สมเด็จพระราชินีนาถฆัวนาแห่งกัสติยา

สมเด็จพระราชินีนาถฆัวนาที่ 1 แห่งกัสติยา (สเปน: Juana I de Castilla; พระราชสมภพ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1479 – สวรรคต 12 เมษายน ค.ศ. 1555) เป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งกัสติยาแต่เพียงในพระนามตั้งแต่ ค.ศ. 1504 และสมเด็จพระราชินีนาถแห่งอารากอนตั้งแต่ ค.ศ. 1516 ตราบจนเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1555 พระองค์เป็นพระราชธิดาพระองค์ที่สามของพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน และสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยา

สมเด็จพระราชินีนาถฆัวนาแห่งสเปน
สมเด็จพระราชินีนาถแห่งกัสติยาและเลออน
ครองราชย์26 พฤศจิกายน ค.ศ.1504 -
12 เมษายน ค.ศ.1555
ก่อนหน้าสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 และ พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 5
ถัดไปพระเจ้าการ์โลสที่ 1
ผู้ร่วมในราชสมบัติพระเจ้าเฟลิเปที่ 1 (1506)
พระเจ้าการ์โลสที่ 1 (1516-1555)
ผู้สำเร็จราชการพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน
สมเด็จพระราชินีนาถแห่งอารากอน นาวาร์ ซิซิลี
นาโปลี บาเลนเซีย ซาร์ดิเนียและมาฆอร์กา
เคาน์เตสแห่งบาร์เซโลนา
ครองราชย์23 มกราคม 1516 –
12 เมษายน 1555
ก่อนหน้าพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2
ถัดไปพระเจ้าการ์โลสที่ 1
ผู้ร่วมในราชสมบัติพระเจ้าการ์โลสที่ 1
พระราชสมภพ6 พฤศจิกายน ค.ศ.1479
โตเลโด ราชบัลลังก์กัสติยา
สวรรคต12 เมษายน ค.ศ.1555 (พระชนมายุ 75 ปี)
ตอร์เดซิยัส ราชบัลลังก์กัสติยา
ฝังพระศพโบสถ์น้อยหลวงกรานาดา กรานาดา ราชบัลลังก์กัสติยา
คู่อภิเษกพระเจ้าเฟลิเปที่ 1 แห่งกัสติยา
(สมรส ค.ศ. 1496; สวรรคต ค.ศ. 1506)
พระราชบุตร
ราชวงศ์ตรัสตามารา
พระราชบิดาพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน
พระราชมารดาสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยา
ศาสนาโรมันคาทอลิก
ลายพระอภิไธย

แม้จะทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินผู้ปกครองโดยชอบกฎหมาย แต่พระองค์ก็ไม่เคยได้ใช้อำนาจในการปกครองอย่างแท้จริง เนื่องจากทรงถูกประกาศว่ามีพระอาการเสียพระจริต และถูกกักขังอยู่ในพระตำหนักที่เมืองตอร์เดซิยัส (Tordesillas) ตลอดพระชนม์ชีพส่วนใหญ่ ชื่อของพระองค์จึงมักถูกจดจำในประวัติศาสตร์ด้วยพระนาม "ฆัวนาผู้บ้าคลั่ง" (Juana la Loca) ซึ่งเป็นประเด็นที่นักประวัติศาสตร์ยังคงถกเถียงกันอย่างกว้างขวางว่าพระอาการของพระองค์เป็นเรื่องจริง หรือ ถูกสร้างขึ้นเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของพระบิดา และ พระโอรส

ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา

แก้
 
สมเด็จพระราชินีนาถฆัวนาขณะทรงพระเยาว์
 
พระเจ้าเฟลิเปที่ 1 แห่งกัสติยา พระราชสวามี

ฆัวนาเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ.1479 ณ เมืองโตเลโด (Toledo) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของกัสติยาในขณะนั้น พระองค์เป็นพระราชธิดาของพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน และ สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยา ซึ่งเป็นผู้ที่รวมอาณาจักรอารากอนและกัสติยาเข้าด้วยกัน จนเป็นสเปนในปัจจุบัน ฆัวนาทรงเติบโตมาในราชสำนักที่เปี่ยมด้วยอำนาจ และ อิทธิพล

