MusicBrainz คือโครงการที่สร้างขึ้นเพื่อรวบรวมฐานข้อมูลทางดนตรีคล้ายคลึงกับโครงการ freedb โดย MusicBrainz ก่อตั้งขึ้นจากปัญหาข้อจำกัดในการบันทึกข้อมูลบน คอมแพ็กดิสก์ดาต้าเบส (CDDB) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตสำหรับโปรแกรมแอพลิเคชั่นที่ต้องการข้อมูลจากออดิโอซีดี (compact disc) ซึ่งต่อมา MusicBrainz ได้ขยายเป้าหมายที่กว้างขึ้นกว่าข้อมูลที่บรรจุอยู่ในคอมแพ็กดิสก์ก็คือ เมทาดาต้า (ข้อมูลเกี่ยวกับ ผู้แสดง, ศิลปิน, นักแต่งเพลง เป็นต้น) ซึ่งเป็นการสร้างฐานข้อมูลออนไลน์สำหรับดนตรี[5][6] MusicBrainz จัดเก็บข้อมูลของศิลปิน, งานบันทึกเสียง และสิ่งที่เกี่ยวข้องต่างๆ สำหรับงานบันทึกเสียงขั้นต่ำเป็นการจัดเก็บชื่ออัลบั้ม, ชื่อแทร็ก, และความยาวของแต่ละแทร็ก ข้อมูลที่เพิ่มเข้ามาเหล่านี้ได้รับการเขียนและตรวจสอบโดยนักเขียนอาสาสมัครซึ่งปฏิบัติตามข้อกำหนดการเขียนของชุมชน (style guidelines) งานบันทึกเสียงเหล่านั้นอาจจะบรรจุข้อมูลเกี่ยวกับประเทศและวันแรกที่เผยแพร่, CD ID, cover art, acoustic fingerprint, คำอธิบายประกอบและเมทาดาต้าอื่นๆ ถึงวันที่ 20 กันยายน 2561 MusicBrainz มีฐานข้อมูลโดยประมาณประกอบด้วย 1.4 ล้านรายชื่อศิลปิน, 2 ล้านผลงานและ 19 ล้านแทร็กบันทึกเสียง [2] ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถใช้ซอฟต์แวร์ที่สามารถสื่อสารกับ MusicBrainz เพื่อเพิ่มเมทาดาต้าแท็ก (metadata tag) ให้กับไฟล์สื่อดิจิทัล เช่น FLAC, MP3, Ogg Vorbis หรือ AAC

favicon of MusicBrainz MusicBrainz
MusicBrainz logo since February 2016
ประเภทสารานุกรมออนไลน์ทางด้านดนตรี[1]
ภาษาที่ใช้ได้ภาษาอังกฤษ
เจ้าของมูลนิธิ MetaBrainz
สร้างโดยRobert Kaye
ยูอาร์แอลmusicbrainz.org
เชิงพาณิชย์ไม่
ลงทะเบียนเป็นทางเลือก
(ต้องการสำหรับการเพิ่มและแก้ไขข้อมูล)
ผู้ใช้แอ็กทีฟ ≈ 250,000 บัญชี[2]
ลิขสิทธิ์เนื้อหาส่วนของ Creative Commons Zero (ข้อมูลแบบเปิด)
และส่วนของ CC-BY-NC-SA (ไม่ใช่ข้อมูลแบบเปิด); มีใบอนุญาตเชิงพาณิชย์
เขียนด้วยภาษาเพิร์ล
และระบบจัดการฐานข้อมูลโพสต์เกรสคิวเอล

