ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เดอะเวิลด์เอนส์วิทยู"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม)
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 20:
'''''{{PAGENAME}}''''' (The World Ends with You) หรือที่วางจำหน่ายในญี่ปุ่นในชื่อว่า '''''ซูบาราชิกิ โคโนะ เซไก''''' ({{ญี่ปุ่น|すばらしきこのせかい|Subarashiki Kono Sekai}} แปลตรงตัว: "''This Wonderful World''") เป็นเกมแนว action role-playing ที่พัฒนาขึ้นโดยทีมงานพัฒนาซีรีส์[[คิงดอมฮารตส์]]ของ[[สแควร์เอนิกซ์]]และทีม Jupiter สำหรับเครื่อง[[นินเทนโดดีเอส]] รูปแบบศิลปะการออกแบบของเกมได้รับแรงบันดาลใจมาจากย่านชิบุยะและวัฒนธรรมวัยรุ่น โดยกำหนดเนื้อเรื่องให้เกิดขึ้นในย่านชิบุยะของ[[โตเกียว]]ในยุคปัจจุบัน การพัฒนาได้รับแรงบันดาลใจจาก ''[[Kingdom Hearts: Chain of Memories]]'' ซึ่งเป็นเกมที่ทีม Jupiter พัฒนาขึ้นก่อนหน้า เริ่มวางจำหน่ายในญี่ปุ่นเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2550 และวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือและ PAL regions ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2551
 
ตามเนื้อเรื่องภายในเกม เนกุ ซากุราบะ และพวกพ้อง ถูกบังคับให้เข้าร่วมในเกมที่จะตัดสินชะตากรรมของพวกเขา ระบบการต่อสู้ได้ใช้ประโยชน์จากลักษณะเฉพาะต่างๆต่าง ๆ ของนินเทนโดดีเอส อย่างเช่นฉากการต่อสู้ที่แสดงผลบนจอภาพทั้งสองจอ และการโจมตีศัตรูด้วยการเคลื่อนไหวบนจอสัมผัสในลักษณะต่างๆต่าง ๆ หรือการตะโกนลงในไมโครโฟน โดยแต่ละภารกิจจะมีวัฒนธรรมของวัยรุ่นญี่ปุ่นในรูปแบบต่างๆต่าง ๆ เช่น แฟชั่น อาหาร โทรศัพท์มือถือ เป็นจุดสำคัญ
 
''{{PAGENAME}}'' ได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกทั้งในด้านกราฟิก เพลงประกอบ และการผสมผสานระบบการเล่นเข้ากับบรรยากาศของชิบุยะ แต่มีข้อตำหนิเล็กน้อยเกี่ยวกับระบบการต่อสู้ที่เข้าใจยากและการควบคุมจอสัมผัสที่ไม่แน่นอน เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังวางจำหน่าย เกมมียอดจำหน่ายสูงเป็นอันดับสองในบรรดาเกมของเครื่องนินเทนโดดีเอสใน[[ญี่ปุ่น]] และสูงเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาเกมของเครื่องนินเทนโดดีเอสใน[[สหรัฐอเมริกา]]
บรรทัด 34:
| level = Secret Report 4 — Erased
| quote = The UG exists as a separate plane where the Composer can judge the worth of men. Within it are Reapers and human Players. It is infeasible for the Composer to judge all of humanity by himself, so a filtering system utilizing the Reapers was created: the Reapers' Game. Reapers act as a test, weeding out unfit Players. }}
</ref> โดยผู้เล่นซึ่งเป็นผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว จะต้องแลกเปลี่ยนสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับแต่ละคนเพื่อเข้าร่วมเกม โดยมีรางวัลตอบแทนคือ กลับฟื้นคืนชีพอีกครั้ง หรือกลายสภาพเป็นรูปแบบจิตวิญญาณในระดับที่สูงขึ้นไป ผู้เล่นส่วนใหญ่ที่เลือกกลายสภาพจะกลายเป็นยมทูต ซึ่งจะเป็นคู่ต่อสู้กับผู้เล่นในเกมครั้งต่อๆต่อ ๆ ไป<ref>{{cite video game
| title = The World Ends with You
| developer = สแควร์เอนิกซ์, Jupiter
บรรทัด 41:
| level = Secret Report 7 — Wakeless Dream
| quote = So, what happens to those who survive the week? Those whose Imagination is less than outstanding are broken down into Soul, while those with excellent Imagination become Reapers. The most talented of these may travel to the next plane, inhabited by Us Angels. }}
</ref> ภายในหนึ่งสัปดาห์จะมีเกมที่ทดสอบคุณค่าของความเป็นมนุษย์.<ref name="erased1" /> ผู้เล่นจะต้องบรรลุเป้าหมายของแต่ละคนภายใต้กฎที่สร้างขึ้นโดยคอมโพเซอร์ (Composer) ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายพระเจ้าที่คอยดูแลชิบุยะ และมีคอนดักเตอร์ (Conductor) ยมทูตอีกตนหนึ่ง คอยมอบหมายหน้าที่ให้ยมทูตตนอื่นๆอื่น ๆ คอยขัดขวางการดำเนินเกมของผู้เล่น ผู้เล่นที่ทำภารกิจไม่สำเร็จจะถูกทำให้จิตวิญญาณแตกสลาย ซึ่งเป็นการลบการดำรงอยู่ของผู้เล่นนั้น.<ref>{{cite video game
| title = The World Ends with You
| developer = สแควร์เอนิกซ์, Jupiter
บรรทัด 54:
=== ตัวละคร ===
 
ผู้เล่นเกมนี้จะบังคับตัวละครเนกุ ซากุระบะ (Neku Sakuraba) เด็กชายวัยรุ่นที่ต่อต้านสังคม ชอบฟังเพลงมากกว่ามีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ตัวละครอื่นๆอื่น ๆ รวมถึงผู้เล่นเกมยมทูตที่เป็นคู่หูร่วมต่อสู้กับเนกุ จะควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์<ref name="Noise zones" /> ในเกมยมทูตครั้งแรก เนกุจะจับคู่กับชิกิ มิซากิ (Shiki Misaki) เด็กสาววัยรุ่นที่ใช้รูปลักษณ์ของเพื่อนสนิทเข้าร่วมเกม ขณะที่รูปลักษณ์ที่แท้จริงถูกใช้เป็นค่าเข้าร่วมเกม<ref>{{cite video game | title = The World Ends with You | platform = [[นินเทนโดดีเอส]] | developer = [[Jupiter (company)|Jupiter]] | publisher = [[สแควร์เอนิกซ์]] | year = 2551 | quote = '''Shiki:''' Because this is what I always dreamed of—a new me. I hated who I was. All I wanted was to like myself. To be cute, and smart, and perfect…like Eri. / '''Neku:''' …… Then why would the Reapers take your appearance? Your entry fee is supposed to be what you value most. But you just said you hate yourself. / '''Shiki:''' At first…I didn’t get it either. I was so excited to be Eri that I even acted like her—all bubbly and cute. But it was just an act. Inside, nothing changed. I’m still the same person I’ve always been. Then I realized. I’ll never be Eri. Deep down, I never wanted to be. I was just jealous. The Reaper was right. What I value most is ME!}}</ref> ในการเล่นเกมยมทูตครั้งต่อมา คู่หูของเนกุ คือโยชิยะ คิริว (Yoshiya Kiryu) หรือที่มักถูกเรียกว่า โจชัว (Joshua) เด็กชายวัยรุ่นฉลาดแกมโกง คู่หูคนสุดท้ายของเนกุ คือไดสุเกะโนะโจ บิโตะ (Daisukenojo Bito) ยมทูตที่เรียกตัวเองว่า “บีท” (Beat)<ref>{{cite video game
| title = The World Ends with You
| developer = สแควร์เอนิกซ์, Jupiter
บรรทัด 70:
</ref> ซานาเอะ ฮาเนโคมะ (Sanae Hanekoma) ผู้ทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ (Producer) ของเกมยมทูต ได้นำวิญญาณของเธอมาสร้างเป็นเข็มกลัดที่ทำให้สามารถเรียกร่างนอยส์ของเธอออกมาได้ และได้มอบเข็มกลัดนี้ให้บีทต่อมามิทสึกิ โคนิชิ (Mitsuki Konishi) เกมมาสเตอร์ (Game Master) ตนสุดท้าย ได้ทำลายร่างนอยส์ของไรม์ทำให้กลับกลายเป็นเข็มกลัดเช่นเดิม
 
