กองกำลังเฉพาะกิจโอดิน
กองกำลังเฉพาะกิจโอดิน (อังกฤษ: Task Force ODIN) เป็นชื่อตัวย่อสำหรับสังเกตการณ์, ตรวจจับ, พิสูจน์ และต่อต้าน เป็นกองพันแผนกการบินทหารบกสหรัฐกองทัพบกสหรัฐที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2006 เพื่อดำเนินการลาดตระเวน, เฝ้าระวัง และการได้มาซึ่งเป้าหมาย (RSTA) เพื่อต่อสู้กับผู้ปฏิบัติการก่อความไม่สงบของระเบิดแสวงเครื่องในประเทศอิรัก
หน่วยนี้ได้รับการก่อตั้งที่ฟอร์ตฮูด รัฐเท็กซัส และได้กรีธาพลครั้งแรกในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2006 บทความของกองทัพบกกล่าวว่าหน่วยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนอง "ความต้องการที่สำคัญในการ 'ชนะหลังทาง' โดยใช้ทรัพย์สินการบินกองทัพบก เพื่อจับตามองอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสำหรับระเบิดแสวงเครื่อง" กองทัพบกสหรัฐได้จัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจโอดินในฐานะโครงการความสามารถในการตอบสนองที่รวดเร็วซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงมีผลบังคับใช้ในการกำหนดทิศทางของกระทรวงกลาโหมในการจัดตั้งโครงการกองทัพอากาศเสรีและภารกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับไอเอสอาร์[1]
โอดินเป็นหน่วยเดียวของกองทัพบกที่ดำเนินการบินยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับเอ็มคิว-1บี วอริเออร์-แอลฟา สร้างโดยระบบการบินเจเนอรัลอะตอมมิก ยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับลูกผสมมีแพ็คเกจเซ็นเซอร์ผสมผสานเซ็นเซอร์ชนิดให้แสงไฟฟ้าขั้นสูง รวมถึงระบบตรวจการณ์อินฟราเรด และเรดาร์ช่องเปิดสังเคราะห์พร้อมกับเครื่องวัดระยะทางด้วยแสงเลเซอร์และอุปกรณ์ชี้เป้าด้วยเลเซอร์ ต่อมาเป็นวงเป้าหมายสำหรับการโจมตีด้วยขีปนาวุธเฮลไฟร์และลูกระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์
เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 2007 วอริเออร์-แอลฟา ใช้เวลาในการบินกว่า 6,000 ชั่วโมง และมีส่วนร่วมในการสังหารผู้ก่อความไม่สงบ 3,000 คนในอิรัก[1][2][3]
กองกำลังเฉพาะกิจได้ฝึกผู้ปฏิบัติการสำหรับใช้งาน, สำรอง และกองกำลังรักษาความมั่นคงแห่งชาติ นักวิเคราะห์เหล่านี้ทำงานกับหน่วยงานทุกประเภทรวมถึงหน่วยลับสุดยอดของกองทัพ[1][2][3]
กองกำลังเฉพาะกิจโอดินได้รับรางวัลยกย่องหน่วย (กองทัพบก) สำหรับการทำงานกับกองทหารราบที่ 25
กองทัพนี้ได้จัดตั้งกองกำลังพี่น้องคือกองกำลังเฉพาะกิจโอดิน-เอ ซึ่งเป็นหน่วยในอัฟกานิสถาน[4] หลังจาก "ปฎิบัติการรุ่งอรุณใหม่" (OND) กองกำลังเฉพาะกิจโอดินอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เปิดเผยชั่วคราวจนกว่าจะมีการเคลื่อนย้ายไปยังอัฟกานิสถานเพื่อรวมทั้งกองกำลังเฉพาะกิจโอดิน และกองกำลังเฉพาะกิจโอดิน-เอ เข้าด้วยกันในฐานะกองกำลังเฉพาะกิจโอดิน-อี ปฏิบัติการเสรีภาพยั่งยืน โดยมีหลายหน่วยงานย่อยในกองกำลังเฉพาะกิจ ได้แก่ ไฮไลต์เตอร์, เดสเซิร์ตเอาล์ และไนต์อีเกิล ต่อชื่อเสียงเล็กน้อย
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 กองกำลังเฉพาะกิจโอดินได้ทำการเปิดตัวเอ็มคิว-1บี วอริเออร์-แอลฟา ขีปนาวุธต่อสู้ครั้งแรก[5]
อ้างอิงถึงนายพล เดวิด เพเทรียส ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2010 เผยว่าในช่วง 90 วันก่อนหน้าในข้อมูลอัฟกานิสถานที่จัดทำโดยโอดิน ส่งผลให้มีการสังหารหรือจับกุมผู้นำสงครามที่แข็งข้อ 365 คน, กักตัวทหารราบผู้ก่อการกำเริบ 1,335 นาย และสังหารตอลิบานอีก 1,031 คน[6]
ณ เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2019 แมกแอโรสเปซยังคงช่วยเหลือกองทัพสหรัฐในการต่อสู้กับตอลิบานที่ประเทศอัฟกานิสถาน ในฐานะส่วนหนึ่งของกองกำลังเฉพาะกิจโอดิน ภายใต้โครงการระบบลาดตระเวนและเฝ้าระวังระดับกลางของกองทัพบก (MARSS)[7]
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 1.2 Shanker, Thom (22 June 2008). "At Odds With Air Force, Army Adds Its Own Aviation Unit". New York Times. สืบค้นเมื่อ 23 June 2008.
- ↑ 2.0 2.1 "Task Force ODIN Using Innovative Technology to Support Ground Forces". สืบค้นเมื่อ 21 January 2008.
- ↑ 3.0 3.1 http://www.flightglobal.com/articles/2007/06/18/214664/gaasi-flies-first-sky-warrior-uav.html
- ↑ Roosevelt, Ann, "The Need For Combat Aviation Continues, Increases, General Says เก็บถาวร 2012-07-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน", Defense Daily, 1 August 2008.
- ↑ "Unmanned Aerial System First to Fire Missiles in Combat". Multinational Force - Iraq Official Website. 4 March 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-01-30. สืบค้นเมื่อ 24 August 2009.
- ↑ Ackerman, Spencer, "Drones Surge, Special Ops Strike In Petraeus Campaign Plan", Wired News, 18 August 2010.
- ↑ https://www.foxnews.com/tech/drone-and-attack-helicopter-task-force-hunts-taliban