ราชวงศ์ปาห์ลาวี
ราชวงศ์ปาห์ลาวี (เปอร์เซีย: دودمان پهلوی) เป็นราชวงศ์สุดท้ายของอิหร่าน โดยปกครองอิหร่านปกครองมาเกือบ 54 ปี ระหว่างปี 1925 ถึง 1979
ปาห์ลาวี | |
---|---|
ราชวงศ์ | |
ประเทศ | รัฐจักรวรรดิอิหร่าน |
ถิ่นกำเนิด | มาซันดารัน |
ก่อตั้ง | 15 ธันวาคม ค.ศ. 1925 |
ต้นตระกูล | พระเจ้าชาห์ เรซา ปาห์ลาวี |
ผู้นำคนปัจจุบัน | เรซา ปาห์ลาวี |
ผู้ปกครองคนสุดท้าย | พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี |
ตระกูลที่เกี่ยวข้อง | ราชวงศ์มูฮัมหมัด อาลี (1941–1948) |
สิ้นสุด | 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1979 |
ราชวงศ์ปาห์ลาวีก่อตั้งโดยนายทหารในกองทัพเปอร์เซีย นามว่า เรซา ข่าน[1] เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งโดยอังกฤษให้เป็นผู้บัญชาการกองพลน้อยคอซแซคเปอร์เซีย[2] ประมาณหนึ่งเดือนต่อมาภายใต้การควบคุมของอังกฤษ กองกำลังสามพันนายเศษนายของเรซา ข่าน ก็มุ่งไปถึงกรุงเตหะรานเพื่อทำรัฐประหารในปี 1921[3] และพื้นที่ส่วนที่เหลือของประเทศถูกยึดครองในปี 1923 ต่อมา พระเจ้าอะห์หมัด ชาห์ กอญัร ถูกบีบให้สละราชสมบัติอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 1925 เรซา ข่านจึงสถาปนาราชวงศ์ปาห์ลาวี
หลังจากโค่นล้มราชวงศ์กอญัร พระเจ้าเรซาเริ่มกระบวนการปฏิรูปเพื่อทำให้อิหร่านทันสมัยและมีความเป็นชาตินิยม เช่น การส่งเสริมระบบการศึกษาแบบตะวันตก การลดอิทธิพลของศาสนาในรัฐ และการสร้างโครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่[4]
หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง เรซาถูกบีบบังคับให้สละราชบัลลังก์โดยอังกฤษและสหภาพโซเวียต เนื่องจากความสัมพันธ์ของเขากับนาซีเยอรมนี รัชทายาทของเขา เจ้าชายโมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ได้ขึ้นครองราชย์ในปี 1941 ซึ่งในช่วงการปกครองของพระเจ้าโมฮัมหมัด เรซา อิหร่านประสบกับการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว ผ่านแผน “ปฏิวัติสีขาว” ซึ่งรวมถึงการปฏิรูปที่ดิน สิทธิสตรี และการลงทุน อย่างไรก็ตาม การรวมอำนาจแบบเผด็จการ การคอร์รัปชัน และการใช้ความรุนแรงของตำรวจลับทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ชน[5]
กระแสความไม่พอใจนำไปสู่การลุกฮือของประชาชนที่เรียกว่าการปฏิวัติอิหร่าน และการกลับมาของรูฮุลลอฮ์ โคมัยนี ผู้นำทางศาสนาในปี 1979 ซึ่งทำให้ราชวงศ์ปาห์ลาวีสิ้นสุดลง และอิหร่านกลายเป็นสาธารณรัฐอิสลามจนถึงปัจจุบัน[6]
ประมุขราชวงศ์ปาห์ลาวี
แก้ลำดับ | ภาพ | พระนาม | ศักดิ์ | เข้ารับตำแหน่ง | ลงจากตำแหน่ง |
---|---|---|---|---|---|
1 | พระเจ้า เรซา ปาห์ลาวี |
— | 15 ธันวาคม 1925 | 16 กันยายน 1941 (สละราชสมบัติ) | |
2 | พระเจ้า โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี |
โอรสในพระเจ้าชาห์ เรซา | 16 กันยายน 1941 | 11
กุมภาพันธ์ 1979 (ถูกถอดจากราชสมบัติ) 27 กรกฎาคม 1980 (สวรรคต) | |
— | พระนางเจ้า ฟาราห์ ปาห์ลาวี |
มเหสีหม้ายในพระเจ้าชาห์โมฮัมหมัด เรซา | 27 กรกฎาคม 1980 |
31 ตุลาคม 1980 | |
3 | เจ้าชาย เรซา ปาห์ลาวี |
โอรสในพระเจ้าโมฮัมหมัด เรซา | 31 ตุลาคม 1980 |
ยังอยู่ในตำแหน่ง |
อ้างอิง
แก้- ↑ Aghaie, Kamran Scot (2011-12-01). The Martyrs of Karbala: Shi'i Symbols and Rituals in Modern Iran (ภาษาอังกฤษ). University of Washington Press. ISBN 978-0-295-80078-3.
- ↑ Cyrus Ghani; Sīrūs Ghanī (6 January 2001). Iran and the Rise of the Reza Shah: From Qajar Collapse to Pahlavi Power. I.B.Tauris. pp. 147–. ISBN 978-1-86064-629-4.
- ↑ Brysac, Shareen Blair. "A Very British Coup: How Reza Shah Won and Lost His Throne." World Policy Journal 24, no. 2 (2007): 90–103. Accessed August 8, 2021. http://www.jstor.org/stable/40210096
- ↑ Axworthy, Michael. A History of Iran: Empire of the Mind. Basic Books, 2008.
- ↑ Keddie, Nikki R. Modern Iran: Roots and Results of Revolution. Yale University Press, 2006.
- ↑ Milani, Abbas. The Shah. Palgrave Macmillan, 2011.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- The Pahlavi Dynasty
- What Really Happed to the Shah of Iran เก็บถาวร 2011-05-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Payvand News, March 10, 2006.
- Egyptian Royalty by Ahmed S. Kamel, Hassan Kamel Kelisli-Morali, Georges Soliman and Magda Malek.
- L'Egypte D'Antan... Egypt in Bygone Days เก็บถาวร 2020-06-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน by Max Karkegi.