สมถะ เป็นภาษาบาลี แปลว่า สงบ ในคัมภีร์มีใช้ใน 3 แบบ ดังนี้

  1. จิตตสมถะ - ความสงบระงับจากอกุศลนิวรณ์แห่งจิต (สมถกรรมฐาน)
  2. อธิกรณสมถะ - วิธีการสงบระงับอธิกรณ์การทะเลาะมีเรื่องมีราวกันในหมู่สงฆ์ มี 7 อย่าง เรียก สัตตาธิกรณสมถะ
  3. สัพพสังขารสมถะ ความสงบระงับสังขารทั้งปวง หมายถึง พระนิพพาน[1]

สมถกรรมฐาน

แก้

สมถกรรมฐาน หมายถึง กรรมฐานอันเป็นอุบายสงบใจ ซึ่งคู่กับวิปัสสนากรรมฐานอันเป็นอุบายเรืองปัญญา

สมถกรรมฐาน คือ วิธีการในอันที่จะเพิ่มพูนสมาธิ คู่กับ วิปัสสนากรรมฐาน คือ วิธีการในอันที่จะเพิ่มพูนสติ

สมถกรรมฐาน อารมณ์กรรมฐานที่ทำให้บรรลุอุปจารสมาธิขึ้นไป มีอยู่ 40 อย่าง[2] คือ

  1. กสิณ 10
  2. อสุภ 10
  3. อนุสสติ 10
  4. อัปปมัญญาหรือพรหมวิหาร 4
  5. อรูปฌาน 4
  6. จตุธาตุววัฏฐาน
  7. อาหาเรปฏิกูลสัญญา[3]

รายละเอียด

แก้
  • พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ สีลานุสสติ จาคานุสสติ เทวตานุสสติ มรณานุสสติ อุปสมานุสสติ จตุธาตุววัฏฐาน อาหาเรปฏิกูลสัญญา เป็นอารมณ์ให้สำเร็จอุปจารสมาธิ (หมายถึงทำได้สูงสุดที่อุปจารสมาธิ)
  • อสุภ 10 และกายคตาสติ เป็นอารมณ์ให้สำเร็จปฐมฌาน
  • เมตตา กรุณา มุทิตา เป็นอารมณ์ให้สำเร็จตติยฌาน
  • อุเบกขา ปฐวีกสิณ อาโปกสิณ วาโยกสิณ เตโชกสิณ โลหิตกสิณ นีลกสิณ ปีตกสิณ โอทาตกสิณ อาโลกกสิณ และอานาปานสติ เป็นอารมณ์ให้สำเร็จจตุตถฌาน
  • อากาสกสิณ เป็นอารมณ์ให้สำเร็จ อากาสานัญจายตนะ, วิญญาณัญจายตนะ เป็นอารมณ์ให้สำเร็จ วิญญาณัญจายตนะ, อากิญจัญญายตนะ เป็นอารมณ์ให้สำเร็จ อากิญจัญญายตนะ, เนวสัญญานาสัญญายตนะ เป็นอารมณ์ให้สำเร็จ เนวสัญญานาสัญญายตนะ
  • กสิณ 10 และอัปปมัญญา 4 ควรขยายอารมณ์กรรมฐาน
  • อรูปกรรมฐาน ก้าวล่วง รูป, เนวสัญญานาสัญญายตนะ ก้าวล่วง เวทนาและสัญญา
  • กสิณ 10 เป็นปัจจัยแห่งอภิญญา 5 และกรรมฐานที่เหลือไม่เป็นปัจจัยแห่งอภิญญา 5
  • เนวสัญญานาสัญญายตนะ ไม่เป็นเหตุแห่งวิปัสสนา
  • กสิณ 10 อสุภ 10 กายคตาสติ และอานาปานสติ มีนิมิตเป็นอารมณ์กรรมฐาน
  • วิญญาณัญจายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ สีลานุสสติ จาคานุสสติ เทวตานุสสติ มรณานุสสติ อุปสมานุสสติ จตุธาตุววัฏฐาน อาหาเรปฏิกูลสัญญา มีสภาวธรรมเป็นอารมณ์กรรมฐาน
  • อัปปมัญญา 4 อากาสานัญจายตนะและอากิญจัญญายตนะ เป็นอารมณ์ที่พูดไม่ถูก ไม่มีทั้งนิมิตและสภาวธรรมเป็นอารมณ์กรรมฐาน
  • อสุภ 10 ปฐวีกสิณ อาโปกสิณ วาโยกสิณ เตโชกสิณ โลหิตกสิณ นีลกสิณ ปีตกสิณ โอทาตกสิณ อาโลกกสิณ กำหนดนิมิตโดยการเห็น
  • อานาปานสติ กำหนดนิมิตโดยการถูกกระทบ
  • วาโยกสิณ กำหนดนิมิตโดยการเห็นและการถูกกระทบ
  • พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ สีลานุสสติ จาคานุสสติ เทวตานุสสติ มรณานุสสติ อุปสมานุสสติ จตุธาตุววัฏฐาน อาหาเรปฏิกูลสัญญา เมตตา กรุณา มุทิตา กำหนดนิมิตโดยการฟังหรือคิดพิจารณา
  • กายคตาสติ กำหนดนิมิตโดยการเห็นและการฟังหรือคิดพิจารณา
  • อุเบกขาเป็นบาทฐานต่อจากตติยฌานของผู้เจริญเมตตา กรุณา มุทิตา, อากาสกสิณเป็นบาทฐานต่อจากปฐมฌานของผู้เจริญกสิณทั้ง 9 (เว้นอากาสกสิณ) อรูปกรรมฐานเป็นบาทฐานต่อจากจตุตถฌานของผู้เจริญอากาสกสิณ, อรูปกรรมฐานบทต่ำกว่าย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่อรูปกรรมฐานบทที่สูงกว่าโดยลำดับ คือ อากาสกสิณย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่อากาสานัญจายตนะ อากาสานัญจายตนะย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่วิญญาณัญจายตนะ วิญญาณัญจายตนะย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่อากิญจัญญายตนะ อากิญจัญญายตนะย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะ, อุเบกขา อากาสกสิณ อรูปกรรมฐาน ผู้ใหม่ไม่พึงปฏิบัติก่อนเพราะเป็นอารมณ์ที่ลึกซึ้ง
  • อสุภ 10 กายคตาสติ อานาปานสติ จตุธาตุววัฏฐาน เป็นทั้งสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน เพราะมีรูปนามเป็นอารมณ์
  • กสิณ 10 อัปปมัญญา 4 อรูปฌาน 4 พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ สีลานุสสติ จาคานุสสติ เทวตานุสสติ มรณานุสสติ อุปสมานุสสติ อาหาเรปฏิกูลสัญญา จัดเป็นสมถกรรมฐานอย่างเดียว เพราะไม่มีรูปนามเป็นอารมณ์

ขีดขั้นความสำเร็จของกรรมฐานแต่ละประเภท

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. http://www.palungjit.com/tripitaka/search.php?kword=%CD%C7%D4%CA%D2%CB%D2%C3%D0[ลิงก์เสีย]
  2. คัมภีร์วิสุทธิมรรค
  3. คัมภีร์วิมุตติมรรค