อุซึมากิ นารูโตะ
อุซึมากิ นารูโตะ (ญี่ปุ่น: うずまき ナルト; อังกฤษ: Uzumaki Naruto) เป็นตัวละครการ์ตูนจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ มีบทบาทเป็นตัวเอกของเรื่อง ซึ่งชื่อนารูโตะนี้ ก็ได้นำมาเป็นชื่อของการ์ตูนอีกด้วย (ในภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ)
อุซึมากิ นารูโตะ | |
---|---|
ตัวละครใน นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ | |
ปรากฏครั้งแรก | นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ บทที่ 1 อุซึมากิ นารุโตะ!! (2542) |
สร้างโดย | มาซาชิ คิชิโมโตะ |
ให้เสียงโดย | ญี่ปุ่น Junko Takeuchi ไทย ฉันทนา ธาราจันทร์ (Rose) สังวาลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา (Cartoon Club, Mono29) อังกฤษ Maile Flanagan (สื่อส่วนใหญ่) Kathryn Feller (นารูโตะร๊อคลี กับก๊วนนินจาสุดป่วน) |
ข้อมูล | |
ญาติ | นามิคาเสะ มินาโตะ (พ่อ) อุซึมากิ คุชินะ (แม่) จิไรยะ (อาจารย์) ฮิวงะ ฮินาตะ (ภรรยา) อุซึมากิ โบรูโตะ (ลูกชาย) อุซึมากิ ฮิมาวาริ (ลูกสาว) คาวากิ (ลูกชายบุญธรรม) |
ชั้น | ภาค 1 และ ภาค 2: เกะนิน โบรูโตะ: คาเงะ |
ทีม | ทีม 7/ทีมคาคาชิ |
ชื่อของตัวละคร:อุซึมากิ นารูโตะ
แก้นารูโตะ มีความหมายได้สองอย่างคือ น้ำวน หรือ คะมะโบะโกะ (ลูกชิ้นปลาชนิดหนึ่งที่มีสีขาวและชมพูโดยมีลวดลายเป็นวงตรงกลาง) นิยมใส่ในราเม็ง ซึ่งเป็นอาหารโปรดของนารูโตะ ที่มาของชื่อนารูโตะและนารูโตะอายุ 12 ปีได้มาจากการที่พ่อของนารูโตะ (มินาโตะหรือท่านรุ่นที่ 4) ได้อ่านนิยายของจิไรยะ (เซียนลามก) ซึ่งนิยายในเรื่องมีตัวละครเอกที่มีความกล้าหาญอดทนที่ชื่อนารูโตะ ดังนั้นพ่อของนารูโตะจึงได้ตั้งชื่อลูกตนเองตามตัวละครนั่นเอง ซึ่งจิไรยะเองก็ได้ชื่อ "นารูโตะ" ในนิยายมาจากการกินราเมง[ต้องการอ้างอิง]
ประวัติ
แก้- ภาคแรก
แม่คืออุซึมากิ คุชินะ (พลังสถิตย์ร่าง 9 หางคนที่ 2) คุโนอิจิ แคว้นอุซึชิโอะ (แคว้นสายน้ำวน-เก่งวิชาผนึกมาก) ถูกส่งมาอยู่ที่โคโนฮะตั้งแต่เด็ก ตระกูล อุซึมากิ มีความสัมพันธ์ คือญาติห่างๆของตระกูลเซ็นจู ส่วนพ่อของเขาคือ โฮคาเงะรุ่นที่ 4 หรือ นามิคาเสะ มินาโตะในวันที่เขาเกิด โทบิ(อุวจิวะ โอบิโตะ)จับตนเป็นตัวประกัน เพื่อลักพาตัวคุชินะ ปล่อย 9 หางบุกหมู่บ้าน แต่พ่อแม่สละชีวิตตัวเองผนึก 9 หาง ไปในตัวเขา โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 กับนินจาระดับสูง ทั้งคนที่เกี่ยวข้องกับพวกมินาโตะ ปกปิดฐานะของตน เกรงว่าจะมีภัย ทำให้โตมาถูกคนในหมู่บ้านรังเกียจ กับเข้าเรียนนินจา เล่นพิเรนสารพัด สอบตกนับไม่ถ้วน อิรุกะ ครูประจำชั้น เอ็นดูเหมือนน้องชาย
