ฏอลิบาน หรือ ตอลิบาน (อังกฤษ: Taliban; ปาทาน: طالبان, อักษรโรมัน: ṭālibān, แปลตรงตัว'นักเรียน' หรือ 'ผู้แสวงหา')[45][46] ซึ่งเรียกตนเองว่า เอมิเรตส์อิสลามแห่งอัฟกานิสถาน (Islamic Emirate of Afghanistan, IEA)[47] ซึ่งคนไทยเรียกว่ากลุ่มนี้ว่า ตาลีบัน เป็นขบวนการทางศาสนา-ทางการเมืองของอิสลามิสต์ดิบันดี(Deobandi) และองค์กรทางทหารในอัฟกานิสถาน ซึ่งหลายรัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ ได้มองว่าเป็นผู้ก่อการร้าย[48]

ตอลิบาน
طالبان
มีส่วนร่วมใน
ธงตอลิบานที่มีชะฮาดะฮ์บนนั้น
ปฏิบัติการ
แนวคิด
กลุ่มส่วนใหญ่เป็นชาวปาทาน;[13][14] ส่วนน้อยเป็นชาวทาจิกและอุซเบก[15][16]
กองบัญชาการ
พื้นที่ปฏิบัติการทั่วประเทศอัฟกานิสถาน
พันธมิตรรัฐพันธมิตร

พันธมิตรที่ไม่ใช่รัฐ

ปรปักษ์รัฐและรัฐบาลระหว่างประเทศที่เป็นศัตรู

ศัตรูที่ไม่ใช่รัฐ

การสู้รบและสงคราม

เป็นหนึ่งในสองหน่วยงานที่กล่าวอ้างว่าเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายของอัฟกานิสถาน ควบคู่ไปกับสาธารณรัฐอิสลามอัฟกานิสถานซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 ถึง 2001 ตอลิบานได้เข้ายึดอำนาจเหนือพื้นที่ประมาณสามในสี่ของอัฟกานิสถาน และบังคับใช้กฎหมายชารีอะฮ์หรือกฎหมายอิสลามอย่างเคร่งครัด[49] ตอลิบานเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1994 ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่โดดเด่นในสงครามกลางเมืองอัฟกานิสถาน[50] และส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยพวกนักเรียน(ตาลิบ) จากพื้นที่ปัชตุน (Pashtun) ทางตะวันออกและทางใต้ของอัฟกานิสถานที่ได้เข้าศึกษาในโรงเรียนอิสลามแบบดั้งเดิม และต่อสู้รบในช่วงสงครามโซเวียต–อัฟกานิสถาน[51][5][6][52] ภายใต้การนำของมุฮัมมัด อุมัร ขบวนการนี้ได้แผ่ขยายไปทั่วอัฟกานิสถาน ทำให้อำนาจของกลุ่มขุนศึกมูจาฮีดีนต้องจบลง เอมิเรตส์อิสลามแห่งอัฟกานิสถานซึ่งใช้ระบบรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ[53][54] ถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1996 และได้ย้ายเมืองหลวงอัฟกานิสถานไปยังกันดะฮาร์ มันถูกควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศจนกระทั่งถูกโค่นล้มอำนาจภายหลังจากการบุกครองอัฟกานิสถานที่นำโดยอเมริกาในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2001 หลังเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน ในช่วงการปกครองส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกลุ่มก่อนหน้านี้ได้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มพันธมิตรฝ่ายเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติว่าเป็นความต่อเนื่องของรัฐอิสลามอัฟกานิสถานแบบชั่วคราว[55] ณ จุดสูงสุด การยอมรับทางการทูตอย่างเป็นทางการของรัฐบาลตอลิบานซึ่งเป็นที่ยอมรับจากสามประเทศเท่านั้น: ปากีสถาน ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ภายหลังต่อมากลุ่มได้ถูกจัดตั้งใหม่เป็นขบวนการก่อกบฏเพื่อต่อสู้รบกับการบริหารปกครองของนายการ์ไซซึ่งได้รับหนุนหลังจากสหรัฐและกองกำลังสนับสนุนด้านความมั่นคงนานาชาติ (International Security Assistance Force, ISAF) ที่นำโดยเนโท ในสงครามในอัฟกานิสถาน

