สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เป็นอดีตสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เคยมีสถานะเป็นกรมในกระทรวงศึกษาธิการ ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2514 โดยการรวมวิทยาลัย 3 แห่งเข้าด้วยกัน คือ วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี วิทยาลัยเทคนิคพระนครเหนือ และ วิทยาลัยโทรคมนาคมนนทบุรี รวมทั้งมีวิทยาลัยอีกหนึ่งแห่งเข้ามาสมทบภายหลัง คือ วิทยาลัยก่อสร้างบางพลัด สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความแตกต่างของวิทยาเขตและวิกฤตการบริหารงาน จึงได้แยกออกเป็นเป็นสถาบันอุดมศึกษาอิสระสามแห่งใน พ.ศ. 2529 รวมอายุสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าในฐานะสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นเอกเทศได้ 15 ปี ในระหว่างนี้มีอธิการบดีดำรงแหน่งสองคน โดยในช่วงบั้นปลายที่มีวิกฤตการบริหาร รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตผลัดเปลี่ยนกันรักษาการตำแหน่งอธิการบดี
King Mongkut's Institute of Technology | |
ชื่อเดิม | วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี วิทยาลัยเทคนิคพระนครเหนือ วิทยาลัยโทรคมนาคมนนทบุรี |
---|---|
ประเภท | สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ |
ดำเนินงาน | 24 เมษายน ค.ศ. 1971 –19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1986 |
สี | สีแสด [ต้องการอ้างอิง] |
ประวัติ
แก้เมื่อ 23 เมษายน พ.ศ. 2514 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ตั้งขึ้น จากการรวม วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี วิทยาลัยเทคนิคพระนครเหนือ และ วิทยาลัยโทรคมนาคมนนทบุรี ในสังกัด กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เข้าด้วยกัน ตาม พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พ.ศ. ๒๕๑๔ [1] โดยเป็นสถาบันการศึกษาและวิจัย มีวัตถุประสงค์ที่จะผลิตครูอาชีวศึกษาระดับปริญญา ให้การศึกษาทั้งระดับปริญญา และระดับต่ำกว่าปริญญา และทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งนี้สถาบันเป็นนิติบุคคล มีฐานะเป็นกรมในกระทรวงศึกษาธิการ
เมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2515 กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศให้รวม วิทยาลัยวิชาการก่อสร้างบางพลัด เข้ากับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า [2] (ซึ่งถูกรวมเข้ากับ ศูนย์ลาดกระบัง และทำให้ ศูนย์ธนบุรี ได้ยุติการรับนักศึกษาสถาปัตยกรรมศาสตร์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2515 และจัดตั้งเป็น คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศูนย์ลาดกระบัง ในปีการศึกษา 2516 ปัจจุบันคณะดังกล่าวอยู่ในสังกัด สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตเจ้าคุณทหารลาดกระบัง [3])
เมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2517 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ถูกโอนย้ายไปสังกัด ทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐ ตาม พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๑๗ [4] ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ทบวงมหาวิทยาลัย
เมื่อ 20 เมษายน พ.ศ. 2522 จากการขยายตัวของสถาบันอย่างรวดเร็ว จึงมีการปรับโครงสร้างตามมาหลายครั้ง กระทั่งมีมีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๒ [5]