ฆัวนามีพระเชษฐา พระเชษฐภคินี และพระกนิษฐภคินี 4 พระองค์ ได้แก่

ในฐานะเจ้าหญิงในราชวงศ์ที่ทรงอำนาจที่สุดในยุโรป ฆัวนาได้รับการศึกษาที่เข้มงวด ภายใต้การดูแลของพระมารดาผู้ทรงปรีชาสามารถ ทรงมีความรู้ความสามารถด้านภาษาละติน ภาษากัสติยา ภาษาลูซิทาเนีย (โปรตุเกส) และ ภาษาฝรั่งเศสอย่างเชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังทรงศึกษาประวัติศาสตร์ คณิตศาสตร์ ปรัชญา และ เทววิทยา ตลอดจนดนตรี การเต้นรำ และ การขี่ม้า บันทึกบางฉบับระบุว่าฆัวนาเป็นคนฉลาด แต่ก็เป็นคนเก็บตัว และ ขี้อาย มีความศรัทธาในศาสนาอย่างลึกซึ้ง มีแนวโน้มที่จะชอบสันโดษมากกว่าการเข้าสังคมในราชสำนักที่เต็มไปด้วยพิธีรีตองและ กลอุบายทางการเมือง

การอภิเษกสมรสกับฟิลลิพผู้ทรงโฉม

แก้

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ก (Habsburg) แห่งออสเตรีย ซึ่งเป็นหนึ่งในราชวงศ์ที่ทรงอำนาจที่สุดในยุโรป ได้ทำพันธมิตรกับราชวงศ์สเปนเพื่อถ่วงดุลอำนาจของฝรั่งเศส โดยมีแผนการสมรสเชื่อมโยงราชวงศ์ทั้งสองเข้าด้วยกัน เพื่อวัตถุประสงค์นี้ ฆัวนาจึงถูกหมั้นหมายกับอาร์ชดยุกฟิลลิพแห่งออสเตรีย (Philip the Handsome) ผู้เป็นพระราชโอรสของจักรพรรดิมัคซีมีลีอานที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และมารี ดัชเชสแห่งบูร์กอญ การเสกสมรสนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ.1496 ณ เมืองลีล (Lille) ในฟลานเดอร์ส (ปัจจุบันคือส่วนหนึ่งของเบลเยียมและฝรั่งเศส)

ฆัวนาทรงตกหลุมรักฟิลลิพอย่างสุดซึ้งตั้งแต่แรกพบ และ ความรักของพระองค์ที่มีต่อฟิลลิพนั้นท่วมท้น และ รุนแรงมาก แม้ว่าฟิลลิพจะเป็นคนเจ้าชู้และมีสนมหลายคน แต่ความรักของฆัวนาที่ทรงมีต่อพระองค์กลับพัฒนาไปสู่ความหึงหวงอย่างรุนแรงและแสดงออกอย่างเปิดเผย ซึ่งในยุคนั้นถูกมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ และ เป็นสัญญาณแรกของพระอาการทางจิตที่อาจจะพัฒนาขึ้นในอนาคต ความสัมพันธ์นี้แตกต่างจากความสัมพันธ์ในราชวงศ์ทั่วไปที่มักจะเน้นที่หน้าที่และความเหมาะสมทางการเมืองมากกว่าความรู้สึกส่วนตัว

พระองค์และฟิลลิพมีพระบุตรด้วยกัน 6 พระองค์ ซึ่งต่อมาล้วนเป็นบุคคลสำคัญในราชวงศ์ยุโรปและมีบทบาทสำคัญในการเมืองระดับทวีป:

  • เอเลโอโนเรอแห่งออสเตรีย (Eleanor of Austria; ค.ศ. 1498–1558) ต่อมาเป็นพระราชินีแห่งโปรตุเกสและฝรั่งเศส
  • จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Charles V; ค.ศ. 1500–1558) พระโอรสองค์โตผู้ทรงอำนาจที่สุดในยุคนั้น ทรงเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ กษัตริย์แห่งสเปน และ ผู้ปกครองดินแดนกว้างใหญ่ไพศาล
  • อิซาเบลลาแห่งออสเตรีย (Isabella of Austria; ค.ศ. 1501–1526) ต่อมาเป็นพระราชินีแห่งเดนมาร์ก นอร์เวย์ และ สวีเดน
  • จักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Ferdinand I; ค.ศ. 1503–1564) ต่อมาเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และ กษัตริย์แห่งโบฮีเมีย และ ฮังการี
  • มารีอาแห่งออสเตรีย (Mary of Austria; ค.ศ. 1505–1558) ต่อมาเป็นพระราชินีแห่งฮังการีและโบฮีเมีย และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งเนเธอร์แลนด์
  • คาทารีนาแห่งออสเตรีย (Catherine of Austria; ค.ศ. 1507–1578) ต่อมาเป็นพระราชินีแห่งโปรตุเกส

การขึ้นสู่บัลลังก์

แก้

เดิมที ฆัวนาไม่ได้ถูกคาดหมายว่าจะได้ขึ้นครองราชย์กัสติยา หรือ อารากอน เนื่องจากพระองค์มีพระเชษฐา (เจ้าชายฆวน) และพระเชษฐภคินี (อินฟันตาอิซาเบลลา และอินฟันตามาริอา) ที่มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์เหนือกว่า แต่โชคชะตากลับพลิกผัน ราชวงศ์สเปนต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมต่อเนื่องที่พลิกผันลำดับการสืบราชสันตติวงศ์อย่างรวดเร็ว ในช่วงปี ค.ศ. 1497-1500:

  • เจ้าชายฆวน เจ้าชายแห่งอัสตูเรียส พระเชษฐาองค์เดียวของฆัวนาและรัชทายาทในบัลลังก์สเปน สิ้นพระชนม์อย่างกะทันหันในปี ค.ศ.1497 โดยไม่มีทายาท
  • อิซาเบล สมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกส พระเชษฐภคินีองค์ใหญ่ เสด็จสวรรคตในปี ค.ศ.1498 หลังจากการให้กำเนิดพระราชโอรส
  • พระราชโอรสของเจ้าหญิงอิซาเบล เจ้าชายมีแกล ดา ปาซ (Miguel da Paz) ซึ่งเป็นรัชทายาทในบัลลังก์สเปน และ โปรตุเกส สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ.1500 ขณะทรงพระเยาว์มาก

การสิ้นพระชนม์ติดต่อกันของพระเชษฐา พระเชษฐภคินีและพระภาติยะ ทำให้ฆัวนาได้กลายเป็นรัชทายาทโดยตรงของกัสติยา และ อารากอนโดยไม่คาดฝัน และเมื่อสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยา พระมารดาของฆัวนา สวรรคตในปี ค.ศ.1504 ฆัวนาจึงขึ้นครองราชย์เป็น สมเด็จพระราชินีนาถแห่งกัสติยา อย่างเป็นทางการ โดยมีพระสวามี ฟิลลิพ ได้รับสถาปนาเป็น พระเจ้าเฟลิเปที่ 1 แห่งกัสติยา ในฐานะผู้ร่วมในราชสมบัติโดยสิทธิ์จากพระนางฆัวนา

"ฆัวนาผู้บ้าคลั่ง"

