โมบิลสูท กันดั้มซี้ดเดสทินี
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
กันดั้มซี้ดเดสทินี เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นหนึ่งในซีรีส์กันดั้ม ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นภาคต่อของกันดั้มซี้ด ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 18:00-18:30 น. ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ. 2004 (บางท้องถิ่นเป็นวันที่ 16 ตุลาคม) ถึง 1 ตุลาคม ค.ศ. 2005 (บางท้องถิ่นเป็นวันที่ 8 ตุลาคม) ทางสถานี TBS รวมความยาวทั้งสิ้น 50 ตอน เมล็ดกันดั้มเดสตินี่ นินจา (ทรีเควล)
ในประเทศไทย กันดั้มซี้ดเดสทินี ไม่ได้ออกอากาศทางฟรีทีวี แต่ได้ออกกอากาศทางทรูสปาร์กในช่วงปลายปี พ.ศ. 2550 โดยออกอากาศครบตามจำนวนตอนปกติเหมือนครั้งออกอากาศทางญี่ปุ่น และในปี พ.ศ. 2553 ได้กลับมาออกอากาศในรายการการ์ตูนทางช่อง 5 อีกครั้ง ส่วนรูปแบบวีซีดีและดีวีดี เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท DEX ซึ่งในรูปแบบดีวีดี แผ่นสุดท้ายได้มีตอนพิเศษแถมมาให้ซึ่งก็คือเนื้อเรื่องตอนที่ 50 นำมาดัดแปลงบางส่วนของตอนจบให้ต่างจากของต้นฉบับเดิม อนึ่ง กันดั้มซี้ดเดสทินี เป็นอะนิเมะเรื่องแรกๆ ของประเทศไทยที่มีการออกวางจำหน่ายวีซีดีในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นยังคงออกอากาศต่อเนื่องอยู่
เรื่องย่อ แก้
เรื่องราวเกิดขึ้นจากผลกระทบของสงครามระหว่างกองทัพโลกและกองทัพซาฟต์ในสงครามครั้งก่อน เมื่อ ออร์บ ประเทศเป็นกลางโดนกองทัพโลกบุกโจมตีเพื่อยึดโรงงานโมบิลสูทมาเป็นของตัวเอง เพื่อใช้ในการผลิตโมบิลสูทต่อสู้กับกองทัพซาฟต์และนำเทคโนโลยีของออร์บมาใช้ ในขณะนั้นเองตัวประกอบของเรื่อง ชิน อาสึกะ นั้นก็ได้รับผลกระทบจากสงครามที่เกิดขึ้นจนทำให้เสียครอบครัวอันเป็นที่รักไป ต่อมาในภายหลังก็ได้อพยพย้ายไปอยู่ที่ แพลนท์ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักบินของซาฟต์ในการขับหุ่นกันดั้มรุ่นใหม่ของซาฟต์ อิมพัลส์กันดั้ม และด้วยเหตุอันสุดวิสัยจึงต้องเข้ามาเกี่ยวกับสงครามครั้งใหม่ที่เกิดจากการจู่โจมของหน่วยลับบลูคอสมอส นำโดยพันเอกนีโอ ลอร์นอร์ค ได้ขโมยกันดั้มรุ่นใหม่ของทางซาฟต์ไปถึง 3 เครื่อง เคออสกันดั้ม ไกอากันดั้ม อบีสกันดั้ม ซึ่งในขณะนั้น อัสรัน ซาล่า และ คางาริ ได้อยู่ที่แพลนท์ด้วย ทำให้ทั้งสองต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับสงครามที่จะประทุขึ้นมาครั้งใหม่ ทั้งการก่อการณ์ร้ายของเหล่าโคออดิเนเตอร์ที่แพ้สงครามครั้งก่อน และยังยึดมั่นในอุดมคติของ แพททริก ซาร่า ทำให้พวกเขาส่ง ยูนิอุส เซเวน (JUNIUS SEVEN) ตกลงสู่โลก ทั้งการที่หน่วยลับของโคออดิเนเตอร์พยายามสังหาร ลักส์ ไคลน์ การตัดสินใจของคิระและอัสรันในสงครามที่สวนทางกัน ทั้ง ๆ ที่ความตั้งใจของเขาทั้งสองเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เหตุการณ์จึงยิ่งเลวร้ายยิ่งขึ้น เมื่อบลูคอสมอสยื่นมือเข้ามาในสงครามนี้ และ ออร์บ ที่เข้าไปเป็นพันธมิตรกับ สหพันธ์แอตแลนติก
ตัวละครหลัก แก้
- ชิน อาสึกะ (Shinn Asuka) ตัวประกอบของเรื่องในภาคนี้ เขาขับโมบิลสูทให้กับซาฟท์ ก่อนมาเป็นทหารเคยอาศัยอยู่ที่ORBมาก่อนแต่ได้เสียพ่อแม่และน้องสาวไปต่อหน้าต่อตาในสงคราม เขาได้เข้าร่วมกับซาฟท์ ในตอนแรกชินไม่ยอมรับอัสรัน เพราะว่าอัสรันเคยไปอยู่กับพวกคิระ เป็นเหตุให้ชินและอัสรันไม่ค่อยลงรอยกันนัก หลังจากที่คิระฆ่าสเตลล่า ที่เบอร์ลิน ทำให้ชินแค้นคิระมาก จึงต่อสู้กับคิระพร้อมกับทำลายฟรีดอมกันดั้มบนทะเลแถวชายฝั่งของเยอรมนี และคิดว่าคิระตายไปแล้ว หลังจากนั้น ชินก็ได้รับโมบิลสูทตัวใหม่จาก ดูแรลดัล ชื่อว่า เดสทินี่ แต่ว่าหลังจากนั้นได้ไม่นาน ก็ได้รับคำสั่งจากดูแรนดัลให้ชินกับเรย์กำจัดอัสรันกับเมรินที่หนีออกมา ชินอดคิดไม่ได้ว่าทำไมทั้ง2คน ถึงหนีออกมา และสับสนระหว่างคำพูดของงอัสรันและเรย์ แต่สุดท้ายก็เกิดอาการซีด และได้ลงมือกำจัดอัสรันด้วยตัวเอง หลังจากนั้นก็ได้มีความรัก กับ ลูน่ามาเรีย
- เรย์ ซา บาเรล (Rey Za Barrel)
- เพื่อนสนิทของ ชิน อาซึกะ คอยให้คำปรึกษาต่างๆ เป็นคนที่สนิทกับ ประธานกิลเบิร์ต ดูแรนดัล อย่างมาก ซึ่งเบื้องหลังของเค้านั้นคือ ร่างโคลน ของ ลาอู เลอ ครูเซ่ นั้นเอง ซึ่งหลังจากที่ ลาอูตายจากไป เรย์ ได้ทำหน้าที่แทนตัวเค้าเป็นอย่างดีในฐานะโคลนของลาอู แต่ก็คิดได้เมื่อได้ต่อสู้กับคิระ เมื่อคิระกล่าวว่า "ชีวิตเป็นของของนาย ไม่ใช่ของเค้า (ลาอู)" ทำให้เรย์ได้สติ ต่อมาได้ตายในแมสไซอาร์ พร้อมกิลเบิร์ต ผู้ที่เค้าลั่นไกสังหารเอง มีความสามารถในการขับโมบิลสูทสูงมาก ถึงแม้จะเอารถบัสสามคันมาขวาง ก็สามารถขับโมบิลสูทผ่านไปได้
- ลูน่ามาเรีย ฮอว์ค (Lunamaria Hawke)
- พี่สาวของ เมย์ริน ฮอว์ค จบโรงเรียนทหารมาพร้อมกับ ชิน และ เรย์ ในยศ ซาฟท์เรด เป็นผู้ขับอิมพัลส์ ต่อจาก ชินที่ได้ เดสตินี่ไปแล้ว (ก่อนขับอิมพัลส์ก็เคยขับกันเนอร์แซกวอริเออร์รุ่นสีแดงมาแล้ว) เธอมีผมสีแดง เป็นคนรักของชิน อาสึกะ สูง160ซ.ม.หนัก43.5ก.ก.