กลุ่มตอลิบานถูกประณามจากนานาประเทศ เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายชารีอะฮ์ของศาสนาอิสลามอย่างเข้มงวด ซึ่งส่งผลทำให้ชาวอัฟกันหลายคนถูกปฏิบัติอย่างโหดร้ายทารุณ[56][57] ในช่วงการปกครองของพวกเขา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 ถึง ค.ศ. 2001 ตอลิบานและพันธมิตรของพวกเขาได้สังหารหมู่พลเรือนชาวอัฟกัน ปฏิเสธเสบียงอาหารของยูเอ็นที่จะมอบให้แก่พลเรือนที่กำลังอดอยาก 160,000 คน และดำเนินนโยบายเกี่ยวกับพสุธาจมเพลิง ซึ่งเป็นการเผาพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์และทำลายบ้านเรือนหลายหมื่นหลัง[58][59][60][61][62][63] ในขณะที่ตอลิบานควบคุมอัฟกานิสถาน พวกเขาสั่งห้ามกิจกรรมเคลื่อนไหวและสื่อต่าง ๆ รวมทั้งภาพวาด[64] ภาพถ่าย[65] และภาพยนตร์ที่แสดงให้เห็นถึงภาพของคนหรือสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ[66] พวกเขายังสั่งห้ามในการใช้เครื่องเล่นดนตรีทุกชนิด ยกเว้นเพียงการใช้ดาฟ(daf) ซึ่งเป็นเครื่องเล่นดนตรีประเภทกลองชนิดหนึ่ง[67] ตอลิบานได้กีดกันไม่ให้เด็กสาวและหญิงสาวในการเข้าศึกษาในโรงเรียน[68] สั่งห้ามไม่ให้ผู้หญิงทำงานนอกสถานพยาบาล(แพทย์ชายจะถูกสั่งห้ามไม่ให้รักษาผู้หญิง)[69] และกำหนดให้ผู้หญิงต้องมาพร้อมกับญาติผู้ชายและสวมผ้าบุรเกาะอ์ตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ[70] ถ้าผู้หญิงทำผิดกฏข้อบังคับบางอย่าง พวกเขาจะถูกเฆี่ยนตีหรือประหารชีวิตต่อหน้าสาธารณะ[71] ชนกลุ่มน้อยทางศาสนาและชาติพันธุ์ถูกเลือกปฏิบัติอย่างหนักในช่วงการปกครองของตอลิบาน ตามข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ กลุ่มตอลิบานและพันธมิตรของพวกเขาได้มีส่วนรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของพลเรือนชาวอัฟกันถึง 76% ในปี ค.ศ. 2010 และ 80% ในปี ค.ศ. 2011 และ 2012[72][73][74][75][76][77] กลุ่มตอลิบานยังมีส่วนร่วมในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทางวัฒนธรรม ทำลายอนุสรณ์สถานมากมาย รวมทั้งพระพุทธรูปแห่งบามียานซึ่งมีอายุนับเก่าแก่มา 1,500 ปี ที่มีชื่อเสื่องโด่งดัง.[78][79][80][81]

อุดมการณ์ของตอลิบานได้ถูกอธิบายว่าเป็นการผสมผสานรูปแบบ "นวัตกรรม" ของกฎหมายอิสลามชารีอะฮ์ที่มีพื้นฐานมาจากมูลฐานนิยมของดิบันดี[82] และความเชื่อทางศาสนาอิสลามที่เข้มแข็ง ซึ่งได้ผสมเข้าด้วยกัน[82] กับบรรทัดฐานทางสังคมและวัฒนธรรมของปัชตุน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันคือ ปัชตุนวาลี (Pashtunwali)[13][14][83][84] เนื่องจากกลุ่มตอลิบานส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าปัชตุนกันหมด

หน่วยข่าวกรองระหว่างราชการ (Inter-Services Intelligence, ISI) และการทหารของปากีสถานถูกกล่าวหาอย่างกว้างขวางโดยประชาคมระหว่างประเทศและรัฐบาลอัฟกานิสถานว่าได้ให้การสนับสนุนกลุ่มตอลิบานในช่วงการก่อตั้งและช่วงเวลาที่อยู่ในอำนาจ และสนับสนุนกลุ่มตอลิบานอย่างต่อเนื่องในช่วงการก่อกบฏ ปากีสถานได้ระบุว่าได้ยกเลิกให้การสนับสนุนทั้งหมดแก่กลุ่มนี้ หลังเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน[19][20][85][86][87][88] ในปี ค.ศ. 2001 ได้มีรายงานว่า ชาวอาหรับ 2,500 คนซึ่งภายใต้การบังคับบัญชาของผู้นำอัลกออิดะฮ์ อุซามะฮ์ บิน ลาดิน ซึ่งต่อสู้รบเพื่อกลุ่มตอลิบาน[89]

ภายหลังกรุงคาบูลถูกตีแตก เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2021 กลุ่มตอลิบานได้เข้าควบคุมอัฟกานิสถานอีกครั้ง

ดูเพิ่ม

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. Whine, Michael (1 September 2001). "Islamism and Totalitarianism: Similarities and Differences". Totalitarian Movements and Political Religions. 2 (2): 54–72. doi:10.1080/714005450. S2CID 146940668.
  2. 2.0 2.1 Deobandi Islam: The Religion of the Taliban U. S. Navy Chaplain Corps, 15 October 2001
  3. 3.0 3.1 Maley, William (2001). Fundamentalism Reborn? Afghanistan and the Taliban. C Hurst & Co. p. 14. ISBN 978-1-85065-360-8.
  4. 4.0 4.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Stanford
  5. 5.0 5.1 Ogata, Sadako N. (2005). The Turbulent Decade: Confronting the Refugee Crises of the 1990s. W. W. Norton & Company. p. 286. ISBN 978-0-393-05773-7.
  6. 6.0 6.1 McNamara, Melissa (31 August 2006). "The Taliban In Afghanistan". CBS. สืบค้นเมื่อ 5 June 2016.
  7. 7.0 7.1 "Did you know that there are two different Taliban groups?". www.digitaljournal.com. 1 April 2013.
  8. "Taliban – Oxford Islamic Studies Online". www.oxfordislamicstudies.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-12. สืบค้นเมื่อ 2015-03-15.
  9. "Afghan Taliban". National Counterterrorism Center. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 May 2015. สืบค้นเมื่อ 7 April 2015.
  10. Rashid, Taliban (2000)
  11. "Why are Customary Pashtun Laws and Ethics Causes for Concern? | Center for Strategic and International Studies". Csis.org. 19 October 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 November 2010. สืบค้นเมื่อ 18 August 2014.
  12. "Understanding taliban through the prism of Pashtunwali code". CF2R. 30 November 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 August 2014. สืบค้นเมื่อ 18 August 2014.
  13. 13.0 13.1 Giustozzi, Antonio (2009). Decoding the new Taliban: insights from the Afghan field. Columbia University Press. p. 249. ISBN 978-0-231-70112-9.
  14. 14.0 14.1 Clements, Frank A. (2003). Conflict in Afghanistan: An Encyclopedia (Roots of Modern Conflict). ABC-CLIO. p. 219. ISBN 978-1-85109-402-8.
  15. Bezhan, Frud. "Ethnic Minorities Are Fueling the Taliban's Expansion in Afghanistan". Foreign Policy (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 26 August 2021.
  16. "The Non-Pashtun Taleban of the North: A case study from Badakhshan – Afghanistan Analysts Network". Afghanistan-Analysts.org. 3 January 2017. สืบค้นเมื่อ 21 January 2018.
  17. Multiple Sources:
  18. Multiple Sources:
  19. 19.0 19.1 Giraldo, Jeanne K. (2007). Terrorism Financing and State Responses: A Comparative Perspective. Stanford University Press. p. 96. ISBN 978-0-8047-5566-5. Pakistan provided military support, including arms, ammunition, fuel, and military advisers, to the Taliban through its Directorate for Inter-Services Intelligence (ISI) อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "Giraldo" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  20. 20.0 20.1 "Pakistan's support of the Taliban". Human Rights Watch. 2000. Of all the foreign powers involved in efforts to sustain and manipulate the ongoing fighting [in Afghanistan], Pakistan is distinguished both by the sweep of its objectives and the scale of its efforts, which include soliciting funding for the Taliban, bankrolling Taliban operations, providing diplomatic support as the Taliban's virtual emissaries abroad, arranging training for Taliban fighters, recruiting skilled and unskilled manpower to serve in Taliban armies, planning and directing offensives, providing and facilitating shipments of ammunition and fuel, and ... directly providing combat support. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "Human Rights Watch-PST" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  21. Multiple Sources:
  22. 22.0 22.1 "Why did Saudi Arabia and Qatar, allies of the US, continue to fund the Taliban after the 2001 war?". scroll.in. สืบค้นเมื่อ 19 April 2018.
  23. Diplomat, Samuel Ramani, The. "What's Behind Saudi Arabia's Turn Away From the Taliban?". The Diplomat.
  24. Guelke, Adrian (25 August 2006). Terrorism and Global Disorder – Adrian Guelke – Google Libros. ISBN 978-1-85043-803-8. สืบค้นเมื่อ 15 August 2012.
  25. Katz, Rita. "The Taliban's Victory Is Al Qaeda's Victory".
  26. 26.0 26.1 "Watch: in Pakistan Jaish-e-Muhammed & Lashkar-e-taiba rallies to celebrate Taliban takeover in Afghanistan". YouTube. สืบค้นเมื่อ 23 August 2021.
  27. Roggio, Bill (12 July 2021). "Taliban advances as U.S. completes withdrawal". FDD's Long War Journal. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 July 2021. สืบค้นเมื่อ 16 July 2021.
  28. Tom Wheeldon (18 August 2021). "Pakistan cheers Taliban out of 'fear of India' – despite spillover threat". France 24. The Afghan militants’ closeness to Pakistani jihadist group Tehrik-e-Taliban (TTP or, simply, the Pakistani Taliban) is a particular source of concern. The TTP have carried out scores of deadly attacks since their inception in the 2000s, including the infamous 2014 Peshawar school massacre. The Taliban and the TTP are “two faces of the same coin”, Pakistani Army Chief General Qamar Javed Bajwa and ISI boss Lieutenant General Faiz Hameed acknowledged at an off-the-record briefing in July. Indeed, the Taliban reportedly freed a senior TTP commander earlier this month during their sweep through Afghanistan. “Pakistan definitely worries about the galvanising effects the Taliban’s victory will have on other Islamist militants, and especially the TTP, which was already resurging before the Taliban marched into Kabul,” Michael Kugelman, a South Asia expert at the Wilson Center in Washington, DC, told FRANCE 24. “It’s a fear across the establishment.” {{cite web}}: แหล่งข้อมูลอื่นใน |quote= (help)
  29. "Afghan Taliban reject TTP claim of being a 'branch of IEA'". 11 December 2021. สืบค้นเมื่อ 11 December 2021."Afghan Taliban deny TTP part of movement, call on group to seek peace with Pakistan". 11 December 2021.
  30. "Afghan militant fighters 'may join Islamic State'". BBC News. 2 September 2014. สืบค้นเมื่อ 3 March 2017.
  31. "Afghanistan: Ghani, Hekmatyar sign peace deal". Al Jazeera. 29 September 2016.
  32. "ISIS Violence Dents Taliban Claims Of Safer Afghanistan". NDTV.com. 9 November 2021.
  33. "Why Central Asian states want peace with the Taliban". DW News. 27 March 2018. "Taliban have assured Russia and Central Asian countries that it would not allow any group, including the IMU, to use Afghan soil against any foreign state," Muzhdah said.
  34. Roggio, Bill; Weiss, Caleb (14 June 2016). "Islamic Movement of Uzbekistan faction emerges after group's collapse". Long War Journal. สืบค้นเมื่อ 6 August 2017.
  35. "Rare look at Afghan National Army's Taliban fight". BBC News. สืบค้นเมื่อ 18 August 2014.
  36. "Taliban attack NATO base in Afghanistan – Central & South Asia". Al Jazeera. สืบค้นเมื่อ 18 August 2014.
  37. "ISIS reportedly moves into Afghanistan, is even fighting Taliban". 12 January 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 February 2015. สืบค้นเมื่อ 27 March 2015.
  38. "ISIS, Taliban announced Jihad against each other". The Khaama Press News Agency. 20 April 2015. สืบค้นเมื่อ 23 April 2015.
  39. "Taliban leader: allegiance to ISIS 'haram'". Rudaw. 13 April 2015. สืบค้นเมื่อ 23 April 2015.
  40. "Taliban say gap narrowing in talks with US over Afghanistan troop withdrawal". Military Times. 5 May 2019.
  41. Qazi, Shereena (9 November 2015). "Deadly Taliban infighting erupts in Afghanistan". www.aljazeera.com (ภาษาอังกฤษ).
  42. 42.0 42.1 "Afghanistan's warlord vice-president spoiling for a fight with the Taliban". The Guardian. 4 August 2015.
  43. Ibrahimi, Niamatullah. 2009. "Divide and Rule: State Penetration in Hazarajat (Afghanistan) from Monarchy to the Taliban", Crisis States Working Papers (Series 2) 42, London: Crisis States Research Centre, London School of Economics
  44. Jonson, Lena (25 August 2006). Tajikistan in the New Central Asia. ISBN 978-1-84511-293-6. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 January 2016. สืบค้นเมื่อ 17 December 2014.
  45. "Taliban". Lexico UK English Dictionary. Oxford University Press. n.d.
  46. "Definition of TALIBAN". www.merriam-webster.com. สืบค้นเมื่อ 8 July 2021.
  47. Post, The Jakarta. "US welcomes Qatar decision on Taliban name change". The Jakarta Post. สืบค้นเมื่อ 7 February 2017.
  48. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Terror2021
  49. Matinuddin 1999, pp. 37, 42–43.
  50. "The Taliban". Mapping Militant Organizations. Stanford University. สืบค้นเมื่อ 5 June 2016.
  51. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ massacreMazar, II
  52. Masood Ashraf Raja (6 May 2016). The Religious Right and the Talibanization of America. Springer. pp. 16–. ISBN 978-1-137-58490-8.
  53. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ auto1
  54. "Problems of perception and vision: Turkey and the U.S" (PDF). สืบค้นเมื่อ 22 January 2020.
  55. "Map of areas controlled in Afghanistan '96". edition.cnn.com.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  56. Skain, Rosemarie (2002). The women of Afghanistan under the Taliban. McFarland. p. 41. ISBN 978-0-7864-1090-3.
  57. * Gerstenzan, James; Getter, Lisa (18 November 2001). "Laura Bush Addresses State of Afghan Women". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ 14 September 2012. * "Women's Rights in the Taliban and Post-Taliban Eras". A Woman Among Warlords. PBS. 11 September 2007. สืบค้นเมื่อ 14 September 2012.
  58. Rashid, Ahmed (2002). Taliban: Islam, Oil and the New Great Game in Central Asia. I.B.Tauris. p. 253. ISBN 978-1-86064-830-4.
  59. Gargan, Edward A (October 2001). "Taliban massacres outlined for UN". Chicago Tribune. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-13. สืบค้นเมื่อ 2021-08-20.
  60. "Confidential UN report details mass killings of civilian villagers". Newsday. newsday.org. 2001. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 November 2002. สืบค้นเมื่อ 12 October 2001.
  61. U.N. says Taliban starving hungry people for military agenda, Associated Press, 7 January 1998
  62. Goodson, Larry P. (2002). Afghanistan's Endless War: State Failure, Regional Politics and the Rise of the Taliban. University of Washington Press. p. 121. ISBN 978-0-295-98111-6.
  63. "Re-Creating Afghanistan: Returning to Istalif". NPR. 1 August 2002. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 October 2013.
  64. "Afghanistan: Kabul Artists Tricked Taliban To Save Banned Paintings". RadioFreeEurope/RadioLiberty. สืบค้นเมื่อ 13 August 2021.
  65. Constable, Pamela (26 March 2001). "Taliban Ban on Idolatry Makes a Country Without Faces". The Washington Post. ISSN 0190-8286. สืบค้นเมื่อ 13 August 2021.
  66. "Afghanistan's Love Of The Big Screen". NPR.org. สืบค้นเมื่อ 13 August 2021.
  67. "Ethnomusicologist Discusses Taliban Vs. Musicians". RadioFreeEurope/RadioLiberty. สืบค้นเมื่อ 13 August 2021.
  68. Lakanwal, Emran Feroz, Abdul Rahman. "In Rural Afghanistan, Some Taliban Gingerly Welcome Girls Schools". Foreign Policy. สืบค้นเมื่อ 13 August 2021.
  69. "A Woman Among Warlords ~ Women's Rights in the Taliban and Post-Taliban Eras | Wide Angle | PBS". Wide Angle. 11 September 2007. สืบค้นเมื่อ 13 August 2021.
  70. "Afghan women forced from banking jobs as Taliban take control". Reuters. 13 August 2021. สืบค้นเมื่อ 13 August 2021.
  71. Reuters Staff (1 September 2015). "Afghan man and woman given 100 lashes in public for adultery". Reuters. สืบค้นเมื่อ 13 August 2021.
