โรงเรียนวีรศิลป์
โรงเรียนวีรศิลป์ เป็นโรงเรียนเอกชน ดำเนินงานโดยคณะบาทหลวงเขตมิสซังราชบุรี โรงเรียนตั้งอยู่เลขที่ 558 หมู่ 2 ถนนแสงชูโต (สายเก่า) ตำบลท่าม่วง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี อยู่ภายในบริเวณโบสถ์คาทอลิกแม่พระมหาทุกข์ 7 ประการ เยื้องที่ว่าการอำเภอท่าม่วง สถานีตำรวจภูธรท่าม่วงและย่านการค้าท่าม่วงหรือตลาดท่าม่วง โรงเรียนเนื้อที่ 11 ไร่ 2 งาน 2 ตารางวา [1] ในปัจจุบัน โรงเรียนวีรศิลป์ อยู่ในการกำกับดูแลของบาทหลวง ธาดา พลอยจินดา (ผู้อำนวยการ)
และบาทหลวงวรากร เจริญพาณิชย์(ผู้จัดการ
)
โรงเรียนประชาบาลนักบุญเทเรซา
แก้ราวปี พ.ศ. 2438 บรรดาคริสตชนที่อาศัยอยู่บริเวณสำรองอพยพย้ายครอบครัวมาตั้งหลักฐานในทำเลที่ดีกว่าอุดมสมบูรณ์กว่าซึ่งย้ายมาอยู่ที่ “ท่าม่วง” ปี พ.ศ. 2443 มีคริสตชนที่ท่าม่วงประมาณ 100 คน และปี พ.ศ. 2458 มีคริสตชนประมาณ 300 คน บาทหลวงเอมานูแอลได้สร้างโบสถ์เป็นเรือนไม้มุงสังกะสีและเสกเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ให้ชื่อว่าวัดแม่พระมหาทุกข์ 7 ประการ
โดยปกติเมื่อมีการสร้างโบสถ์สำหรับกลุ่มคริสตชน ก็จะมีการสร้างโรงเรียนควบคู่กับโบสถ์ด้วย ดังนั้นจึงมีการสร้างโรงเรียนหลังแรกชื่อว่า “โรงเรียนประชาบาลนักบุญเทเรซา” โดยมีบันทึกว่าอาคารเรียนเป็นอาคารโรงไม้เล็กๆ ฝากระดาน หลังคามุงจาก
โรงเรียนวีรวิทย์
แก้ปี พ.ศ. 2480 มีการเปลี่ยนแปลงโรงเรียนจากโรงเรียนประชาบาลนักบุญเทเรซาเป็นโรงเรียน “วีรวิทย์” พร้อมกับการสร้างอาคารเรียนเป็นอาคารคอนกรีต หลังคากระเบื้อง โรงเรียนวีรวิทย์ ดำเนินกิจการเพียง 2 ปี ก็หยุดการจัดการเรียนการสอนเนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง
โรงเรียนวีรศิลป์
แก้หลังจากสงครามสงบ ด้วยความพยายามของสัตบุรุษโบสถ์แม่พระมหาทุกข์ได้มีการขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียนขึ้นใหม่โดยยังคงใช้อาคารเรียนของโรงเรียนวีรวิทย์ เนื่องจากไม่สามารถใช้ชื่อเดิมในการขอจัดตั้งโรงเรียน ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษาชื่อเดิมให้มากที่สุดจึงให้ชื่อโรงเรียนหลังใหม่ว่า “โรงเรียนวีรศิลป์” โรงเรียนวีรศิลป์ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนโดยมีบาทหลวงการ์โล เดลลา โตร์เร เป็นเจ้าของโรงเรียน นายเท้ง ระดมกิจ เป็นผู้จัดการ และนายนิพนธ์ ชาวนาแก้ว เป็นครูใหญ่ เปิดทำการเรียนการสอนเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2491 เปิดเรียนครั้งแรกมีนักเรียนระดับชั้น ป.1 - ป.4 รวม 41 คน
การพัฒนาอาคารสถานที่และการจัดการศึกษา
แก้ด้านการพัฒนาด้านการจัดการศึกษา โรงเรียนจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ แรกเริ่มจัดการเรียนการสอนระดับชั้น ป.1 - ป.4 พ.ศ. 2511 จัดการเรียนการสอนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (หรือ ม.6 ตามหลักสูตรเดิม) และสามารถรับนักเรียนทั้งชายและหญิง ต่อมารับนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษา ด้านจำนวนนักเรียนได้รับอนุญาตให้รับนักเรียนจำนวนสูงสุดดังนี้ ปี พ.ศ. 2511 รับนักเรียนได้ 834 คน พ.ศ. 2513 รับนักเรียนได้ 1,104 คน พ.ศ. 2530 รับนักเรียนได้ 2,192 คน ปี พ.ศ. 2542 ได้รับอนุญาตรับนักเรียนได้ไม่เกิน 3,506 คน พร้อมกันนี้โรงเรียนจัดหาสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยส่งเสริมการจัดการเรียนการสอน เช่น ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ห้องปฏิบัติการภาษาอังกฤษ ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ห้องปฏิบัติการคณิตศาสตร์ เป็นต้น โรงเรียนวีรศิลป์เป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพในการจัดการศึกษา พ.ศ. 2503 ได้รับการรับรองวิทยฐานะเทียบเท่าโรงเรียนรัฐบาล จากกระทรวงศึกษาธิการชั้น ป.1 - ป.4 พ.ศ. 2510 ได้รับการรับรองวิทยฐานะเทียบเท่าโรงเรียนรัฐบาลอีกครั้งจากกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2542 ได้รับการประเมินคุณภาพจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน พ.ศ. 2547 ได้รับการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รอบแรก) พ.ศ. 2550 ได้รับการประเมินคุณภาพการศึกษา (รอบสอง) จากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประกันคุณภาพคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน สมศ.) ขณะเดียวก็มีการแต่งตั้งคณะกรรมการชมรมผู้ปกครองและครูโรงเรียนวีรศิลป์โดยนายไพศาล พนมศักดิ์ เป็นประธานชมรมฯและแต่งตั้งคณะกรรมการชมรมนักเรียนเก่าโรงเรียนวีรศิลป์ โดยกำนันสมเกียรติ วอนเพียร เป็นประธานชมรม และ พ.ศ. 2551 บาทหลวงรุ่งเรือง สารสุขสร้างห้องเฟื้องฟ้า สำหรับเตรียมเอกสาร เพื่อส่งโรงเรียนเข้าประเมินรางวัลพระราชทานระดับก่อนประถมศึกษา ขนาดใหญ่ ในโครงการการคัดเลือกนักเรียน นักศึกษา และสถานศึกษา เพื่อรับรางวัลพระราชประจำปีการศึกษา 2550 และได้รับรางวัลชมเชย และมีการจัดฉลองครบ 60 ปีโรงเรียนในปีเดียวกัน พ.ศ. 2554 บาทหลวงธาดา พลอยจินดา สร้างอาคารเรียนระดับประถม เป็นอาคารเรียน 4 ชั้น ให้ชื่อว่า “อาคารเดลลาโตร์เร” และขยายความจุนักเรียนเป็น 4,706 คน