สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในฤดูกาล 1996–97

ฤดูกาล 1996–97 เป็นฤดูกาลที่ 5 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในพรีเมียร์ลีก และเป็นฤดูกาลที่ 22 ติดต่อกันในลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ[1] ยูไนเต็ดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยคะแนน 75 คะแนน โดยมี 3 สโมสรที่ตามหลังพวกเขาอยู่ 7 คะแนนคือนิวคาสเซิลยูไนเต็ด อาร์เซนอล และลิเวอร์พูล

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ฤดูกาล 1996–97
ประธานสโมสรมาร์ติน เอ็ดเวิดส์
ผู้จัดการทีมอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
กัปตันทีมเอริก ก็องโตนา
สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด
พรีเมียร์ลีกแชมป์
ผู้ทำประตูสูงสุดลีก: อูเลอ กึนนาร์ ซูลชาร์ (18)
ทั้งหมด: อูเลอ กึนนาร์ ซูลชาร์ (19)
สีชุดเหย้า
สีชุดเยือน
สีชุดที่ 3

พวกเขายังเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของยูโรเปียนคัพ โดยแพ้ให้กับแชมป์ในฤดูกาลนั้นคือโบรุสซีอาดอร์ทมุนด์ หลังจากแพ้ทั้งสองเลก 0–1 ก่อนหน้านี้พวกเขาแพ้ในบ้านในการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรปเป็นครั้งแรก โดยแพ้เฟแนร์บาห์แช 0-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม การป้องกันแชมป์เอฟเอคัพของพวกเขาจบลงในรอบที่ 4 นัดรีเพลย์โดยพ่ายแพ้ต่อวิมเบิลดัน 0–1 ในขณะที่การแข่งขันลีกคัพจบลงในรอบที่ 4 โดยเลสเตอร์ซิตี แชมป์ฤดูกาลนั้น

อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเซ็นสัญญาคว้าตัวอูเลอ กึนนาร์ ซูลชาร์ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาตินอร์เวย์จากโมลเด ด้วยค่าตัว 1.5 ล้านปอนด์ กลายเป็น 1 ในดาวรุ่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 1996–97 ซึ่งเฟอร์กูสันมอบเสื้อหมายเลข 20 ให้กับซูลชาร์ โดยทำได้ 19 ประตูในทุกรายการและ 18 ประตูในพรีเมียร์ลีกทำให้เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของสโมสร เดวิด เบ็คแคมกองกลางวัย 22 ปี คว้ารางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งแห่งปีของพีเอฟเอ ในฤดูกาลเดียวกับที่เขาลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษนัดแรก รอนนี ยอห์นเซนเพื่อนร่วมทีมชาตินอร์เวย์ของซูลชาร์ ถูกคว้าตัวจากเบชิกทัช ในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง แต่ คาเรล โพบอร์สกี้ย์ปีกทีมชาติเช็กมูลค่า 3.5 ล้านปอนด์ล้มเหลวในการเป็นผู้เล่นตัวจริงและเป็นหนึ่งในความผิดหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนั้น ยอร์ดี ไกรฟฟ์ ลูกชายของโยฮัน ไกรฟฟ์ ตำนานนักเตะชาวดัตช์ ก็น่าผิดหวังเช่นเดียวกัน คือไม่สามารถยึดตำแหน่งผู้เล่นตัวจริงได้ แม้จะสามารถเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ ตัวรุก หรือปีกซ้ายได้

ก่อนเริ่มฤดูกาล ลี ชาร์ปออกจากสโมสรหลังจากอยู่กับสโมสรมา 8 ปีเพื่อเซ็นสัญญากับลีดส์ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 4.5 ล้านปอนด์ ในช่วงต้นฤดูร้อน สตีฟ บรูซกัปตันทีมย้ายไปเบอร์มิงแฮมซิตีแบบไม่มีค่าตัวหลังจากอยู่โอลด์แทรฟฟอร์ดมาเกือบ 10 ปี ขณะที่พอล พาร์กเกอร์ก็จากไปแบบไม่มีค่าตัวหลังจาก 2 ฤดูกาลสุดท้ายของเขาที่สโมสรประสบปัญหาอาการบาดเจ็บและเสียตำแหน่งแบ็คขวาตัวจริงให้กับแกรี เนวิล

จบฤดูกาลด้วยความตกใจครั้งใหญ่เมื่อเอริก ก็องโตนาประกาศแขวนสตั๊ดกะทันหันในวัยเพียง 30 ปี ทำให้อเล็กซ์ เฟอร์กูสันต้องหากองหน้าคนใหม่ การค้นหากองหน้าคนใหม่สิ้นสุดลงเมื่อยูไนเต็ดจ่ายเงิน 3.5 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัวเทดดี เชริงงัม กองหน้าวัย 31 ปีของทอตนัมฮอตสเปอร์และทีมชาติอังกฤษ

ก่อนเริ่มฤดูกาล มีการสับเปลี่ยนหมายเลขผู้เล่นหลายคนในทีม แกรี เนวิล ได้รับเสื้อหมายเลข 2 ต่อจาก พอล พาร์กเกอร์, เดวิด เมย์ ได้รับเสื้อหมายเลข 4 ต่อจาก สตีฟ บรูซ อดีตกัปตันทีม, รอนนี ยอห์นเซน ได้รับเสื้อหมายเลข 5 ต่อจาก ลี ชาร์ป โดยสวมในการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรป ขณะที่ในลีกสวมเสื้อหมายเลข 19, นิคกี้ บัตต์ ได้รับเสื้อหมายเลข 8 ต่อจากพอล อินซ์, แอนดี โคล เปลี่ยนไปสวมหมายเลข 9 ขณะที่ไบรอัน แมคแคลร์ เปลี่ยนไปสวมเสื้อหมายเลข 13, เดวิด เบ็คแคม ได้รับเสื้อหมายเลข 10 ต่อจากมาร์ค ฮิวส์, ฟิล เนวิล ได้รับเสื้อหมายเลข 12 ต่อจาก เดวิด เมย์ และยอร์ดี ไกรฟฟ์ ได้รับเสื้อหมายเลข 14 ต่อจาก อังเดร แคนเชลสกี

ทีม แก้

ผู้รักษาประตู แก้

กองหลัง แก้

กองกลาง แก้

กองหน้า แก้


หมายเหตุ
วงเล็บแรกหมายถึงหมายเลขที่ใช้ในลีก ส่วนวงเล็บที่ 2 หมายถึงหมายเลขที่ใช้ในยูโรเปียนคัพ

อ้างอิง แก้

  1. "Manchester United Season 1996/97". StretfordEnd.co.uk. สืบค้นเมื่อ 8 October 2007.