นรกระฟ้า
นรกระฟ้า (อังกฤษ: Die Hard) เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวโลดโผน ฉายเมื่อปี ค.ศ. 1988 กำกับโดย จอห์น แมคเทียร์แนน และเขียนบทโดย เจบ สจ๊วตและสตีเวน อี. เดอ โซซา สร้างจากนวนิยาย นอตติงลาสต์ฟอร์เอเวอร์ เขียนโดย รอเดอริก ทอร์ป วางจำหน่ายเมื่อปี ค.ศ. 1979 ภาพยนตร์แสดงนำโดย บรูซ วิลลิส, แอลัน ริกแมน, อเล็กซานเตอร์ กอดูนอฟและบอนนี บะดีเลีย และยังแสดงโดย เรจินัลด์ เวลจอห์นสัน, วิลเลียม เอเทอร์ตัน, พอล กลีสันและฮาร์ต บอชเนอร์ ในบทบาทสมทบ ในภาพยนตร์ จอห์น แมคเคลน (วิลลิส) นักสืบตำรวจนิวยอร์ก เข้ามาพัวพันกับผู้ก่อการร้ายที่เข้ายึดตึกระฟ้าในลอสแอนเจลิสขณะที่เขาไปเยี่ยมภรรยาที่เหินห่าง
นรกระฟ้า | |
---|---|
ไฟล์:Die Hard poster.jpg ใบปิดภาพยนตร์ | |
กำกับ | จอห์น แมคเทียร์แนน |
บทภาพยนตร์ | |
สร้างจาก | นอตติงลาสต์ฟอร์เอเวอร์ โดย รอเดอริก ทอร์ป |
อำนวยการสร้าง | |
นักแสดงนำ | |
กำกับภาพ | ยาน เดอ บงต์ |
ตัดต่อ | |
ดนตรีประกอบ | ไมเคิล คาเมน |
บริษัทผู้สร้าง |
|
ผู้จัดจำหน่าย | ทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ |
วันฉาย |
|
ความยาว | 132 นาที[1] |
ประเทศ | สหรัฐ |
ภาษา | อังกฤษ |
ทุนสร้าง | 25–35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ |
ทำเงิน | 139.8–141.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ |
สจ๊วตได้รับการว่าจ้างโดย ทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ ให้ดัดแปลงนวนิยายของทอร์ปเป็นบทภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 1987 บทร่างที่เขียนเสร็จแล้วของเขาได้รับไฟเขียวให้สร้างโดยทันทีโดยฟอกซ์ซึ่งต้องการภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่จะฉายในฤดูร้อนปีถัดไป บทของแมคเคลนได้รับการปฏิเสธจากนักแสดงยอดนิยมแห่งทศวรรษ เช่น อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์และซิลเวสเตอร์ สตอลโลน วิลลิสเป็นที่รู้จักจากผลงานทางโทรทัศน์เป็นหลัก โดยเขาได้รับเงิน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการแสดงของเขา ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ได้รับค่าตัวสูงสุดของฮอลลีวูด ข้อตกลงนี้ถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่ย่ำแย่โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและทำให้เกิดความขัดแย้งที่สำคัญก่อนการฉาย ภาพยนตร์ถ่ายทำระหว่างเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1987 จนถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 1988 ด้วยทุนสร้าง 25–35 ล้านดอลลาร์สหรัฐและเกือบทั้งหมดเป็นการถ่ายทำภายในและบริเวณรอบโดยรอบของฟอกซ์พลาซาในลอสแอนเจลิส
