โต ชิน ไชย
โต ชิน ไชย (จีนตัวย่อ: 杜进才; จีนตัวเต็ม: 杜進才; พินอิน: Dù Jìn Cái; เป่อ่วยยี: Tō Chìn-châi; 10 ธันวาคม ค.ศ. 1921 – 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012) เป็นนักการเมืองชาวสิงคโปร์ เป็นนักการเมืองคนสำคัญของประเทศรุ่นแรก ภายหลังประเทศสิงคโปร์ ประกาศเอกราชในปี ค.ศ. 1965 โต ชิน ไชย ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965 จนถึงปี ค.ศ. 1968 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1968 จนถึงปี ค.ศ. 1975 ดำรงตำแหน่งประธานพรรคกิจประชาชน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1954 จนถึงปี ค.ศ. 1981 และเป็นรองประธานมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1968 จนถึงปี ค.ศ. 1975 ภายหลังจากการลาออกจากคณะรัฐมนตรีในปี ค.ศ. 1981 โต ชิน ไชย ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในตำแหน่งคนนั่งข้างหลัง จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1988 เขาได้วางมือจากการเมือง
โต ชิน ไชย | |
|---|---|
| 杜进才 | |
| รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คนที่ 1 | |
| ดำรงตำแหน่ง 5 Jมิถุนายน ค.ศ. 1959 – 2 สิงหาคม ค.ศ. 1968 | |
| ประธานาธิบดี | ยูซฟ บิน อิซฮัก |
| นายกรัฐมนตรี | ลี กวนยู |
| ก่อนหน้า | อับดุล ฮามิด จูมัต (ในฐานะรองหัวหน้าคณะรัฐมนตรี) |
| ถัดไป | Goh Keng Swee (1973) |
| เขตเลือกตั้ง | Rochor SMC |
| ประธานพรรคกิจประชาชน | |
| ดำรงตำแหน่ง 21 ธันวาคม ค.ศ. 1954 – 8 มกราคม ค.ศ. 1981 | |
| ก่อนหน้า | ก่อตั้งตำแหน่ง |
| ถัดไป | Ong Teng Cheong |
| เขตเลือกตั้ง | Rochor SMC |
| รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพ | |
| ดำรงตำแหน่ง 2 มิถุนายน ค.ศ. 1975 – 5 มกราคม ค.ศ. 1981 | |
| นายกรัฐมนตรี | ลี กวนยู |
| ก่อนหน้า | Chua Sian Chin |
| ถัดไป | Goh Chok Tong |
| เขตเลือกตั้ง | Rochor SMC |
| รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | |
| ดำรงตำแหน่ง 16 เมษายน ค.ศ. 1968 – 1 มิถุนายน ค.ศ. 1975 | |
| นายกรัฐมนตรี | ลี กวนยู[1] |
| ก่อนหน้า | ก่อตั้งตำแหน่ง |
| ถัดไป | Lee Chiaw Meng |
| เขตเลือกตั้ง | Rochor SMC |
| รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ | |
| ดำรงตำแหน่ง 1968–1975 | |
| ก่อนหน้า | Lim Tay Boon |
| ถัดไป | Kwan Sai Kheong |
| Member of the สิงคโปร์ Parliament for Rochor SMC | |
| ดำรงตำแหน่ง 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1959 – 17 สิงหาคม ค.ศ. 1988 | |
| ก่อนหน้า | ก่อตั้งเขตเลือกตั้ง |
| ถัดไป | ยุบเขตเลือกตั้ง |
| สมาชิกรัฐสภามาเลเซีย ตัวแทนสิงคโปร์ | |
| ดำรงตำแหน่ง 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 1963[2] – 9 สิงหาคม ค.ศ. 1965 | |
| ก่อนหน้า | ก่อตั้งตำแหน่ง |
| ถัดไป | ยุบตำแหน่ง |
| ข้อมูลส่วนบุคคล | |
| เกิด | 10 ธันวาคม ค.ศ. 1921 บาตูกาจะฮ์ รัฐเประ บริติชมาลายา |
| เสียชีวิต | 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 (90 ปี) ประเทศสิงคโปร์ |
| พรรคการเมือง | พรรคกิจประชาชน |
| คู่สมรส | Florence Yeapp Sui Phek (แต่งงาน ค.ศ. 1962) |
| ศิษย์เก่า | สถาบันเซนต์จอร์จ Anglo-Chinese School[3] Raffles College มหาวิทยาลัยลอนดอน National Institute for Medical Research |
| รางวัล | Order of Nila Utama (ชั้นแรก)[3] |
โต ชิน ไชย จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเซนต์จอห์นในรัฐเประ และโรงเรียนอังกฤษ-จีนในอีโปะฮ์ จบการศึกษาปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยลอนดอน ในปี 1946 และปริญญาเอกสาขาสรีรวิทยา จากสถาบันวิจัยเพื่อการแพทย์แห่งสหประชาชาติ[4]
เสียชีวิต แก้
โตเสียชีวิตขณะนอนหลับในบ้านของเขาที่ Greenview Crescent, บูกิตตีมะฮ์ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 ณ เวลา 9:30 น. (GMT+8) ด้วยวัย 90 ปี[5] คงเหลือเพียงลูกเขยและหลานสี่คนในช่วงอายุ 4 ถึง 15 ปี[6] เขาได้รับการฝังแบบส่วนตัวตามคำประสงค์ของเขาในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 ที่ฌาปนสถานมันได[7] โดยมีการนำธงชาติมาปูบนโลงและมีการยิงปืนตามพิธี ในวันฝังศพมีการลดธงสิงคโปร์ที่ครึ่งเสา
อ้างอิง แก้
- ↑ Poh, Soo Kai (16 February 2012). "On Dr Toh Chin Chye". singaporerebel.blogspot.sg. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 January 2015. สืบค้นเมื่อ 9 January 2015.
- ↑ "PARLIAMENTARY DEBATES DEWAN RA'AYAT (HOUSE OF REPRESENTATIVES) OFFICIAL REPORT" (PDF). Dewan Rakyat. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 29 August 2016. สืบค้นเมื่อ 19 August 2019.
- ↑ 3.0 3.1 Benson Ang (February 2012). "Dr Toh Chin Chye:1921–2012 VIP With Simple Taste". The New Paper. Singapore. pp. 4, 6.
- ↑ "Toh Chin Chye". National University of Singapore. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 June 2011. สืบค้นเมื่อ 21 June 2011.
- ↑ "Remembering Dr Toh Chin Chye". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 มกราคม 2015. สืบค้นเมื่อ 9 มกราคม 2015.
- ↑ "Former deputy PM & PAP founding member Toh Chin Chye dies". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 February 2012. สืบค้นเมื่อ 3 February 2012.
- ↑ "Tributes pour in at Dr Toh's funeral". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 February 2012. สืบค้นเมื่อ 7 February 2012.