ตอนอายุ 12 ปี ก่อเรื่องวาดเขียนบนรูปสลัก กับสอบเกะนินตก ก็ถูกมิซึกิล่อให้ปล้นคัมภีร์นินจาลับของรุ่นที่ 1 ในบ้านรุ่นที่ 3 กับคือแพะรับบาป ตนแอบอ่านฝึกคาถาแรกจนสำเร็จ บอกอิรุกะเรื่องมิซึกิ พอได้ฟังเรื่องตนคือพลังสถิตร่างของ 9 หาง ก็ถูกอิรุกะเตือนสติ ตนจึงใช้คาถาแยกเงาพันร่างจัดการมิซึกิลงง่ายๆ อิรุกะเห็นว่าใช้คาถาได้ จึงให้สอบผ่าน
ซึ่งได้ร่วมทีม กับซาสึเกะ,ซากุระ อยู่ทีม 7 คาคาชิคือครูหัวหน้าทีม ร่วมทำภารกิจด้วยกัน คุ้มครองคนสร้างสะพาน สู้กับนินจาถอนตัวจากคิริ คือซาบุสะ 1 ใน 7 กับฮาคุ พอทั้ง 2 หนีไป ทีม 7 จึงฝึกเดินไต่กำแพงต้นไม้ ซึ่งฝึกเพื่อควบคุมจักระ ซากุระซึ่งควบคุมจักระได้ดีที่สุดจึงทำได้เป็นคนแรก พอฝึกเสร็จไปสู้กับทั้งคู่อีกทีชนะ กับเตือนสติทั้งคู่ พอภารกิจสำเร็จ กับไล่พวกกาโต้ไป
เข้าร่วมสอบจูนิน สอบรอบแรก คือสอบข้อเขียน ตนพูดเตือนสติผู้เข้าสอบ กับส่งกระดาษเปล่าไป จนสอบผ่าน รอบสอง เข้าโซนอันตรายชิงคัมภีร์คู่แข่ง กับเอาชีวิตรอด ใน 5 วัน เข้าสนามสอบ ถูกโอโรจิมารุที่แฝงตัวมาผนึกเพิ่ม จึงใช้จักระ 9 หางไม่ได้ รอบ 3 สู้ชนะคิบะ ช่วงพักก่อนรอบตัดสิน คาคาชิให้เอบิสึช่วยฝึกเดินบนน้ำ แต่เอบิสึถูกจิไรยะทำร้าย ตนขอร้องให้จิไรยะมาฝึกแทน กับฝึกใช้จักระ 9 หางเรียกสัตว์อัญเชิญ แต่ไม่คืบหน้า จึงถูกจิไรยะผักตกเหวจนใช้จักระ 9 หาง อัญเชิญกามะบุนตะจ้าวแห่งกบมาได้ บุนตะที่ตอนแรกไม่เชื่อ พอเห็นชื่อในคัมภีร์ทำสัญญา จึงพาไปส่งโรงพยาบาล ในรอบตัดสิน สู้ชนะเนจิ แต่การสอบต้องยุติลง เพราะนินจาซึนะบุกมา จึงร่วมทีมกับซากุระ ชิกามารุพาตัวซาสึเกะที่ไล่ตามกาอาระกลับมา ชิกามารุเป็นนกต่อล่อนินจาโอโตะตนเข้าใจความรูสึกของกาอาระจึงสู้กันจนชนะ กับบอกลา
จากนั้นร่วมเดินทางกับจิไรยะตามหาซึนาเดะ ถูกแสงอุษาที่มีอิทาจิพี่ชายของซาสึเกะไล่ล่า ซาสึเกะตามมา สู้แพ้ง่ายๆ จิไรยะกลับมาช่วย จนอิทาจิกับคิซาเมะหนีไป ตนรับฝึกกระสุนวงจักร กับตามหาซึนาเดะจนพบ แต่ซึนาเดะไม่ยอมกลับ จึงสู้โอโรจิมารุกับคาบูโตะ จิไรยะเรียกบุนตะไม่ได้ เพราะถูกยาของซึนาเดะ ตนก็หมดแรง จึงสู้กับคาบูโตะจนใช้กระสุนวงจักรสำเร็จแต่สลบไป 3 นินจาในตำนานสู้กันผลคือโอโรจิมารุแพ้กับหนีไป พอตนหายดีก็กลับโคโนฮะ ซึนาเดะเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ 5 กับรักษาทุกคน ทางซาสึเกะที่เจ็บใจจึงสู้กับนารูโตะจนคาคาชิห้ามไว้ทัน วันต่อมาซาสึเกะกับนินจาโอโตะเดินทางไปหมู่บ้านโอโตะ ตน เนจิ คิบะ โจจิทั้ง 4 เข้าทีมของชิกามารุเพื่อพาซาซึเกะกลับมา โดยลีตามไป กับนินจาซึนะที่ตามมาช่วย ตนจึงสู้กับซาสึเกะที่หุบผาสิ้นสุดจนแพ้ ซาสึเกะก็ไปต่อ
พอฟื้นจิไรยะบอกว่าอีก 3 ปี แสงอุษาจะกลับมา ตนจึงออกจากหมู่บ้านไปฝึกฝน
- ภาค 2
เวลาผ่านไป 2 ปีครึ่ง ตอนกลับมา รับภารกิจไปหมู่บ้านซึนะ ช่วยกาอาระ(คาเสะคาเงะ รุ่นที่ 5) จากแสงอุษา แต่กาอาระก็ตาย ย่าโจสละชีวิตตัวเองย้ายชีวิตคืนชีพกาอาระ แต่คาคาชิเจ็บหนักจึงพักฟื้น ตนกับซากุระ ร่วมทีมซาอิกับยามาโตะ ไปหาสปายของซาโซริเพื่อหาเบาะแสซาสึเกะ กัดกับซาอิตลอด แต่ก็เตือนสติ กับพบซาสึกเกะที่ปฏิเสธกับจากไป
ตนรับฝึกวิชาแปลงคุณสมบัติธาตุกับเพิ่งรู้วิธีใช้คาถาแยกเงาลดเวลาฝึก จึงรวมทีม 7 กับ ทีม 10 ทำภารกิจจัดการแสงอุษา ฮิดันกับคาคุสึจนสำเร็จ แต่ตนบาดเจ็บจนแขกหัก เพราะคาถาอันตรายเกินไปจึงพักฟื้น
พอหายดีได้รับรายงานว่าซาสึเกะฆ่าโอโรจิมารุสร้างทีมฆ่าอิทาจิ ทีม 7 กับ 8 ออกตามหาซาสึเกะ พบกับอิทาจิที่มาเตือนเกี่ยวกับซาสึเกะกับมอบของบางอย่างให้ พวกตนถูกโทบิถ่วงเวลา พอรู้ว่าซาสึเกะฆ่าอิทาจิ ก็ยุติภารกิจกลับหมู่บ้าน
พอได้รับรายงานว่าจิไรยะตาย ก็เสียใจ จึงไปฝึกวิชาเซียนที่หุบเขาเบียโบคุ พอเพนหัวหน้าแสงอุษามาบุกโคโนฮะ ตนกลับมาสู้ เพน 6 คน ชนะ 5 คน จนเผลอใช้พลังของ 9 หางจนคลุ้มคลั่ง จึงได้คุยกับโฮคาเงะรุ่นที่ 4 จนได้รู้ว่าเป็นพ่อลูกกัน กับได้รู้ความจริงว่าโทบิคือตัวการ ถูกซ่อมผนึก จึงสู้ชนะเพน จากนั้นไปหาตัวจริงจึงได้คุยกัน ตนได้ฟังอดีตนางาโตะที่ดันโซคือต้นเหตุ ตนจึงเตือนสติ จนนางาโตะคืนชีพนินจาโคโนฮะทุกคน ตนคือวีรบุรุษของโคโนฮะ กับเรื่องตนคือลูกของโฮคาเงะรุ่นที่ 4 ถูกเปิดเผยต่อสื่อ
ช่วงใกล้งานประชุม 5 คาเงะ ตน คาคาชิ ยามาโตะ ทั้ง 3 ไปหาไรคาเงะขอร้องไม่ให้ฆ่าซาสึเกะแต่ล้มเหลว ช่วงก่อนกลับหมู่บ้าน โทบิมาแฉอิทาจิ กับบอกเรื่องมรดกของเซียน 6 วิถี ก่อนจากไป ซากุระ พา คิบะ ซาอิ ลี มาหาเพื่อบอกชอบตน ตนไม่เชื่อ ซาอิจึงส่งร่างแยกมาบอกว่าทำภารกิจฆ่าซาสึเกะ ตนจึงแกล้งสลบ แอบตามคาคาชิที่คิดไปห้ามซากุระ พอทีม 7 รวมตัว จึงคุยกันกับเตือนสติ แต่ซาสึเกะไม่สน จึงกลับหมู่บ้านพาคารินไปสอบปากคำ
ตนถูกพาตัวไปนอกหมู่บ้านเพื่อฝึกกับคิลเลอร์บีเพื่อควบคุม 9 หาง ตอนแรกชนะด้านชั่วร้ายของตัวเอง กับสู้ 9 หางในตัว ชิงจักระมาจนถูกคุชินะเตือนสติ จนรู้ว่าเป็นแม่ จึงคุยกันเรื่องอดีตการพบเจอของพ่อแม่ กับอดีตตอนเกิดของตน จึงบอกลา ตนลองใช้จักระครั้งแรกก็สัมผัสได้ว่าคิซาเมะอยู่ในนี้ คิซาเมะคิดหนีก็ถูกไกจัดการ คิซาเมะฆ่าตัวตายเพื่อปกปิดข้อมูลแสงอุษา กับนำข้อมูลพันธมิตรไปให้โทบิสำเร็จ
ตนฝึกควบคุมสมดุลได้ กับแปลงร่างเป็นสัตว์หางกับใช้กระสุนพลังสัตว์หาง แต่ไม่คืบหน้า แต่ก็ประยุกษ์ท่าต่างๆ ได้ฟังถึงความเสี่ยงของโหมดสัตว์หาง
พอสงครามผ่านไป 1 วัน ตนก็สงสัยข้างนอก จนรู้เรื่องสงคราม ตนกับบีจึงเข้าร่วมสงคราม ซึนาเดะกับเอ(ไรคาเงะ) มาลองใจกับยอมให้ทั้ง 2 ไป ตนส่งร่างแยกเงาไปทุกสนามรบเพื่อจัดการกองทัพเซ็ตสึสีขาวที่แฝงตัวเป็นนินจา กับสู้เหล่าศพนินจา โดยตัวจริงร่วมมือกับบีสู้กับอิทาจิกับนางาโตะถามเรื่องอิทาจิกับบอกเรื่องซาสึเกะ อิทาจิยืนยันความจริง โดยอิทาจิคลายการควบคุมเพราะใส่เนตรชิซุยไว้ในอีกากับซ่อนไว้กับตน ทั้ง 3 ร่วมมือจัดการกับผนึกนางาโตะลงได้ ตนถูกอิทาจิเตือนสติถึงการเป็นโฮคาเงะกับบอกลา เพื่อขอตัวไปหาคาบูโตะให้คลายคาถา เพราะอิทาจิเหมาะกับหน้าที่นี้มากที่สุด
พอร่างแยกสู้กับมาดาระตัวจริงที่เป็นศพ จน 5 คาเงะปัจจุบันก็อาสาจะสู้เอง ตัวจริงพอรู้ก็ร่วมมือกับบีสู้กับโทบิทีมีศพพลังสถิตร่าง โดยคาคาชิกับไกมาสมทบจนจัดการ 6 พลังสถิตร่างลงได้ ได้รู้ว่าสัตว์หางมีชื่อกับได้จักระบางส่วนของสัตว์หางมา กับได้คุยกับ 9 หางได้รู้ว่า 9 หางมีชื่อว่าคุรามะ กับจนเข้าใจกัน จึงสู้กับโทบิที่เรียกเทวรูปมารนอกรีตมา
พอตกค่ำ อิทาจิคลายคาถาได้ โทบิได้คืนชีพ 10 หาง ทั้ง 4 ร่วมมือกันทำลายหน้ากากจนรู้ว่าโทบิคือโอบิโตะ มาดาระได้ปรากฏตัวขึ้น ทางพันธมิตรนินจาก็ตามมาสมทบ จึงเกิดการต่อสู้กัน หน่วยข่าวกรองของพันธมิตรเสียชีวิต ตนเห็นเนจิตาย กับถูกฮินาตะเตือนสติ ตนจึงใช้วิธีส่งผ่านจักระผ่านการสัมผัสจนชำนาญเพื่อเพิ่มพลังให้พันธมิตร ทางซาสึเกะ ที่นำจูโกะ กับ 4 โฮคาเงะมาช่วยร่วมมือกันไล่ต้อน 10 หาง โอบิโตะที่แพ้คาคาชิจึงเป็นพลังสถิตร่างของ 10 หาง ตนกับซาสึเกะร่วมมือกัน สู้จนชนะ ดึงสัตว์หางออกมาได้ แต่มาดาระก็คืนชีพ สัตว์หางถูกชิงไป กับตนถูกดึงคุรามะออกจากร่าง จนใกล้ตาย แต่โอบิโตะที่ถูกเซ็ตสึสีดำที่มีครึ่งของคุรามะสิง ได้ชิงจักระบางส่วน 1 กับ 8 หาง จากมาดาระ มอบให้ตน
ตนที่รอดตายได้พูดคุยกับเซียน 6 วิถี ผ่านจิตใต้สำนึก จึงได้รับพลังหยางมา จึงได้ร่วมมือกับซาสึเกะ ที่มีพลังหยิน ซึ่งทั้งคู่ ไล่ต้อนมาดาระ พอคางูยะคืนชีพ ทั้งคู่ได้ฟังอดีตของคางูยะจากเซ็ตสึสีดำ ทีม 7 ร่วมมือกันผนึกคางูยะสำเร็จ กับผนึกเซ็ตสึสีดำไปด้วย ถูกเซียน 6 วิถีที่เรียกวิญญาณเหล่าอดีตคาเงะใช้คาถาอัญเชิญมนุษย์เรียกทีม 7 กลับมา ตนบอกลากับพ่ออีกครั้ง
พอทราบว่าซาสึเกะคิดฆ่า 5 คาเงะปัจจุบัน เพื่อก่อรัฐประหาร ตนจึงล่อไปที่หุบผาสิ้นสุด สู้กันอีกครั้ง เพื่อท้าชิงตำแหน่งโฮคาเงะ ผลคือเสมอ แขนข้างถนัดของทั้งคู่ถูกทำลาย(นารูโตะแขนขวา และ ซาสึเกะแขนซ้าย) ตนเตือนสติจนซาสึเกะยอมรับกับขอยอมแพ้ แพ้ ซากุระจึงมารักษาทั้งคู่ จากนั้นจึงประสานอิน”ชวด”เพื่อคลายคาถาอ่านจันทราไร้ขอบเขต หลังจากสิ้นสุดสงคราม ตนได้บอกลาซาสึเกะที่ออกเดินทางเพื่อชดใช้ความผิด และปกป้องหมู่บ้านในเงามืด ส่วนตนถูกเลื่อนขั้นเป็นจูนิน ถูกซึนาเดะรักษาปลูกถ่ายเซลล์ของฮาชิรามะสร้างแขนเทียม หลายเดือนต่อมานารูโตะเลื่อนขั้นเป็นโจนินตามลำดับโดยไม่ต้องสอบจูนิน
หลายปีผ่านไป ได้รักกับฮินาตะ จนได้แต่งงาน มีลูกด้วยกัน 2 คน คือ โบรูโตะ กับ ฮิมาวาริ ไม่กี่ปีต่อมา เลื่อนขั้นเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ 7 ต่อจาก ฮาตาเกะ คาคาชิ
หลังจากอนิเมะ Naruto The Last Movie เป็นต้นนารูโตะได้แต่วุ่นวายกับงานโฮคาเงะ ถึงกับต้องส่งร่างแยกเงาไปช่วยงานในหมู่บ้านก็มี ซึ่งไม่ค่อยมีเวลากลับบ้านมาดูแลลูก แตกต่างจาก นินจาคนอื่นๆในหมู่บ้าน(ยกเว้นซาสึเกะ) นารูโตะรักฮินาตะพอๆกับที่ตนเคยชอบซากุระและไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันเลย ซึ่งฮินาตะก็เข้าใจและอยู่ข้างนารูโตะตลอดมา นารูโตะเคยบอกกับลูกชายคนโตของเขา อุซึมากิ โบรูโตะ ว่าพ่อเป็นโฮคาเงะที่ต้องดูแลทุกคนในหมู่บ้านพ่อจึงไม่สามารถเป็นพ่อให้กับลูกคนเดียวได้ จึงทำให้โบรูโตะทำตัวเหมือนนารูโตะสมัยเด็ก เรียกร้องความสนใจจากผู้คนรอบข้าง ขาดความรักความอบอุ่นจากผู้เป็นพ่อ แต่ได้ซาสึเกะช่วยให้โบรูโตะเข้าใจในตัวพ่อของเขามากขึ้น
จักระจิ้งจอกเก้าหางโดยย่อ
แก้จักระจิ้งจอกเก้าหางเป็นจักระสีแดงด้านชั่วร้ายของนารูโตะที่อยู่ในตัวมีพลังมหาศาลถูกใช้ครั้งแรกตอนสู้กับฮาคุที่แคว้นฮาโนะคุนิและครั้งที่สองตอนสู้กับโอโรจิมารุในป่ามรณะตอนสอบจูนินรอบสอง แต่ก็ถูกโอโรจิมารุปิดผนึกเอาไว้ แต่พอหลังสอบจูนินจิไรยะก็คล้ายสะกดนั้นให้และเป็นอีกครั้งที่ใช้จักระจิ้งจอกเก้าหางตอนที่นารูโตะกำลังอยู่ในสถานะอันตราย ซึ่งจักระจิ้งจอกเก้าหางมีมากมายมหาศาลที่สุดในบรรดาทั้งเก้าหาง เวลาที่นารูโตะใช้นั้นจะมีจักระสีแดงออกมาจากร่างกายอย่างมากซึ่งยิ่งเอาออกมาใช้มากเท่ากับว่าจะปลดปล่อยจิ้งจอกเก้าหางออกมาและทำให้ผู้ที่ถูกผนึกกลายเป็นจิ้งจอกเก้าหาง ซึ่งสามารถทราบได้ว่าคือหางที่ปลดปล่อยออกมา
ก่อนปลดปล่อยหางออกมามีพลังมากซึ่งนารูโตะมักจะใช้เท่านี้ 1 หาง ตอนสู้กับซาสึเกะในร่างอักขระสำหรับนารูโตะยังพอควบคุม 2-4 หาง ในช่วงสองนารูโตะเริ่มกลายสภาพและเป็นร่างสามและสี่หางทำให้สูญเสียการควบคุมทุกด้านพลังทำร้ายมหาศาลอย่างมาก ในตอนที่ปะทะกับเพน ได้เปลื่ยนร่างจนกลายเป็น 6 หางเพราะ ฮินาตะเข้าไปช่วยและโดนทำร้ายต่อหน้าต่อตา ร่าง 6 หางนั้น จะคล้ายๆ 4 หาง แต่จะมีโครงกระดูกเพิ่มเข้ามา มีพลังมหาศาลมาก ร่าง 8 หางจะมีกล้ามเนื้อ ส่วน 9 หางจะสมบูรณ์และเท่ในแบบของนารูโตะ แต่ร่างสูงสุด คือ จักระของเซียนหกวิถีรวมกับโหมดสัตว์หาง โดยเมื่อเปิดใช้โหมดคุรามะ คุรามะจะมี 3 หัว 6 แขน โดยจะเป็นร่างที่ทรงพลังที่สุด
ในโหมดจักระเก้าหางนั้นในร่างนี้นารูโตะจะมีพลังและความเร็วเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากแต่กินจักระเป็นอย่างมากทำให้ใช้ได้ไม่นานมากแต่หลังจากได้คุรามะมาเป็นพรรคพวกทำให้กลายเป็นโหมดสัตว์หาง โดยสามารถใช้พลังของสัตว์หางได้สมบูรณ์แบบและสามารถใช้พลังของสัตว์หางได้ 100% โดยที่ไม่มีผลเสียใดๆ เหมือนกับโหมดจักระเก้าหางที่ใช้พลังของเก้าหางแค่บางส่วน
พลังแห่งเซียน
แก้เนื่องจากนารูโตะนั้นเป็นคนที่ตรงกับคุณสมบัติในการฝึกฝนพลังแห่งเซียน ทำให้เขาสามารถเรียนรู้การเข้าถึง "โหมดเซียน" เพื่อใช้วิชาเซียนได้อย่างสมบูรณ์กว่านินจารุ่นก่อน ๆ ทั้งจิไรยะ หรือแม้แต่มินาโตะผู้เป็นพ่อเองก็ตาม
โดยหลักการของพลังเซียนหรือวิชาเซียน(เซ็นจุทสึ) นั้นคือการดึงพลังงานจากธรรมชาติที่ไหลเวียนอยู่ทุกหนทุกแห่งในโลก มาหลอมรวมเข้ากับพลังทางจิตกับพลังทางกาย ที่ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของจักระ ซึ่งเมื่อสามารถควบคุมสมดุลของพลังทั้ง 3 (พลังงานจิต พลังงานกายภาพ และพลังงานธรรมชาติ) ได้แล้วจะเกิดเป็นจักระรูปแบบใหม่ที่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิมขึ้นมาซึ่งเรียกว่าจักระวิชาเซียน ที่จะเสริมประสิทธิภาพในการใช้วิชาต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น และทำให้ร่างกายมีประสาทสัมผัส การฟื้นฟู รวมทั้งปฏิกิริยาตอบสนองดีเยี่ยม เนื่องจากมีพลังจากภายนอกช่วยเสริม
การประยุกต์พลังแห่งเซียนกับพลังแห่งสัตว์หาง
แก้ในช่วงเวลาที่นารูโตะได้ทำการต่อสู้กับโอบิโตะที่อยู่ในสถานะของพลังสถิตร่างสิบหางซึ่งเป็นตัวตนของพลังงานธรรมชาติอันมหาศาล คุรามะได้แนะนำนารูโตะให้ใช้โหมดจักระของตนควบคู่กับโหมดเซียน ที่จะทำให้สามารถต่อสู้กับโอบิโตะ และสร้างความเสียหายให้กับ "ลูกแก้วแสวงสัจธรรม" ที่สร้างมาจากวิชาเซียนหกวิถีของโอบิโตะ ซึ่งจะมีความสามารถในการหักล้างวิชานินจาทุกชนิดยกเว้นเพียงแต่วิชาเซียนที่หากทรงพลังมากพอก็อาจสร้างความเสียหายได้โดยไม่ถูกหักล้าง
ซึ่งเมื่อนารูโตะอยู่ในโหมดจักระคุรามะในรูปแบบที่สมบูรณ์ เขาสามารถที่จะดูดซับพลังงานธรรมชาติในการใช้โหมดเซียนได้เร็วยิ่งขึ้น และทำให้วิชาเซียนมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อเอามาผสานกับจักระอันมหาศาลของคุรามะ
พลังแห่งเซียนหกวิถี
แก้เนื่องจากนารูโตะเป็นร่างเกิดใหม่ของโอซึซึกิ อาชูร่า ผู้ที่มีพลังทางร่างกายแห่งเซียนหกวิถี เมื่อนารูโตะได้รับสืบทอดพลังจากจิตวิญญาณของโอซึซึกิ ฮาโกโรโมะ หรือเซียนหกวิถีพร้อมกับตราผนึกหยาง นารูโตะจึงสามารถปลุกพลังเซียนรูปแบบใหม่ขึ้นมาได้ เรียกว่า "โหมดเซียนหกวิถี" ซึ่งสามารถที่จะใช้วิชาเซียนหกวิถี(ริคุโดเซ็นจุทสึ) ได้เหมือนกับโอบิโตะหรือมาดาระเมื่อเป็นพลังสถิตร่างของสิบหาง
การปรากฏตัวในสื่ออื่น
แก้อุซึมากิ นารูโตะ ยังได้ปรากฏตัวในเกมต่อสู้ข้ามฝั่ง ซึ่งนารูโตะได้เผชิญกับตัวละครจากมังงะเรื่องอื่น เกมเหล่านี้ประกอบด้วย แบทเทิลสเตเดียม ดี. โอ. เอ็น., จัมพ์ซูเปอร์สตาร์ส และจัมพ์อัลติเมทสตาร์ส[1][2][3]
นอกจากนี้ ยังมีตัวละคร "ซูโมมากิ รารูโตะ" ในเว็บคอมิกของสเปนเรื่อง รารูโตะ ที่ล้อเลียนนารูโตะอีกด้วย[4]
การตอบรับ
แก้ในทุกการสำรวจความนิยมของ โชเน็งจัมป์รายสัปดาห์ ได้จัดอันดับให้นารูโตะอยู่ในระดับท็อปไฟว์ และในช่วงต้น ค.ศ. 2012 ได้อยู่ในอันดับหนึ่งเป็นครั้งที่สอง[5][6] ใน ค.ศ. 2006 นารูโตะสูญเสียสถานะท็อปทูให้แก่เดอิดาระ, คาคาชิ และซาสึเกะจากผลสำรวจของนิตยสารครั้งที่หก[7] ในโพลปี ค.ศ. 2011 นารูโตะได้ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่หนึ่งอีกครั้ง[8] และมีสินค้าที่สร้างขึ้นจากนารูโตะ ได้แก่ พวงกุญแจ[9] และแอ็คชั่นฟิกเกอร์[10]
อ้างอิง
แก้- ↑ "バトルスタジアム D.O.N" (ภาษาญี่ปุ่น). Namco Bandai. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-01. สืบค้นเมื่อ 2009-02-14.
- ↑ "ガンバリオン公式ホームページ 開発タイトル一覧 JUMP SUPER STARS (ジャンプスーパースターズ)" (ภาษาญี่ปุ่น). Ganbarion. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-07-03. สืบค้นเมื่อ 2009-02-14.
- ↑ "ガンバリオン公式ホームページ 開発タイトル一覧 JUMP ULTIMATE STARS (ジャンプアルティメットスターズ)" (ภาษาญี่ปุ่น). Ganbarion. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-05-22. สืบค้นเมื่อ 2009-02-14.
- ↑ Raruto Volume 1 (English) เก็บถาวร 2016-03-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, PDF 2, Glossary. Retrieved on October 30, 2010.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2007). "Chapter 199". Naruto, Volume 22. Viz Media. ISBN 1-4215-1858-9.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2006). "Chapter 107". Naruto, Volume 12. Viz Media. ISBN 1-4215-0242-9.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2008). "Chapter 292". Naruto, Volume 33. Viz Media. ISBN 978-1-4215-2001-8.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2011). "Chapter 519". Naruto, Volume 56. Shueisha. ISBN 978-4-08-870218-6.
- ↑ "根付紐仕様のキーホルダー第2弾が早くも登場!! NARUTO-ナルト- 忍者根付2" (ภาษาญี่ปุ่น). TV Tokyo. สืบค้นเมื่อ January 24, 2012.
- ↑ "Naruto 12 Inch Action Figure". Viz Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-08-09. สืบค้นเมื่อ January 24, 2012.