- เมย์ริน ฮอว์ค (Meyrin Hawke)
- น้องสาวของลูน่ามาเรีย อดีตหน่วย CIC ของมิเนอร์ว่า หน้าที่คอยสั่งการโมบิลสูท และคอยติดต่อด้านการสื่อสารและระบบเครื่องของยาน ได้ช่วยเหลือในการหลบหนีของอัสรันและตัวเองก็ไปด้วย น่าจะมีความรักต่ออัสรันด้วยเธอมีผมสี แดงชมพูนิดๆ สูง156ซ.ม.หนัก54ก.ก.
- สเตลล่า ลูซิเอ้ (Stella Loussier)
- หนึ่งในเด็กที่โดนทดลองโดยกองทัพโลกเรียกว่า EXTENDED ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ พันเอก นีโอ ลอร์นอร์ค ซึ่งเธอเกลียดและกลัวคำที่เกี่ยวกับคำว่า "ตาย" เป็นอย่างมาก ถ้าได้ยินจะคลั่งจนควบคุมสติไม่อยู่ ต้องหายาระงับบ่อยครั้ง และเป็นคนรักของ ชิน อาสึกะ อีกด้วย ภายหลังได้เสียชีวิตโดยฝีมือของ คิระ จากการระเบิดของหุ่นยักษ์ DESTROY GUNDAM ซึ่งเธอเป็นคนบังคับ เธอมีผมสีส้มออกเหลืองบางส่วนสูง155ซ.ม.หนัก37.5
- สติง โอคเลย์ (Sting Oakley)
หนึ่งในเด็กที่โดนทดลองโดยกองทัพโลกเรียกว่า EXTENDED ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ พันเอก นีโอ ลอร์นอร์ค ดูเป็นผู้ใหญ่มากที่สุดใน สามคน ผมเป็นสีเขียวสนิทกับอาว
- อาว นีเดอร์ (Auel neider)
หนึ่งในเด็กที่โดนทดลองโดยกองทัพโลกเรียกว่า EXTENDED ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ พันเอก นีโอ ลอร์นอร์คเหมือนกัน เป็นเพื่อนกับ สติงและ สเตลล่า มีผมสีฟ้าอ่อน หุ่นของเขาสามารถเปลี่ยนร่างเป็นเรือดำน้ำได้
- นีโอ ลอร์นอร์ค (Neo roanoke)
- เป็นคนที่เคยเสียความทรงจำจากการทำสงคราม แต่ความจริงแล้วนีโอ คือ มู รา ฟราก้า สุดท้ายมูก็ฟื้นความทรงจำและกลับไปอยู่กับฝ่ายคิระ
- กิลเบิร์ต ดูแรนดัล (Gilbert Duraivdal)
- ประธานวุฒิสภาแห่งซาร์ฟที่ทำหน้าที่ต่อจากแพทริก ซาล่าที่ตั้งใจจะนำแผนการ "เดสทินี่ แพลนท์" มาใช้แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายก็จบชีวิตลงด้วยมือของเรย์ที่ตนรักเหมือนกับลูกหลาน
- มีอา แคมป์เบลล์ (Meer Campbell)
- หญิงสาวผู้มีเสียงคล้าย ลักซ์ ไคลน์ ซึ่งโดนประธานดูแรนดาล สั่งให้ทำศัลยกรรมให้มีรูปร่างลักษณะเหมือนลักซ์ เพื่อชักจูงจิตใจของประชาชนให้เชื่อมั่นในตัวดูลแรนดัล ภายหลังเมื่อลักซ์ตัวจริงได้เปิดเผยตัวเพื่อขัดขวางแผนการของประธาน เธอก็ถูกลอยแพ และได้เสียชีวิตเพราะช่วยเหลือลักซ์
เมื่อก่อนเธอมีผมสีนำตาลที่ชื่นชอบลักซ์ ไคลน์มากสูง160ซ.ม.หนัก52ก.ก.