แก้

แม้จะขึ้นครองราชย์ แต่ฆัวนาก็ต้องเผชิญกับความพยายามแย่งชิงอำนาจจากทั้งพระราชสวามี (พระเจ้าเฟลิเปที่ 1) และ พระราชบิดา (พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2) พระเจ้าเฟลิเปที่ 1พยายามที่จะอ้างสิทธิ์ในการปกครองกัสติยาแต่เพียงผู้เดียว โดยอาศัยความนิยมของพระองค์เองและบุคลิกที่โดดเด่น ในขณะที่เฟร์นันโดก็ไม่ต้องการสูญเสียอำนาจในกัสติยาที่พระองค์เคยร่วมปกครองกับอิซาเบล พระองค์จึงพยายามรักษาอิทธิพลของพระองค์เองไว้ ทำให้เกิดความตึงเครียดทางการเมืองอย่างรุนแรง

โศกนาฏกรรมครั้งสำคัญที่นำไปสู่พระอาการทางจิตของฆัวนาอย่างชัดเจน คือ การสวรรคตอย่างกะทันหันของพระเจ้าเฟลิเปที่ 1 ในเดือนกันยายน ค.ศ.1506 ด้วยพระชนมายุเพียง 28 พรรษา สาเหตุการสวรรคตอาจเป็นไข้ไทฟอยด์ หรือ โรคระบาดอื่น ๆ แม้จะมีข่าวลือเรื่องการวางยาพิษก็ตาม การจากไปของพระเจ้าเฟลิเปที่ 1สร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสแก่ฆัวนา พระองค์ทรงปฏิเสธที่จะปล่อยวางจากพระบรมศพของพระราชสวามี ทรงนำพระบรมศพออกเดินทางไปทั่วกัสติยาเป็นเวลาหลายเดือน โดยทรงเปิดหีบพระบรมศพเพื่อดูพระราชสวามีเป็นระยะๆ และ ทรงปฏิเสธที่จะฝังพระบรมศพจนกว่าจะถึงสถานที่เหมาะสมสำหรับราชวงศ์ สิ่งนี้ถูกมองว่าเป็นพฤติกรรมที่สร้างความตื่นตระหนก และ ถูกใช้เป็นหลักฐานของพระอาการเสียสติของพระองค์อย่างรุนแรง

ในปี ค.ศ.1509 พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 ทรงใช้โอกาสนี้ประกาศว่าฆัวนาไม่สามารถปกครองได้เนื่องจากพระอาการทางจิต และ สั่งให้กักขังพระองค์ไว้ที่พระตำหนักหลวงในเมืองตอร์เดซียัส (Royal Convent of Santa Clara at Tordesillas) ตลอดพระชนม์ชีพที่เหลือ การกักขังนี้กินเวลานานถึง 46 ปี โดยมีพระราชธิดาองค์เล็กของพระองค์ คือ คาทารีนาแห่งออสเตรีย คอยดูแลอยู่พักหนึ่ง พระเจ้าเฟร์นันโดทรงปกครองกัสติยาในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

นักประวัติศาสตร์ในปัจจุบันยังคงถกเถียงกันอย่างกว้างขวางว่าพระอาการทางจิตของฆัวนาเป็นเรื่องจริงตามที่ถูกกล่าวอ้างทั้งหมดหรือไม่ หรือเป็นเพียงข้ออ้างทางการเมืองที่ถูกใช้โดยพระราชบิดาและพระราชโอรส (คาร์ลที่ 5) เพื่อยึดอำนาจการปกครอง หลายคนเชื่อว่าฆัวนาอาจจะทรงมีพระอาการประชวรทางจิตจริง เช่น ภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง ภาวะจิตเภท หรือ ภาวะทางจิตอื่นๆ ที่เกิดจากความเสียใจอย่างแสนสาหัส การถูกทอดทิ้ง และ การถูกกดดันทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง แต่พระอาการของพระองค์อาจถูกบิดเบือน หรือ ขยายความเกินจริงเพื่อประโยชน์ในการจำกัดอำนาจทางการเมืองของพระองค์ และ รักษาเสถียรภาพของบัลลังก์สเปน

สิ้นสุดรัชสมัย

แก้

เมื่อพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 สวรรคต ในปี ค.ศ.1516 พระโอรสของฆัวนา คือ จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งสเปน (เป็น พระเจ้าการ์โลสที่ 1ในฐานะผู้ร่วมในราชสมบัติกับพระราชมารดา) และ ทรงเลือกที่จะคงการกักขังพระราชมารดาไว้ที่ตอร์เดซียัสต่อไป พระองค์ยังคงถูกกักขังและ ถูกควบคุมตัวอย่างเข้มงวด

ในปี ค.ศ.1520 การกบฏคอมูเนโรส ซึ่งเป็นการลุกฮือของประชาชนชาวกัสติยาผู้ไม่พอใจการปกครองของการ์โลสที่ 1 และการที่พระองค์ทรงโปรดปรานขุนนางชาวเฟลมิช ผู้ก่อกบฏได้ปลดปล่อยพระนางฆัวนาจากตอร์เดซียัส และ พยายามให้พระองค์ขึ้นเป็นราชินีผู้ปกครองอย่างแท้จริง เพื่อใช้พระองค์เป็นสัญลักษณ์ในการต่อต้านอำนาจของการ์โลสที่ 1 แต่พระนางฆัวนาทรงปฏิเสธที่จะลงพระปรมาภิไธยในเอกสารใดๆ ที่จะเป็นการต่อต้านพระราชโอรสของพระองค์ ทำให้การกบฏไม่ประสบผลสำเร็จ และพระนางฆัวนาถูกกักขังอีกครั้งภายใต้การดูแลที่เข้มงวดกว่าเดิม

สมเด็จพระราชินีนาถฆัวนาแห่งกัสติยา เสด็จสวรรคตในวันที่ 12 เมษายน ค.ศ.1555 ณ พระตำหนักหลวงในเมืองตอร์เดซียัส ด้วยพระชนมายุ 75 พรรษา หลังจากถูกกักขังมาเกือบห้าทศวรรษ พระศพของพระองค์ถูกฝังไว้ที่โบสถ์น้อยหลวงกรานาดา (Capilla Real de Granada) เคียงข้างกับพระราชบิดา พระราชมารดา และ พระราชสวามี ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระองค์ทรงปรารถนาที่จะฝังพระศพของพระเจ้าเฟลิเปที่ 1

ฆัวนาถูกจดจำในประวัติศาสตร์ว่าเป็น "ฆัวนาผู้บ้าคลั่ง" ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ถูกสร้างขึ้น และ เสริมด้วยฝ่ายปกครองของพระองค์เอง เพื่อให้การจำกัดอำนาจของพระองค์มีความชอบธรรม และ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์ในยุคใหม่พยายามที่จะทำความเข้าใจสถานะของพระองค์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น บางคนเชื่อว่าพระองค์อาจไม่ได้บ้าคลั่งทั้งหมด แต่เป็นเพียงคนที่มีภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง และ มีบุคลิกที่แปลกแยก ซึ่งถูกบิดเบือน และ ใช้ประโยชน์ทางการเมือง มรดกที่สำคัญที่สุดของพระองค์คือการเป็นพระมารดาของจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งในกษัตริย์ที่ทรงอำนาจที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรป ซึ่งทำให้สายเลือดของพระองค์เป็นรากฐานสำคัญของราชวงศ์ฮาบส์บวร์กในสเปนและยุโรป

