เพชรชมพู กิจบูรณะ

เป็นนักการเมืองชาวไทย ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรร

เพชรชมพู กิจบูรณะ เป็นนักการเมืองชาวไทย ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรครวมพลังประชาชาติไทย ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่อายุน้อยที่สุดในสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 25[1]

เพชรชมพู กิจบูรณะ
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด19 ตุลาคม พ.ศ. 2536 (30 ปี)
พรรคการเมืองรวมพลังประชาชาติไทย (พ.ศ. 2561-2564)

ประวัติ แก้

เพชรชมพู กิจบูรณะ เกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2536 ที่กรุงเทพมหานคร เข้าเรียนระดับประถมในประเทศไทย จากนั้นเข้าเรียนชั้นมัธยมในประเทศสิงคโปร์ ต่อมาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี Bachelor of Arts (Philosophy, Politics & Economics) จากมหาวิทยาลัยเดอรัม ประเทศอังกฤษ และ Bachelor of Law BPP UNIVERSITY ประเทศอังกฤษ

การทำงาน แก้

เพชรชมพู กิจบูรณะ ทำกิจกรรมเกี่ยวกับการเมืองโดยเคยขึ้นปราศรัยบนเวที กปปส.[2] รวมถึงยังเคยเป็นตัวแทนประเทศขึ้นเวทีระดับโลกอย่าง One Young World เมื่อปี 2557 ที่ประเทศไอร์แลนด์[3]

เพชรชมพู เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และเป็นโฆษกพรรค[4] และลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรครวมพลังประชาชาติไทย ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ที่มีอายุน้อยที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร[5]

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม ปี พ.ศ. 2564 เธอได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย ส่งผลให้พ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. ในทันที[6] โดยมี นางสุเนตตา แซ่โก๊ะ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน[7]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้

อ้างอิง แก้

  1. ใครคือ ‘น้องเพชร’ ส.ส.หน้าใหม่ พรรคลุงกำนัน น้องเล็กสุด อายุเท่านี้ ดีกรีไม่เบา!
  2. “เพชรชมพู กิจบูรณะ” ดาวเด่นพรรครปช. วัย25-ดีกรีเดอรัม ฝันทำการเมืองของประชาชน
  3. สภาผู้แทนราษฎร
  4. คลื่นลูกใหม่การเมืองไทย "เพชรชมพู กิจบูรณะ"
  5. ใครคือ 'น้องเพชร' ส.ส.หน้าใหม่ พรรคลุงกำนัน น้องเล็กสุด อายุเท่านี้ ดีกรีไม่เบา!
  6. ‘เพชรชมพู กิจบูรณะ’ ลาออกจากพรรค รปช.แล้ว มีผลให้สิ้นสภาพ ส.ส. ทันที
  7. ประกาศสภาผู้แทนราษฎร
  8. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