Cover Art Archive

แก้

MusicBrainz อนุญาตให้ผู้มีส่วนร่วมนำภาพหน้าปกของงานเพลงที่ออกสู่สาธารณะอัปโหลดไปยังฐานข้อมูล ภาพเหล่านี้เผยแพร่โดย Cover Art Archive (CAA) ซึ่งเป็นโครงการร่วมระหว่าง อินเทอร์เน็ตอาร์ไคฟ์ (Internet Archive) และ MusicBrainz จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2555 Internet Archive มอบแบนด์วิดธ์, การจัดเก็บและการป้องกันทางกฎหมายสำหรับการเผยแพร่ภาพในขณะที่ MusicBrainz จัดเก็บข้อมูลเมทาดาต้าและให้การเข้าถึงสาธารณะผ่านเว็บและผ่านส่วนต่อประสานโปรแกรมประยุกต์ (API) สำหรับบุคคลที่สามที่จะนำไปใช้ และเช่นเดียวกับการมีส่วนร่วมอื่น ๆ ทางชุมชน MusicBrainz จะเป็นผู้รับผิดชอบตรวจสอบและดูแลข้อมูลเหล่านี้[7] ภาพหน้าปกของงานเพลงได้รับการวางจำหน่ายบนแอมะซอน.คอม และบนสื่อออนไลน์อื่น แต่ CAA ได้รับสิทธิ์เนื่องจากทำให้ชุมชนสามารถควบคุมและจัดการภาพได้อย่างยืดหยุ่น

Fingerprinting

แก้

นอกจากการเก็บรวบรวมเมทาดาต้าเกี่ยวกับดนตรีแล้ว MusicBrainz ยังเก็บข้อมูลงานบันทึกเสียงโดย acoustic fingerprint โดยจะต้องใช้โปรแกรมเฉพาะอย่างเช่น MusicBrainz Picard สำหรับการบันทึกและจัดการ

บริการที่ไม่ได้เป็นสาธารณสมบัติ

แก้

ในปี 2543 MusicBrainz เริ่มใช้อัลกอริทึม TRM (This Recognizes Music) ซึ่งสร้างขึ้นโดยบริษัท Relatable สำหรับระบุเพลงที่เกี่ยวข้องโดยการจับคู่ acoustic fingerprint ซึ่งคุณสมบัตินี้ดึงดูดให้มีผู้ใช้มากขึ้นและทำให้ฐานข้อมูลขยายขนาดอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ในปี 2548 TRM แสดงผลผิดพลาดโดยมีการซ้ำซ้อนกันของข้อมูลขณะที่จำนวนของแทร็กดนตรีในฐานข้อมูลขยายขนาดขึ้นกว่าล้านข้อมูล กรณีนี้ถูกแก้ไขในเดือนพฤษภาคม 2549 เมื่อ MusicBrainz ร่วมเป็นพันธมิตรกับ MusicIP (ปัจจุบันคือ AmpliFIND) โดยทำการแทนที่ TRM ด้วย MusicDNS[8] TRM ค่อยๆ ถูกเลิกใช้และถูกแทนที่โดย MusicDNS ในเดือนพฤศจิกายน 2551 ต่อมาในเดือน ตุลาคม 2552 MusicIP ถูกซื้อโดย AmpliFIND[9] ทำให้การเรียกค้นข้อมูลจากบริการ MusicDNS หลังจากนั้นเกิดข้อผิดพลาดขึ้นในบางครั้ง

AcoustID และ Chromaprint

แก้

ตั้งแต่อนาคตของการให้บริการระบุตัวตนที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายมีความไม่แน่นอน จึงได้มีการมองหาบริการที่จะมาทดแทน หนึ่งในนั้นคืออัลกอริทึมสำหรับ acoustic fingerprint ที่ชื่อว่า Chromaprint ซึ่งเป็นพื้นฐานของบริการระบุตัวตนที่ชื่อว่า AcoustID ที่ได้เริ่มใช้งานในปี 2553 โดย Lukáš Lalinský ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมมาอย่างยาวนานในชุมชน MusicBrainz [10] ขณะที่ AcoustID และ Chromaprint ไม่ใช่โครงการที่เป็นทางการของ MusicBrainz แต่ทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิดและเป็นโอเพนซอร์ซเช่นกัน Chromaprint ทำงานโดยวิเคราะห์สองนาทีแรกของแทร็ก ตรวจสอบระดับของแต่ละโน้ตใน 12 pitch classes และบันทึกในอัตรา 8 ตัวอย่างต่อวินาที หลังจากนั้นข้อมูล fingerprint จะผ่านขั้นตอน post-processing เพิ่มเติมเพื่อบีบอัดข้อมูลที่รูปแบบของแพทเทิร์นเสียงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง [11] AcoustID จะค้นหาเซิฟเวอร์และค้นหา fingerprints จากฐานข้อมูลโดยการเปรียบเทียบและคืนค่าบ่งชี้ AcoustID และข้อมูลบ่งชี้ที่บันทึกไว้ของ MusicBrainz ถ้ามีการตรวจพบ