นอกจากคอมโพเซอร์และคอนดัคเตอร์แล้ว ยังมียมทูตระดับสูงตนอื่นๆอื่น ๆ อีก<ref>{{cite video game
| title = The World Ends with You
| developer = สแควร์เอนิกซ์, Jupiter
บรรทัด 104:
เรื่องราวภายในเกมเป็นเรื่องราวของเนกุตลอด 3 สัปดาห์ที่เข้าร่วมเล่นเกมยมทูต โดยมีคู่หูในแต่ละสัปดาห์คือ ชิกิ โจชัว และบีท ในระยะแรกเนกุยังสับสนด้วยไม่รู้ว่าตนเองเสียชีวิตอย่างไรและเข้ามายัง UG ได้อย่างไร จนกระทั่งเมื่อเขาได้สานสัมพันธ์ต่อคู่หูและเริ่มเข้าใจในกฎของเกมยมทูต ก็เริ่มระลึกถึงเหตุการณ์การเสียชีวิตของตนเองได้บ้างเล็กน้อย จนกระทั่งจำได้ว่าตนเองถูกโช มินามิโมโตะ ยมทูตตนหนึ่งที่ได้พบระหว่างเล่นเกม ยิงด้วยปืน หลังจากสัปดาห์แรก มีเพียงชิกิที่ได้รับเลือกให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง และเธอสัญญาว่าจะรอพบกับเนกุอีกครั้งที่รูปปั้นฮาจิโกะ<ref>{{cite video game | title = The World Ends with You | platform = [[Nintendo DS]] | developer = [[Jupiter (company)|Jupiter]] | publisher = [[สแควร์เอนิกซ์]] | year = 2008 | quote = '''Shiki:''' You know it. Hey, if we make it through this…let’s meet up in the RG. You, me, and Beat. You might not recognize me, so…I know! I’ll bring Mr. Mew with me. We can be a team again!}}</ref><ref>{{cite video game | title = The World Ends with You | platform = [[Nintendo DS]] | developer = [[Jupiter (company)|Jupiter]] | publisher = [[สแควร์เอนิกซ์]] | year = 2008 | quote = '''Shiki:''' Neku? See you on the other side. You know the meeting place. Hachiko! / '''Neku:''' Heh. It’s a date.}}</ref> แต่เนื่องจากขณะนั้นชิกิคือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเนกุ เธอจึงถูกใช้เป็นค่าเข้าร่วมเกมของเนกุในสัปดาห์ที่ 2 เมื่อเกมในสัปดาห์ที่ 2 สิ้นสุดลง โจชัวได้สละตนเองปกป้องเนกุจากระเบิดของมินามิโมโตะ
 
เนื่องจากเนกุและโจชัวทำผิดกฎของเกม เกมในสัปดาห์ที่ 2 จึงถือว่าเป็นโมฆะ เนกุถูกบังคับให้เข้าร่วมเล่นเกมอีกเป็นครั้งที่ 3 โดยค่าเข้าร่วมเล่นเกมครั้งนี้คือผู้เล่นคนอื่นๆอื่น ๆ ทุกคน ทำให้เนกุไม่สามารถทำข้อตกลงเป็นคู่หูกับผู้เล่นคนใดได้ และไม่สามารถต่อสู้กับนอยส์ได้ แต่บีทได้ออกจากการเป็นยมทูตมาสมทบกับเนกุ เนกุและบีทพบว่ายมทูตและคนทั้งหมดในชิบุยะสวมเข็มกลัดพิเศษสีแดงที่ทำให้ผู้สวมใส่มีความคิดเหมือนกันทั้งหมด ทั้งสองไม่ได้รับมอบหมายภารกิจใดๆใด ๆ ในการดำเนินเกม แล้วได้เข้าไปยัง “แม่น้ำชิบุยะ” (Shibuya River) สถานที่ที่โจชัวเคยค้นหาเมื่อสัปดาห์ที่ 2 ที่นั่นทั้งสองได้พบกับเมงุมิ คิตานิจิ (Megumi Kitaniji) คอนดักเตอร์ของเกมยมทูต คิตานิจิอธิบายว่าได้สร้างเข็มกลัดสีแดงขึ้นเพื่อสร้างชิบุยะขึ้นมาใหม่ อันเป็นสิ่งที่คอมโพเซอร์ท้าประลองกับเขา ซึ่งหากเขาทำไม่สำเร็จชิบุยะจะถูกลบทิ้ง<ref>{{cite video game | title = The World Ends with You | platform = [[Nintendo DS]] | developer = [[Jupiter (company)|Jupiter]] | publisher = [[สแควร์เอนิกซ์]] | year = 2008 | quote = '''Kitaniji:''' End…Shibuya? But Composer…Sir! Why!? / '''Joshua:''' I’ve decided to wash my hands of it. It has no future value to me or anyone else. So, I’m shutting it down.}}</ref><ref>{{cite video game | title = The World Ends with You | platform = [[Nintendo DS]] | developer = [[Jupiter (company)|Jupiter]] | publisher = [[สแควร์เอนิกซ์]] | year = 2008 | quote = '''Kitaniji:''' By tearing down the differences between us, I can make the world a paradise! / '''Neku:''' By making everybody think alike? That’s not even pos— / '''Kitaniji:''' It IS possible! With these pins. / '''Neku:''' The Red Skull pins. You’re behind that, too!?}}</ref>
 
ในขณะนั้นโจชัวกลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง และเปิดเผยว่าตนเองคือคอมโพเซอร์ โจชัวได้คืนความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์การเสียชีวิตให้เนกุ ทำให้เนกุจำได้ว่าโจชัวคือผู้ที่ยิงสังหารตนเอง เพื่อให้เป็นตัวแทนในการท้าประลองกับคิตานิจิ โดยที่ขณะนั้นมินามิโมโตะพยายามสังหารโจชัวในร่างมนุษย์เพื่อแย่งชิงตำแหน่งคอมโพเซอร์ โจชัวได้ท้าประลองกับเนกุเป็นครั้งสุดท้ายด้วยปืน เพื่อตัดสินชะตากรรมของชิบุยะ เนกุรู้สึกสับสนจนไม่อาจยิงโจชัวได้ จึงถูกโจชัวยิง<ref>{{cite video game | title = The World Ends with You | platform = [[Nintendo DS]] | developer = [[Jupiter (company)|Jupiter]] | publisher = [[สแควร์เอนิกซ์]] | year = 2008 | quote = '''Neku:''' Huff…huff… It was you! …… I thought… I thought I finally found a friend I could relate to… But it was YOU! You killed me! / '''Joshua:''' Hee hee. Now, Neku, why don’t we play one last Game? / '''Neku:''' You tricked me… / '''Joshua:''' The winner gets to be the Composer, and do whatever he likes with Shibuya. If you win, you decide. If I win, I’ll decide. …Of course, I’ve already decided.}}</ref> ต่อมาเนกุพบว่าตนเองกลับมาอยู่ที่ scramble crossing โดยยังคงสับสนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
 
game's credits แสดงเหตุการณ์ใน 7 วันถัดมาเนกุไปพบกับบีท ไรม์ และชิกิ (ในรูปลักษณ์ที่แท้จริง) ที่รูปปั้นฮาจิโกะ สื่อให้เห็นว่าเนกุและเพื่อนๆเพื่อน ๆ ได้กลับมายัง RG ในที่สุด<ref>{{cite video game | title = The World Ends with You | platform = [[Nintendo DS]] | developer = [[Jupiter (company)|Jupiter]] | publisher = [[สแควร์เอนิกซ์]] | year = 2008 | quote = '''Neku''': I can’t forgive you, but I trust you. You took care of things, right? Otherwise, Shibuya would be gone and my world with it. Hey, did I mention I’ve got friends now? We’re meeting for the first time in a week. See you there?}}</ref> รายงานลับที่จะได้รับหลังจากทำภารกิจเสริมหลังเล่นเกมจบ เปิดเผยว่า หลังจากโจชัวเห็นความเปลี่ยนแปลงด้านบุคลิกภาพของเนกุตลอดเวลาที่เล่นเกมยมทูต ได้ตัดสินใจปล่อยให้ชิบุยะยังคงอยู่ และเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่วิเศษแล้ว<ref>{{cite video game | title = The World Ends with You | platform = [[Nintendo DS]] | developer = [[Jupiter (company)|Jupiter]] | publisher = [[สแควร์เอนิกซ์]] | year = 2008 | quote = However, [the Composer] has stayed his decision to destroy Shibuya. It seems the course of the Game has brought about a change of heart in the Composer. Yes, Shibuya persists—but it is no longer the same city it was a month ago. […] Today, Shibuya has shifted into what We Angels believe to be the optimal parallel coli.}}</ref>
 
== ระบบการเล่น ==
บรรทัด 114:
''The World Ends with You'' เป็นเกมแนว action role-playing ที่แบ่งเนื้อเรื่องออกเป็น 3 บทตามสัปดาห์ที่เนกุเล่นเกมยมทูต โดยที่แต่ละบทจะแบ่งย่อยออกตามแต่ละวันในสัปดาห์ ผู้เล่นจะบังคับเนกุและคู่หูให้ออกสำรวจในชิบุยะเพื่อทำภารกิจในแต่ละวันให้สำเร็จ แม้ว่าสำหรับเนกุและคู่หูแล้ว ภารกิจส่วนใหญ่จะถูกจำกัดเวลา แต่การจำกัดเวลานี้ไม่ได้มีผลถึงการเล่นเกมของผู้เล่น<ref name="eurogamer review"/>
 
ชิบุยะแบ่งออกเป็นพื้นที่ต่างๆต่าง ๆ มากมาย บางพื้นที่อาจไม่สามารถเข้าถึงได้ในเนื้อเรื่องวันใดวันหนึ่ง หรือถูกกำแพงปิดกั้นไว้ ซึ่งจะเปิดกำแพงได้โดยทำตามคำสั่งของยมทูตที่อยู่ใกล้กับกำแพง เช่น ลบสัญลักษณ์ของนอยส์ สวมใส่เสื้อผ้าตาม Brand ที่กำหนด, หรือหาไอเทมที่กำหนด เนกุสามารถ scan พื้นที่ต่างๆต่าง ๆ ได้โดยใช้เข็มกลัดพิเศษ การ scan นี้จะแสดงให้เห็นความคิดของตัวละครที่ไม่ใช่ผู้เล่นเกมยมทูตที่อยู่ใน Realground และทำให้ได้รับ memes ซึ่งอาจช่วยในการดำเนินเรื่อง<ref name="ign review"/> และยังแสดงให้เห็นสัญลักษณ์ของนอยส์ที่สุ่มปรากฏออกมาในพื้นที่ หรือในบางกรณีอาจพบอยู่ที่ตัวละครเฉพาะ ผู้เล่นจะเริ่มการต่อสู้ได้โดยเลือกสัญลักษณ์นอยส์ แต่ละสัญลักษณ์จะทำให้เกิดฉากต่อสู้ 1 ครั้ง ถ้าเลือกสัญลักษณ์นอยส์มากกว่า 1 อัน ในครั้งเดียว จะทำให้เกิดฉากต่อสู้ติดต่อกันมากกว่าหนึ่งครั้ง ซึ่งจะมีความยากมากขึ้นในแต่ละครั้ง แต่เมื่อจบการต่อสู้ก็จะได้รับรางวัลในระดับสูงมากขึ้น การปรับระดับความยากของนอยส์และพลังชีวิตของเนกุและคู่หูก็จะทำให้ค่าประสบการณ์และไอเทมที่ได้รับหลังจบการต่อสู้เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน<ref name="1up review"/>
 
แต่ละพื้นที่ของชิบุยะจะมีกระแสแฟชั่นที่มีผลต่อการเล่นเกม การสวมใส่เข็มกลัดหรือเสื้อผ้าของ brand ได้รับความนิยมมากในพื้นที่นั้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ ในทางตรงกันข้าม หากสวมใส่ไอเทมที่ตามกระแสน้อยที่สุดในพื้นที่ ก็จะลดประสิทธิภาพของไอเทมนั้น อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นสามารถเพิ่มความนิยมใน brand ในแต่ละพื้นที่ได้โดยสวมใส่ไอเทมที่เป็น brand นั้นๆนั้น ๆ แล้วเข้าฉากต่อสู้ในพื้นที่นั้นหลายๆหลาย ๆ ครั้ง<ref name="ign review"/> ผู้เล่นสามารถซื้อเข็มกลัด เสื้อผ้า และอาหารใหม่ๆใหม่ ๆ ได้จากร้านค้า โดยเมื่อตัวละครใช้ไอเทมประเภทอาหารแล้วเข้าฉากต่อสู้เพื่อให้อาหารย่อย จะช่วยเพิ่มค่าสถานะพื้นฐานของตัวละครเมื่ออาหารย่อยหมดแล้ว<ref name="ign review"/>
 
หลังจากเล่นเกมจบแล้วหนึ่งรอบ ผู้เล่นสามารถกลับไปเล่นในเนื้อเรื่องของวันใดก็ได้ โดยยังคงมีค่าสถานะและไอเทมเหมือนขณะที่เล่นเกมจบ เมื่อทำภารกิจในเนื้อเรื่องแต่ละวันได้สำเร็จอีกครั้ง จะได้รับ “รายงานลับ” ที่จะเปิดเผยเรื่องราวเบื้องหลังของเกม<ref>{{cite web | url = http://www.rpgamer.com/games/other/nds/wonderfulworld/reviews/wonderfulworldstrev1.html | title = The World Ends With You - Staff Review | first = Adriaan | last = den Ouden | publisher = [[RPGamer]] | accessdate = 2008-08-15}}</ref> และยังสามารถเลือกเล่นเนื้อเรื่องในส่วน “Another Day” ได้จากหน้ารายการเลือก ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องเสริมที่อธิบายเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลัก นอกจากนี้ ''The World Ends with You'' ยังมี minigame ที่เรียกว่า ''Tin Pin Slammer'' (หรือ ''Marble Slash'') ที่สามารถเล่นแข่งขันกับคอมพิวเตอร์ หรือกับผู้เล่นไม่เกิน 3 คนที่เชื่อมต่อสัญญาณไร้สายร่วมกัน ''Tin Pin Slammer'' คล้ายคลึงกับ marble game ringer โดยผู้เล่นจะใช้เข็มกลัดของตนเองโจมตีเข็มกลัดของคู่ต่อสู้ให้ออกจากกระดานเกม
 
=== เข็มกลัด ===
ส่วนสำคัญของ ''The World Ends with You'' คือ ''psych pins'' ซึ่งเป็นเข็มกลัดประดับที่มีพลังที่เนกุสามารถใช้ได้เพียงผู้เดียวขณะสวมใส่ psych pins จะใช้ในการต่อสู้ ใน “Tin Pin Slammer/Marble Slash” หรือใช้สำหรับแลกเปลี่ยนเป็นเงิน เข็มกลัดส่วนใหญ่จะมีพลังมากขึ้นเมื่อผู้เล่นได้รับ “Pin Points” (PP) โดยเฉพาะเข็มกลัดที่ใช้ในการต่อสู้ ซึ่งจะทำให้เข็มกลัดมีวิวัฒนาการไปเป็นรูปแบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น Pin Points จะได้รับหลังจบการต่อสู้ ได้รับในระหว่างที่ไม่ได้เล่นเกม หรือโดยการเชื่อมต่อกับเครื่องดีเอสเครื่องอื่นๆอื่น ๆ หรือแหล่งสัญญาณไร้สายบางแหล่ง<ref name="ign review"/>
 
=== การต่อสู้ ===
บรรทัด 128:
ระบบการต่อสู้ของเกมนี้เรียกว่า ''Stride Cross Battle System'' ฉากการต่อสู้จะแสดงผลบนจอภาพทั้งสองจอของดีเอส โดยส่วนของเนกุจะแสดงบนจอสัมผัส และส่วนของคู่หูจะแสดงบนจอบน สื่อถึงพื้นที่ที่แตกต่างกันในสถานที่เดียวกัน ซึ่งตัวละครทั้งสองจะต้องต่อสู้กับศัตรูเดียวกันที่มีตัวตนอยู่ในทั้งสองพื้นที่ในเวลาเดียวกัน ระบบการต่อสู้ของเนกุและคู่หูจะมีความสอดคล้องกัน กล่าวคือ ใช้แถบพลังชีวิตร่วมกัน ซึ่งหากตัวละครตัวใดตัวหนึ่งได้รับความเสียหายมากเกินไป ตัวละครทั้งสองจะแพ้ในการต่อสู้ แม้ว่าตัวละครอีกตัวหนึ่งจะไม่ถูกศัตรูโจมตีเลยก็ตาม<ref name="ign review"/> "light puck" สีเขียวจะปรากฏขึ้นระหว่างตัวละครทั้งสองขณะต่อสู้ เมื่อตัวละครมี puck นี้เกิดขึ้น พลังโจมตีจะเพิ่มมากขึ้น การเคลื่อนไหวของ light puck นี้ขึ้นอยู่กับ "sync ratio" ระหว่างเนกุและคู่หู ยิ่งตัวละครมี sync ratio มาก puck จะยิ่งคงอยู่ได้นานมากขึ้น ผู้เล่นสามารถสวมใส่เสื้อผ้าให้เนกุและคู่หูเพื่อปรับเปลี่ยนค่าความเร็วของ light puck ได้<ref name="eurogamer review"/>
 
ผู้เล่นจะควบคุมเนกุด้วยการเคลื่อนไหว stylus บนจอสัมผัสตามที่กำหนดไว้ที่เข็มกลัดที่สวมใส่ การเคลื่อนไหวเหล่านี้อาจเป็นการฟันที่ตัวศัตรู แตะจอหลายครั้งติดต่อกันเพื่อยิงกระสุน หรือแตะตัวศัตรูค้างไว้เพื่อสร้างความเสียหาย และมีเข็มกลัดบางชนิดที่จะใช้งานได้โดยแตะเลือกเข็มกลัดนั้นๆนั้น ๆ ขณะต่อสู้ เช่น เข็มกลัดสำหรับฟื้นฟูพลังชีวิต<ref name="ign review"/> เข็มกลัดแต่ละชนิดจะมีจำนวนครั้งที่ใช้ได้จำกัด เมื่อใช้ครบตามที่กำหนดไว้แล้ว จะต้องใช้เวลาปลุกพลังขณะต่อสู้ระยะหนึ่ง แต่เข็มกลัดบางชนิดเมื่อใช้ครบจำนวนครั้งแล้วจะไม่สามารถปลุกพลังอีกเลยจนกว่าการต่อสู้จะจบลง เมื่อแรกเริ่มเกมเนกุจะสวมใส่เข็มกลัดได้เพียงสองอัน แต่สามารถยกระดับให้สามารถสวมใส่ได้สูงสุดถึงหกอัน<ref name="eurogamer review"/>
 
ผู้เล่นสามารถบังคับคู่หูของเนกุบนจอบนหรือปล่อยให้คอมพิวเตอร์ควบคุมเองก็ได้ คู่หูของเนกุจะมีกลไกแบบการ์ดเกม ตัวอย่างเช่น การ์ดเกมของชิกิจะต้องจับคู่ Zenar card ที่คว่ำอยู่<ref name="ign review"/> คู่หูสามารถโจมตีแบบพื้นฐานได้โดยกดปุ่มลูกศรตามที่แสดงบนจอบนตามลำดับเพื่อเลือกการ์ด เมื่อบังคับปุ่มลูกศรไปจนถึงการ์ดที่ตรงตามกฎของการ์ดเกม ผู้เล่นจะได้รับสัญลักษณ์รูปดาว เมื่อได้รับสัญลักษณ์ครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ จะสามารถใช้ท่าโจมตี "Fusion" ที่เนกุและคู่หูจะโจมตีร่วมกัน โดยกดเลือก "Harmonizer Pin" ที่ปรากฏขึ้นที่มุมขวาบนของจอสัมผัส<ref name="ign review"/> และผู้เล่นยังสามารถบังคับให้ตัวละครคู่หูหลบหลีกการโจมตีของศัตรูได้อีกด้วย<ref name="ign review"/>
บรรทัด 134:
== การพัฒนา ==
 
''The World Ends with You'' พัฒนาโดยทีมพัฒนาเดียวกับที่สร้างซีรีส์ ''[[คิงดอมฮารตส์]]'' ร่วมกับบริษัท Jupiter ที่พัฒนา ''[[Kingdom Hearts: Chain of Memories]]'' การพัฒนาเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2 ปีครึ่งก่อนวางจำหน่ายฉบับภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พัฒนา ''[[คิงดอมฮารตส์ II]]'' และการพัฒนา ''Kingdom Hearts: Chain of Memories'' ได้เสร็จสิ้นแล้ว<ref name="roundtable1" /> ขณะนั้นนินเทนโดได้ประชาสัมพันธ์เครื่องดีเอส แต่ยังไม่ได้วางจำหน่าย สแควร์เอนิกซ์ได้มอบหมายให้ทีมพัฒนาสร้างเกมสำหรับเครื่องเล่นขนาดพกพาโดยเฉพาะ<ref name="roundtable1">{{cite web | url = http://member.square-enix.com/na/features/wewy/01/ | title = Creator's Roundtable, Episode 1 | publisher = [[สแควร์เอนิกซ์]] | year = 2007 | accessdate= 2008-06-18}}</ref> ทีมงานสร้างเกมอันประกอบไปด้วย ทัทสึยะ คันโดะ (ผู้กำกับ) โทะโมะฮิโระ ฮะเซะงะวะ (co-director) ทะเคะชิ อะระคะวะ (planning director) และเท็ทสึยะ โนะมุระ (ออกแบบตัวละคร) มีโอกาสได้ลองใช้เครื่องดีเอสภายในงาน "Touch DS" เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2547<ref name="roundtable2">{{cite web | url = http://member.square-enix.com/na/features/wewy/01/ep2_01.php | title = Creator's Roundtable, Episode 2 | publisher = [[สแควร์เอนิกซ์]] | year = 2007 | accessdate= 2008-06-18}}</ref> จากการทดลองใช้ครั้งนั้น ทีมงานได้นึกถึงการนำรูปแบบการเล่นของ ''Chain of Memories'' มาประยุกต์เข้ากับเครื่องดีเอส โดยจอล่างจะแสดงผลส่วนของการ์ดเกม และจอบนแสดงส่วนของ action role-playing game เมื่อเริ่มพัฒนาเกม ทีมผู้พัฒนาต้องการให้เกมที่กำลังสร้างนี้ใช้จอสัมผัสมากขึ้น เพื่อสร้าง "เกมที่สามารถเล่นได้บนเครื่องดีเอสเท่านั้น"<ref name="roundtable2"/> แต่ก็ต้องพบปัญหาที่ว่า เมื่อมุ่งให้ความสำคัญกับจอสัมผัสมาก จอบนจะถูกมองข้าม จากจุดนี้จึงเกิดความคิดที่จะสร้างระบบการต่อสู้ที่ใช้จอภาพทั้งสองพร้อมๆพร้อม ๆ กัน<ref name="roundtable2"/> ทีมผู้พัฒนาได้ทดลองทางเลือกมากมายสำหรับเกมส่วนของจอบน อย่างเช่น การต่อสู้แบบใช้คำสั่ง หรือเกมดนตรี แต่เมื่อลองพิจารณาจากมุมมองของผู้เล่นแล้ว ท้ายที่สุดจึงใช้ระบบการ์ดเกมสำหรับให้ผู้เล่นเลือกควบคุมเกมได้ตามที่ต้องการ<ref name="postmortem"/> แม้เมื่อสร้างเกมฉบับภาษาญี่ปุ่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ทีมงานยังคงเกรงว่าระบบสองจอภาพจะยุ่งยากเกินไปสำหรับผู้เล่นในต่างประเทศ และได้เปลี่ยนกลไกการ์ดเกมให้เป็น special meter ที่จะมีค่าคะแนนเพิ่มมากขึ้นจากการโจมตีธรรมดาของเนกุ แต่ส่วนนี้ไม่สามารถทำได้เสร็จสิ้นทันการวางจำหน่าย<ref name="postmortem"/> อย่างไรก็ตาม ทีมงานสามารถแก้ไขส่วนของ Tutorial ขณะเริ่มต้นเล่นเกมในฉบับอเมริกาเหนือที่มีข้อความมากเกินไปได้ ซึ่งช่วยลดปริมาณการแสดงผลข้อความ และทำให้ผู้เล่นสามารถข้าม Tutorial ไปได้ ส่วนของระบบ "Active Encounter" ซึ่งทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะเข้าสู่ฉากต่อสู้เมื่อไรและอย่างไร ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อไม่ให้เกมน่าเบื่อมากเกินไป ซึ่งเป็นปัญหาที่พบในระบบ RPG ส่วนใหญ่<ref name="postmortem"/> และทีมงานยังได้พัฒนากลไกที่ทำให้สามารถ scan ตัวละครที่ไม่สามารถบังคับได้ เพื่ออ่านความคิดตัวละครเหล่านั้น แต่ขณะนั้นยังไม่สามารถนำระบบใส่เข้าไปในเกมได้<ref name="postmortem"/>
 
[[ไฟล์:Shibuya tokyo.jpg|thumb|บรรยากาศในเกมส่วนใหญ่จำลองมาจากย่านชิบุยะของจริง โดยนำเสนอ scramble crossing ใกล้กับ the 109 department store (ด้านซ้ายในภาพ) เป็นจุดสำคัญ และนำไปใช้เป็นภาพฉากหลังบนปกเกม]]
 
ในการทำให้เกมมีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น ผู้ออกแบบจึงต้องการจำลองสถานที่จริงมาสร้างเป็นบรรยากาศในเกม<ref name="roundtable2"/> ในระยะแรกได้วางแผนว่าจะจำลองจากสถานที่หลายแห่งทั่วโลก ต่อมาได้จำกัดการเลือกสถานที่ให้อยู่เฉพาะในเมืองที่ต้องการเพื่อให้สามารถสร้างบรรยากาศได้อย่างสมจริงที่สุด ในที่สุดในปีแรกของขั้นตอนการพัฒนา คนโดะได้ตัดสินใจเลือกชิบุยะเป็นสถานที่หลัก กระนั้นก็ยังมีความกังวลว่าผู้เล่นในต่างประเทศจะไม่คุ้นเคยกับบรรยากาศภายในเกม<ref name="postmortem">{{cite news | last = Arakawa | first = Takeshi |author2= Hasegawa, Tomohiro|author3=Kando, Tatsuya | title = Post-Mortem: The World Ends With You | publisher = [[Game Developer (magazine)|Game Developer]] | date = October 2008 | pages = 34}}</ref> ทีมงานต้องการให้ยืนยันได้ว่าเกมจะนำเสนอบรรยากาศของชิบุยะได้อย่างสมจริง<ref name="roundtable2"/> จึงออกถ่ายภาพเมืองตามดาดฟ้าอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต<ref name="roundtable3"/> แล้วจำลองแบบแผนผังชิบุยะสำหรับเกม โดยยังคงสถานที่สำคัญในโลกจริงไว้ แต่ได้เปลี่ยนชื่อร้านค้าและอาคารต่างๆต่าง ๆ ด้วยเหตุผลด้านลิขสิทธิ์ ตัวอย่าง 109 Building ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "104 Building" ขณะที่ร้าน[[สตาร์บัคส์]]ที่อยู่ติดกับ scramble crossing ซึ่งเป็นสาขาที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดแห่งหนึ่ง ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "Outback Cafe"<ref name="ign review"/><ref name="postmortem"/><ref name="squenix fable"/><ref>{{cite web | url = http://www.siliconera.com/2008/03/15/the-world-ends-with-you-versus-actual-shibuya/ | title = The World Ends With You versus actual Shibuya | publisher = Siliconera | author = Spenser | date = 2008-03-15 | accessdate = 2008-06-19}}</ref><ref>{{cite web | url = http://www.1up.com/do/blogEntry?bId=8827801&publicUserId=5379721 | title = Things to do in Tokyo when you're jetlagged: The World Ends With You edition | publisher = [[1UP.com]] | first = Jemery | last = Parish | date = 2008-08-01 | accessdate = 2008-08-02}}</ref> ความสำเร็จของเกมทำให้แฟนเกมออกสำรวจย่านชิบุยะเพื่อชมสถานที่จริงที่ถูกจำลองลงในเกม<ref name="postmortem"/> นอกจากนี้ส่วนอื่นๆอื่น ๆ ในเกมอย่างเช่น อาหาร เสื้อผ้า หรือการใช้โทรศัพท์มือถือ ก็นำ selection ของย่านชิบุยะมาใช้ในเกมเช่นกัน<ref name="squenix fable">{{cite web | url = http://ds.ign.com/articles/851/851739p2.html | title = The World Ends With You&nbsp;– A สแควร์เอนิกซ์ Fable | publisher = [[IGN]] | date = 2008-02-12 | accessdate = 2008-06-18 | first = Patrick | last = Kolan }}</ref> แรกเริ่มนั้นทีมงานมีความคิดที่จะใช้ภาพเขียนตามกำแพงสาธารณะที่มีอยู่ทั่วไปในชิบุยะมาใช้เป็นแหล่งการใช้พลังต่างๆต่าง ๆ ในเกมของผู้เล่น แต่เนื่องจากส่วนนี้แสดงผลได้ยาก จึงเปลี่ยนเป็นการสร้าง psych pins ขึ้นแทน
 
ทีมงานตัดสินใจสร้างเกมด้วยกราฟิกสองมิติแทนที่จะเป็นสามมิติ เนื่องจากเชื่อว่าจะสร้างความแตกต่างของเกมนี้จากเกมอื่นของ สแควร์เอนิกซ์ และยังนำเสนอจินตนาการของเกมได้มากกว่า<ref name="postmortem"/> ในขั้นตอนแรกซึ่งเป็นการสร้างรูปแบบศิลปะสำหรับเกม ทะคะยุกิ โอดะจิ background art director มีความคิดว่าบรรยากาศสมัยใหม่จะทำให้เกมน่าเบื่อเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้จึงออกแบบกราฟิกของชิบุยะให้มีลักษณะเอนเอียงและเป็นเหลี่ยมมุม ซึ่ง Creative team คนอื่นก็พบว่าวิธีนี้ทำให้กราฟิกกลมกลืนกับเกมได้เป็นอย่างดี<ref name="roundtable3">{{cite web | url = http://member.square-enix.com/na/features/wewy/01/ep3_01.php | title = Creator's Roundtable, Episode 3 | publisher = [[สแควร์เอนิกซ์]] | year = 2007 | accessdate= 2008-06-18}}</ref> สำหรับฉากต่อสู้นั้น ฉากหลังของจอบนจะออกแบบเพื่อเน้นความน่าสนใจของภาพ ขณะที่ฉากหลังของจอสัมผัสด้านล่างจะออกแบบเพื่อเน้นระบบการเล่น<ref>{{cite web | url = http://wewy.deviantart.com/art/Background-Angle-Tests-81577315 | title = Background Angle Tests | publisher = [[DeviantArt]] | author = สแควร์เอนิกซ์ | date = 2008-03-31 | accessdate= 2008-06-19}}</ref> Ohdachi ยังได้ทำหน้าที่ออกแบบอาร์ตเวิร์กสำหรับ psych pins และผสมผสาน[[ศิลปะประชานิยม]]เข้ากับ tribal design สำหรับกราฟิกในหลายๆหลาย ๆ ส่วน<ref name="roundtable3"/> ในส่วนของการออกแบบตัวละครเป็นหน้าที่ของเท็ทสึยะ โนะมุระ และ Gen Kobayashi<ref name="ign tgs 2006"/> ซึ่งออกแบบขึ้นเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของโตเกียวในโลกจริง ต่อมาจึงออกเสื้อผ้าโดยยึดตามบุคลิกของตัวละคร<ref>{{cite web|url=http://wewy.deviantart.com/art/Character-Design-82283821|title=Character Design|year=2008|accessdate=2008-04-23|publisher = [[DeviantArt]] |author = สแควร์เอนิกซ์}}</ref> โคะบะยะชิยังได้ทำหน้าที่ออกแบบตัวละครที่บังคับไม่ได้ และบันทึกการนำภาพร่างออกแบบมาสร้างเป็นตัวละครที่สมบูรณ์<ref>{{cite web|url=http://wewy.deviantart.com/art/NPC-Design-82283565|title=NPC Design|year=2008|accessdate=2008-04-23|publisher = [[DeviantArt]]|author = สแควร์เอนิกซ์}}</ref> ฮะเซะงะวะทำหน้าที่ออกแบบนอยส์ โดยต้องการทำให้มีลักษณะที่เป็นสิ่งมีชีวิตก่อนที่จะเน่าเปื่อยเป็นกระดูก<ref name="roundtable3"/> และเพื่อให้แสดงออกถึงอารมณ์ของมนุษย์ จึงเลือกใช้สิ่งมีชีวิตที่สื่อถึงความรู้สึก เช่น หมาป่า หรืออีกา<ref name="roundtable3"/> การนำเสนอรูปแบบของนอยส์ภายในเกมจะต้องวาด 2D sprites จากหลายๆหลาย ๆ มุมเพื่อสร้างการเคลื่อนไหวบนจอภาพ รวมทั้งใช้ rotoscoping บน pre-rendered sprites<ref name="roundtable3"/> และ สแควร์เอนิกซ์ ต้องประชุมกับ Jupiter หลายครั้งเพื่อยืนยันว่า sprite สอดคล้องกับรูปแบบของเกม ซึ่งคันโดะต้องเดินทางระหว่างโตเกียวและเกียวโตเป็นเวลา 2 ชั่วโมงทุกสัปดาห์เพื่อตรวจสอบการทำงานในส่วนนี้<ref name="postmortem"/>
 
นอกจากการสร้างเนื้อเรื่องของเกมให้ผู้เล่นรู้สึกถึงภาวะฉุกเฉินและปริศนา ผู้พัฒนายังต้องการนำผู้เล่นไปสู่สถานการณ์ที่ถูกจำเป็นต้องกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยไม่มีคำอธิบาย<ref name="roundtable3"/> เริ่มจากสร้างแผนร่างเบื้องต้นของโครงเรื่อง และส่งต่อให้ซะจิเอะ ฮิระโนะ ผู้เขียนบท และยุคะริ อิชิดะ scenario event planer นำไปขยายความต่อ ผลที่ได้นั้นใกล้เคียงกับ initial vision ของเนื้อเรื่องของเกม<ref name="roundtable3"/> แต่ยังมีความยากในการแต่งเติมเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ แม้ว่าการพัฒนาจะเป็นไปอย่างราบรื่นประมาณครึ่งหนึ่งของกระบวนการแล้ว ก็ยังมีความเปลี่ยนแปลงที่จะส่งผลต่อการสร้าง Master image ของเกม<ref name="postmortem"/> ในระหว่างการตรวจสอบคุณภาพครั้งสุดท้ายได้พบจุดที่ไม่สอดคล้องกันในเนื้อเรื่องซึ่งจำเป็นต้องแก้ไข<ref name="postmortem"/> และขณะที่ทีมงาน localization ของ สแควร์เอนิกซ์ แปลบทสนทนาและ Interface items ส่วนใหญ่ให้เป็นภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆอื่น ๆ ในยุโรป ก็ยังต้องคงส่วนประกอบที่เป็นภาษาญี่ปุ่นจำนวนมากไว้ดังเดิมเพื่อไม่ให้เสียวัฒนธรรมของเกม<ref name="language">{{cite web | url = http://ds.ign.com/articles/867/867278p1.html | title = Breaking the Language Barrier | date = 2008-04-17 | accessdate = 2008-06-18 | first = Dave | last = McCarthy | publisher = [[IGN]]}}</ref> อีกทั้งยังมีข้อจำกัดเรื่องขนาดของกรอบสนทนาที่ใช้ในเกม ซึ่งต้องปรับปรุงแก้ไขหลายขั้นตอนเพื่อไม่ให้เสียการสื่อความหมายของเนื้อเรื่อง<ref name="language"/>
 
ชื่อเกมในภาษาญี่ปุ่นแปลตามตัวอักษรได้ว่า ''It's a Wonderful World'' แต่ไม่ได้ใช้คำแปลนี้เป็นชื่อเกมสำหรับวางจำหน่ายในต่างประเทศเนื่องจากปัญหาด้านลิขสิทธิ์<ref name="language"/><ref>{{cite web | url = http://www.next-gen.biz/index.php?option=com_content&task=view&id=5824&Itemid=2 | title = This Week in Japan | accessdate = 2007-06-20 | last = Rogers | first = Tim | date = 2007-05-31 | work = [[Next Generation Magazine]] | quote = …a Square-Enix representative at the Square-Enix Party event a few weeks back specifically told us not to officially refer to the game as ‘It's a Wonderful World’, as that name is already copyrighted and will not be used in America…}}</ref> ดังนั้นจึงตั้งชื่อเกมว่า ''The World Ends With You'' สำหรับวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือและยุโรป สแควร์เอนิกซ์ ได้ประกาศการสร้างเกมนี้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2549<Ref>{{cite web| url = http://ds.ign.com/articles/732/732511p1.html | title = It's a Wonderful World | first = Anoop | last = Gantayat | date = 2006-09-13 | accessdate = 2008-06-18 | publisher = [[IGN]]}}</ref> และสองสัปดาห์ต่อมาได้เปิดตัวในงาน 2006 Tokyo Game Show<ref name="ign tgs 2006">{{cite web | url = http://ds.ign.com/articles/734/734389p1.html | title = TGS 2006: It's A Wonderful World | publisher = [[IGN]] | author = Nix | date = 2006-09-22 | accessdate = 2008-06-18}}</ref> ต่อมาเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2550 สแควร์เอนิกซ์ ประกาศว่าเกมนี้จะวางจำหน่ายในยุโรปและออสเตรเลียในเดือนเมษายน พ.ศ. 2551<ref>{{cite web | url = http://ds.ign.com/articles/839/839689p1.html | title = It's a Wonderful World Ends with You | publisher = [[IGN]] | first =Daemon | last = Hatfield | date = 2007-12-05 | accessdate= 2008-06-18}}</ref> และวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ได้ประกาศว่าจะวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือในฤดูใบไม้ผลิ พ.ศ. 2551<ref>{{cite web | url = http://ds.ign.com/articles/841/841873p1.html | title = 'World Ends With You' Confirmed For U.S. | first = Ryan | last = Geddes | publisher = [[IGN]] |date = 2007-12-17 | accessdate= 2008-06-18}}</ref>
บรรทัด 152:
ผู้แต่งและควบคุมเพลงประกอบของ ''The World Ends with You'' คือทะเคะฮะรุ อิชิโมะโตะ โดยที่ดนตรีภายในเกมจะผสมผสานจากหลายแนว ทั้งร็อค ฮิปฮอป อิเล็กทรอนิกา เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศที่หลากหลายของชิบุยะ<ref name="postmortem"/> สำหรับเพลงประกอบที่เปิดระหว่างแสดงรายชื่อทีมงานเมื่อเล่นเกมจบ มีชื่อว่า [[Lullaby For You]] แต่งและขับร้องโดย Jyongri ศิลปินเพลงป๊อปญี่ปุ่น ส่วนนักร้องคนอื่นๆที่ร่วมขับร้องเพลงประกอบของเกม ประกอบด้วย Sawa, มะกิโกะ โนะดะ, Leah, อะยุโกะ ทะนะกะ, ไม มัทสึดะ, Wakako, Hanaeryca, Cameron Strother, Andy Kinlay, Nulie Nurly, และ Londell "Taz" Hicks<ref name="squenix soundtrack"/> ทางผู้พัฒนาได้ใช้ Kyuseishu Sound Streamer ของ [[CRI Middleware]] ซึ่งเป็น compression algorithm ที่ปกติแล้วจะใช้สำหรับ voice-overs นำมาใช้บีบอัดเพลงประกอบเพื่อให้ใส่เพลงลงในเกมได้มากขึ้น รวมทั้งได้ใช้ภาพเคลื่อนไหวแบบ [[Adobe Flash|Flash]] แทน full motion video cutscenes เพื่อประหยัดเนื้อที่ของเกม ในที่สุดหลังจากแต่งเพลงประกอบและใส่ลงในเกมแล้ว พบว่าเพลงประกอบใช้เนื้อที่จัดเก็บไปประมาณ 1 ใน 4 ของเนื้อที่เกม<ref name="postmortem"/>
 
อัลบั้มรวมเพลงประกอบอย่างเป็นทางการ ใช้ชื่อว่า ''The World Ends with You Original Soundtrack'' ({{ญี่ปุ่น|すばらしきこのせかい ORIGINAL SOUNDTRACK|Subarashiki Kono Sekai Original Soundtrack|meaning "It's a Wonderful World Original Soundtrack"}}) วางจำหน่ายในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2550<ref name="squenix soundtrack">{{cite web | url = http://www.square-enix.co.jp/music/sem/page/subarashiki/ | title = すばらしきこのせかい オリジナル・サウンドトラック: | publisher = สแควร์เอนิกซ์ Music | accessdate = 2008-06-19 | language =ja}}</ref> และมีจำหน่ายทางเว็บไซต์ [[iTunes Stores]] ที่เป็นภาษาอังกฤษ<ref>{{cite web | url = http://gonintendo.com/?p=42007 | title = The World Ends With You soundtrack hits iTunes | publisher = GoNintendo | author = RMC | date = 2008-05-03 | accessdate = 2008-06-19}}</ref> อย่างไรก็ตามอัลบั้มที่วางจำหน่ายนี้ไม่มีเพลง 4 เพลงที่มีอยู่เฉพาะในอัลบั้มพิเศษสำหรับจำหน่ายในประเทศอื่นๆอื่น ๆ แต่ละประเทศโดยเฉพาะ
 
{{tracklist
บรรทัด 374:
''The World Ends with You'' ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกจากสื่อหลายสำนัก ตัวอย่างเช่น นิตยสาร ''Game Informer'' ยกให้เป็นสุดยอดเกมบนเครื่องเล่นพกพาประจำเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2551 ขณะที่เว็บไซต์ IGN ยกให้เป็น Editor's Choice และสุดยอดเกมบนเครื่อง DS ประจำเดือนเมษายนในปีเดียวกัน<ref name="ign gotm">{{cite web | url = http://ds.ign.com/articles/870/870825p1.html | title = IGN: Game of the Month: April 2008 | first = Daemon | last = Hatfield | publisher = [[IGN]] | date = 2008-04-30 | accessdate = 2008-06-19}}</ref> นอกจากนี้เกมยังประสบความสำเร็จในด้านยอดจำหน่าย โดยในญี่ปุ่นมียอดจำหน่ายสูงเป็นอันดับที่ 2 ในบรรดาเกมบนเครื่อง DS ในระหว่างสัปดาห์ของวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2550<ref>{{cite web | url = http://www.gamasutra.com/php-bin/news_index.php?story=14847 | title = Saling The World: Guitar Hero Encore Tops Charts in U.S. and UK | date = 2007-07-27 | accessdate = 2008-06-18 |publisher=[[Gamasutra]] | first = Danny | last = Cowan}}</ref> และเมื่อถึงสิ้นปี เกมมียอดจำหน่ายรวมทั้งปีในญี่ปุ่นเกือบ 193,000 ตลับ<ref>{{cite web | url = http://www.n4g.com/industrynews/News-157766.aspx | title = Japanese 2007 Top 500 Game Sales (by Famitsu) | publisher = News 4 Gamers | date = 2008-06-13 | accessdate = 2008-07-06}}</ref> สำหรับในอเมริกาเหนือ เกมมียอดจำหน่ายทั้งในสัปดาห์ที่เริ่มจำหน่ายและอีก 2 สัปดาห์ถัดมาสูงที่สุดในบรรดาเกมบนเครื่อง DS<ref>{{cite web | url = http://www.gamasutra.com/php-bin/column_index.php?story=8845 | title = Saling The World: The World Ends With You, Persona 3 FES Top Sales in U.S. Debut Week | publisher = [[Gamasutra]] | date = 2008-04-24 | accessdate = 2008-06-18 | first = Danny | last = Cowan }}</ref><ref>{{cite web | url = http://www.gamasutra.com/php-bin/column_index.php?story=8851 | title = Saling The World: GTAIV Repeats U.S. and UK Sales Victory | publisher = [[Gamasutra]] | date = 2008-05-08 | accessdate = 2008-06-18 | first = Danny | last = Cowan}}</ref> และมียอดจำหน่ายระหว่างเดือนเมษายน พ.ศ. 2551 อยู่ที่ 43,000 ตลับ<ref>{{cite web | url = http://www.nintendoworldreport.com/newsArt.cfm?artid=16022 | title = April NPD: Nintendo Unfazed By Competition | publisher = [[Nintendo World Report]] | first = Carmine | last = Red | date = 2008-05-27 | accessdate = 2008-06-18}}</ref> จนกระทั่งจำหน่ายได้หมดเมื่อถึงกลางเดือนพฤษภาคม<ref>{{cite web | url = http://www.gamasutra.com/php-bin/column_index.php?story=8854 | title = Saling The World: GTA IV, Mario Kart Lead US, Luminous Arc 2 Tops Japan | publisher = [[Gamasutra]] | date = 2008-05-15 | accessdate = 2008-06-18 | first = Danny | last = Cowan}}</ref> และต้องนำเข้ามาจำหน่ายในอเมริกาเหนือเป็นครั้งที่สองในกลางเดือนมิถุนายน<ref>{{cite web | url = http://www.joystiq.com/2008/06/03/the-world-ends-with-you-new-shipment-coming-mid-june/ | title = The World Ends With You: new shipment coming mid-June | publisher = [[Joystiq]] | first = Ross | last = Miller | date = 2008-06-03 | accessdate = 2008-06-18}}</ref> เมื่อถึงวันที่ 30 กันยายนในปีเดียวกัน ''The World Ends with You'' มียอดจำหน่ายในอเมริกาเหนือรวมแล้ว 140,000 ตลับ และในยุโรป 20,000 ตลับโดยประมาณ<ref>{{cite web | url = http://kotaku.com/5081606/which-square-enix-games-have-been-selling-this-year | title = Which สแควร์เอนิกซ์ Games Have Been Selling This Year | publisher = [[Kotaku]] | date = 2008-11-10 | accessdate = 2008-11-10 | first = Brian | last = Ashcraft }}</ref>
 
นักวิจารณ์หลายคนชื่นชมที่เกมนี้แสดงความแตกต่างจากเกมยอดนิยมอื่นๆอื่น ๆ ของสแควร์เอนิกซ์ อย่างซีรีส์ ''ไฟนอลแฟนตาซี'' และ ''คิงดอมฮาร์ตส์''<ref name="ign review"/><ref name="ign gotm"/> รวมทั้งในด้านการนำเสนอกราฟิกและเพลงประกอบ<ref name="ign review"/><ref name="eurogamer review"/><ref name="gamespot review">{{cite web | url = http://www.gamespot.com/ds/rpg/wonderfulworld/review.html?page=2 | title = The World Ends With You for DS Review | publisher = [[GameSpot]] | first = Randolph | last = Ramsay | date = 2008-04-22 | accessdate= 2008-06-19}}</ref> ขณะเดียวกันก็มีความคิดเห็นว่าเมื่อมองดูครั้งแรกจะเห็นว่าตัวละครออกแบบมาคล้ายกับเกมอื่นๆอื่น ๆ ของสแควร์เอนิกซ์ มากเกินไป ซึ่งบางคนไม่พอใจในส่วนนี้<ref name="1up review"/><ref name="gamespot review"/> แม้ว่าเมื่อตัวละครเหล่านี้อยู่ในบรรยากาศของชิบุยะแล้วจะดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนเกมอื่นก็ตาม<ref name="1up review"/> อีกทั้งสื่อบางสำนักก็ติงว่าระบบการต่อสู้แบบ Stride Cross นั้นซับซ้อนเกินไปสำหรับผู้เล่นมือใหม่<ref name="1up review">{{cite web | url = http://www.1up.com/do/reviewPage?cId=3167457&p=39&sec=REVIEWS | title = Reviews: The World Ends With You | publisher = [[1UP.com]] | first = Jeremy | last = Parish | date = 2008-04-17 | accessdate = 2008-06-19}}</ref> โดยเว็บไซต์ Eurogamer ได้วิจารณ์ว่าการเรียนรู้ระบบการต่อสู้ที่ซับซ้อนนี้เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเล่นเกมนี้<ref name="eurogamer review"/> ขณะที่นิตยสาร Gamepro ได้วิจารณ์ว่าการควบคุมท่าโจมตีด้วย Stylus นั้นมีความคลุมเครือ และทำให้บังคับการเคลื่อนไหวและการโจมตีผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง<ref name="gamepro review">{{cite web | url = http://www.gamepro.com/nintendo/ds/games/reviews/178928.shtml | title = Review: The World Ends With You | date = 2008-04-22 | accessdate = 2008-06-19 | first = Amanda | last = Ng | work = [[GamePro]]}}</ref> แต่ในอีกด้านหนึ่ง ระบบนี้ก็ได้รับคำชมในด้านวิธีการเล่นและความสามารถปรับความยากของระบบภายในเกม<ref name="1up review"/><ref name="gamespot review"/> นอกจากนี้ คำวิจารณ์ในเว็บไซต์ 1UP.com ได้กล่าวถึงเกมนี้ไว้ว่า "ความจริงแล้วเกมนี้น่าจะดูน่ารำคาญ เต็มไปด้วยปริศนาที่น่าเบื่อหน่าย และซ้ำซากกับเกมอื่นๆอื่น ๆ ของสแควร์เอนิกซ์ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆต่าง ๆ ที่น่าจะทำให้ทนเล่นเกมไม่ได้กลับประกอบขึ้นเป็นเกมที่มีเอกลักษณ์ น่าสนใจ และทำให้ติดใจได้มากกว่าที่คิดไว้"<ref name="1up review"/>
 
''The World Ends with You'' ได้รับรางวัลมากมายจากเว็บไซต์ IGN ได้แก่ best Nintendo DS role-playing game<ref name="ignrpg">{{cite web |title=IGN DS: Best RPG 2008 |url=http://bestof.ign.com/2008/ds/7.html |publisher=[[IGN]].com |accessdate=2008-12-16 |date=2008-12-15}}</ref>, best story for a Nintendo DS game<ref name="ignstory">{{cite web |title=IGN DS: Best Story 2008 |url=http://bestof.ign.com/2008/ds/16.html |publisher=[[IGN]].com |accessdate=2008-12-16 |date=2008-12-15}}</ref>, best new IP for the DS<ref name="ignip">{{cite web |title=IGN DS: Best New IP 2008 |url=http://bestof.ign.com/2008/ds/19.html |publisher=[[IGN]].com |accessdate=2008-12-16 |date=2008-12-15}}</ref>, และเกม Nintendo DS ยอดเยี่ยมแห่งปี<ref name="igngoty">{{cite web |title=IGN DS: DS Game of the Year 2008 |url=http://bestof.ign.com/2008/ds/21.html |publisher=[[IGN]].com |accessdate=2008-12-15 |date=2008-12-15}}</ref> นอกจากนี้ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล best original score for a Nintendo DS game<ref name="ignscore">{{cite web |title=IGN DS: Best Original Score 2008 |url=http://bestof.ign.com/2008/ds/14.html |publisher=[[IGN]].com |accessdate=2008-12-16 |date=2008-12-15}}</ref> และ best artistic design for a Nintendo DS game<ref name="igndesign">{{cite web |title=IGN DS: Best Artistic Design 2008 |url=http://bestof.ign.com/2008/ds/13.html |publisher=[[IGN]].com |accessdate=2008-12-16 |date=2008-12-15}}</ref>{{clear}}