มาสค์ไรเดอร์ริวคิ
มาสค์ไรเดอร์ริวคิ (ญี่ปุ่น: 仮面ライダー龍騎; โรมาจิ: Kamen Raidā Ryūki; ทับศัพท์: Kamen Rider Ryuki) เป็นละครโทรทัศน์โทคุซัทสึชุดมาสค์ไรเดอร์ ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2002 ถึง 19 มกราคม ค.ศ. 2003 มีจำนวนตอนทั้งหมด 50 ตอน
มาสค์ไรเดอร์ริวคิ | ||||||||||||||||||||
ข้อมูล | ||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ||||||||||||||||||||
การผลิต | ||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||
การออกอากาศ | ||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||
เว็บไซต์ทางการ | ||||||||||||||||||||
Official Site | ||||||||||||||||||||
ลำดับซีรีส์ | ||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||
ภาพรวม
แก้ผลงานมาสค์ไรเดอร์ซีรีส์ โดยเป็นผลงานแรกของบรรดามาสค์ไรเดอร์ยุคเฮย์เซย์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการแข่งขันและโลกมิติโดยมีประโยคว่า มาสค์ไรเดอร์ทั้ง 13 ต้องสู้กันเองจนเหลือรอดเพียงคนเดียวเพื่อปรารถหนา และมีเนื้อหาเกี่ยวกับความปรารถนาของมนุษย์
นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบเพื่มเติมนั่นก็คือการ์ดเกมเพิ่มเข้ามาในส่วนของไรเดอร์ และเพิ่มเข้ามาในส่วนของการต่อสู้ หลังจากการเริ่มออกอากาศ เรื่องราวของไรเดอร์ที่สู้กันเองด้วยความปรารถนาของตนเอง และมีการเรียกตัวเองว่า "มาสค์ไรเดอร์" อย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะเป็นตัวร้ายก็ตามทำให้เกิดข้อพิพาทว่ามันไม่เหมาะสมกับรายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก ตามข่าวหนังสือพิมพ์ในยุคที่ออกอากาศในขณะนั้น
การสร้าง
แก้เดิมทีนั้นต้องการที่จะให้ซีรีส์ มาสค์ไรเดอร์คูกะ และ มาสค์ไรเดอร์อากิโตะ จบลงแต่ได้ถูกเป็นซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ยุคเฮย์เซย์ลำดับที่ 3 [1][2] ในช่วงที่วางแผนการผลิตงานนั้นจะทำซีรีส์นักรบที่มีคอนเซปต์คล้าย ครอสไฟเยอร์ ซึ่งเป็นต้นแบบของ มาสค์ไรเดอร์ และเป็นผลงานเริ่มต้นที่ทำ[1] แต่ด้วยกระแสของมาสค์ไรเดอร์ที่กลับมานิยม ทำให้กลับมาสร้างซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ต่ออีกครั้ง[1]
ภายหลังจากเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 ทางสถานีโทรทัศน์ยังยึดชู คูกะ และ อากิโตะ เป็นฮีโร่ที่ไม่ซับซ้อนแยกแยะความแตกต่างระหว่างความดีและความชั่วได้อย่างชัดเจน และให้ความยุติธรรมแก่เด็ก ๆ[1][3] แต่ว่า ชินทาโร่ ชิราคุระ โปรดิวเซอร์กลับตอบสนองบิดเบือนเจตนาโดยคำนึงถึงความตั้งใจของสถานี[4] โดยกล่าวว่า ฉันต้องการสอนเด็กให้รู้จักความยุติธรรมที่แท้จริง เป็นเพราะความยุติธรรมที่พวกเขาเชื่อนั้นเป็นสิ่งจอมปลอม และผู้ผลิตอ้างว่ารู้ของจริง[5]
ชิราคุระพยายามสร้างแนวคิด ความยุติธรรมของแต่ละทาง หลังจากที่ทำอากิโตะจากผลงานก่อนหน้านี้ ก็ไม่ได้ทำลายขนบทำเนียมที่กล่าวว่า "คาเมนไรเดอร์คือความเที่ยงธรรม" ที่คนดูได้สรุปไว้ตั้งแต่ต้น จึงทำให้ได้ปรับพลิกโฉมแนวคิดขนบธรรมเนียนของมาสค์ไรเดอร์ไว้มากเกินไปจนผู้ชมไม่สามารถยอมรับได้ [6]
นอกจากนี้บันไดผู้สนับสนุนหลักยังขอให้มีความแตกต่างจากคูกะและอากิโตะอย่างสิ้นเชิง และทำแนวคิดใหม่ๆ มากมายที่แตกต่างจากซีรีส์มาสค์ไรเดอร์เรื่องที่ผ่านมา ทั้งองค์ประกอบและรูปแบบแนวคิดต่างๆ[1]
และด้วยเหตุนี้จึงสร้างซีรีส์ใหม่ขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่าริวคิโดยชื่อริวคิที่ปรากฏนั้นได้ใช้ตัวอักษรคันจิเป็นครั้งแรก[1][7]
เรื่องย่อ
แก้คิโดะ ชินจิ ชายหนุ่มช่างภาพผู้ใสซื่อ เขาทำงานให้กับสำนักข่าว ORE Journal โดยในแต่ละวันเขามักจะทำงานล้มเหลวเนื่องด้วยอุปสรรคนานาประการจนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้บังเอิญเก็บกล่องปริศนาขึ้นมาจากคดีบุคคลหายสาบสูญคดีหนึ่ง ทำให้ชีวิตของชินจิต้องเปลี่ยนไป และเขาได้พบกับ อาคิยามะ เรน ชายหนุ่มผู้จริงจังกับชีวิต กำลังต่อสู้กับสัตว์ประหลาด ในมิเรอร์ เวิลด์ โลกกระจกที่ทุกอย่างเหมือนกับโลกที่เขาอาศัยหากแต่เพียงตัวอักษรจะตรงกับข้ามและไม่มีมนุษย์คนใดอาศัยอยู่ โดยที่มีหญิงสาวนาม คันซากิ ยุย ผู้ที่สามารถมองเห็นการต่อสู้ในมิเรอร์ เวิลด์ คอยดูการต่อสู้ของพวกเขา ทำให้ทั้ง3ต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่สุดแสนจะคาดเดา
ชินจิที่ได้ก้าวเข้าสู่วิถีแห่งมาสค์ไรเดอร์ ไม่อาจสามารถหันหลังกลับไปได้และเมื่อรู้ว่าการต่อสู้ในมิเรอร์ เวิลด์นั้นเป็นการต่อสู้แบบ Battle Royal โดยผู้ที่มีชีวิตรอดเพียงหนึ่งเดียวจะสามารถขอพรในสิ่งที่ตนเองหวังเอาไว้ ยิ่งทำให้ชินจิต้องเอาชนะจากการต่อสู้ครั้งนี้พร้อมกับคำขอของเขาที่ต้องการให้โลกมีแต่สันติสุข ความสงบสุข
ตัวละคร
แก้มาสค์ไรเดอร์ทั้ง 13
แก้ในส่วนของมาสค์ไรเดอร์ฟามและมาสค์ไรเดอร์ริวกะไปที่ มาสค์ไรเดอร์ริวคิ : EPISODE FINAL
- คิโดะ ชินจิ (城戸 真司) / มาสค์ไรเดอร์ริวคิ (仮面ライダー龍騎)