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
แก้พ.ศ.2515
กำหนดการแบ่งส่วนราชการ
แก้(๑) สำนักงานอธิการบดี
(๒) คณะ
สำนักงานอธิการบดี อาจแบ่งส่วนราชการออกเป็นกองและแผนก
คณะ แบ่งส่วนราชการออกเป็นภาควิชาและสำนักงานเลขานุการ
สำนักงานเลขนุการคณะ อาจแบ่งส่วนราชการออกเป็นแผนก
การดำเนินงานของสถาบัน
แก้มีสภาสถาบันเป็นผู้ควบคุมดูแลกิจการทั่วไปของสถาบัน สภาสถาบัน ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นนายกสภาสถาบัน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นรองนายกสภาสถาบัน อธิบดีกรมอาชีวศึกษา อธิการบดี รองอธิการบดี และคณะบดี เป็นกรรมการสภาสถาบัน โดยตำแหน่ง และกรรมการสภาสถาบันผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งมีจำนวนไม่น้อยกว่าสี่คน แต่ไม่เกินเก้าคน หัวหน้าสำนักงานอธิการบดี เป็นกรรมการและเลขานุการสภาสถาบัน
การบริหารงานของสถาบัน
แก้มีอธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบในการบริหารงานของสถาบัน อธิการบดี นั้นจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งแต่โดยคำแนะนำของสภาสถาบัน และให้ดำรงตำแหน่งสามปี แต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งใหม่อีกก็ได้ และจะให้มีรองอธิการบดีคนหนึ่งหรือหลายคนทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยก็ได้ ในคณะหนึ่ง ให้มีคณบดีเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ คณบดี นั้นสภาสถาบันจะได้แต่งตั้งจากคณาจารย์หรือผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการสภาสถาบันมาแล้ว และให้ดำรงตำแหน่งสี่ปี แต่อาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้ และจะมีรองคณบดีคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยก็ได้ ถ้ามีการแบ่งส่วนราชการเป็นภาควิชา ให้มีหัวหน้าภาควิชาเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบในงานของภาควิชา ให้มีกรรมการประจำคณะประกอบ ด้วยคณบดีเป็นประธานกรรมการ รองคณบดี และหัวหน้าภาควิชาในคณะนั้นเป็นกรรมการ หรือเป็นกรรมการเพิ่มเติมให้ได้จำนวน ๔ คน ให้คณะกรรมการตั้งผู้หนึ่งผู้ใดเป็นเลขานุการกรรมการประจำคณะ ซึ่งสภาสถาบันแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสองปี แต่อาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้
การจัดการศึกษา
แก้การจัดการศึกษาของสถาบันแบ่งออกเป็น ๓ ระดับ
๑. ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ซึ่งเป็นระดับเดียวกบประโยคมัธยมศึกษาตอนปลายสายอาชีพ หรือเรียกเป็นสามัญว่าระดับช่างฝีมือ ระดับนี้รับผู้สำเร็จจากมัธยมศึกษาตอนต้นสายสามัญ หรือที่เรียกโดยย่อว่า มศ. ๓ เข้าศึกษาหลักสูตร ๓ ปี
๒. ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือที่เรียกเป็นสามัญว่าช่างเทคนิค ระดับนี้รับนักศึกษาสองประเภท คือ ประเภทที่หนึ่ง รับผู้สำเร็จจากมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ ซึ่งเรียกโดยย่อว่า มศ. ๕ เข้าศึกษาหลักสูตร ๓ ปี ประเภทที่สอง รับผู้สำเร็จจากระดับที่หนึ่งคือวิชาชีพ และจากมัธยมศึกษาตอนปลายสายอาชีพ ซึ่งเรียกโดยย่อว่า มศ. ๖ เข้าศึกษาหลักสูตร ๒ ปี
๓. ระดับปริญญา รับผู้สำเร็จการศึกษาจากระดับที่สอง คือระดับวิชาชีพชั้นสูง เข้าศึกษาหลักสูตร ๒ ปี
การศึกษาทั้งสามระดับมีหลักสูตรจบในตัวแต่ละระดับ เพื่อผู้สำเร็จจะได้ออกไปประกอบอาชีพได้ หากผู้ใดประสงค์จะศึกษาต่อในระดับสูงขึ้นไปก็ย่อมทำได้โดยสมัครสอบคัดเลือกเข้าศึกษาในสถาบัน ทั้งนี้เพราะต้องการผู้มีสติปัญญาและผลการเรียนดีพอ เนื่องจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าได้รวมวิทยาลัย ๓ แห่งเข้ามาเป็นสถาบันสถานศึกษาทั้ง ๓ แห่ง มีที่ตั้งแยกออกไปเป็นแต่ละแห่งห่างไกลกัน
การจัดการศึกษาก็เป็นไปตามความมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ของสัญญาและข้อตกลงในการให้ความช่วยเหลือของต่างประเทศ คือ
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ศูนย์ธนบุรี ได้รับความช่วยเหลือจาก โครงงานพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) แห่ง UNESCO
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ศูนย์พระนครเหนือ ได้รับความช่วยเหลือจาก รัฐบาลเยอรมัน
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ศูนย์นนทบุรี ได้รับความช่วยเหลือจาก รัฐบาลญี่ปุ่น
ฉะนั้น แม้จะได้รวมสถานศึกษาทั้ง ๓ แห่งเข้าเป็นสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าตามกฎหมายแล้วก็ตาม แต่การดำเนินงานก็ต้องแยกกันทำ สถานที่ตั้งก็ยังแยกกันอยู่ตามเดิม เพราะทั้ง ๓ แห่งได้วางรากฐานไว้มั่นคงแล้ว จึงไม่อาจรวมงานให้เป็นที่เดียวกันได้
โครงสร้างการบริหารงาน
แก้๑. สำนักงานอธิการบดี จัดแบ่งสายงานการดำเนินงานดังนี้
- กองกลาง ดำเนินงานด้านธุรการเกี่ยวกับการประสานงานทั่วไป เกี่ยวกับระเบียบข้าราชการ ระเบียนนักศึกษา
การประชาสัมพันธ์ การประสานงานทั่วไป ตลอดจนการเงินสถาบัน การจัดแบ่งคณะและภาควิชาจัดแบ่งดังนี้
๒. คณะวิศวกรรมศาสตร์ธนบุรี เปิดสอนภาควิชา
- วิศวกรรมไฟฟ้า
- วิศวกรรมเครื่องกล
- วิศวกรรมโยธา
- วิศวกรรมอุตสาหการ
ผู้ศึกษาครบตามหลักสูตร ๒ ปี จะได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตร์ ใช้อักษรย่อ วศ.บ. (B.Eng.)
๓. คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์ธนบุรี เปิดสอนภาควิชาเช่นเดียวกับคณะวิศวกรรมศาสตร์
แต่ผู้จบการศึกษาระดับปริญญาในคณะนี้จะได้รับปริญญาครุศาสตร์และอุตสาหกรรม ใช้อักษรย่อว่า ค.อ.บ. (B.S.I.Ed.)
๔. คณะวิศวกรรมศาสตร์พระนครเหนือ เปิดสอนภาควิชา
- วิศวกรรมเครื่องกล
- วิศวกรรมไฟฟ้า
- เทคนิคอุตสาหกรรม
๓.๑ ผู้ศึกษาครบตามหลักสูตร ๒ ปี จะได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต ใช้อักษรย่อ ว.ศ.บ. (B.Eng.)
๓.๒ ผู้ศึกษาครบตามหลักสูตร ๒ ปี ของภาควิชาเทคนิคอุตสาหกรรม จะได้รับปริญญาอุตสาหกรรมศาสตร์บัณฑิต ใช้อักษรย่อว่า อส.บ. (B.Ind. Technology)
๕. คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์พระนครเหนือ เปิดสอนภาควิชา
- ครุศาสตร์อุตสาหกรรมเครื่องกล
- ครุศาสตร์อุตสาหกรรมไฟฟ้า
ผู้ศึกษาครบตามหลักสูตร ๒ ปี จะได้รับปริญญาครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต ใช้อักษรย่อว่า ค.อ.บ. (B.S.I.Ed.)
๖. คณะวิศวกรรมศาสตร์นนบุรี เปิดสอนภาควิชา
- วิศวกรรมไฟฟ้า (โทรคมนาคม)
ผู้ศึกษาครบตามหลักสูตร ๒ ปี จะได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต ใช้อักษรย่อว่า ว.ศ.บ. (B.Eng.) สาขาวิชาไฟฟ้าโทรคมนาคม
๗. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เปิดสอนภาควิชา
- สถาปัตยกรรมศาสตร์
- มัณฑนศิลป์
- ศิลปอุตสาหกรรม
ผู้ศึกษาครบตามหลักสูตร ๒ ปี จะได้รับปริญญาสถาปัตยกรรมศาสตร์บัณฑิต ใช้อักษรย่อว่า สถ.บ. (B.Arch.)
ภาควิชาครุศาสตร์นนทบุรี เปิดสอนสาขาวิชา
- ไฟฟ้าโทรคมนาคม
- สถาปัตยกรรม
- มัณฑนศิลป์
- ศิลปอุตสาหกรรม
ผู้ศึกษาครบหลักสูตร ๒ ปี จะได้รับปริญญาครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต ใช้อักษรย่อว่า ค.อ.บ. (B.S.I.Ed.)
การแยกสถาบัน
แก้จุดเริ่มต้นการแยกเป็นสามสถาบันเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2524 ในการสรรหาอธิการบดีใหม่ เนื่องจากทั้งสามวิทยาเขตมีความแตกต่างกันหลายประการ ทั้งความเป็นมา ปรัชญา และวิธีการจัดการศึกษา[6] และมีปัญหาในการสรรหาสรรหาอธิการบดีคนใหม่[6] เมื่อตำแหน่งอธิการบดีว่างลงใน พ.ศ. 2526 จึงให้รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตผลัดกันเป็นผู้รักษาการแทนอธิการบดี คนละ 3 เดือนไปพลางก่อน ระหว่างที่ข้อเสนอเพื่อแยกวิทยาเขตออกจากกันเป็นอิสระโดยออกเป็นกฎหมายอยู่ระหว่างการพิจารณา[7] กระบวนการนี้ยืดเยื้อยาวนาน เพราะมีการเสนอโครงสร้างหลายรูปแบบ แม้กฎหมายผ่านสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วแต่วุฒิสภากลับไม่รับหลักการ[8] ในที่สุดพระราชบัญญัติดังกล่าวก็ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2529[9] เป็นจุดสิ้นสุดของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าที่มีอายุเกือบ 15 ปี และทำให้เกิดสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ สังกัดทบวงมหาวิทยาลัย ที่เป็นอิสระต่อกันสามแห่งได้แก่
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (เปลี่ยนเป็น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พร้อมแปลงสภาพเป็น สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐบาล เมื่อ พ.ศ. 2541[10])
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (เปลี่ยนเป็น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ พร้อมแปลงสภาพเป็น สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐบาล เมื่อ พ.ศ. 2550[11])
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (แปลงสภาพเป็น สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐบาล เมื่อ พ.ศ. 2551[12])
สัญลักษณ์
แก้- ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนาม เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2514 [13]
ภาษาไทย "สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า" ภาษาอังกฤษ "King Mongkut's Institute of Technology"
- ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตเชิญ “พระมหามงกุฏ” เป็นตราสัญลักษณ์ประจำสถาบัน เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2514
ทำเนียบผู้บริหาร
แก้นายกสภา
แก้- นายสุกิจ นิมมานเหมินทร์ (4 กุมภาพันธ์ 2514 – 16 พฤศจิกายน 2514)
- นายบุญถิ่น อัตถากร (17 พฤศจิกายน 2514 – 18 ธันวาคม 2515)
- นายอภัย จันทวิมล (19 ธันวาคม 2515 – 29 พฤษภาคม 2517)
- นายเกรียง กีรติกร (30 พฤษภาคม 2517 – 28 มิถุนายน 2517)
- นายเกษม สุวรรณกุล (29 มิถุนายน 2517 – 25 มกราคม 2518)
- พลเรือตรี ชลี สินธุโสภณ (26 มกราคม 2518 – 13 มกราคม 2521)
- นายจำรัส ฉายะพงศ์ (14 มกราคม 2521 – 30 มิถุนายน 2531)
อธิการบดี
แก้- ศาสตราจารย์ ดร.พงศ์ศักดิ์ วรสุนทรโรสถ (22 ธันวาคม 2514 - 1 ตุลาคม 2521) (ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต)
- ศาสตราจารย์ ดร.บุญญศักดิ์ ใจจงกิจ (3 พฤศจิกายน 2521 - 22 สิงหาคม 2526) (สภาสถาบันอนุมัติให้ลาออก)
มีการประชุมสภาสถาบันเมื่อ 13 สิงหาคม 2524 เพื่อสรรหาอธิการบดีในวาระต่อไปแต่ไม่อาจตกลงกันได้ เป็นวิกฤตการบริหารงานและนำมาซึ่งการปรับโครงสร้าง แยกเป็นสามสถาบันอุดมศึกษาอิสระใน พ.ศ. 2529 หลังจากสภาสถาบันอนุมัติให้ ศาสตราจารย์บุญญศักดิ์ ใจจงกิจ ลาออก จึงกำหนดให้รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตผลัดกันเป็นผู้รักษาการแทนอธิการบดี คนละ 3 เดือน
ความสัมพันธ์ในปัจจุบันระหว่างสามสถาบัน
แก้งานกีฬาและฟุตบอลประเพณี 3 พระจอมเกล้า
แก้งานกีฬาและฟุตบอลประเพณี 3 พระจอมเกล้า ประเพณี 3K ซึ่งจะถูกจัดขึ้นในทุกปี เป็นการแข่งขันกีฬาและฟุตบอล ของนักศึกษา จากสถาบันการศึกษาพระจอมเกล้าทั้ง 3 โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ เพื่อความสามัคคี และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ของชาวพระจอมเกล้าฯ ทั้ง 3
พิธีพระราชทานปริญญาบัตร
แก้พิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรของบัณฑิตทั้งสามสถาบันนั้น จะจัดร่วมกัน
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จาก สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ครั้งแรก ประจำปีการศึกษา 2510-2514 จำนวน 468 คน ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2515
บทเพลงประจำสถาบันร่วมกัน
แก้ได้เแก่บทเพลงสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ และบทเพลงลูกพระจอมเกล้า
อ้างอิง
แก้- ↑ พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พ.ศ. 2514 ราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ เล่ม 88 ตอนที่ 43 วันที่ 23 เมษายน 2514
- ↑ ประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ วิทยาลัยวิชาการก่อสร้างรวมเข้ากับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
- ↑ http://archive.lib.kmutt.ac.th/index.php?option=com_content&view=article&id=169%3A2010-01-19-13-10-23&catid=47%3A2010-01-19-13-06-25&Itemid=66&limitstart=2
- ↑ พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๑๗ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 91 ตอนที่ 112 ฉบับพิเศษ
- ↑ พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๒
- ↑ 6.0 6.1 http://archive.lib.kmutt.ac.th/index.php?option=com_content&view=article&id=169%3A2010-01-19-13-10-23&catid=47%3A2010-01-19-13-06-25&Itemid=66&limitstart=4
- ↑ http://archive.lib.kmutt.ac.th/index.php?option=com_content&view=article&id=169%3A2010-01-19-13-10-23&catid=47%3A2010-01-19-13-06-25&Itemid=66&limitstart=5
- ↑ http://archive.lib.kmutt.ac.th/index.php?option=com_content&view=article&id=169%3A2010-01-19-13-10-23&catid=47%3A2010-01-19-13-06-25&Itemid=66&limitstart=5 ที่ประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 10/2528 (สมัยสามัญ)
- ↑ พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ พ.ศ. ๒๕๒๘ ราชกิจจานุเบกษา
- ↑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พ.ศ. ๒๕๔๑ ราชกิจจานุเบกษา
- ↑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ พ.ศ. ๒๕๕๐ ราชกิจจานุเบกษา
- ↑ พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พ.ศ. ๒๕๕๑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕ ตอนที่ ๔๕ ก ๗ มีนาคม ๒๕๕๑ หน้า ๙๕-๑๒๔
- ↑ http://archive.lib.kmutt.ac.th index.php?option=com_content&view=article&id=169%3A2010-01-19-13-10-23&catid=47%3A2010-01-19-13-06-25&Itemid=66&limitstart=2