- อัสรัน ซาล่า (Athrun Zala)
- อดีตคู่หมั้นของลักซ์ ไคลน์ แต่ตอนนี้รักกับคางาริพี่สาวของคิระ(แผนที่ความสัมพันธ์ของตัวละครอย่างเป็นทางการนั้นเขียนเป็นพี่สาวและน้องชาย) อัสรันเป็นเพื่อนเก่าแก่ของคิระ แต่เนื่องจากการเป็นทหารคนละฝ่าย และเพราะการตัดสินใจไม่ถูกของอัสรัน ทำให้หลังจากสงครามครั้งที่ 2 นี้คิระและอัสรันทะเลาะและกลาอดีตคู่หมั้นของลักส์ ไคลน์ แต่ตอนนี้รักกับคางาริพี่สาวของคิระยเป็นศัตรูไป แต่เมื่อใดที่จะเกิดอันตรายกับอีกคน ก็จะเข้ามาคอยช่วยเหลือกันเสมอ
- คางาริ ยูระ อัธฮา (Cagalli Yula Athha)
- แฟนของอัสรัน รู้สึกเป็นห่วงอัสรันอยู่เนืองๆในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นผู้นำของORBไปในตัว และการที่เป็นผู้นำของORB ทำให้ความสัมพันธ์รักระหว่างของเธอกับอัสรันแทบจะเป็นไปไม่ได้ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงยังคลุมเครือ แม้ใน Gundam SEED Destiny: Special Edition IV อัสรันจะใส่ชุดนายพลของออร์บ ซึ่งหมายความว่าเขากลับไปหาคางาริก็ตาม
- คิระ ยามาโตะ (Kira Yamato)
- พระเอกจากภาคแรกและภาคนี้ ซึ่งเป็นบุคคลที่น่ายกย่องทางด้านฝีมือและการตัดสินใจจนเป็นที่กล่าวขวัญถึง บุคคลิกในภาคนี้จะต่างจากซี้ดเป็นอย่างมาก เขาสุขุมและมีความคิดความอ่านมากขึ้น ช่วงแรกๆของเรื่องยังไม่ค่อยมีบทบาทมากเท่าไรนัก แต่ภายหลังเกิดเหตุการณ์ลอบสังหารลักซ์ที่ORBทำให้ต้องขึ้นขับฟรีด้อมและกลับสู่สนามรบอีกครั้ง ตั้งแต่กลางเรื่องไปเขาจะมีบทบาทหน้าที่ที่สำคัญและเป็นกำลังหลักในการหยุดยั้งกิลเบิร์ต ในช่วงที่เขาได้ไปที่เบอร์ลินเพื่อยุติการสู้รบ และหลังจากที่ฆ่า สเตลล่า คนรักของชิน ก็ถูกยานมิเวอน์วาและชินไล่ตามจนพลาดท่าขณะกำลังหนี พร้อมกับเสีย ฟรีดอม แต่โชคดีที่พวก คางาริ ช่วยเอาไว้ได้เลยรอดตายมาอย่างหวุดหวิด ต่อมาก็ได้ สไตรค์ฟรีดอม จาก ลักส์ และได้กลับมาสู้อีกครั้ง
- ลักส์ ไคลน์ (Lacus Clyne)
- อดีตนักร้องของฝ่ายซาฟท์และเป็นอดีดคู่หมั้นของอัสรัน เป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน เข้มแข็ง ใจดี เป็นแฟนสาวของคิระในภาคนี้ รู้เรื่องราวทุกอย่าง ทั้งเรื่องที่ใครทำอะไรผิดหรือถูก หรือแม้แต่การรบ ลักซ์ก็สามารถทำได้ ในภาคนี้ลักซ์ได้ลอบกลับเข้าไปในฐานซาฟท์เพื่อเอายานออกมา ภายหลังจบศึกเดสทินี ลักซ์ได้เป็นผู้นำของซาฟท์ และนำพาสันติสุขแด่ซาฟท์
- มิริอาเรีย ฮาล์วในภาคซี้ดเดสทินี่ทำหน้าที่เป็นช่างภาพอิสระ
รายชื่อตอน แก้
ในการนับจำนวนตอนของเรื่องจะถูกเรียกว่า เฟซ-... (PHASE-00) ตามด้วยจำนวนเลข
ตอนที่ (เฟซ) | ชื่อไทย / ชื่ออังกฤษ ชื่อตามต้นฉบับของญี่ปุ่น |
ผู้กำกับ | ผู้เขียนบท | ออกอากาศครั้งแรก | ออกอากาศ ช่อง 9 MCOT HD |
---|---|---|---|---|---|
เฟซ-01 | "แววตาที่โกรธเกรี้ยว" / "Angry Eyes" (怒れる瞳) | Akira Toba | Chiaki Morosawa | 9 ตุลาคม ค.ศ. 2004 (Original) 9 เมษายน ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 25 มีนาคม ค.ศ. 2023 |
เฟซ-02 | "ผู้ก่อสงคราม" / "Those Who Call for War" (戦いを呼ぶもの) | Susumu Yamaguchi | Chiaki Morosawa | 16 ตุลาคม ค.ศ. 2004 (Original) 16 เมษายน ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 26 มีนาคม ค.ศ. 2023 |
เฟซ-03 | "ลางร้ายแห่งควันปืน" / "Warning Shots" (予兆の砲火) | Masahiro Takada | Chiaki Morosawa | 23 ตุลาคม ค.ศ. 2004 (Original) 23 เมษายน ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 1 เมษายน ค.ศ. 2023 |
เฟซ-04 | "สมรภูมิสะเก็ดดาว" / "Stardust Battlefield" (星屑の戦場) | Akihiko Nishiyama | Kazuho Hyodo Chiaki Morosawa | 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2004 (Original) 30 เมษายน ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 2 เมษายน ค.ศ. 2023 |
เฟซ-05 | "รอยแผลที่ไม่มีวันหาย" / "Scars That Won't Heal" (癒えぬ傷痕) | Akira Toba | Yuichi Nomura Chiaki Morosawa | 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 2004 (Original) 30 เมษายน ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 8 เมษายน ค.ศ. 2023 |
เฟซ-06 | "อวสานโลก" / "The End of the World" (世界の終わる時) | Akira Yoshimura | Yuichi Nomura Chiaki Morosawa | 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 2004 (Original) 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 9 เมษายน ค.ศ. 2023 |
เฟซ-07 | "แผ่นดินที่พังทลาย" / "Land of Confusion" (混迷の大地) | Kasuyoshi Yatabe | Hiroshi Onogi Chiaki Morosawa | 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 2004 (Original) 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 15 เมษายน ค.ศ. 2023 |
เฟซ-08 | "จังชั่น" / "Junction" (ジャンクション) | Masahiro Takada | Kazuho Hyodo Chiaki Morosawa | 4 ธันวาคม ค.ศ. 2004 (Original) 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 16 เมษายน ค.ศ. 2023 |
เฟซ-09 | "เขี้ยวที่บ้าคลั่ง" / "Bared Fangs" (驕れる牙) | Akihiko Nishiyama | Shigeru Morita Chiaki Morosawa | 11 ธันวาคม ค.ศ. 2004 (Original) 4 มิถุนายน ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 22 เมษายน ค.ศ. 2023 |
เฟซ-10 | "คำสาปของพ่อ" / "A Father's Spell" (父の呪縛) | Akira Toba | Yuichi Nomura Chiaki Morosawa | 18 ธันวาคม ค.ศ. 2004 (Original) 11 มิถุนายน ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 23 เมษายน ค.ศ. 2023 |
เฟซ-11 | "ทางเลือก" / "The Chosen Path" (選びし道) | Akira Yoshimura | Yuichi Nomura Chiaki Morosawa | 25 ธันวาคม ค.ศ. 2004 (Original) 18 มิถุนายน ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 29 เมษายน ค.ศ. 2023 |
เฟซ-12 | "ทะเลที่ย้อมด้วยเลือด" / "Blood in the Water" (血に染まる海) | Masahiro Takada | Hiroshi Onogi Chiaki Morosawa | 25 ธันวาคม ค.ศ. 2004 (Original) 25 มิถุนายน ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 30 เมษายน ค.ศ. 2023 |
เฟซ-13 | "ปีกที่ฟื้นคืนชีพ" / "Resurrected Wings" (よみがえる翼) | Katsuyoshi Yatabe | Kazuho Hyodo Chiaki Morosawa | 8 มกราคม ค.ศ. 2005 (Original) 2 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 |
เฟซ-14 | "การเดินทางสู่วันพรุ่งนี้" / "Flight to Tomorrow" (明日への出航) | Akira Toba | Shigeru Morita Chiaki Morosawa | 15 มกราคม ค.ศ. 2005 (Original) 9 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 7 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 |
