป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรบริการประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาแห่งแคนาดา (Alliance of Credential Evaluation Services of Canada)[15]

คณะกรรมการออกใบอนุญาตของแคนาดาหรือหน่วยงานออกใบอนุญาตวิชาชีพส่วนใหญ่กำหนดให้ต้องมีการประเมินวุฒิการศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการศึกษาระดับนานาชาติ การประเมินจะกระทำโดยองค์กรหรือโดยสมาชิกของกลุ่มพันธมิตร

ยุโรป

แก้

อนุสัญญาว่าด้วยการรับรองคุณวุฒิทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาในภูมิภาคยุโรปหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าอนุสัญญาการรับรองลิสบอน (Lisbon Recognition Convention) เป็นข้อตกลงทางกฎหมายหลักที่ควบคุมการรับรองคุณวุฒิทางการศึกษาระหว่างประเทศสมาชิกของสภายุโรป ยกเว้นกรีซและโมนาโก[16] เครือข่ายศูนย์ข้อมูลแห่งยุโรปและศูนย์ข้อมูลการรับรองทางวิชาการแห่งชาติ (European Network of Information Centres and the National Academic Recognition Information Centres, ENIC-NARIC) สามารถประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาและออก "คำชี้แจงความสามารถเปรียบเทียบ" สำหรับปริญญามหาวิทยาลัยที่ได้รับจากในประเทศสมาชิกหนึ่งเพื่อนำไปใช้ในอีกประเทศหนึ่ง[17] อนุสัญญาระบุว่าผู้ถือปริญญาจะต้องสามารถเข้าถึง “การประเมินที่เพียงพอ” สำหรับวุฒิการศึกษาของตน และปริญญาจะต้องได้รับการยอมรับในหมู่ประเทศสมาชิก เว้นแต่จะมีการพิสูจน์ว่า “มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ” ระหว่างปริญญาที่ได้รับในประเทศนั้นกับปริญญาที่ได้รับการประเมิน[16]

ออสเตรเลีย

แก้

รัฐบาลออสเตรเลียจะประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาจากต่างประเทศโดยขึ้นอยู่กับเหตุผลในการประเมิน[18] ตัวอย่างเช่น หากจำเป็นต้องมีการประเมินเพื่อวัตถุประสงค์ในการเข้าเมืองเท่านั้น กรมตรวจคนเข้าเมืองและป้องกันชายแดน (DIBP) จะประเมินคุณวุฒิ[18] มีการกำหนดหน่วยงานประเมินสำหรับวิชาชีพเฉพาะเช่น สถาบันเพื่อการสอนและความเป็นผู้นำโรงเรียนออสเตรเลีย (Australian Institute For Teaching and School Leadership) ซึ่งประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาสำหรับอาชีพครูในโรงเรียน[19] สำหรับการประเมินหนังสือรับรองอื่นๆ ส่วนใหญ่ หน่วยคุณวุฒิในต่างประเทศ (Overseas Qualifications Unit, OQU) ได้รับการจัดตั้งขึ้นในรัฐและดินแดนส่วนใหญ่ของออสเตรเลียเพื่อประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาจากต่างประเทศ[19] กระทรวงศึกษาธิการและการฝึกอบรมยังสามารถประเมินหนังสือรับรองสำหรับผู้อยู่อาศัยในรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่เกิดในต่างประเทศ และประเมินหนังสือรับรองสำหรับอาชีพที่ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียน การขอใบอนุญาต หรือการเป็นสมาชิกองค์กรวิชาชีพ[20]

ตะวันออกกลาง

แก้

อนุสัญญาว่าด้วยการรับรองการศึกษา อนุปริญญา และปริญญาในระดับอุดมศึกษาในรัฐอาหรับ จัดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1978 เพื่อ "นำคำศัพท์และเกณฑ์การประเมินมาใช้ให้คล้ายกันที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้... เพื่อทำให้การประยุกต์ใช้ระบบง่ายขึ้นซึ่งจะรับประกันความสามารถในการเปรียบเทียบหน่วยกิต, วิชาทีศึกษา และหนังสือสำคัญ” และเพื่อส่งเสริมการเคลื่อนย้ายนักศึกษาข้ามพรมแดน[21] สิบแปดรัฐลงนามในอนุสัญญาดังกล่าว ซึ่งรวมถึงจอร์แดน โมร็อกโก กาตาร์ และซาอุดีอาระเบีย[21]