ตำนาน

แก้

พระมหากษัตริย์และสมเด็จพระราชินีในราชวงศ์ตรัสตามาราเองก็มีหลายพระองค์ที่ประสบชะตากรรมเช่นนี้ โดยมีเรื่องเล่าอ้างถึงเหตุที่ต้องเป็นไปเช่นนี้จากคำสาปในช่วงที่มีการรวมชาติสเปนในปี ค.ศ. 1479 โดยการสมรสกันระหว่าง พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 และสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 เป็นการรวมอาณาจักรใหญ่ 2 อาณาจักรบนคาบสมุทรไอบีเรียเข้าด้วยกันสร้างความแข็งแกร่งแก่อาณาจักรคริสต์เพื่อต่อต้านมุสลิมและชาวยิว ซึ่งภายหลังเหลือที่มั่นสุดท้ายอยู่ที่กรานาดาในขณะที่อาณาจักรคริสต์แผ่ขยายอำนาจรุกคืบลงไปยึดพื้นที่คืนมาจากพวกมัวร์ ในที่สุดก็สามารถยึดกรานาดาได้ในปี ค.ศ. 1492 แค่ช่วงที่เข้ายึด (กรานาดาแตก) ก็ปรากฏว่ามีการสังหารชาวยิวและมุสลิมจำนวนมากที่หนีออกจากกรานาดาไม่ทัน มีการออกพระราชกฤษฎีกาอารัมบา ให้ชาวยิวเปลี่ยนศาสนาเป็นคริสต์โรมันคาทอลิกไม่ก็ต้องออกไปจากสเปน ซึ่งต่อมาพวกมุสลิมก็ต้องทำตามด้วยเมื่อมีผู้ไม่ปฏิบัติตามจึงเกิดการประหารชาวยิวและมุสลิมเป็นจำนวนมากในช่วงนั้น มีเรื่องเล่าว่าในการประหารชีวิตชาวยิวที่ไม่ยอมเปลี่ยนศาสนา ซึ่งครานั้นพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระราชินีเสด็จทอดพระเนตรพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์, ขุนนางและข้าราชบริพารจุดไฟเผาชาวยิวทั้งเป็น มีชาวยิวที่โกรธแค้นผู้หนึ่งตะโกนสาปแช่งออกมาจากกองไฟขณะถูกเผาว่าขอให้พระราชวงศ์ของพระองค์วิบัติในที่สุด ว่ากันว่าพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 ถึงกับตกพระทัย ตะลึงถึงกับประชวรพระวาโยตกจากพระเก้าอี้ และนี่คงเป็นต้นเหตุคำสาปวิปลาสแห่งราชวงศ์สเปนเพราะหลังจากนั้นไม่กี่ปีเจ้าชายฆวน และเจ้าหญิงอีซาเบลผู้เป็นพระมเหสีในพระเจ้ามานูแวลที่ 1 พระเชษฐาและพระเชฐภคินีของเจ้าหญิงฆัวนาก็สิ้นพระชนม์ในเวลาอันไล่เลี่ยกัน และไม่กี่ปีต่อมาเจ้าชายมีเกลพระโอรสของเจ้าหญิงอีซาเบลก็สิ้นพระชนม์ สร้างความปวดร้าวใจแก่สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลพระราชมารดาเป็นอย่างมาก

พงศาวลี

แก้

ดูเพิ่ม

แก้
ก่อนหน้า สมเด็จพระราชินีนาถฆัวนาแห่งกัสติยา ถัดไป
พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2    
สมเด็จพระราชินีนาถแห่งอารากอน
(ราชวงศ์ตรัสตามารา)

  พระเจ้าการ์โลสที่ 1
พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2    
สมเด็จพระราชินีนาถแห่งซิซิลี
(ราชวงศ์ตรัสตามารา)

  พระเจ้าการ์โลสที่ 1
พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2    
สมเด็จพระราชินีนาถแห่งเนเปิลส์
(ราชวงศ์ตรัสตามารา)

  พระเจ้าการ์โลสที่ 1
สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1
และ พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 5
   
สมเด็จพระราชินีนาถแห่งกัสติยาและเลออน
(ราชวงศ์ตรัสตามารา)
ร่วมราชบัลลังก์กับพระเจ้าเฟลิเปที่ 1 (1506)
พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 5 (1506–1516)
พระเจ้าการ์โลสที่ 1 (1516–1555)

  พระเจ้าการ์โลสที่ 1