เฟซ-15 | "กลับสู่สมรภูมิ" / "Return to the Battlefield" (戦場への帰還) | Akihiko Nishiyama | Hiroshi Onogi Chiaki Morosawa | 22 มกราคม ค.ศ. 2005 (Original) 16 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 |
เฟซ-16 | "ศึกหนักที่มหาสมุทรอินเดีย" / "Struggle in the Indian Ocean" (インド洋の死闘) | Masahiro Takada | Yuichi Nomura Chiaki Morosawa | 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005 (Original) 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 |
เฟซ-17 | "เงื่อนไขของนักรบ" / "The Soldier's Life" (戦士の条件) | Akira Yoshimura | Kazuho Hyodo Chiaki Morosawa | 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005 (Original) 30 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 20 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 |
เฟซ-18 | "ยิงโลเอินกรีน!" / "Attack the Lohengrin!" (ローエングリンを討て!) | Taiki Nishimura | Shigeru Morita Chiaki Morosawa | 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005 (Original) 6 สิงหาคม ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 |
เฟซ-19 | "ความจริงที่มองไม่เห็น" / "The Hidden Truth" (見えない真実) | Akira Toba | Hiroyuki Yoshino Chiaki Morosawa | 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005 (Original) 13 สิงหาคม ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 |
เฟซ-20 | "อดีต" / "Past" (PAST) | Masahiro Takada | Chiaki Morosawa | 5 มีนาคม ค.ศ. 2005 (Original) 20 สิงหาคม ค.ศ. 2013 (HD Remaster) | 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 |
เพลงประกอบ แก้
- เพลงเปิดเรื่อง (Opening)
- Ignited ขับร้องโดย T.M. Revolution (ตอนที่ 1-13)
- Pride ขับร้องโดย High and Mighty Color (ตอนที่ 14-24)
- Boku-tachi No Yukue ขับร้องโดย ฮิโตมิ ทาคาฮาชิ (ตอนที่ 25-37)
- Wings of Word ขับร้องโดย CHEMISTRY (ตอนที่ 38-50)
- Vestige ขับร้องโดย T.M. Revolution (ตอน Final Plus)
- เพลงปิดเรื่อง (Endings)
- Reason ขับร้องโดย ทามากิ นามิ (ตอนที่ 1-13)
- Life Goes On ขับร้องโดย มิกะ อาริซากะ (ตอนที่ 14-25)
- I Wanna Go to a Place... ขับร้องโดย ริเอะ ฟุ (ตอนที่ 26-37)
- Kimi wa Boku ni Niteiru ขับร้องโดย See-Saw (ตอนที่ 38-50 ,Final Plus และ Gundam Seed Destiny Special Edition Part 4)
- Result ขับร้องโดย ทามากิ นามิ (Gundam Seed Destiny Special Edition Part 1)
- Tears ขับร้องโดย Lisa (Gundam Seed Destiny Special Edition Part 2)
- Enrai ~tooku ni aru akari~ ขับร้องโดย High and Mighty Color(Gundam Seed Destiny Special Edition Part 3)
- เพลงแทรกระหว่างเรื่อง (Insert Songs)
- Fields of Hope ขับร้องโดย ริเอะ ทานากะ
- Vestige ขับร้องโดย T.M. Revolution
- Quiet Night C.E. 73 ขับร้องโดย ริเอะ ทานากะ
- Shinkai no Kodoku ขับร้องโดย โฮโกะ คุวาชิม่า
- Honoo no Tobira ขับร้องโดย FictionJunction YUUKA
- Emotion ขับร้องโดย ริเอะ ทานากะ
- Zips ขับร้องโดย T.M. Revolution (Gundam Seed Destiny Special Edition Part 1)