- ตัวเอกของเรื่อง อายุ 23 ปี[8] เป็นนักข่าวของสำนักข่าวทางสื่ออินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ ORE เจอร์นัล[8] เป็นมาสค์ไรเดอร์โดยบังเอิญ เนื่องจากเขาเก็บกล่องเวนท์เด็คได้ด้วยความบังเอิญทำให้ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนไป คอยรายงานและหาข่าวแปลกๆ มานำเสนอแด่ผู้อ่านบ่อยครั้งที่มักจะเจอเหตุการณ์จากโลกกระจกมิเรอร์เวิลด์ ทำให้เขาไม่สามารถหาข่าวไปนำเสนอและถูกตักเตือนและหักเงินอยู่บ่อยครั้ง มีนิสัยที่ซื่อตรงและใจดีเกินเหตุ ทำให้เขาต้องตกเป็นเบี้ยล่างของเพื่อนร่วมงานและกลายเป็นคนที่เสียเปรียบไม่ทันคนหลายครั้ง แต่ด้วยนิสัยที่ใจดี ซื่อตรง ทำให้ไม่มีใครโกรธเขาลงเลยสักครั้ง ช่วงแรกโดนไล่ออกจากที่พักมาหลับนอนในออฟฟิศ แต่เพราะไปอยู่ทำให้ค่าใช้จ่ายสิ้นเปลือง จึงย้ายมาพักร้านกาแฟชื่อว่า โอโตริ พร้อมทั้งช่วยทำงานพิเศษไปในตัวด้วยเพื่อแลกกับค่าเช่าอีกที โดยพักห้องเดียวกับเรน แม้ชินจิล้างจานและบริการแย่ แต่กลับสามารถทำอาหารได้เก่งจนโกโร่มาขอให้สอนทำเกี๊ยวซ่าให้ หลังจากที่ได้เป็นมาสค์ไรเดอร์ทำให้ชินจิคิดแค่ช่วยชีวิตคนกับหาความหมายของชีวิตพร้อมทั้งคอยห้ามไม่ให้ไรเดอร์สู้กันเองตามแผนของคันซากิ ชิโร่ แต่ล้มเหลวจนมีไรเดอร์ตายไปมาก แม้ได้รับการ์ดเซอร์ไวฟ์แห่งเปลวเพลิงจากชิโร่เป็นและต้องการให้ยุติเกมเร็ว แต่ชินจิยังต่อสู้เพื่อกำจัดมอนสเตอร์และหยุดการต่อสู้ของไรเดอร์เช่นเดิม
- ในตอนท้ายชินจิได้สละชีพตนเอง เพราะการปกป้องเด็กจากฝูงมอนสเตอร์จนถูกทำร้ายสาหัส ตอนที่ไม่ได้แปลงร่างกับฝืนสู้จนเสียชีวิตในที่สุด
- แต่หลังจากถูกรีเซ็ตในโลกใหม่ ชินจิยังทำหน้าที่เป็นนักข่าวอยู่เหมือนเดิม
- อาคิยามะ เรน (秋山 蓮) / มาสค์ไรเดอร์ไนท์ (仮面ライダーナイト)
- อายุ 24 ปี [8] ชายหนุ่มผู้ชื่นชอบการต่อสู้ของไรเดอร์ เพราะต้องการที่จะช่วยเอริในช่วงวันเกิดเหตุในห้อง 401 ถูกคันซากิ ชิโร่ชวนเป็นไรเดอร์ มีนิสัยสุขุมเงียบขรึมในช่วงแรกมักหัวเสียกับชินจิอยู่บ่อยครั้ง แต่ด้วยความช่วยเหลือของชินจิทำให้ทัศนคติของเรนเปลี่ยนไปจากสู้เพื่อตัวเองมาเป็นสู้เพื่อความสงบสุขและพร้อมจะร่วมมือกับชินจิจนสนิทกัน จึงขอให้คันซากิ ชิโร่เรียกโอดีนออกมาท้าสู้กัน เรนชนะกับคิดไปสู้กับไรเดอร์คนที่เหลือต่อเพื่อจบเกม แต่พอยุยมาบอกว่าเอริฟื้นจึงเลิกสู้ชั่วคราวกับรีบไปหาเอริกับใช้เวลาด้วยกัน ในตอนท้ายเรนและชินจิช่วยกันกำจัดฝูงมอนสเตอร์สำเร็จ จนชินจิตาย เรนเสียใจมากจึงคิดไปท้าสู้ตัดสินกับโอดีนครั้งสุดท้าย เพราะคิตาโอกะโรคร้ายกำเริบใกล้ตาย กับอาซาคุระถูกตำรวจล้อมจนมุมไปไหนไม่ได้ ตนมีสิทธิคือไรเดอร์คนสุดท้ายที่เหลือรอดหลังจากต่อสู้กับโอดีนและได้รับชัยชนะเค้าก็กลายเป็นไรเดอร์คนสุดท้าย และได้ช่วยชีวิตเอริได้สำเร็จ แต่เรนเองก็ได้เสียชีวิตลงจากบาดเจ็บในการต่อสู้ โดยก่อนตายได้รีบไปอยู่เคียงข้างเตียงคนไข้ของเอรินั้นเอง
- มาซาชิ ชูโด (須藤 雅史) / มาสค์ไรเดอร์ซิสเซอร์ส (仮面ライダーシザース)
- ปรากฏตัวในตอนที่ 4 - 6 อายุ 28 ปี[9] เป็นนายตำรวจสถานีโคตาเกะ[10] ที่มีนิสัยคดโกงและโหดร้าย รับสินบนจากประชาชนจนมีผู้ล่วงรู้ความลับจะถูกสังหารโดยการฝังทั้งเป็นที่ร้านขายของเก่า ทำให้ได้รับเวนท์เด็คจากชิโร่ จึงสนใจการต่อสู้เพราะอยากใช้เพื่อหลบหนีความผิดและส่งมอนสเตอร์ไปสังหารผู้ที่ล่วงรู้การฆาตกรรมและสืบสาวถึงตัวแต่มีพลังต่อสู้ต่ำแต่เมื่อร่วมสู้กับโวลแคนเชอร์มีพลังต่อสู้ได้มากที่สุด เสียชีวิตจากการถูกมอนสเตอร์ของตัวเองกินเป็นอาหารหลังจากเวนท์เด็ดของตนถูกเรนทำลาย
- ในตอนพิเศษทางทีวี ปรากฏตัวเข้ามาตีสนิทกับชินจินเข้าร่วมการหยุดการต่อสู้ แต่ได้ลอบทำร้ายและหวังจะกำจัดไรเดอร์ทั้งหมด จนสุดท้ายถูกมาสค์ไรเดอร์โอจาฆ่าด้วยท่าไฟนอลเวนท์
- คิตะโอกะ ชูอิจิ (北岡 秀一) / มาสค์ไรเดอร์โซลด้า (仮面ライダーゾルダ)
- อายุ 30 ปี[11] นักกฎหมายทนายความชื่อดัง มีนิสัยความเห็นแก่ตัวและชอบซื้ออะไรที่ฟุ่มเฟือยแม้กระทั่งเงินที่ได้มาจากสินบน แต่ป่วยเป็นโรคร้ายไม่มีทางรักษาจึงถูกคันซากิ ชิโร่ชวนเป็นไรเดอร์แลกกับโรคหายเป็นอมตะ ช่วงแรกคิดจะต่อสู้เพียงอย่างเดียวแต่สุดท้ายก็ร่วมมือกับพวกชินจิเพื่อปกป้องไม่ให้คนอื่นถูกมอนสเตอร์สังหาร แต่ก็ยังมีเป้าหมายเดิม ตอนปกติสนิทกับพวกชินจิ และมักชอบจีบเรย์โกะโดยการชวนไปเดท แต่พอเป็นไรเดอร์ไม่แบ่งแยกกลุ่มและมักจะฉวยโอกาสตัดสินสู้ โดยใช้ไฟนอลเวนท์ปิดฉากทั้งมิตรกับศัตรูไปพร้อมกัน แต่ทุกคนหนีทันเสมอ จึงถูกลูกหลงจนสาหัส มักถูกโกโร่ย้ำให้ไปหาหมอเพื่อรักษาโรคร้าย แต่คิตะโอกะไม่ยอมจนรักษาไม่ได้แล้ว จนกระทั่งในตอนที่ 49 คิดไปตัดสินกับอาซาคุระ แต่โรคร้ายกำเริบจนเสียชีวิตไปทำให้โกโร่จึงไปต่อสู้แทน
- หลังจากถูกรีเซ็ตในโลกใหม่ คิตะโอกะยังทำหน้าที่เป็นทนายความเหมือนเดิม
- เทะสึกะ มิยูกิ (手塚 海之) / มาสค์ไรเดอร์ไรอา (仮面ライダーライア)
- อายุ 24 ปี[10] เป็นนักทำนายดวงผ่านเหรียญที่มีพลังในการทำนายแม่นยำสูง เป็นมาสค์ไรเดอร์แทนไซโตะ ยูอิจิเพื่อนสนิทที่ถูกมอนสเตอร์สังหารต่อหน้า แต่การเป็นไรเดอร์นั้นเทะสึกะอยากยุติเกม จึงทำให้กลายเป็นแนวร่วมของพวกชินจิแม้แตกคอกับเรนบ้าง และได้ช่วยเหลือยุยสืบหาความจริงเกี่ยวกับบ้านเก่าของพี่น้องคันซากิ แต่รู้มากเกินไปทำให้คันซากิ ชิโร่จำเป็นต้องนำเซอร์ไวฟ์การ์ด มอบให้เทะสึกะเพื่อเพิ่มพลังกับตนเองให้จบเกมให้เร็วขึ้น แต่กลับมอบเซอร์ไวฟ์การ์ดให้กับเรนก่อนที่จะต่อสู้กับอาซาคุระในวันถัดไปเพื่อใช้เป็นพลังและตอบแทนมิตรภาพที่ดีแก่เขา จนสุดท้ายเทะสึกะเสียชีวิตจากการถูกโจมตีของโอจาโดยผลักริวคิเอาตัวเองมารับแทน โดยที่ก่อนที่จะเสียชีวิตนั้นได้บอกชินจิให้ต่อสู้ตามเจตนาเดิมที่ต้องการ
