แดโมกรีโตส
แดโมกรีโตส (กรีก: Δημόκριτος, Dēmókritos, [dɛː.mó.kri.tos]) หรือ ดิมอคริตัส (Democritus) เป็นนักปรัชญาชาวกรีก ในราว 460 – 370 ปีก่อน ค.ศ.หรือ พ.ศ.83 – 173 ที่เมืองอับแดรา ในแคว้นเธรซ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของชายฝั่งทะเลอีเจียน เขาเป็นศิษย์ของผู้ก่อตั้งสำนักปรัชญาปรมาณูนิยมที่มีชื่อว่า เลวกิปโปส นักปรัชญาร่วมสมัยกับเขา คือ อานักซาโกรัส แดโมกรีโตสได้ใช้เวลาในการศึกษาโหราศาสตร์ในอียิปต์ เป็นเวลาถึง 7 ปี เขาได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ไว้จำนวนมาก และเขาเป็นผู้ให้กำเนิดทฤษฎีอะตอม และระบบจักรวาลวิทยา
แดโมกรีโตส | |
---|---|
แดโมกรีโตส | |
เกิด | ราว 460 ก่อน ค.ศ. |
เสียชีวิต | ราว 370 ก่อน ค.ศ. |
ยุคสมัย | ปรัชญายุคก่อนโสเครตีส |
แดโมกรีโตสเป็นนักปราชญ์รุ่นหลัง ของพีทาโกรัส เขาเป็นผู้ที่ไขความลับเกี่ยวกับทางช้างเผือก ว่าเป็นดาวจำนวนมากที่อยู่รวมกันอย่างหนาแน่น โดยใช้หลักทฤษฎีอะตอมมาอธิบาย เช่น การเคลื่อนไหวของอะตอมในอวกาศ ทำให้เห็นดวงจันทร์ เพราะอะตอมของดวงจันทร์ ได้เข้ามาสัมผัสในตาของเขา จึงทำให้เขาเห็นเช่นนั้น
เขาไม่เชื่อเรื่องวิญญาณ เขาเชื่อว่าสิ่งเดียวที่มีอยู่คือ อะตอมและช่องว่าง เพราะเขาไม่เชื่อในอะไร นอกจากสิ่งที่จับต้องได้ เขาจึงได้รับสมญาอีกอย่างว่า นักวัตถุนิยม ซึ่งเขาเชื่อว่า แม้แต่วิญญาณก็เกิดมาจากอะตอมวิญญาณ ที่เมื่อสิ่งมีชีวิตตายอะตอมนี้จะกระจัดกระจายไปทุกทิศทุกทาง และกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของวิญญาณดวงใหม่ ซึ่งหมายความว่ามนุษย์ไม่มีวิญญาณที่เป็นนิรันดร์ แดโมกรีโตสเชื่อว่า วิญญาณมีส่วนเกี่ยวข้องกับสมอง ถ้าสมองเสื่อม มนุษย์ก็จะไม่มีสติสัมปชัญญะ ไม่ว่ารูปแบบใด
ทฤษฎีอะตอมของแดโมกรีโตสถือเป็นจุดสิ้นสุดของยุคปรัชญาธรรมชาติกรีกในเวลานั้น เขาเห็นด้วยกับเฮราคลิตุสว่า ทุกสิ่งในธรรมชาติเลื่อนไหล เนื่องจากรูปแบบต่างๆเกิดขึ้นและเสื่อมสลายไป แต่เบื้องหลังทุกอย่างที่เลื่อนไหลนั้น มีสิ่งที่เป็นนิรันดรและไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือ อะตอม
เขากล่าวว่าปฐมธาตุไม่ใช่ดิน น้ำ ลม ไฟ แต่คือปรมาณู หรือ อะตอม ซึ่งเขาได้ความหมายของคำว่าปรมาณูไว้ว่า "ปรมาณูเป็นวัตถุที่มีขนาดเล็กที่สุดไม่สามารถจะแบ่งย่อยได้อีกแล้ว จึงหมายถึงของสิ่งเดียวกับ "อะตอมที่หมายถึงสิ่งที่ไม่อาจตัดแบ่งออกไปได้อีก"