ความคาดหวังสำหรับ นรกระฟ้า นั้นต่ำ ความพยายามทางการตลาดบางอย่างได้ละเลยภาพลักษณ์ของวิลลิสอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากทีมการตลาดเห็นว่าฉากดำเนินเรื่องนั้นมีความสำคัญพอ ๆ กับแมคเคลน ภาพยนตร์ฉายในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1988 ได้การตอบรับที่หลากหลายจากนักวิจารณ์ในช่วงแรกที่ฉาย โดยติในเรื่องความรุนแรง, โครงเรื่องและการแสดงของวิลลิส ขณะที่การกำกับของแมคเทียร์แนนและการแสดงเป็น ฮานส์ กรูเบอร์ ตัวร้ายที่มีเสน่ห์ของริกแมนได้รับการยกย่อง นรกระฟ้า ทำเงินประมาณ 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดอันดับที่ 10 ของปีและเป็นภาพยนตร์แนวโลดโผนที่ทำเงินสูงสุด ภาพยนตร์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สี่ครั้ง ทำให้วิลลิสได้รับสถานะเป็นนักแสดงนำและทำให้ริกแมนกลายเป็นคนมีชื่อเสียง
นรกระฟ้า ได้รับการประเมินใหม่จากนักวิจารณ์และปัจจุบันถือว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์แนวโลดโผนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์คริสต์มาสที่ดีที่สุดด้วยเช่นกัน นรกระฟ้า ทำให้ภาพยนตร์แนวโลดโผนได้รับการฟื้นฟูขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจากการที่แมคเคลนแสดงเป็นตัวเอกที่เปราะบางและผิดพลาดได้ ตรงกันข้ามกับฮีโรที่มีกล้ามใหญ่และอยู่ยงคงกระพันของภาพยนตร์เรื่องอื่นในยุคนั้น นักวิจารณ์ย้อนหลังยังได้ระบุและวิเคราะห์ข้อกังวลของภาพยนตร์ เช่น การแก้แค้น, ความเป็นชาย, บทบาททางเพศและความวิตกกังวลของชาวอเมริกันต่ออิทธิพลจากต่างประเทศ นรกระฟ้า กลายเป็นชื่อต้นแบบของภาพยนตร์ที่มีโครงเรื่องของตัวละครเอกที่เสียเปรียบอย่างมากในสภาพแวดล้อมที่จำกัด เช่น "นรกระฟ้า บนรถบัส" ภาพยนตร์ตามมาด้วยภาคต่ออีกสี่เรื่อง ได้แก่ ดาย ฮาร์ด 2 อึดเต็มพิกัด (1990), ดาย ฮาร์ด 3 แค้นได้ก็ตายยาก (1995), ดาย ฮาร์ด 4.0 ปลุกอึด ตายยาก (2007) และ วันดีมหาวินาศ คนอึดตายยาก (2013) นอกจากนี้ยังมีวิดีโอเกม, การ์ตูนและสินค้าอื่น ๆ ก่อให้เกิดเป็นแฟรนไชส์ นรกระฟ้า ได้รับเลือกโดย หอสมุดรัฐสภา ให้มีการเก็บรักษาใน หอทะเบียนภาพยนตร์แห่งชาติ เมื่อปี ค.ศ. 2017 ในฐานะที่ภาพยนตร์ "มีวัฒนธรรม, ประวัติศาสตร์, หรือ มีความสุนทรีย์อย่างมีนัยสำคัญ"
โครงเรื่อง
แก้ในวันคริสต์มาสอีฟ จอห์น แมคเคลน ตำรวจนิวยอร์ก เดินทางมาที่อาคารนากาโตมิในลอสแอนเจลิส เพื่อร่วมงานเลี้ยงวันคริสต์มาสกับฮอลลี ภรรยาที่ตอนนี้แยกกันอยู่ ขณะที่แมคเคลนกำลังเปลี่ยนชุด กลุ่มติดอาวุธนำโดยฮันส์ กรูเบอร์ได้บุกเข้ามาในอาคาร แขกทั้งหมดถูกจับเป็นตัวประกัน ส่วนแมคเคลนลอบหนีออกมาได้
กรูเบอร์แยกไปคุยกับโจเซฟ ทาคางิ ผู้บริหารบริษัทนากาโตมิและบังคับให้เขาบอกรหัสห้องนิรภัยของอาคารซึ่งภายในมีพันธบัตรมูลค่า 640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทาคางิไม่ยอมบอก กรูเบอร์จึงยิงทาคางิที่ศีรษะ แมคเคลนซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดรีบหนีหลังจากถูกโทนี ลูกน้องของกรูเบอร์ไล่ตาม แมคเคลนสู้กับโทนีจนฝ่ายหลังตกบันไดคอหักและยึดอาวุธและวิทยุสื่อสารของโทนีไป เขาใช้ติดต่อกับอัล พาวเวลล์ ตำรวจลอสแอนเจลิสเพื่อขอความช่วยเหลือ ต่อมากรูเบอร์ส่งลูกน้อง 2 คนคือไฮน์ริชและมาร์โคไปเพื่อกำจัดแมคเคลน แต่ทั้งสองคนกลับถูกแมคเคลนยิงเสียชีวิต ด้านพาวเวลล์ไปตรวจที่อาคารและพบกับเอ็ดดี ลูกน้องของกรูเบอร์ที่ปลอมเป็นฝ่ายต้อนรับ เมื่อไม่พบอะไรผิดสังเกต พาวเวลล์จึงขับรถออกไป แต่แมคเคลนโยนศพของมาร์โคลงมา ทำให้พาวเวลล์รีบขอกำลังเสริมมาที่อาคารนี้
ต่อมาหน่วยปฏิบัติการพิเศษได้บุกอาคาร แต่ถูกเจมส์และอเล็กซานเดอร์ ลูกน้องของกรูเบอร์ตอบโต้ด้วยจรวด แมคเคลนจึงใช้ระเบิด C4 ที่ยึดมาจากไฮน์ริชฆ่าทั้งสองคน แฮร์รี เอลลิส เพื่อนร่วมงานของฮอลลีเสนอตัวเป็นคนกลางในการเจรจาระหว่างแมคเคลนและกรูเบอร์ แต่แมคเคลนไม่ยอมรับข้อเสนอ กรูเบอร์จึงยิงเอลลิสเสียชีวิต ต่อมากรูเบอร์ออกไปตรวจดูระเบิดที่ชั้นดาดฟ้าและพบกับแมคเคลน แต่กรูเบอร์หลอกว่าตัวเองชื่อ บิล เคลย์และเป็นตัวประกันที่หนีออกมาได้ แมคเคลนให้ปืนเขาไว้เพื่อป้องกันตัว กรูเบอร์พยายามใช้ปืนยิงแมคเคลนแต่ปืนไม่มีกระสุน ก่อนที่แมคเคลนจะจัดการกรูเบอร์ คาร์ล ฟรังโกและฟริตซ์ ลูกน้องของกรูเบอร์ได้ตามมาและยิงต่อสู้กัน ฟรังโกและฟริตซ์เสียชีวิต ส่วนแมคเคลนหนีไปได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ FBI ได้เข้ามาดูแลสถานการณ์และสั่งตัดไฟฟ้าของอาคาร ซึ่งเข้าแผนของกรูเบอร์เพราะจะทำให้ตัวล็อกตัวสุดท้ายของห้องนิรภัยเปิดออก กรูเบอร์ขอเฮลิคอปเตอร์เพื่อใช้หลบหนี โดยเขามีแผนจะระเบิดดาดฟ้าเพื่อฆ่าตัวประกันทั้งหมดและหลอกว่าพวกเขาเสียชีวิตในการระเบิด แมคเคลนตามไปที่ดาดฟ้าและสู้กับคาร์ล ในขณะเดียวกันกรูเบอร์เห็นข่าวเกี่ยวกับครอบครัวแมคเคลนจึงอนุมานได้ว่าฮอลลีเป็นภรรยาของแมคเคลน กรูเบอร์จึงจับฮอลลีเป็นตัวประกัน ด้านแมคเคลนหลังจากจับคาร์ลแขวนคอและฆ่าอูลี ลูกน้องของกรูเบอร์ เขาขึ้นไปที่ดาดฟ้าและสั่งให้ตัวประกันทั้งหมดลงจากดาดฟ้า กรูเบอร์กดระเบิดทำลายดาดฟ้าและเฮลิคอปเตอร์ของ FBI ส่วนแมคเคลนหนีลงมาจากดาดฟ้าโดยผูกตัวเองกับสายดับเพลิง
ทีโอ ลูกน้องของกรูเบอร์ลงมาที่ลานจอดรถเพื่อหารถหลบหนี แต่ถูกอาร์กายล์ คนขับรถของแมคเคลนชกจนสลบ แมคเคลนสู้กับคริสตอฟฟ์ ลูกน้องของกรูเบอร์จนอีกฝ่ายสลบและพบกับกรูเบอร์ที่จับฮอลลีเป็นตัวประกันกับเอ็ดดี แมคเคลนทำท่าเหมือนยอมแพ้แล้วใช้ปืนที่ซ่อนไว้ด้านหลังยิงเอ็ดดีเสียชีวิต ส่วนกรูเบอร์ถูกแมคเคลนยิงจนทะลุออกนอกหน้าต่างแต่เกี่ยวนาฬิกาของฮอลลีไว้ เขาพยายามจะยิงแมคเคลนและฮอลลี แต่แมคเคลนปลดนาฬิกาได้ก่อน กรูเบอร์จึงร่วงลงไปเสียชีวิต
แมคเคลนและฮอลลีออกมาเจอพาวเวลล์ที่ด้านนอกอาคาร โดยมีคาร์ลซึ่งยังไม่เสียชีวิตตามออกมา แต่ถูกพาวเวลล์ยิงก่อนจนเสียชีวิต ส่วนอาร์กายล์ขับรถออกมารับแมคเคลนและฮอลลี ริชาร์ด ธอร์นเบิร์ก นักข่าวที่เสนอข่าวครอบครัวแมคเคลนขอสัมภาษณ์แมคเคลน แต่ถูกฮอลลีชก แมคเคลนและฮอลลีขึ้นรถโดยมีอาร์กายล์ขับออกไป
นักแสดง
แก้- บรูซ วิลลิส รับบท จอห์น แมคเคลน
- แอลัน ริกแมน รับบท ฮันส์ กรูเบอร์
- อเล็กซานเดอร์ กอดูนอฟ รับบท คาร์ล
- บอนนี่ เบเดเลีย รับบท ฮอลลี เจนเนโร-แมคเคลน
- เรจินัลด์ เวลจอห์นสัน รับบท อัล พาวเวลล์
- พอล กลีสัน รับบท ดเวย์น ที โรบินสัน
- เดโวโร่ ไวท์ รับบท อาร์กายล์
- วิลเลียม อเทอร์ตัน รับบท ริชาร์ด ธอร์นเบิร์ก
- ฮาร์ต บอชเนอร์ รับบท แฮร์รี่ เอลลิส
- เจมส์ ชิเกตะ รับบท โจเซฟ โยชิโนบุ ทาคางิ
อ้างอิง
แก้- ↑ "Die Hard". British Board of Film Classification. August 8, 1988. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 23, 2013. สืบค้นเมื่อ July 7, 2013.