- ในตอนพิเศษทางทีวี เทะสึกะเป็นเพื่อนของเรน และเป็นคนรักเก่าของเอริ มีจุดประสงค์ที่จะยุติการต่อสู้เช่นเดียวกับเรน แต่เสียชีวิตจากการโจมตีของมาสค์ไรเดอร์เวอร์เด้
- หลังจากถูกรีเซ็ตในโลกใหม่ เทะสึกะคือหมอดูข้างถนน
- ชิบะอุระ จุน (芝浦 淳) / มาสค์ไรเดอร์ไก (仮面ライダーガイ)
- อายุ 21 ปี[10] นักศึกษาปี 3 มหาวิทยาลัยเมอิริน คณะเศรษฐศาสตร์ เข้ามาเป็นมาสค์ไรเดอร์เพราะสนใจเพียงแค่เกม[10] เป็นลูกชายของประธานบริษัทแห่งหนึ่ง และเป็นประธานชมรมเกมมีเบื้องหลังการสร้างเกมต่อสู้ควบคุมจิตใจที่มีชื่อว่า แมททริกซ์ โดยนำคนในชมรมมาสู้กัน เพื่อสร้างเกมให้คนทำร้ายกันเอง[10] และเคยเป็นบรรณาธิการคนใหม่ชั่วคราวของ ORE เจอร์นัล โดยการเข้ามาครั้งนั้นได้พยายามเจาะระบบหวังให้คนทั้งเมืองทำร้ายกันเองเหมือนในเกมที่สร้าง แต่กลับถูกเจาะระบบคืนจากชิมาดะ รวมทั้งเคยชิงการ์ดแดร็กเรดเดอร์จากริวคิ แต่ไนท์กับไรอาชิงคืนมาได้ หลังจากนั้นชิบะอุระถูกตำรวจจับในคดีที่ก่อแต่คิตะโอกะมาช่วยว่าความจนพ้นผิด แต่ด้วยการเป็นไรเดอร์เพราะคิดว่าทุกอย่างคือเกมและชอบท้าสู้ตามอารมณ์สนุกเท่านั้น และไม่ยอมให้คนนอกมาเกี่ยวกับการสู้ ในตอนสู้พอมอนสเตอร์ป่วนจะกำจัดก่อน แล้วค่อยสู้กับไรเดอร์ต่ออีกที และพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมให้อาซาคุระเข้ามาเป็นพวก โดยล่อให้ไรเดอร์ 5 คนมาสู้ตัดสินกับตนในที่เดียวกันมี โอจา, โซลด้า, ไรอา, ไนท์ และ ริวคิ อย่างไรก็ตามในการต่อสู้ครั้งนั้นชิบะอุระถูกไฟนอลเวนท์ของโซลด้าโดยโอจาใช้มาเป็นโล่ห์บังแทนจนสาหัสและถูกไฟนอลเวนท์ของโอจาซ้ำจนระเบิดเสียชีวิตไป
- ในตอนพิเศษทางทีวี ชิบะอุระเป็นนักเล่นเกมตู้อาเขตชื่อดัง พยายามที่จะต่อสู้ให้ชนะแต่ถูกกลุ่มมอนสเตอร์สไปเดอร์จู่โจมและถูกกินไปในที่สุด
- อาซาคุระ ทาเคชิ (浅倉 威) / มาสค์ไรเดอร์โอจา (仮面ライダー王蛇)
- อายุ 25 ปี[11] วันเกิดวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1977[12][11] เป็นฆาตกรต่อเนื่องก่อหลายคดีที่ถูกจับกุมเป็นนักโทษที่แหกคุกมาเนื่องจากได้ถูกชักชวนเป็นไรเดอร์เพื่อที่จะเร่งให้จบเกมเร็วขึ้น มีนิสัยที่โหดร้ายและชั่วช้าเป็นอย่างมากมีเป้าหมายหลักคือกำจัดคิตะโอกะเนื่องจากเคยเป็นทนายความของตนแต่ไม่ให้พ้นผิดจึงคิดจะต่อสู้ตัดสินกับคิตาโอกะให้ได้ ในบางทีชวนไรเดอร์คนอื่นให้มาสู้กับตนเพื่อพิสูจน์ว่าตนนั้นเก่งกาจ แม้ถูกจับแต่ก็แหกคุกหนีได้ทุกครั้งหรือถูกคันซากิ ชิโร่แนะนำให้รีบกำจัดไรเดอร์ที่เป็นตัวปัญหา ให้จบเกม แม้ว่าชอบสู้แบบยุติธรรมก็ตาม นอกจากนี้ยังเป็นไรเดอร์ที่ได้ทำสัญญามอนสเตอร์ประจำตัวของไรเดอร์ที่ถูกฆ่ามาแล้วมาเป็นพวก ทำให้มีพลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
- ในอดีตมีครอบครัวอยู่อย่างมีความสุข ตอนอายุ 13 ปี บ้านเกิดเหตุไฟไหม้ อาซาคุระรอดตายคนเดียว เร่ร่อนก่อคดีไปทั่วนับแต่นั้น แต่พอได้ยินจากเรย์โกะว่าอากิระน้องชายของเขา รอดตายถูกญาติรับเลี้ยงเปลี่ยนชื่อจึงอยากพบเจอ พอพบน้องชาย จึงเผยว่าในวันเกิดเหตุ ตนจงใจฆ่าทั้งบ้านเองกับมือ กับใช้เวโนสเนเกอร์กินน้องชาย โดยไม่รู้สึกผิด
- ชีวิตนอกคุกคอยล่าสัตว์ข้างถนนหรือปล้นของร้านสะดวกซื้อประทังชีวิต บางทีบุกเข้าบ้านคิตาโอกะเพื่อไปปล้นกินและสั่งอาหาร หนีไปให้คิตะโอกะจ่ายเอง กับซ่อนตัวในรังเก่าแถวบ้านเกิด หรือที่รกร้าง เช่นโกดังร้าง ในตอนสุดท้าย ตนถูกตำรวจล้อมไว้นอกโกดัง จึงติดต่อท้าสู้ตัดสินกับคิตะโอกะ หลังจากที่เขารู้ว่าสู้กับโซลด้าจนชนะ แต่เป็นโกโร่ที่มาสู้แแทน เพราะคิตาโอกะเสียชีวิตก่อนที่จะท้าสู้ จึงเสียใจที่ไม่ได้ตัดสินและวิ่งไปให้ตำรวจวิสามัญจนเสียชีวิต
- แต่หลังจากถูกรีเซ็ตในโลกใหม่ อาซาคุระเป็นนักเลงทั่วไป
- ในตอนพิเศษทางทีวี อาซาคุระเป็นมาสค์ไรเดอร์โอจาตั้งแต่แรก แต่หลังจากที่พ่ายแพ้จึงถูกติดคุกในเรือนจำและถูกควบคุมเป็นพิเศษแต่กลับใช้วิธีตุกติกทำให้รอดและแหกคุกออกมาได้ เป็นผู้ที่กำจัดซีสเซอร์สและเป็นผู้ท้าสู้กับริวคิ, ไนท์ และโซลด้า
- โทโจ ซาโตรุ (東條 悟) / มาสค์ไรเดอร์ไทกะ (仮面ライダータイガ)
