กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เป็นหน่วยงานระดับกรมของกระทรวงพลังงาน มีหน้าที่หลักในภารกิจสำคัญด้านพลังงาน ดำเนินงานตั้งแต่ปี 2545 เป็นองค์กรหลักในการบริหารจัดการ การจัดหาและจัดการแหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติ เพื่อสร้างและรักษาความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ | |
---|---|
![]() | |
ที่ทำการ | |
ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ชั้น 21-22 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร | |
ภาพรวม | |
วันก่อตั้ง | 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 (18 ปี) |
เขตอำนาจ | ทั่วราชอาณาจักร |
งบประมาณ | 209.5005 ล้านบาท (พ.ศ. 2559)[1] |
ผู้บริหารหลัก | สราวุธ แก้วตาทิพย์ [2], อธิบดี ภูมี ศรีสุวรรณ, รองอธิบดี สมบูรณ์ วัชระชัยสุรพล, รองอธิบดี |
ต้นสังกัด | กระทรวงพลังงาน |
เว็บไซต์ | |
http://www.dmf.go.th |
ประวัติแก้ไข
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ จัดตั้งขึ้นตามนโยบายการปฏิรูประบบราชการของรัฐบาลตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 และพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่มที่ 119 ตอนที่ 99 ก ลงวันที่ 2 ตุลาคม 2545 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2545 ส่งผลให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ สังกัดกระทรวงพลังงาน มีฐานะเป็นหน่วยงานหลักที่เป็นแกนนำในการส่งเสริม และเร่งรัดการสำรวจและพัฒนาแหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติในประเทศ และส่งเสริมความร่วมมือด้านการสำรวจและพัฒนาแหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติ กับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างและรักษาความมั่นคงทางพลังงานของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ก่อนที่จะมีการปฏิรูประบบราชการเมื่อปี พ.ศ. 2545 กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเป็นหน่วยงานระดับกองมีหน้าที่หลักในภารกิจสำคัญด้านพลังงานของกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้นทำให้มีกรมใหม่เกิดขึ้นอีก 2 กรม ได้แก่ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
อำนาจหน้าที่แก้ไข
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ มีหน้าที่บริหารจัดการในการให้สัมปทานการสำรวจ การผลิต การเก็บ รักษา การขนส่ง การขาย และการจำหน่ายปิโตรเลียม วิเคราะห์ วิจัย ประเมินศักยภาพ ปริมาณสำรอง และพัฒนาแหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติ พิจารณาสิทธิ ประสาน และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อผูกพันต่อรัฐ จัดเก็บค่าภาคหลวง และผลประโยชน์อื่นใดจากปิโตรเลียม ปฏิบัติงานด้านวิชาการ กำหนดมาตรฐานการดำเนินงานความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมในการประกอบกิจการปิโตรเลียม วิเคราะห์ และจัดทำแผนการดำเนินงาน การพัฒนาแหล่งและจัดการแหล่งปิโตรเลียม กำหนดแนวทางการจัดหา และพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม และติดตามประเมินผลการดำเนินงาน ประสานความร่วมมือในการสำรวจและพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมในพื้นที่พัฒนาร่วม พื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างประเทศ และประเทศอื่น ประมวลผล และบริหารจัดการข้อมูลปิโตรเลียม ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมหรือตามที่กระทรวง หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
โครงสร้างองค์กรแก้ไข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เล่ม 132 ตอนที่ 91ก วันที่ 25 กันยายน 2558
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