การอนุญาตสิทธิ์

แก้

ตั้งแต่ปี 2546 [12] ข้อมูลหลักของ MusicBrainz (artists, recordings, releases และอื่นๆ ) จะเป็นสาธารณสมบัติ (อยู่ใน public domain) ขณะที่เนื้อหาเพิ่มเติม รวมถึงข้อมูลควบคุม (โดยเฉพาะข้อมูลต้นฉบับทั้งหมด original content ที่เขียนขึ้นโดยผู้ใช้และรายละเอียดเพิ่มเติม) จะอยู่ภายใต้ข้อกำหนดครีเอทีฟคอมมอนส์และสัญญา CC-BY-NC-SA-2.0[13] สำหรับระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (RDBMS) ซึ่งใช้ โพสต์เกรสคิวเอล(PostgreSQL) และซอฟต์แวร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์จะอยู่ภายใต้สัญญาอนุญาตสาธารณะทั่วไปของกนู MusicBrainz ไคลเอนต์ ซอฟต์แวร์ไลบรารี (libmusicbrainz) อยู่ภายใต้สัญญาอนุญาตสาธารณะทั่วไปแบบผ่อนปรนของกนู ซึ่งอนุญาตให้ซอฟต์แวร์ที่ไม่ใช่สาธารณะสามารถนำโค้ดไปใช้ได้ ในเดือนธันวาคม 2547 โครงการ MusicBrainz ได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นมูลนิธิ MetaBrainz ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรก่อตั้งขึ้นโดย Robert Kaye [14] ในวันที่ 20 มกราคม 2549 หน่วยงานธุรกิจแห่งแรกที่ใช้ข้อมูลจาก MusicBrainz เป็นบริษัท Linkara จากบาร์เซโลนา ประเทศสเปนโดยใช้ในบริการ Linkara Música [15] วันที่ 28 มิถุนายน 2550 BBC ได้ประกาศว่าได้รับสิทธิ์ในการใช้งานข้อมูล MusicBrainz แบบเรียลไทม์โดยเป็นส่วนเพิ่มในเว็บเพจเกี่ยวกับดนตรีของสถานี และผู้เขียนเรื่องดนตรีของ BBC ออนไลน์ จะเข้าร่วมกับชุมชน MusicBrainz เพื่อเผยแพร่ความรู้ของพวกเขาเข้าสู่ฐานข้อมูล [16] ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2551 เวอร์ชันเบต้าของเว็บไซต์ BBC Music ได้ออกเผยแพร่ ซึ่งได้มีการนำเสนอเพจข้อมูลของศิลปินรายบุคคลจากฐานข้อมูล MusicBrainz [17][18]

ไคลเอนต์ซอฟต์แวร์

แก้
  • AmarokKDE โปรแกรมเล่นไฟล์เสียง
  • Banshee – โปรแกรมเล่นไฟล์เสียงในหลายแพล็ตฟอร์ม
  • Beets – โปรแกรมอัตโนมัติซึ่งใช้ CLI เพื่อจัดการ/ติดป้ายแท็กไฟล์ดนตรีสำหรับระบบปฏิบัติการยูนิกซ์
  • Clementine – โปรแกรมเล่นไฟล์เสียงในหลายแพล็ตฟอร์ม
  • CDexCD ripper ในระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ วินโดวส์
  • Demlo – โปรแกรมจัดการไฟล์ดนตรีแบบยืดหยุ่นซึ่งใช้ CLI
  • foo_musicbrainz component สำหรับ foobar2000 – โปรแกรมคลังดนตรี/เล่นไฟล์เสียง
  • Jaikoz – โปรแกรมเอดิเตอร์เพื่อแก้ไขแท็กในภาษาจาวา
  • Max – โปรแกรม CD ripper และแปลงรหัสออดิโอในระบบปฏิบัติการแมคโอเอส เอ็กซ์
  • Mp3tag – โปรแกรมจัดการไฟล์ดนตรีและเอดิเตอร์เพื่อแก้ไขเมทาดาต้าในระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ วินโดว์
  • MusicBrainz Picard – โปรแกรมเอดิเตอร์หลายแพล็ตฟอร์มเพื่อแก้ไขแท็กอัลบั้มเพลง