- อายุ 25 ปี [10] ต้องการที่จะเป็นไรเดอร์เพราะอยากเป็นวีรบุรุษ[10] เพื่อให้ทุกคนยอมรับ เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเซเมอิน และเป็น 1 ในกลุ่มผู้ต้องการปิดมิเรอร์เวิลด์พร้อมกับ ฮาจิเมะและฮิเดยูกิ ได้รับเวนท์เด็คจากคันซากิ ชิโร่ ในช่วงแรกได้เข้ามาทำงานร้านอาโทริเพื่อที่จะพยายามสังหารยุยผู้ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดตามคำสั่งของฮาจิเมะ ด้วยนิสัยเก็บกดลุ่มหลงมากเกินไป จึงได้ฆ่าผู้มีพระคุณอย่างฮิเดยูกิ, ฮาจิเมะและซาโนะ เพราะเชื่อว่าทุกคนอ่อนแอและมีทางเดียวที่ทำให้แกร่งขึ้นได้ จนเหลือตัวคนเดียว ไล่ท้าสู้ไรเดอร์ที่เหลือนั่นก็คือโซลด้าและโอจาแต่พ่ายแพ้ จึงล่อ 3 ไรเดอร์มาสู้ตัดสินกับตน ซึ่งมีไนท์, โซลด้า, โอจา โดยโทโจราดน้ำมันใส่รถที่อาซาคุระขโมยมาและตั้งกับดักไว้ทำให้ รถจะระเบิดฆ่าคนที่เหลือ และรอจังหวะให้ทุกคนสู้กันจนสาหัส แล้วค่อยเผด็จศึกในตอนท้าย แต่เพราะฝูงมอนสเตอร์ป่ามาป่วนจนแผนพัง โทโจเสียท่าโอจากับโซลด้าจึงหนีไปตั้งหลัก แต่อาซาคุระถูกลูกหลงจนรถระเบิดแต่หนีไปได้ โทโจที่คิดว่าแผนสำเร็จ จึงเดินเซพเนจรไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อเห็นรถบรรทุกกำลังขับชนพ่อลูกที่กำลังข้ามถนน โทโจนึกถึงฮิเดยูกิกับยูตะและไม่อยากให้ใครต้องเสียใจจากการสูญเสียคนสำคัญไป เหมือนตอนที่โทโจฆ่าฮิเดยูกิเพราะการอยากเป็นวีรบุรุษเพื่อตัวเอง จนยูตะต้องเศร้าที่ต้องสูญเสียพ่อไป จึงวิ่งไปช่วยพ่อลูกคู่นั้นบนทางม้าลายไว้จนถูกรถชนเสียชีวิต หลังจากถูกรถบรรทุกชนโทโจได้รู้ความหมายของวีรบุรุษที่แท้จริงจนเสียชีวิตไป หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นได้ถูกลงข่าวหนังสือพิมพ์ว่าเป็นวีรบุรุษแม้ว่าข่าวนั้นจะอยู่ในหัวข่าวเล็กก็ตาม
- หลังจากถูกรีเซ็ตในโลกใหม่ โทโจเป็นนักศึกษาจบใหม่ที่ออกหางาน ที่ซุ่มซ่ามไปเจอชินจิโดยบังเอิญ
- ซาโนะ มิทสึรุ (佐野 満) / มาสค์ไรเดอร์อิมเพอเลอร์ (仮面ライダーインペラー)
- อายุ 21 ปี[13] ทำงานเป็นอาชีพรูปแบบฟรีเตอร์ ทำงานเลี้ยงชีพด้วยยามที่จอดรถใต้ดิน พ่อของเขาเป็นประธานบริษัท แต่ถูกทอดทิ้งไปเมื่อ 2 ปีก่อน เข้ามาเป็นมาสค์ไรเดอร์เพื่อมีเป้าหมายเงินเท่านั้นโดยใช้วิธีรับเงื่อนไขที่ได้ประโยชน์ต่อตนเอง มีนิสัยประจบสอพลอในช่วงแรกมักจะเรียกชินจิว่ารุ่นพี่และติดตามไรเดอร์คนอื่นๆ เพื่อหวังผลประโยชน์ของตัวเอง แต่ว่าพอไปขอร่วมทีมกับใครมักจะถูกปฏิเสธทุกครั้ง จึงทำให้ไปร่วมทีมของโทโจและฮาจิเมะโดยรับคำสั่งให้ปิดมิเรอร์เวิลด์และสังหารยุย แต่พอฮาจิเมะถูกโทโจฆ่าตายแล้วบาดเจ็บและเร่ร่อน ซาโนะช่วยชีวิตโทโจจนเป็นเพื่อนกัน แต่ว่าพ่อของเขาเสียชีวิตและซาโนะได้รับมรดกจากพ่อทำให้เป็นประธานบริษัทคนใหม่ กับมีคู่หมั้นในงานดูตัวจะแต่งงานในอีกไม่นาน จึงคิดถอนตัวจากการเป็นไรเดอร์เพราะได้จุดประสงค์เป้าหมายที่ต้องการแล้ว แต่คันซากิ ชิโร่ไม่ยอม ทำให้ซาโนะจำใจที่จะเลือกเป็นไรเดอร์ และร่วมมือกับโทโจกำจัดไรเดอร์ที่เหลือเพื่อจบเกม จนในการต่อสู้ไรเดอร์ครั้งนั้นซาโนะกลับถูกไฟนอลเวนท์ของไทกะที่ทรยศและถูกไฟนอลเวนท์ของโอจาโจมตีซ้ำในช่วงที่กำลังหลบหนีกลับตั้งหลัก จนทำให้เวนท์เด็คถูกทำลายไม่สามารถออกจากมิเรอร์เวิลด์ได้จนทำให้ร่างกายสูญสลายไปในที่สุด
- ทาคามิซาวะ อิตสึโร่ (高見沢 逸郎) / มาสค์ไรเดอร์เวอร์เด้ (仮面ライダーベルデ)
- ปรากฏตัวในตอนพิเศษทางโทรทัศน์ อายุ 38 ปี[13] เป็นประธานกรรมการบริษัททาคามิซาวะกรุ๊ปที่มีชื่อเสียงในประเทศ เข้าร่วมในการต่อสู้ เพียงเพื่อต้องการอำนาจและเงินตราโดยไม่สนใจว่าจะได้มาอย่างไร แต่ท้ายที่สุดถูกมาสค์ไรเดอร์ไนท์เซอร์ไวฟ์ที่ชินจิแปลงร่างอยู่โจมตีไฟนอลเวนท์ใส่
- มาสค์ไรเดอร์โอดีน (仮面ライダーオーディン)
- มาสค์ไรเดอร์ปริศนาที่เป็นตัวแทนของคันซากิ ชิโร่ และไม่เผยตัวตนที่แท้จริง มีพลังสูงที่สุดและเป็นมาสค์ไรเดอร์คนที่ 13 ไม่เผยตัวตนจริง แต่ใช้บุคคลอื่นๆ ที่ถูกใช้เป็นหุ่นเชิดในรอบสุดท้าย แม้ใครตายคันซากิ ชิโร่จะหาใหม่อีก คนที่มีสิทธิ์สู้กับโอดีนได้คือ ต้องเป็น 1 ใน 12 ไรเดอร์ที่เหลือรอด หรือไรเดอร์คนไหนขอคันซากิ ชิโร่ท้าสู้กับโอดีน[14]
ไรเดอร์เทียม
แก้- นาคามุระ ฮาจิเมะ (仲村 創) / อัลเทอนาทีฟ (オルタナティブ)
- อายุ 27 ปี เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเซเมอิน ในช่วงแรกปรากฏตัวเขาเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่ทำงานวิจัยของศาสตราจารย์เอจิมะในห้องวิจัยที่ 401 แต่ด้วยเหตุการณ์การทดลองของคันซากิ ชิโร่ เริ่มทดลองทำให้เขาโกรธแค้นอย่างมากที่ทำให้เพื่อนร่วมห้องวิจัยที่ถูกมอนสเตอร์สังหารโดยที่วันเกิดเหตุนั้นฮาจิเมะไม่อยู่ที่นั่น จึงทำให้มีความแค้นต่อชิโร่รวมไปถึงยุยผู้เป็นน้องสาว ในตอนที่ 35 ฮาจิเมะได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ที่ปิดมิเรอร์เวิลด์ร่วมกันกับโทโจและอาจารย์คากาวะ และได้เวนท์เด็ดอัลเทอร์เนทีฟ มีนิสัยใจร้อนและโมโหง่าย คิดฆ่ายุยเพื่อยุติเรื่องทั้งหมด เพื่อแก้เแค้นให้กับคนในห้องทดลองในวันเกิดเหตุซึ่งผิดกับหลักการณ์เสียสละเพื่อส่วนรวมของคากาวะ สุดท้ายถูกมาสค์ไรเดอร์ไทกะสังหารด้วยท่าไม้ตายคริสตัลเบรก
- คากาวะ ฮิเดยูกิ (香川 英行) / อัลเทอนาทีฟ ซีโร่ (オルタナティブ・ゼロ)
- อายุ 37 ปี เป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเซเมอิน เป็นผู้ที่ได้ล่วงรู้ข้อมูลแฟ้มวิจัยของคันซากิ ชีโร่ที่มีข้อมูลการสร้างของมาสค์ไรเดอร์ ด้วยความจำที่ดีมากที่เห็นข้อมูลวิจัยโดยบังเอิญแค่ครั้งเดียว จึงได้นำไปต่อยอดไปสร้างไรเดอร์รูปแบบใหม่ขึ้นมาและสร้างแอดเวนท์การ์ดเฉพาะตัวขึ้นมาเพื่อปิดมิเรอร์เวิลด์โดยมีแนวคิดที่ว่าต้องการจะเป็นวีรบุรุษเพื่อเสียสละบางอย่างเพื่อส่วนรวม พร้อมสร้างทีมขึ้นมามีนาคามุระกับโทโจเป็นลูกทีม ที่ตั้งหลักคือห้องวิจัย 401 ของมหาวิทยาลัยเซเมอิน ไม่คิดฆ่าโดยที่ไม่จำเป็นแม้ว่ามิตรกับพวกพ้องจะอ่อนแอหรือไม่ มักคอยสอนให้โทโจเกี่ยวกับแนวคิดวีรบุรุษและชีวิตแบบปกติไปพร้อมกัน ในตอนที่ 40 คันซากิ ชิโร่ ใช้ยูตะและโนบุโกะ ลูกชายและภรรยาของฮิเดยูกิเป็นตัวประกันเพื่อให้คากาวะเลิกล้มแผนการปิดมิเรอร์เวิลด์ แต่คาวากะไม่ยอมและยังต้องการที่จะมีจุดประสงค์นี้เหมือนเดิม แต่ชินจิได้ช่วยชีวิตไว้ทั้งสองคน คากาวะจึงรู้สึกขอบคุณ แต่ว่าในตอนที่ 42 คากาวะถูกไทกะใช้ไฟนอลเวนท์สังหาร โดยที่โทโจได้อุ้มศพคากาวะจนสูญสลายไป