  72. ISAF has participating forces from 39 countries, including all 26 NATO members. See ISAF Troop Contribution Placement (PDF), NATO, 5 December 2007, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 9 November 2009
  73. Skaine, Rosemarie (2009). Women of Afghanistan in the Post-Taliban Era: How Lives Have Changed and Where They Stand Today. McFarland. p. 41. ISBN 978-0-7864-3792-4.
  74. Shanty, Frank (2011). The Nexus: International Terrorism and Drug Trafficking from Afghanistan. Praeger. pp. 86–88. ISBN 978-0-313-38521-6.
  75. "Citing rising death toll, UN urges better protection of Afghan civilians". United Nations Assistance Mission in Afghanistan. 9 March 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 July 2011.
  76. Haddon, Katherine (6 October 2011). "Afghanistan marks 10 years since war started". Agence France-Presse. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 October 2011.
  77. "UN: Taliban Responsible for 76% of Deaths in Afghanistan". The Weekly Standard. 10 August 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-01-02. สืบค้นเมื่อ 2011-10-07.
  78. Novic, Elisa (13 October 2016). The Concept of Cultural Genocide: An International Law Perspective. Oxford University Press. p. 1. ISBN 9780191090912.
  79. Kinloch, Graham Charles; Mohan, Raj P. (2005). Genocide: Approaches, Case Studies, and Responses. Algora Publishing. pp. 220–229, 313–314. ISBN 9780875863818.
  80. "GENERAL ASSEMBLY 'APPALLED' BY EDICT ON DESTRUCTION OF AFGHAN SHRINES; STRONGLY URGES TALIBAN TO HALT IMPLEMENTATION | Meetings Coverage and Press Releases". www.un.org. The United Nations. 9 March 2001. สืบค้นเมื่อ 2 August 2018.
  81. "Cultural 'cleansing' exposes outrageous methods of Taliban | The Japan Times". The Japan Times. สืบค้นเมื่อ 2 August 2018.
  82. 82.0 82.1 Rashid 2000, pp. 132, 139
  83. Maley, William (2002). The Afghanistan wars. Palgrave Macmillan. p. ?. ISBN 978-0-333-80290-8.
  84. Shaffer, Brenda (2006). The limits of culture: Islam and foreign policy (illustrated ed.). MIT Press. p. 277. ISBN 978-0-262-69321-9. The Taliban's mindset is, however, equally if not more defined by Pashtunwali
  85. Joscelyn, Thomas (22 September 2011). "Admiral Mullen: Pakistani ISI sponsoring Haqqani attacks". The Long War Journal. สืบค้นเมื่อ 1 December 2011. During a Senate Armed Services Committee hearing today, Admiral Michael Mullen, the Chairman of the Joint Chiefs of Staff, highlighted the Pakistani Inter-Services Intelligence Agency's role in sponsoring the Haqqani Network – including attacks on American forces in Afghanistan. "The fact remains that the Quetta Shura [Taliban] and the Haqqani Network operate from Pakistan with impunity," Mullen said in his written testimony. "Extremist organizations serving as proxies of the government of Pakistan are attacking Afghan troops and civilians as well as US soldiers." Mullen continued: "For example, we believe the Haqqani Network—which has long enjoyed the support and protection of the Pakistani government and is, in many ways, a strategic arm of Pakistan's Inter-Services Intelligence Agency—is responsible for the September 13th attacks against the U.S. Embassy in Kabul."
  86. Barnes, Julian E.; Rosenberg, Matthew; Habib Khan Totakhil (5 October 2010). "Pakistan Urges On Taliban". The Wall Street Journal. the ISI wants us to kill everyone—policemen, soldiers, engineers, teachers, civilians—just to intimidate people,
  87. US attack on Taliban kills 23 in Pakistan, The New York Times, 9 September 2008
  88. Partlow, Joshua (3 October 2011). "Karzai accuses Pakistan of supporting terrorists". สืบค้นเมื่อ 21 January 2018 – โดยทาง www.WashingtonPost.com.
  89. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Ahmed Rashid/The Telegraph

บรรณานุกรม

แก้

อ่านเพิ่ม

แก้

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้