ประเภทของการประเมินหนังสือรับรอง

แก้

โดยทั่วไปประเภทของการประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเทศและวัตถุประสงค์ของการประเมิน ENIC-NARIC นำเสนอรายงานที่เทียบเท่าหรือเปรียบเทียบได้อย่างสมบูรณ์[17] ในสหรัฐและแคนาดา การประเมินวุฒิบัตรมีตั้งแต่การวิเคราะห์รายวิชาโดยละเอียดไปจนถึงการวิเคราะห์เอกสารต่อเอกสาร ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดการรับเข้าเรียนของสถานศึกษาเฉพาะ หรือข้อกำหนดสำหรับการจ้างงานและการย้ายถิ่นฐาน[22] สถาบันการศึกษาและสถาบันวิชาชีพอาจใช้การประเมินหนังสือรับรองผลการศึกษาเพื่อประเมินคุณสมบัติของผู้สมัคร ซึ่งสถาบันเหล่านั้นจะตัดสินใจว่าหนังสือรับรองของผู้สมัครมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดในการสมัครหรือไม่

อ้างอิง

แก้
  1. "What is a Credential Evaluation?". World Education Services. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.
  2. "Obtaining a Credential Evaluation". Global Talent Bridge. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2015.
  3. "Credential Evaluation". Global Talent Bridge. สืบค้นเมื่อ 23 กรกฎาคม 2015.
  4. "Project Atlas". Institute of International Education. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 กรกฎาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.
  5. "Number of International Students in the United States Hits All-Time High". www.iie.org. สืบค้นเมื่อ 6 เมษายน 2020.
  6. Jordan, Miriam (24 มีนาคม 2015). "International Students Stream Into U.S. Colleges". Wall Street Journal. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.
  7. Choudaha, Rahul. "Beyond More of the Same: The Top Four Emerging Markets for International Student Recruitment". WENR: World Education News and Reviews. World Education Services. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.
  8. Fang, Yuanyuan; Roy, Megha; Ortiz, Alejandro A. "Top Emerging Markets for International Student Recruitment". WENR: World Education News and Reviews. World Education Services. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.
  9. "Evaluation of Foreign Degrees". Global Community Liaison Office. U.S. Department State.
  10. "Recognition of Foreign Qualifications". U.S. Department of Education. U.S. Department of Education. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.
  11. "Evaluating Credentials". U.S. Department of State. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.
  12. "Admission Requirement, University of Miami". International Evaluation Requirement. University of Miami.
  13. "Admission Requirement, University of South Florida". How to Apply Graduate Certificates. University of South Florida.
  14. 14.0 14.1 "Have Your Education Assessed - Skilled Immigrants (Express Entry)". Citizenship and Immigration Canada. Government of Canada. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.
  15. "Alliance of Credential Evaluation Services Canada". ACESC: Alliance of Credential Evaluation Services of Canada. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 สิงหาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.
  16. 16.0 16.1 "The Lisbon Recognition Convention". Enic-Naric. European Network of Information Centres in the European Region and National Academic Recognition Information Centres in the European Union. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.
  17. 17.0 17.1 "Recognition of Academic Diplomas". Europa.eu. European Union. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.
  18. 18.0 18.1 "Qualifications Recognition". Department of Education and Training. Australian Government. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.
  19. 19.0 19.1 "Qualification and Skills Recognition". Information and Services. Australian Government. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.
  20. "Qualification Assessment". Department of Education and Training. Australian Government. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.
  21. 21.0 21.1 "Convention on the Recognition of Studies, Diplomas and Degrees in Higher Education in the Arab States 1978". United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization. United Nations. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.
  22. "Why should I get my international educational credentials evaluated?". Settlement.Org: Information Newcomers Can Trust. Settlement.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 มีนาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 24 กรกฎาคม 2015.