ผู้เกี่ยวข้องกับมาสค์ไรเดอร์
แก้- คันซากิ ยุย (神崎 優衣)
- น้องสาวของชิโร่ เกิดวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 1983 อายุ 19 ปี ผู้เป็นชนวนเหตุของเรื่อง มีความสามารถพิเศษในการมองเห็นศัตรูจากมิเรอร์เวิลด์และควบคุมศัตรูได้ โดยไม่มีการ์ดเด็ค แต่แท้จริงแล้วศัตรูที่มาจากมิเรอร์เวิลด์มาจากการวาดเล่นของเธอเมื่อครั้งวัยเยาว์ แต่ก็จำอดีตในสมัยเด็กเรื่องพ่อแม่ไม่ได้ จได้แค่เรื่องเกี่ยวกับชิโร่ที่เป็นพี่ชายเทานั้น และซานาโกะก็ไม่เคยบอก ในช่วงใกล้วันเกิดอายุครบ 20 ปี ซานาโกะได้เล่าความจริงว่าพ่อแม่นั้นทารุณลูก ส่วนชิโร่คอยปกป้องยุยเสมอมา จนได้รู้ว่าไรเดอร์สู้กันเพราะเป็นเกมของพี่ชาย จนชินจิเกือบฆ่าเรน ยุยกลับมาจำได้ว่ายุยตัวจริงนั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ที่มีชีวิตอยู่ได้ เพราะยุยที่เป็นเงาในกระจกทำสัญญากับคันซากิ ชิโร่ ทำให้ฟื้นคืนชีพให้กลับมาชีวิต แต่ยืดอายุไปถึง 20 ปีเท่านั้น ยุยรู้สึกเสียใจกับทุกสิ่งจึงขอให้ทุกคนหยุดสู้กันแตjไร้ผล ยุยเลือกที่จะสลายหายไปก่อนเวลากำหนด โดยหวังให้ทุกคนหยุดสู้กันเพื่อชีวิตของยุย
- คันซากิ ชิโร่ (神崎 士郎)
- ชายหนุ่มวัย 25 ปี เกิดวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 1977 เป็นผู้ชักชวนให้มนุษย์ทุกอาชีพเข้ามาเป็นมาสค์ไรเดอร์และเป็นผู้สร้างมิลเรอร์เวิลด์
- ในช่วงสมัยเด็กหลังจากที่พ่อแม่ได้เสียชีวิตไปได้อยู่อาศัยกับยุย แต่ยุยก็ป่วยจนเสียชีวิต ทว่ายุยอีกคนที่อยู่ในโลกกระจกเข้ามาทำสัญญาคืนชีพให้ยุยตัวจริง แต่ยืดอายุไปถึง 20 ปีเท่านั้น จากนั้นก็ใช้ให้ยุยวาดพวกมอนสเตอร์ขึ้นมา อย่างไรก็ตามก็ได้ไปเรียนต่ออยู่ในประเทศอเมริกา โดยได้เปลี่ยนนามสกุล ทาคามิ (高見) และพอได้ร่วมทำการวิจัยในมหาวิทยาลัย เอริถูกลูกหลงจนโคม่าเพราะการวิจัยและใช้ภาพวาดของยุยสร้างมอนสเตอร์ ส่งไปมิลเลอร์เวิลด์ แม้คันซากิ ชิโร่ ตัวจริงเสียชีวิตไปแล้วในสมัยที่อยู่ประเทศอเมริกา แต่ก่อนตายเขาได้ทำการโอนความคิดตัวเองสร้างร่างคัดลอกในมิลเรอร์เวิลด์ ร่างไร้ตัวตนสั่งการบังคับฝูงมอนสเตอร์ได้และสร้างเวนท์เด็ค จนถึงตอนที่ทำการทดลองจนเอริโคม่า ผลการทดลองทำให้ร่างไร้ตัวมีเวลาอยู่บนโลกปกติน้อยเวลาเดิม ให้ไรเดอร์มาสู้กันเพื่อหาผู้เหลือรอดเพียงคนเดียว จะได้ใช้โอดีนไปสู้ในศึกรอบสุดท้ายโดยกำจัดเอาพลังชีวิตของคนนั้นมาเป็นชีวิตใหม่ให้ยุยมีชีวิตต่อ โดยไม่สนใจถึงความเสี่ยงใดๆ พอยุยมีภัยหรือหายไป จะให้ไรเดอร์หยุดสู้กันชั่วคราวจนกว่าจะหาเจอ ถ้าไรเดอร์คนไหนถอนตัว หรือใครที่ถูกชวนไม่ยอมเป็นไรเดอร์ หรือใครที่ไม่ใช่ไรเดอร์ที่เช้ามารู้เรื่องพวกนี้จะส่งมอนสเตอร์ไปสังหารพื่อฆ่าปิดปาก
- โดยร่างที่ปรากฏของคันซากิ ชิโร่ คือร่างถูกคัดลอกก่อนตายของตัวจริง เป็นเงาสะท้อนในมิลเรอร์เวิลด์ และมักจะโผล่มาในโลกจริงได้ชั่วคราวแล้วหายไป เคลื่อนที่ไปมาผ่านเงากระจกหรือสิ่งที่สะท้อนแสง เช่นวัตถุเรืองแสงที่สะท้อนแสงหรือน้ำจากแม่น้ำเท่านั้น โดยซ่อนตัวอยู่ในบ้านเก่าของพี่น้องคันซากิ โดยในบ้านนั้นได้ขังฝูงมอนสเตอร์ไว้ในเงาในกระทุกบานภายในบ้าน
- ในตอนสุดท้าย ไรเดอร์เหลือ 4 คน ยุยทำใจเลือกสลายหายไปเอง ชิโร่ยอมรับไม่ได้จึงส่งฝูงมอนสเตอร์ทั้งหมดไปอาละวาดทั่วเมือง ชินจิกับเรนยับยั้งทัน แต่ชินจิตาย, คิตาโอกะโรคกำเริบตาย, อาซาคุระถูกตำรวจยิงวิสามัญ เรนคือคนเดียวที่มีสิทธิท้าสู้ตัดสินกับโอดีน พอตนเริ่มยอมรับและทำใจได้จึงยอมรีเซ็ตโลกใหม่ โดยที่สร้างโลกที่ไม่มีการต่อสู้ของไรเดอร์ ซึ่งนั่นก็คือพี่น้องคันซากิ ชิโร่และยุย เสียชีวิตในสมัยเด็ก ทุกคนที่เคยเป็นไรเดอร์ได้กลับมาชีวิตของตัวเองในโลกใหม่อย่างมีความสุข
- โอคุโบะ ไดสุเกะ (大久保 大介)
- บรรณาธิการของ ORE Journal อายุ 36 ปี เป็นรุ่นพี่ของชินจิในช่วงสมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เดิมเคยเป็นนักข่าวจากสำนักข่าวรายใหญ่แห่งหนึ่งแต่ได้ลาออกแล้วตั้งสำนักข่าวของตัวเองขึ้นมา โดยยึดมั่นหลักความจริงในการเสนอข่าว มีความกระตือรือร้นมุ่งมั่นในการสร้างสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก แม้ว่าชินจิจะมีปัญหาเข้ามาแต่เขายังเข้าใจและไว้วางใจอยู่จึงทำให้ชินจินับถือเป็นพี่ชาย
- อย่างไรก็ตามในช่วงที่ชินจิได้เข้าร่วมไรเดอร์แบทเทิล เขาเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของชินจิที่มักจะโดดงานและทิ้งงาน และเนื่องจากความไว้วางใจที่ให้กับชินจิทำให้ไม่ไล่ออก แต่หักเงินเดือนแทน ต่อมาเมื่อรู้เกี่ยวข้องกับมิเรอร์เวิลด์และไรเดอร์แบทเทิลเช่นเดียวกับเรโกะ จากภาพถ่ายติดมอนสเตอร์ในโลกกระจกที่ออกสื่อ ทำให้บริษัทปิดตัวชั่วคราว จึงไปพักอาศัยที่ร้านโอโตริที่ชินจิทำงานเสริม แต่คอยช่วยงานเฝ้าร้านกับทำงานข่าวไปพร้อมกัน จนกลับมาเปิดบริษัทได้อีกครั้ง และเมื่อรู้ว่าชินจิคือมาสค์ไรเดอร์เขาได้ให้คำแนะนำจากรุ่นพี่อย่างโอคุโบะ
