พูดคุย:พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิกิประเทศไทยและสถานีย่อย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรวบรวมเรื่องราวทุกอย่างเกี่ยวกับประเทศไทย ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในโครงการนี้ได้ด้วยการช่วยกันพัฒนาบทความ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต หรือแวะไปที่หน้าโครงการหรือหน้าสถานีย่อยเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
 โครง  บทความนี้อยู่ที่ระดับโครง ตามการจัดระดับการเขียนบทความ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิกิพระมหากษัตริย์และสถานีย่อย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรวบรวมเรื่องราวทุกอย่างเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ราชวงศ์ และพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการศึกษาค้นคว้าที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้อ่าน ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในโครงการนี้ได้ด้วยการช่วยกันพัฒนาบทความ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต หรือแวะไปที่หน้าโครงการหรือหน้าสถานีย่อยเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
 โครง  บทความนี้อยู่ที่ระดับโครง ตามการจัดระดับการเขียนบทความ

การศึกษาของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ เอ็ดมัน (พูดคุยหน้าที่เขียน) 21:31, 1 พฤษภาคม 2556 (ICT)

เหตุการณ์ในวันสิ้นชีพิตักษัย แก้

จาก http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Pid=32852

ในปี 2520 สถานการณ์การก่อการร้ายทางภาคใต้รุนแรงมาก จนพูดกันว่าภาคใต้กำลังลุกเป็นไฟ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ทรงมีกำหนดเสด็จภาคใต้เพื่อนำสิ่งของพระราชทานไปประทานแก่ตำรวจ ทหารและอ.ส. ที่ปฏิบัติการในแนวหน้า ทั้งที่เพิ่งเสด็จกลับจากน่านและสุโขทัยก่อนหน้านี้วันเดียว ก็เสด็จลงภาคใต้ทันที ทรงนิมนต์พระภิกษุที่มีประชาชนเคารพนับถือร่วมคณะไปด้วย 2 รูป คือ พระมหาวีระเถวโร (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) วัดท่าซุง สิงห์บุรี และ หลวงปู่ พระครูบาธรรมไชย วัดทุ่งหลวง อ. แม่แตง จ.เชียงใหม่

เส้นทางรถยนต์ที่จะเสด็จไปนครศรีธรรมราช ไม่ปลอดภัย และเสียเวลามาก จึงเสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์แทน ไปที่ที่ทำการกองร้อย หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ได้แสดงธรรมและให้พรแก่ตำรวจตระเวนชายแดน ท่านได้มอบผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม และเหรียญเอกราช แก่ตำรวจทุกคน หลวงปู่ธรรมไชย ได้ประพรมน้ำมนต์ให้ตำรวจทุกคน

ทรงพักค้างแรมที่ทุ่งสง ทำสังฆทานอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของสุราษฎร์ธานี ที่ถูกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์โจมตีที่สถานีตำรวจจนเสียชีวิต รวม 5 นาย

ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ประมาณตีสอง ผู้ก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งได้เข้าโจมตีสถานีตำรวจคลองปาง เขตติดต่อกับทุ่งสง ห่างจากที่ประทับประมาณ 11 ก.ม. ปิดล้อมและระดมยิงเข้าไป พร้อมทั้งประกาศให้ยอมแพ้วางอาวุธ มอบให้ทางฝ่ายผู้โจมตี แต่ตำรวจประจำสถานี ยิงต่อสู้ผู้ก่อการร้ายมิให้เข้าเผาทำลายและยึดอาวุธของฝ่ายตำรวจได้สำเร็จ ได้ยิงต่อสู้จนผู้ก่อการร้ายบาดเจ็บ ล่าถอยไป

เมื่อตอนเช้าความทราบถึงพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีฯ ก็เสด็จไปพร้อมกับตำรวจตระเวนชายแดนเพื่อเยี่ยมเยียนสร้างขวัญกำลังใจให้ตำรวจ

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ มีกำหนดเสด็จต่อไปที่อ.เคียนซา และอ.พระแสง ระหว่างเดินทางทางเฮลิคอปเตอร์ ทรงทราบจากวิทยุว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนซึ่งไปสร้างบ้านพักพระราชทานให้ราษฎร ที่ บ.เหนือคลอง ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ สุราษฎร์ธานี ได้รับบาดเจ็บจากกับระเบิดของผู้ก่อการร้าย อาการสาหัส ก็ทรงห่วงใยผู้บาดเจ็บ เห็นความจำเป็นที่จะต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

แทนที่จะให้เฮลิคอปเตอร์ส่งเสด็จที่เคียนซาก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมารับผู้บาดเจ็บ อย่างที่นายตำรวจผู้ถวายอารักขาทูล ก็ทรงให้นำเฮลิคอปเตอร์ลงเพื่อแวะรับผู้บาดเจ็บกลับไปด้วยกัน เสียเลย ได้ไม่เสียเวลา โดยไม่ทรงห่วงสวัสดิภาพของพระองค์เอง เนื้อที่ว่างในเฮลิคอปเตอร์ไม่พอ ก็ทรงให้คณะลงไปก่อนที่ บก.ร้อย จุดใกล้ที่เกิดเหตุ เหลือแต่พระองค์เองกับนายแพทย์ กับเจ้าหน้าที่ ใน ฮ. ไปรับผู้บาดเจ็บ

คำสั่งสุดท้าย ที่ทรงเขียนก็คือ "เดี๋ยวให้ทุกคนลง เจ้าหญิง(ทรงหมายถึงพระองค์เอง เป็นคำที่หลวงปู่ธรรมไชยเรียก) จะไปรับคนเจ็บ 2 คนกับหมอ กับผู้กำกับ หลวงพ่อ หลวงปู่ คอยสักครู่ที่โรงตำรวจ หลวงพ่อ หลวงปู่ สวดมนต์คุ้มครองให้พวกเราปลอดภัยด้วย หมู่นี้มันยิงเรือบินเกือบทุกวัน เดี๋ยวจะมารับไปพระแสง เคียนซา"

การบินของ ฮ.ช่วงนี้เปิดประตูทั้ง 2 ด้าน ขณะที่เครื่อง ฮ.บินมาเหนือสวนผลไม้และสวนยาง นักบินมองเห็นบ้านพระราชทานซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะลงจอดรับคนบาดเจ็บ ห่างไปประมาณ 1 ก.ม.เศษ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงปืนรัวขึ้นถี่ยิบจากเบื้องล่าง กระสุนชุดแรกพุ่งขึ้นมา ทะลุขา พ.ต.ท. สุดินทร์ สิงหรา ณ อยุธยา(ยศในขณะนั้น) ผู้กำกับ ตชด.เขต 8 ผู้กำกับฯตะโกนสั่งให้นักบินนำ ฮ.ขึ้นสูงทันที เสียงกระสุนปืนกระทบเครื่องบินดังก้องไปหมดทั่วลำ

ในช่วงความชุลมุนวุ่นวายนี้เอง ก็ได้ยินเสียงรับสั่งว่า "ฉันถูกยิง" ผกก.หันไปดูเห็นพระพักตร์ฟุบ พระองค์ซวนมา จึงประคององค์ไว้ ส่วนนายแพทย์และพยาบาลพยายามอุดปากแผลห้ามเลือด ขณะที่ ฮ.กำลังร่อนลง ผกก.สบตานายแพทย์ เห็นส่ายศีรษะ ก็เข้าใจทันทีว่าหมดหวัง

ผกก.สั่งฮ.ให้บินไปที่ร.พ.สุราษฎร์ซึ่งใกล้ที่สุด แต่เครื่องได้รับการเสียหายหนักจากการระดมยิงของผู้ก่อการร้าย เข็มเครื่องวัดทุกตัวไม่ทำงาน และเครื่องอาจระเบิดได้ทุกวินาที นักบินจำต้องร่อนลงที่สนามหน้าโรงเรียนวัดบ้านส้อง เมื่อเครื่องลงถึงพื้นดินแล้ว ผกก.วิทยุสั่งการไปที่บก.ร้อยให้นิมนต์หลวงพ่อและหลวงปู่เดินทางมาโดยเร็วที่สุด

