กบฏเลียงจิ๋ว
กบฏเลียงจิ๋ว (จีน: 涼州之亂) เกิดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 184 ถึง 189 เริ่มต้นจากการก่อจลาจลของชนชาวเกี๋ยง (เชียง) ต่อต้านราชวงศ์ฮั่นในมณฑลเลียงจิ๋ว (เหลียงโจฺว) ทางตะวันตก (ปัจจุบันอยู่บริเวณเมืองอู่เวย์ มณฑลกานซู่) ภายหลังชาวเยวฺ่จือส่วนน้อยและกบฏชาวฮั่นก็ได้มาร่วมกับชาวเกี๋ยงเพื่อแย่งชิงอำนาจควบคุมมณฑลเลียงจิ๋วจากราชสำนักส่วนกลาง กบฏครั้งนี้เกิดขึ้นหลังกบฏโพกผ้าเหลืองและเป็นส่วนหนึ่งของเหตุวุ่นวายที่นำไปสู่การเสื่อมถอยและล้มสลายของราชวงศ์ฮั่น[4] แม้ว่ากบฏเลียงจิ๋วได้รับความสนใจค่อนข้างน้อยจากนักประวัติศาสตร์ดั้งเดิม แต่กบฏครั้งนี้ยังคงมีความสำคัญเนื่องจากทำให้อำนาจของชาวจีนฮั่นในภาคตะวันตกเฉียงเหนืออ่อนแอลงและนำไปสู่การเป็นดินแดนที่ประกอบด้วยรัฐที่ปกครองโดยชนเผ่าที่ไม่ใช่ชาวฮั่นจำนวนมากในศตวรรษถัด ๆ มา[5]
กบฏเลียงจิ๋ว | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามยุคสิ้นราชวงศ์ฮั่น | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
ราชวงศ์ฮั่น |
กบฏชาวฮั่น ชาวเกี๋ยง ชาวเยวฺ่จือส่วนน้อย | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
เตียวอุ๋น ฮองฮูสง ตั๋งโต๊ะ เกิ๋ง ปี่ |
เป่ย์กง ปั๋ว-ยฺวี่ หลี่ เหวินโหฺว เตียน-ยฺหวี เปียน จาง หันซุย หวาง กั๋ว | ||||||
กำลัง | |||||||
จำนวนมาก: 100,000+ ที่เหม่ย์หยาง[1] 40,000+ ที่ตันฉอง[2] | หลายหมื่น[3] |
อ้างอิง
แก้รายการอ้างอิง
แก้บรรณานุกรม
แก้- de Crespigny, Rafe (1984). Northern Frontier: the policies and strategy of the Later Han empire. Australian National University. ISBN 0-86784-410-8.
- de Crespigny, Rafe (1989). Emperor Huan and Emperor Ling: being the Chronicle of the Later Han dynasty for the years 157 to 189 AD as recorded in Chapters 54 to 59 of the Zizhi tongjian of Sima Guang. Faculty of Asian Studies, The Australian National University, Canberra. ISBN 0-7315-0655-3.
- de Crespigny, Rafe (1996). To Establish Peace: being the Chronicle of the Later Han dynasty for the years 189 to 220 AD as recorded in Chapters 59 to 69 of the Zizhi tongjian of Sima Guang. Volume 1. Faculty of Asian Studies, The Australian National University, Canberra. 1996. ISBN 0-7315-2526-4.
- Haloun, Gustav. "The Liang-chou Rebellion 184-221A.D." เก็บถาวร 2012-02-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, in Asia Major 1 (1949–50). London. pp. 119–138.