ผู้ใช้ Freedb สามารถเข้าถึงข้อมูลของ MusicBrainz ผ่านทาง freedb โพรโทคอลโดยใช้บริการเกทเวย์ MusicBrainz to FreeDB (mb2freedb)

ดูเพิ่ม

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. "About". MusicBrainz. MetaBrainz. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-05-08. สืบค้นเมื่อ 2015-05-04.
  2. 2.0 2.1 "Database Statistics". MusicBrainz. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-22. สืบค้นเมื่อ 2018-09-20.
  3. "WHOIS Lookup". ICANN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-02. สืบค้นเมื่อ 2015-03-23.
  4. "Musicbrainz.org Traffic, Demographics and Competitors - Alexa". www.alexa.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-03-11. สืบค้นเมื่อ 2019-02-04.
  5. Highfield, Ashley (2007-06-27). "Keynote speech given at IEA Future Of Broadcasting Conference". BBC Press Office. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-04-22. สืบค้นเมื่อ 2008-02-11.
  6. Swartz, A. (2002). "MusicBrainz: A semantic Web service" (PDF). IEEE Intelligent Systems. 17: 76–77. doi:10.1109/5254.988466. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-04-03. สืบค้นเมื่อ 2015-08-28.
  7. Fabian Scherschel (2012-10-10). "MusicBrainz and Internet Archive create cover art database". The H. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-07.
  8. "New fingerprinting technology available now!" (Press release). MusicBrainz community blog. 2006-03-12. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-08-07. สืบค้นเมื่อ 2006-08-03.
  9. "AmpliFIND Music Services Aims To Liberate Your Music". 2009-10-05. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-21. สืบค้นเมื่อ 2019-10-10.
  10. "Introducing Chromaprint – Lukáš Lalinský". Oxygene.sk. 2010-07-24. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-10-10. สืบค้นเมื่อ 2018-04-10.
  11. Jang, Dalwon; Yoo, Chang D; Lee, Sunil; Kim, Sungwoong; Kalker, Ton (2011-01-18). "How does Chromaprint work? – Lukáš Lalinský". IEEE Transactions on Information Forensics and Security. 4 (4): 995–1004. doi:10.1109/TIFS.2009.2034452. สืบค้นเมื่อ 2018-04-10.
  12. "MusicBrainz Licenses". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2003-04-13. สืบค้นเมื่อ 2015-10-23.
  13. "MusicBrainz License". 2010-11-13.
  14. Kaye, Robert (2006-03-12). "The MetaBrainz Foundation launches!" (Press release). MusicBrainz community blog. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-19. สืบค้นเมื่อ 2006-08-03.
  15. Kaye, Robert (2006-01-20). "Introducing: Linkara Musica". MusicBrainz. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-07. สืบค้นเมื่อ 2006-08-12.
  16. Kaye, Robert (2007-06-28). "The BBC partners with MusicBrainz for Music Metadata". MusicBrainz. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-06-30. สืบค้นเมื่อ 2007-07-10.
  17. Shorter, Matthew (2008-07-28). "BBC Music Artist Pages Beta". BBC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-01-24. สืบค้นเมื่อ 2009-02-12.
  18. "MusicBrainz and the BBC". 2013-03-16. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-02-20.

เอกสารอ่านเพิ่ม

แก้

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้
  • MusicBrainz – เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
  • MusicBrainz – ข้อมูลที่เว็บไซต์ BBC Music
  • Cover Art Archive – เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