- โมโมอิ เรโกะ (桃井 令子)
- นักข่าวหญิงของสำนักข่าว ORE Journal อายุ 24 ปี ทำหน้าที่ทำข่าวเกี่ยวข้องกับบุคคลที่หายสาบสูญไปอย่างลึกลับและได้ตามสืบเรื่องคันซากิ ชิโร่ มักถูกคิตะโอกะจีบกับชวนเดทเสมอ แม้ไม่ได้คบกันแต่ก็หึงคิตะโอกะบ่อย พอพบคดีคนหายสาปสูญในสถาที่มีเงากระจกบ่อยขึ้น มีเงาคันซากิ ชิโร่ในคดีอาซาคุระ ทาเคชิแหกคุก แต่คันซากิ ชิโร่ก็ใช้มอนสเตอร์ฆ่าปิดปากผู้เกี่ยวข้องก่อนเรโกะทำข่าว เรโกะจึงไปสืบต่อที่อเมริกาพบหลักฐานการเสียชีวิตจริงของคันซากิ ชิโร่
- ชิมาดะ นานาโกะ (島田 奈々子)
- ซิสเต็มเอนจิเนียร์ของสำนักข่าว ORE Journal อายุ 25 ปีชอบเลี้ยงสัตว์ประเภทกิ้งก่าอิกัวน่าชื่อว่ามาริริน ทำหน้าที่ทำเว็บไซต์ให้กับทางสำนักข่าวและมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี ในช่วงที่ชิบะอุระยึดสำนักข่าวได้ทำการสร้างไวรัสที่ทำลายโปรแกรมที่ไม่สามารถเจาะระบบได้ในเวลาอันสั้น แม้ว่าทักษะของเธอในฐานะโปรแกรมเมอร์จะอยู่ในระดับสูงสุด แต่ว่าเธอมีบุคลิกที่สามารถพูดในสิ่งที่เขาต้องการพูดได้ทันที
- อาซาโนะ เมกุมิ (浅野 めぐみ)
- อดีตเลขาและบอดี้การ์ดเก่าของทนายคิตะโอกะมีนิสัยซุ่มซ่าม อายุ 25 ปี โดนจ้างมา 3 ปี เพราะมีทักษะต่อสู้เก่ง แต่คิตะโอกะทนนิสัยความซุ่มซ่ามของเธอไม่ไหวจึงถูกไล่ออก จึงมาเปิดร้านราเมนแถวชายหาด พอผ่านไป 1 ปี จึงมาแก้แค้นหลอกว่าเคยหมั้นและได้มาป่วนคิตะโอกะ จนพวกชินจิหลงเชื่อ ไปรุมคิตะโอกะ แต่โกโร่ถามผลตรวจจากหมอจากรู้ว่าเมกุมิป่วยเพราะความดันต่ำกับเตรียดมากไป จึงเลิกป่วนคิตะโอกะ ต่อมาได้มาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สำนักข่าว ORE Journal โดยมักจะชอบทะเลาะกับชิมาดะเป็นประจำ
- คันซากิ ซานาโกะ (神崎 沙奈子)
- ป้าของชิโร่ และ ยุย อายุ 45 ปี มีกิจการร้านชาและกาแฟชื่อว่า โอโตริ (花鶏) มีงานอดิเรกส่วนตัวคือการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ที่ไม่ได้ไป และเมื่อมีรายได้จากการทำกิจการของตัวเองมากพอ ก็มักจะไปเดินทางในต่างประเทศด้วย ชื่นชอบเดินทางที่เทือกเขาหิมาลัยและเป็นสมาชิกกลุ่มแอมะซอนคลับที่ทำหน้าที่ในการจัดทัวร์ป่าแอมะซอน เป็นผู้ให้ชินจิและเรนไปทำงานเสริมให้ร้านในช่วงเวลาที่ว่าง
- อย่างไรก็ตามซานาโกะเป็นอีกคนหนึ่งที่รู้ว่าชิโร่เสียชีวิตที่อเมริกา และเชื่อว่า ยุยจะหายไปตอนอายุ 20 ปี
- โองาวะ เอริ (小川 恵里)
- คนรักของเรนอายุ 24 ปี และเป็นผู้ร่วมวิจัยมิเลอร์เวิลด์แต่เกิดอุบัติเหตุทำให้โคม่าจากเหตุการณ์ระเบิดห้องทดลอง โดยที่ดาร์ควิงก์หมายจะเอาชีวิตไปด้วย และเคยเป็นคนรักเก่าของเทะสึกะ
- ยูระ โกโร่ (由良 吾郎)
- บอดี้การ์ดของทนายคิตาโอกะ อายุ 25 ปี มีความสามารถในด้านการต่อสู้ การทำอาหาร และงานบ้านในระดับสูงกว่าเมกุมิ โดยคิตะโอกะจะเรียกว่า โกโร่จัง และนับถือคิตาโอกะว่าเป็นอาจารย์ สาเหตุที่มาทำงานให้คิตาโอกะ เพราะหลังจากคิตาโอกะไล่เมกุมิออกไปไม่นาน ก็ได้พบโกโร่ที่กำลังมีเรื่องทะเลาะกับนักเลงแต่คิตะโอกะมาช่วยไว้ทัน จึงนับถือเป็นผู้มีพระคุณมาทำงานกับคิตะโอกะ รู้เรื่องไรเดอร์แต่ไม่ได้เป็นกับถูกใจการต่อสู้ของคิตะโอกะจึงคอยปฐมพยาบาลรักษาคิตะโอกะหลักสู้เสร็จ ในตอนสุดท้าย คิตะโอกะมีนัดสู้ตัดสินกับอาซาคุระ ซึ่งตรงกับวันที่นัดเดทเรย์โกะ แต่คิตะโอะเสียชีวิตก่อน โกโร่จึงเป็นผู้แปลงร่างมาสค์ไรเดอร์โซลด้าต่อจากคิตะโอกะและได้สู้แทนแต่แพ้และเสียชีวิตไป
- ไซโตะ ยูอิจิ (斉藤 雄一)
- เพื่อนสนิทของเทะสึกะ เป็นนักเปียโนที่ถูกอาซาคุระทำร้ายร่างกายที่มือจนไม่สามารถเล่นเปียโนได้อีก ถูกคันซากิชวนเป็นไรเดอร์แต่ปฏิเสธ ทำให้ถูกกิลด์ธันเดอร์จับตัวเป็นอาหารต่อหน้าเทะสึกะ ทำให้เทะสึกะจำใจเป็นไรเดอร์แทน
- ซากาคิบาระ โคอิจิ (榊原 耕一) / มาสค์ไรเดอร์ริวคิ (仮面ライダー龍騎)
- อายุ 28 ปี ในทีวีซีรีส์ตอนที่ 1 เป็นบุคคลที่หายสาบสูญไปเนื่องจากถูกแดร็กเรดเดอร์กินไป พร้อมกล่องเวนท์เด็คไว้ในห้อง โดยที่ชินจิได้เข้าไปในห้องและเก็บมาได้
- ในตอนพิเศษทางทีวี เขาคือผู้ที่แปลงร่างเป็นมาสค์ไรเดอร์ริวคิ โดยมีเป้าหมายคือต้องการยุติการต่อสู้ในมิเรอร์เวิลด์ แต่ถูกฝูงมอนสเตอร์โจมตีอย่างหนักจากการปกป้องชินจิที่ถูกฝูงมอนสเตอร์สไปเดอร์จับและดึงตัวไปและได้มอบเวนท์เด็คให้ชินจิเพื่อสืบสานเจตนารมย์เดิม จนทำให้ร่างกายสูญสลายไป
มาสค์ไรเดอร์
แก้ข้อมูลอื่นๆ
แก้เพลงประกอบ
แก้- เพลงเปิดเรื่อง
- "Alive A life"
- Lyrics: ญี่ปุ่น: Yuko Ebine; โรมาจิ: 海老根 祐子; ทับศัพท์: Ebine Yūko
- Composition: ญี่ปุ่น: Kohei Wada; โรมาจิ: 和田 耕平; ทับศัพท์: Wada Kōhei
- Arrangement: Kohei Wada & ญี่ปุ่น: Kazuya Honda; โรมาจิ: 本田 嘉津也; ทับศัพท์: Honda Kazuya
- Artist: ญี่ปุ่น: Rica Matsumoto; โรมาจิ: 松本 梨香; ทับศัพท์: Matsumoto Rika
- เพลงประจำฉากต่อสู้
- (ญี่ปุ่น: "Hatenaki Inochi"; โรมาจิ: 果てなき希望(いのち); "Boundless Life" )
- Lyrics: ญี่ปุ่น: Shin-ichiro Aoyama; โรมาจิ: 青山 紳一郎; ทับศัพท์: Aoyama Shin'ichirō
- Composition: ญี่ปุ่น: Yo Tsuji; โรมาจิ: 辻 陽; ทับศัพท์: Tsuji Yō
- Arrangement: ญี่ปุ่น: Masatoshi Sakashita; โรมาจิ: 坂下 正俊; ทับศัพท์: Sakashita Masatoshi
- Artist: ญี่ปุ่น: Hiroshi Kitadani; โรมาจิ: きただに ひろし; ทับศัพท์: Kitadani Hiroshi
- Episodes: 1-17, 19-33
- ญี่ปุ่น: "Hateshinai Honō no Naka e"; โรมาจิ: 果てしない炎の中ヘ; "Into the Eternal Flame"
- Lyrics: Keiko Terada & ญี่ปุ่น: Yoshihiko Ando; โรมาจิ: 安藤 芳彦; ทับศัพท์: Andō Yoshihiko
- Composition: ญี่ปุ่น: Yoshio Nomura; โรมาจิ: 野村 義男; ทับศัพท์: Nomura Yoshio
- Arrangement: RIDER CHIPS
- Artist: RIDER CHIPS featuring ญี่ปุ่น: Keiko Terada; โรมาจิ: 寺田 恵子; ทับศัพท์: Terada Keiko
- Episodes: 18
- "Revolution"
- Lyrics: Yuko Ebine
- Composition & Arrangement: Mikio Sakai
- Artist: Hiroshi Kitadani
- Episodes: 34-37, 39-50, TV Special
- "Lonely Soldier"
- Lyrics: Yuko Ebine
- Composition: Yo Tsuji
- Arrangement: ญี่ปุ่น: Akio Kondo; โรมาจิ: 近藤 昭雄; ทับศัพท์: Akio Kondō
- Artist: Ren Akiyama (Satoshi Matsuda)
- Episodes: 38
รายชื่อตอน
แก้ในสื่ออื่น
แก้ทีวีซีรีส์อื่น
แก้ภาพยนตร์
แก้- มาสค์ไรเดอร์ริวคิ : EPISODE FINAL
- มาสค์ไรเดอร์กีทส์ x มาสค์ไรเดอร์รีไวซ์ MOVIE แบทเทิลรอยัล (仮面ライダーギーツ×リバイス MOVIEバトルロワイヤル)
ออริจินอลวิดีโอ
แก้เกม
แก้มังงะ
แก้การออกอากาศ
แก้มาสค์ไรเดอร์ริวคิ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์เวลา 8:00 น. - 8:30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีอาซาฮิในประเทศญี่ปุ่น ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2002 ถึง 19 มกราคม ค.ศ. 2003
ในประเทศไทยเคยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวีในช่วงแรกออกอากาศทุกวันจันทร์เวลา 17.30 - 18.00 น. ต่อมาได้ย้ายวันและเวลามาเป็นทุกวันพุธเวลา 16.30 - 17.00 น. จนจบเรื่องและได้ออกอากาศอีกครั้งทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ทุกวันเสาร์เวลา 7.30 - 8.00น.ในชื่อ มาสค์ไรเดอร์ริวคิ Limited Edition และผู้ที่ได้รับลิขสิทธิ์คือบริษัท ดรีมเอกซ์เพรส จำกัด ซึ่งได้รับลิขสิทธิ์ทั้งทีวีซีรีส์และตอนพิเศษจากโทรทัศน์ ส่วนลิขสิทธิ์ฉบับภาพยนตร์ ผู้ได้รับลิขสิทธิ์คือ โรสวิดีโอแต่ในภายหลัง บริษัท ดรีมเอกซ์เพรส จำกัด ได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายแทน
อ้างอิง
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 テレビマガジン特別編集 2004, pp. 76–77, 龍騎成立への道
- ↑ ユリイカ 2012, p. 13, 國分功一郎、白倉伸一郎「存在論的なヒーローのために」.
- ↑ ユリイカ 2012, pp. 11–12.
- ↑ ユリイカ 2012, p. 11.
- ↑ FC 2003, p. 51, 白倉伸一郎「二元論の崩壊」.
- ↑ 超全集 上巻 2002, p. 86
- ↑ FC 2003, p. 83, デザイナーズ・バトルロワイヤル
- ↑ 8.0 8.1 8.2 HF 2003, p. 58.
- ↑ 超全集 上巻 2002, p. 20.
- ↑ 10.0 10.1 10.2 10.3 10.4 10.5 10.6 HF 2003, p. 60.
- ↑ 11.0 11.1 11.2 HF 2003, p. 59.
- ↑ 超全集 上巻 2002, p. 36.
- ↑ 13.0 13.1 HF 2003, p. 61.
- ↑ テレビマガジン特別編集 2004, p. 41.
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "宇宙船100田崎" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "Newtype" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "fc72" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "fc82" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "chozenshu-ge78" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "chozenshu-ge79" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "NAKED HERO" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "NAKED HERO2" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "NAKED HERO3" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "eureka615p75" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "仮面俳優5" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "仮面俳優47" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "仮面俳優101" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "超解析34" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "超解析72" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "21st4" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "完全超悪140" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "JAE0203" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "JAE0204" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "JAE0205" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "JAE0206" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "JAE0207" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "JAE0208" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "JAE0209" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "JAE0210" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "JAE0211" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "JAE0212" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "JAE0301" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "Yabe" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "cinema_233776" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "zukan1653" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "zukan1661" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "zukan1674" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "zukan1679" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "zukan1695" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "fc79" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "オーディン" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "bodycheck" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF27" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF68" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF創刊" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF20" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF56" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF113" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF96" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF12" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF117" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF41" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF13" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF62" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF28" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF51" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF3" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF38" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF89" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF39" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF85" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF34" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF7" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF46" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF22" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF55" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF63" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF25" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF103" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF44" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF71" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF107" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF22a" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF45" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF24" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF5" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF37" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF54" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF40" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF49" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF98" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF67" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF83" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF56a" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF79" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF118" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF108" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF15" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF47" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF55a" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF114" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF29" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF78" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF35" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF86" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF92" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF13a" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "ODF23" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
<ref>
ชื่อ "raiasv" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้าหมายเหตุ
แก้แหล่งข้อมูลอื่น
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |