อะไวเทอร์เฉดออฟเพล

อะไวเทอร์เฉดออฟเพล (อังกฤษ: A Whiter Shade of Pale) เป็นเพลงจากอัลบัมชุดแรกของวงร็อกอังกฤษ โพรคัล ฮารัม ที่วางจำหน่ายในปี ค.ศ. 1967 วางจำหน่ายเป็นซิงเกิลเปิดตัวของวงเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 1967 ขึ้นถึงอันดับหนึ่งในชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน และอยู่ที่อันดับหนึ่งเป็นเวลา 6 สัปดาห์ [1] ขึ้นถึงอันดับห้าในสหรัฐอเมริกา

เพลงนี้มีชื่อเสียงจากดนตรีบรรเลงด้วยออร์แกนที่มีอิทธิพลจากผลงานของโยฮันน์ เซบาสเตียน บาค แต่งโดย แกรี บรุคเคอร์, คีธ รีด และแมททิว ฟิชเชอร์ [2] แต่ระบุเครดิตไว้เพียงว่าแต่งโดย บรุคเคอร์/รีด ในปี ค.ศ. 2005 ฟิชเชอร์ได้ยื่นฟ้องต่อศาลสูงว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมแต่งทำนองเพลงนี้ [3] ฟิชเชอร์ชนะคดีและได้รับส่วนแบ่ง 40% ในฐานะผู้ร่วมประพันธ์ แต่จะไม่ได้รับรายได้ที่เกิดขึ้นก่อนฟ้องคดี [4]

คีธ รีด เป็นผู้ริเริ่มแต่งเพลงนี้ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากวลีหนึ่งที่มีคนพูดกับหญิงสาวในงานปาร์ตี้ว่า "You've turned a whiter shade of pale," [5][6] นักวิจารณ์ดนตรีวิเคราะห์ว่าเนื้อหาของเพลงกล่าวถึงความสัมพันธ์เชิงชู้สาวระหว่างชายหญิง [5][6]

ในปี 2009 สถานีวิทยุบีบีซีระบุว่า อะไวเทอร์เฉดออฟเพล เป็นเพลงที่ถูกเปิดบ่อยครั้งที่สุดในรอบ 75 ปี ในสหราชอาณาจักร [7] ตามด้วย Bohemian Rhapsody ของควีน และ All I Have To Do Is Dream ของดิเอเวอร์ลีบราเธอร์ส ในปี 2004 นิตยสารโรลลิงสโตนจัดให้เพลงนี้ติดอันดับ 57 จาก 500 อันดับเพลงยอดเยี่ยมตลอดกาล

อ้างอิง

แก้
  1. "EveryHit.com". everyHit.com. สืบค้นเมื่อ 2008-11-25.
  2. "Show 49 - The British are Coming! The British are Coming!: With an emphasis on Donovan, the Bee Gees and the Who. [Part 6] : UNT Digital Library". Digital.library.unt.edu. 2011-08-05. สืบค้นเมื่อ 2011-08-10.
  3. "A Whiter Shade of Pale authorship lawsuit". สืบค้นเมื่อ 2006-09-21.
  4. BBC NEWS | Entertainment | Organist wins Procol Harum battle.
  5. 5.0 5.1 Paul Simpson, The rough guide to cult pop, Page 249. Rough Guides, 2003, ISBN 1843532298. 2003-12-15. ISBN 978-1-84353-229-3. สืบค้นเมื่อ 2009-12-08.
  6. 6.0 6.1 Claes Johansen, Procol Harum: beyond the pale, pp 57-62. SAF Publishing Ltd, 2000, ISBN 0-946719-28-4. 2000. ISBN 978-0-946719-28-0. สืบค้นเมื่อ 2009-12-08.
  7. "Whiter Shade 'most played' song". BBC News. 13 April 2009. สืบค้นเมื่อ 2009-04-13.