ในระหว่างนี้นายแพทย์ได้ถวายน้ำเกลือ พระอาการดีขึ้นอย่างประหลาด ไม่มีอาการทุรนทุราย รับสั่งทั้งที่ยังหลับพระเนตรว่า "ตชด.เป็นอย่างไรบ้าง เอาออกมาได้หรือยัง ให้รีบไปส่งโรงพยาบาล อย่าให้พวกมันรู้ว่าฉันถูกยิง มันจะเหิมเกริม หนาว ปวด เมื่อย" สักครู่ก็รับสั่งต่อไปว่า " ฉันไม่ได้เป็นไรแล้ว ตชด.มาหรือยัง ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลด่วน" รับสั่งย้ำว่า "คุณสุดินทร์ นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลเร็วเข้า"

อาวุธที่ผู้ก่อการร้ายใช้โจมตีฮ. เป็นอาวุธสงคราม คือ เอ็ม 16 และเอ็ม 20 สำหรับเอ็ม 20 ผู้ก่อการร้ายเคยใช้โจมตีเจ้าหน้าที่จังหวัดตากมาแล้ว มีวิถีกระสุนไกลมากถึง 2000 ฟุต

แม้ทรงรับบาดเจ็บสาหัส ก็ทรงห่วงถึงตชด.ที่ได้รับบาดเจ็บมากกว่าห่วงพระอาการ นายแพทย์และพยาบาลทูลตอบให้สบายพระทัยว่า นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว ก็ทรงรู้ทัน รับสั่งว่า "ฮ.ยังไม่ขึ้น" จนนายแพทย์ต้องแก้ตัว เปลี่ยนคำตอบว่า "ผกก.นำคนเจ็บไปไว้โรงพยาบาลบ้านส้องแล้ว" จึงหยุดรับสั่ง

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ และหลวงปู่ธรรมไชยเดินทางมาถึงไล่เลี่ยกับนายแพทย์และพนักงาน อ.เวียงสระ พระองค์เจ้าวิภาวดี ฯ ยังมีพระสติดีอยู่ แม้ว่าพระอาการทรุดหนักมากแล้ว รับสั่งว่า "ร้อน หิวน้ำ ขอน้ำกินหน่อย หลวงพ่อ หลวงปู่ ช่วยไปนิพพาน ไม่เกิดแล้ว" หลวงปู่ตอบว่า "การที่จะไปนิพพานน่ะดี แต่ท่านหญิงยังมีประโยชน์ต่อประเทศชาติมาก" ก็รับสั่งว่า "ให้กราบบังคมทูลพระเจ้าอยู่หัว ท่านชาย(ทรงหมายถึงหม่อมเจ้าปิยะรังสิต) ท่านแม่" ทรงย้ำอยู่ 2 ครั้ง แล้วไม่รับสั่งอะไรอีก

ฮ.จากสุราษฎร์ธานี เดินทางมาถึง นำพระองค์เจ้าวิภาวดีฯ ไปที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ ในระหว่างทาง นายแพทย์ผู้เฝ้าพระอาการอย่างใกล้ชิด แจ้งว่า สิ้นพระทัยแล้ว ฮ.จึงนำพระศพมาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีเพื่อแต่งพระศพ และถวายธงชาติคลุมพระศพ ต่อจากนั้น เครื่องบินจากกรุงเทพ ซึ่งไปตรวจราชการทางใต้ ก็รับพระศพกลับมาสู่กรุงเทพ

ข่าวการสิ้นชีพิตักษัยของหม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต เป็นข่าวใหญ่พาดหัวหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ เป็นเรื่องสั่นสะเทือนจิตใจของประชาชนอย่างมาก ที่พระบรมวงศานุวงศ์ และผู้แทนพระองค์พระบาทพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จเยี่ยมประชาชน โดยเฉพาะในหน่วยพระราชทาน ต้องจบพระชนม์ชีพลงด้วยน้ำมือผู้ก่อการร้ายในภาคใต้ ขณะที่ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้บาดเจ็บจากการปฏิบัติงาน

กลับไปที่หน้า "พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต"