ฮอนด้า ซีวิคไทป์อาร์

ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ (ญี่ปุ่น: ホンダ・シビックタイプRโรมาจิHonda Shibikku Taipuāru) (อังกฤษ: Honda Civic Type R) เป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดของฮอนด้า ซีวิค ผลิตโดยบริษัทฮอนด้ามอเตอร์ของญี่ปุ่น มีคุณสมบัติตัวถังที่เบาและแข็งแรงกว่าเดิม ด้านเครื่องยนต์ได้ถูกปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพของเบรกให้ดีขึ้น ใช้สีแดงในตราสัญลักษณ์และภายในเพื่อให้ดูมีความสปอร์ตและให้ดูแยกออกมาจากรุ่นฮอนด้าอื่นๆ

ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์
ภาพรวม
บริษัทผู้ผลิตฮอนด้า
เริ่มผลิตเมื่อพ.ศ. 2540–ปัจจุบัน
ตัวถังและช่วงล่าง
ประเภทรถยนต์นั่งขนาดเล็กสมรรถนะสูง
รูปแบบตัวถัง3 ประตู แฮทช์แบ็ก (พ.ศ. 2540–2554)
5 ประตู แฮทช์แบ็ก (พ.ศ. 2558–2565)
4 ประตู เก๋ง (พ.ศ. 2550–2554; เฉพาะ FD2)
5 ประตู ลิฟต์แบ็ก (พ.ศ. 2565–ปัจจุบัน)
โครงสร้างเครื่องวางหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า
รุ่นที่คล้ายกันฮอนด้า ซีวิค เอสไอ

ลำดับรุ่น แก้

รุ่นที่ 1 (2540–2543; EK9) แก้

 
EK9 รุ่นแรกก่อนปรับปรุง (1997–1998)
EK9 รุ่นแรกก่อนปรับปรุง (1997–1998) 
 
EK9 รุ่นแรกก่อนปรับปรุง (ด้านหลัง)
EK9 รุ่นแรกก่อนปรับปรุง (ด้านหลัง) 
 
ภายใน
ภายใน 
 
EK9 รุ่นแรกหลังปรับปรุง (1998–2000)
EK9 รุ่นแรกหลังปรับปรุง (1998–2000) 
 
EK9 รุ่นแรกหลังปรับปรุง (ด้านหลัง)
EK9 รุ่นแรกหลังปรับปรุง (ด้านหลัง) 

เปิดตัวในช่วงปี 1997 (พ.ศ. 2540) และถือเป็นการเปิดศักราชให้กับ Type R ให้กับรถยนต์คอมแพ็กต์รุ่นดังของพวกเขาอย่าง Civic โดย Honda เลือกหยิบเอา Civic ตัวถังแฮทช์แบ็กแบบ 3 ประตูมาปรับปรุงใหม่ด้วยเอกลักษณ์ที่ถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับ Type R นั่นคือ ตัวถังที่มากับสีขาวโทน Championship White (แต่ในรุ่นนี้มีสีเหลืองเป็นอีกทางเลือก) ล้อแม็กสีขาว ภายในสีแดงพร้อมเบาะ Recaro และเครื่องยนต์ที่ถูกรีดแรงม้าในรอบสูงเหมือนกับรถแข่งจับคู่กับเกียร์ธรรมดา

Civic Type R รุ่นแรกถือเป็น JDM อย่างแท้จริง เพราะมีขายเฉพาะในตลาดญี่ปุ่นเท่านั้น ที่เหลือคือการนำเข้าผ่านตัวแทนจำหน่ายทั้งแบบถูกต้องและผ่านทางผู้นำเข้ารายย่อย โดยเครื่องยนต์ที่นำมาติดตั้งในรุ่นนี้ต้องบอกว่าเกิดมาเพื่อ Civic Type R เพราะขุมพลัง B16B มีเฉพาะในรถยนรต์รุ่นนี้ และเป็นเครื่องยนต์ 1,600 ซีซีที่รีดกำลังออกมาในช่วงรอบสูงมาก โดยมีตัวเลข 185 แรงม้าที่ 8,200 รอบ/นาที โดยที่แถบ Redline ของเครื่องยนต์เริ่มต้นที่ 8,500 รอบ/นาที และจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ

รุ่นที่ 2 (2544–2548; EP3) แก้

 
EP3 รุ่นที่ 2 ก่อนปรับปรุง (2001–2003)
EP3 รุ่นที่ 2 ก่อนปรับปรุง (2001–2003) 
 
EP3 รุ่นที่ 2 ก่อนปรับปรุง (ด้านหลัง)
EP3 รุ่นที่ 2 ก่อนปรับปรุง (ด้านหลัง) 
 
EP3 รุ่นที่ 2 หลังปรับปรุง (2003–2005)
EP3 รุ่นที่ 2 หลังปรับปรุง (2003–2005) 
 
EP3 รุ่นที่ 2 หลังปรับปรุง (ด้านหลัง)
EP3 รุ่นที่ 2 หลังปรับปรุง (ด้านหลัง) 
 
ภายใน
ภายใน 

อยากอยู่รอดต้องรู้จักปรับตัว แน่นอนว่า Honda มองไกลกว่าในตลาดญีปุ่น เพราะในยุโรปยังมีตลาดกลุ่มหนึ่งที่ถือว่ามียอดขายสูง และได้รับความนิยมจากคนที่นั่น ซึ่งก็คือตลาด Hot Hatch หรือพวกรถยนต์แฮทช์แบ็กที่มีพลังแรงอย่าง Volkswagen GTI หรือ Opel OPC นั่นทำให้จุดเริ่มต้นในการพัฒนา Civic Type R รุ่นที่ 2 ต้องเกิดมาเพื่อรองรับกับลูกค้าทั้งในญี่ปุ่น และยุโรป โดยใช้จุดศูนย์กลางในการพัฒนาอยู่ที่ Honda UK ที่เมืองสวินดอน ประเทศอังกฤษ และใช้พื้นฐานของ Civic 3 ประตู

ในรุ่นนี้เปิดตัวเมื่อปี 2001 (พ.ศ. 2544) และยังคงคอนเซ็ปต์ในเรื่องการถ่ายทอดความแรงจากสนามแข่งสู่รถยนต์ใช้งานบนถนน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนคือ การเพิ่มกำลังด้วยการใช้เครื่องยนต์ซีซีสูง แทนที่จะรีดรอบเครื่องยนต์จากเครื่องยนต์บล็อกเล็กเหมือนกับรุ่นแรกเพื่อสร้างสัมผัสจากสนามแข่งโดยเฉพาะการลากรอบเครื่องยนต์สูงๆ เหมือนกับรถแข่ง

ดังนั้นในแง่ของเครื่องยนต์จึงถูกเปลียนจากรหัส B มาเป็น K20A ที่มีความจุ 2,000 ซีซี พร้อมกับขยับกำลังของเครื่องยนต์เป็น 200-215 แรงม้าสำหรับใช้ในการแข่งขันกับคู่ปรับในตลาดยุโรปอย่าง Volkswagen Golf GTi, Opel Astra OPC, Peugeot 307GTI โดยตัวถังยังใช้แบบแฮทช์แบ็ก 3 ประตูเหมือนเดิม

รุ่นที่ 3 (2550–2554; FD2/FN2) แก้

 
FD2 รุ่นที่ 3 (Japanese version)
FD2 รุ่นที่ 3 (Japanese version) 
 
ภายในรุ่น Sedan
ภายในรุ่น Sedan 
 
FN2 รุ่นที่ 3 (European and international version)
FN2 รุ่นที่ 3 (European and international version) 
 
ภายในรุ่น Hatchback
ภายในรุ่น Hatchback 

ถือเป็นครั้งแรกใน 2 เรื่อง คือ เป็นครั้งแรกที่ Civic Type R ใช้ตัวถังซีดาน ซึ่งเป็นเพราะในตลาดญี่ปุ่น Honda มีความเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายการจำหน่ายรถยนต์ที่หันมาเจาะตลาดใหญ่ขึ้น แม้ Civic ยังมี 3 เวอร์ชันเหมือนเดิม คือ สำหรับตลาดญี่ปุ่น อเมริกา และยุโรป แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ เวอร์ชันญี่ปุ่นและอเมริกามีการใช้พื้นฐานเดียวกัน แต่ปรับเปลี่ยนแค่หน้าตาเล็กน้อยคือ ไฟหน้าและไฟท้าย (ซึ่งในรุ่นนี้เวอร์ชันญี่ปุ่น และไทยใช้ร่วมกัน) โดยในญี่ปุ่นไม่มีตัวถังแฮทช์แบ็กทำตลาดอีกต่อไป และนั่นทำให้ Civic Type R จึงต้องใช้พื้นฐานของตัวถังซีดาน จึงเป็นที่มาของ FD2 ซึ่งเป็นรหัสตัวถังด้านท้ายซ้ำกับรุ่น 2,000 ซีซีของ Civic รุ่นธรรมดา แต่รหัสด้านหน้าจะแตกต่างกัน

ตัวรถเปิดตัวในปี 2007 (พ.ศ. 2550) และถือเป็นครั้งแรกเช่นกันที่ Honda ส่ง Civic Type R ที่เป็นเวอร์ชัน JDM ออกขายนอกญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ โดยในรุ่นนี้มีจำหน่ายที่ประเทศมาเลเซีย ส่วนเครื่องยนต์ที่ทำตลาดเป็นรหัส K20A แบบ 4 สูบ 2,000 ซีซีแต่ปรับกำลังขับเคลื่อนเป็น 225 แรงม้า และจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ

สำหรับเรื่องที่ 2 คือ เป็นครั้งแรกที่ Civic Type R มี 2 เวอร์ชัน โดยนอกจากเวอร์ชัน JDM ที่มีวางขายประเทศอื่นๆ อย่างที่บอกข้างต้นด้วยนั้น ยังมี Civic Type R เวอร์ชันยุโรปด้วย โดยจะใช้รหัส FN2 ซึ่ง Civic Type R รุ่นนี้ใช้พื้นฐานของ Civic แฮทช์แบ็กแบบ 3 ประตูซึ่งจะเป็นคนละแพล็ตฟอร์มกับ Civic FD ที่มีขายอยู่ในบ้านเรา ซึ่งในรุ่นนี้ Honda ยังคงเดินหน้าในการเจาะตลาด Hot Hatch ของยุโรปเช่นเคย และใช้เครื่องยนต์ K20Z4 แบบ 4 สูบ 2,000 ซีซี ที่มีกำลัง 201 แรงม้า ที่ 7,800 รอบ/นาที โดยในเวอร์ชันนี้ยังมีส่งกลับเข้ามาขายในญี่ปุ่นด้วย และใช้ชื่อว่า Honda Civic Type R Euro โดยมีการนำเข้าไปทำตลาด 2 ล็อตรวม 3,500 คัน

รุ่นที่ 4 (2558–2560; FK2) แก้

 
รถต้นแบบ Civic Type-R ที่งาน 2014 Geneva Motor Show
รถต้นแบบ Civic Type-R ที่งาน 2014 Geneva Motor Show 
 
FK2 รุ่นที่ 4
FK2 รุ่นที่ 4 
 
FK2 รุ่นที่ 4 หลังปรับปรุง
FK2 รุ่นที่ 4 หลังปรับปรุง 
 
ภายใน
ภายใน 

เปิดตัวในปี 2015 (พ.ศ. 2558) โดยใช้พื้นฐานของ Honda Civic เจนเนอเรชั่นที่ 9 พร้อมความเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง นั่นคือ Honda มี Civic มีวางจำหน่ายโดยใช้ตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตูที่อ้างอิงจากพื้นฐานของ Civic ที่ขายในยุโรป พร้อมกับปรับปรุงในเรื่องของสมรรถนะที่อัพเกรดและยกระดับเพื่อทัดเทียมกับคู่ปรับในตลาดซึ่งในกลุ่ม Hot Hatch นั้นขยับขึ้นเป็นมีกำลังอยู่ที่ 300 แรงม้า

Honda เปิดตัว Civic Type R รุ่นนี้ในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2015 พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ที่เป็นรหัส K20C1 หันมาใช้การจ่ายน้ำมันบบ Direct Injection เข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง พร้อมเทอร์โบ และเทคโนโลยี Earth Dreams ซึ่งทำให้ช่วยลดมลพิษ และประหยัดน้ำมันมากขึ้น ตัวรถรีดกำลังออกมาได้ 310 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์ธรรดา 6 จังหวะ ใช้เวลาเพียง 5.7 วินาทีในการทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง

รุ่นนี้ผลิตที่โรงงานในสวินดอน ประเทศอังกฤษ และในปี 2015 มีการส่งออกไปยังตลาดญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน และมียอดขายอยู่ที่ 750 คันเท่านั้น

รุ่นที่ 5 (2560–2565; FK8) แก้

 
รถต้นแบบ Civic Type-R Prototype ที่งาน 2017 Osaka Auto Messe
รถต้นแบบ Civic Type-R Prototype ที่งาน 2017 Osaka Auto Messe 
 
FK8 รุ่นที่ 5 (2017–2019)
FK8 รุ่นที่ 5 (2017–2019) 
 
FK8 รุ่นที่ 5 (ด้านหลัง)
FK8 รุ่นที่ 5 (ด้านหลัง) 
 
FK8 รุ่นที่ 5 (2020)
FK8 รุ่นที่ 5 (2020) 
 
FK8 รุ่นที่ 5 (ด้านหลัง)
FK8 รุ่นที่ 5 (ด้านหลัง) 
 
ภายใน
ภายใน 

รุ่นที่ 4 ของ Civic Type R มีการทำตลาดในช่วงสั้นๆ และในปี 2017 (พ.ศ. 2560) Honda ได้ส่ง Civic Type R ใหม่ลงสู่ตลาดบนตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตูที่อยู่บนพื้นฐานของ Civic FK รุ่นที่ 10 พร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบ ซึ่งจะมีกำลังอยู่ในระหว่าง 310-320 แรงม้า พร้อมเกียร์ธรรมดาแบบอัตราทดชิด 6 จังหวะ

เพื่อความพิเศษ Honda ได้ส่ง Civic Type R รุ่นนี้ลงทดสอบในสนามนูร์บูร์กริง ที่ประเทศเยอรมนี และสามารถทำเวลาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยระยะทาง 1 รอบสนามซึ่งอยู่ที่ 20 กิโลเมตรใช้เวลาอยู่ที่ 7 นาที 43.80 วินาที

Honda Civic Type R (ฮอนด้า ซีวิค ไทป์อาร์) รถซีดานตัวแรงสุดของค่ายนี้ ยืนหนึ่งเรื่องยอดขายในต่างประเทศ เพราะมีกำลังสูง ราคาเอื้อมถึงง่าย ที่ล่าสุดได้เปิดตัวรุ่นพิเศษ แต่งด้วยแรงบันดาลใจจากรถแข่ง ในราคาแพงขึ้นอีก 280,000 บาท ทำให้เมื่อคิดเป็นเงินไทยรวมภาษี อาจจะสูงถึง 4.9 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับ Ford Mustang GT ทำให้คนรวยในไทยอาจเกิดความลังเลเล็กน้อย

รุ่นที่ 6 (2565–ปัจจุบัน; FL5) แก้

 
Honda Civic Type R (FL5) รุ่นที่ 6
Honda Civic Type R (FL5) รุ่นที่ 6 
 
ด้านหลัง
ด้านหลัง 
 
ภายใน
ภายใน 

Honda Civic Type R Prototype เคยเผยโฉมในงาน Tokyo Auto Salon 2022 ระหว่างวันที่ 14 มกราคม – 16 มกราคม 2022 และ กำหนดการเปิดตัวภายในเดือนมิถุนายน 2022 แต่ยังไม่ระบุวันเวลาอย่างเป็นทางการ (สหรัฐอเมริกาจะเปิดตัวในเดือนกรกฎาคมระหว่าง งาน NTT IndyCar Series ที่มิดโอไฮโอ)

Stephen Collins ผู้อำนวยการของ Honda Australia ให้สัมภาษณ์ กับ นิตยสาร Carsales ระบุว่า HONDA CIVIC TYPE R ใหม่ จะเปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2022

HONDA CIVIC Type R ได้ทำการทดสอบอย่างต่อเนื่องล่าสุดเป็นการเผยภาพทีเซอร์อย่างเป็นทางการแบบปกปิดบนสนามเนือร์บูร์กริง เมืองเนือร์บวร์ค รัฐไบเอิร์น ใกล้อุทยานแห่งชาติไอเฟิล ทางตะวันตกของประเทศเยอรมนี

HONDA CIVIC Type R มาพร้อมรูปลักษณ์การออกแบบที่สปอร์ตมากขึ้น Type R ส่วนหน้ามีความดุดันอย่างมาก ช่องรับอากาศด้านล่างใหญ่ขึ้น ขนาบด้วยช่องที่คาดว่าเป็นระบายอากาศที่ซ่อนอยู่ใต้ลายพลางสีแดง-ดำ โดยรวมกระจังหน้าหนาขึ้นดูเหมือนว่า Type R ใหม่จะมีช่องระบายอากาศเทียมน้อยกว่ารุ่นก่อนมาก ชิ้นส่วนพลาสติกขนาดใหญ่ด้านหลังหายไป ที่น่าสนใจคือท่อไอเสียแบบสามท่อที่ติดตั้งไว้ตรงกลางยังคงเอกลักษณ์ พร้อมสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ คาลิปเปอร์เบรกสีแดงของ Brembo และยาง Michelin Pilot Sport 4 ตามที่คาดไว้ การตกแต่งภายในส่วนใหญ่ มาจากแฮทช์แบคมาตรฐาน รวมทั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว หน้าปัดดิจิตอล 7-10.2 นิ้ว แตกต่างที่เบาะนั่งแบบสปอร์ตสีแดงเดินด้ายแดง พร้อมสัญลักษณ์ Type R พวงมาลัยหุ้ม Alcantara เกียร์ธรรมดา 6 สปีดที่มีปุ่มโลหะคล้ายกับที่พบในรุ่นก่อน

All-New Honda Civic Type R เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เดือนมิถุนายนนี้! อาจเป็นเครื่องยนต์สันดาปตัวสุดท้าย เฝ้ารอกันมาเนินนานสำหรับ All-New Honda Civic Type R เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด ในที่สุดก็กำลังจะมาถึงแล้ว โดยทาง Honda Australia ได้ออกมาเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า Honda Civic Type R รุ่นใหม่ จะเปิดตัวในตลาดโลกเดือนมิถุนายนนี้

หลังจากมีกระแสข่าวพร้อทภาพ Spyshot และ Teaser จากทางการมานานแรมปี เราก็จะได้พบกับตัวแรงจากค่าย VTEC อย่าง Honda Civic Type R รุ่นล่าสุด ในอีกไม่กี่อึดใจ หลังทางการประกาศกำหนดการเปิดตัวในวันที่ 20 กรกฏาคม พ.ศ. 2565 เวลา 19.00 น. ตามเวลาของสหรัฐฯ พร้อมระบุว่านี่จะเป็นรถยนต์ production ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ Honda เคยทำขายในอเมริกา

Teaser ล่าสุดเผยให้เห็นว่า Honda Civic Type R รุ่นถัดไป มาพร้อมกับชุดแต่งเฉพาะรุ่นพร้อมเอกลักษณ์โลโก้สีแดง ทั้งยังมีกระจังหน้าและช่องลมกระจังหน้าแบบตาข่าย ส่วนรายละเอียดอื่นอ้างอิงจากภาพชุดก่อนที่เผยให้เห็นดีไซน์รอบคัน ทั้งท้าย Hatahback, สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ และ ท่อไอเสียออกกลาง คาดว่าขุมพลังของ Honda Civic Type R เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อคู่หน้าพร้อม limited slip differential การันตีสมรรถนะด้วยการทำเวลาต่อรอบสนามแข่ง Suzuka Racing ได้ไวที่สุดในกลุ่มรถยนต์ขับหน้า เอาชนะแชมป์เก่าซึ่งเป็น Honda Civic Type R รุ่นปัจจุบัน ไปในเสี้ยววินาที

เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีของรถตระกูล TYPE-R นับตั้งแต่เปิดตัวเอ็น NSX TYPE-R ในปี 1992 สำหรับรถรุ่นCivic TYPE-R ที่เริ่มเปิดตัวครั้งแรกในปี 1997 ก็นับเป็นเวลาครบ 25 ปีพอดี ในขณะที่ฮอนด้าเพิ่งจะฉลองครบรอบ 50 ปีของรถตระกูลCivic นี้ไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2022 ที่ผ่านมา และที่สำคัญฮอนด้า Civic TYPE-R รหัสตัวถัง FL5 คันนี้จะเป็นรถตระกูล TYPE-R ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นสุดท้ายก่อนที่จะหันไปพ่วงระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในรูปแบบ e:HEV หรือ EV ในรุ่นต่อๆไป

แต่ทว่าการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งนี้ทางฮอนด้าเองก็ยังไม่เผยรายละเอียดเรื่องข้อมูลเชิงเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขแรงม้าแรงบิดของเครื่องยนต์ หรือข้อมูลเรื่องช่วงล่าง ระบบส่งกำลัง เพียงแต่โชว์จุดเด่นและปล่อยภาพภายนอกภายในรอบคันให้เห็นกันเสียก่อนที่จะมีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน

สำหรับเครื่องยนต์ถึงแม้จะไม่มีการเผยข้อมูลและตัวเลขสมรรถนะต่างๆ ในตอนนี้ แต่ทางแหล่งข่าวต่างประเทศรวมไปถึงรูปภาพอย่างเป็นทางการก็ได้บ่งชี้แล้วว่าฮอนด้า Civic TYPE-R รุ่นใหม่นี้จะยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรเทอร์โบยกมาจากรุ่นก่อนหน้านี้จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หน้า โดยตัวเลขแรงม้าที่หลายสื่อได้คาดการณ์ น่าจะอยู่ในช่วงระหว่าง 320 ถึง 350 แรงม้า โดยที่ยังไม่มีข่าวว่าจะมีทางเลือกเกียร์อัตโนมัติในอนาคตหรือไม่

All NEW Civic Type R สร้างบนแนวคิด Ultimate SPORT ใช้พื้นฐานของ Civic Hatchback รหัสตัวถัง FL ที่ไม่ทำตลาดในไทย ขยายโป่งล้อ แก้มข้าง ให้รับกับสมรรถนะที่ก้าวกระโดด ด้วยทีมวิศวกร ซึ่งนำทีมโดย Hideki Kakinuma

ล่าสุด ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวภายใน ว่า Honda ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว All NEW Civic Type R (FL5) ในบ้านเรา ช่วงเดือน ธันวาคม นี้ ! คาดเจอกันในงาน Motor Expo 2022 ระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2565 นี้ !

และ นี่ถือเป็นข่าวเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนๆ Honda ชาวไทย ที่บริษัทแม่ Honda ประเทศไทย นำเข้า Civic Type R ทั้งคันจากประเทศ  ญี่ปุ่น มาทำตลาดในบ้านเรา 330 แรงม้า ตัวแรง นำเข้าทั้งคัน (CBU Japan) พบรถคันจริง All NEW Honda Civic Type R ได้ที่งาน Motor Expo 2022 ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2565 @ Challenger Hall 1-3 เมืองทองธานี

โดยทาง Honda ระบุว่ากำลังที่เพิ่มขึ้นของเครื่องยนต์ K20C ที่อยู่ใต้ฝากระโปรงเป็นผลมาจากการออกแบบเทอร์โบใหม่ เพิ่มอากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์มากขึ้น รวมทั้งใช้ระบบระบายไอเสียที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ส่งผลให้รถคันนี้ แรงที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา

สำหรับ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ เข้ามาชมคันจริงกันได้ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023 โดยเปิดจองในจำนวนจำกัด เปิดรับจองสิทธิ์จำนวนจำกัดอย่างเป็นทางการผ่านทาง www.honda.co.th ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโซนิค (มุก) สีแดงแรลลี่ พร้อมสีใหม่ สีขาวแชมเปียนชิป และสีน้ำเงินเรซซิง (มุก) ราคาจำหน่าย 3,990,000 บาท (ราคาแพงกว่า Toyota GR Corolla 41,000 บาท)

โดย ฮอนด้า ซีวิค ไทร์ อาร์ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร VTEC TURBO ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Comfort, Sport, +R และเพิ่มโหมด Individual เป็นครั้งแรกในรุ่นนี้ พร้อมทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSI) สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ Type R Serial Number Plate

อ้างอิง แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

  วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์