ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิกิพีเดีย:ขอให้กล้า"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล ย้อนการแก้ไขของ Aaa2.for.civil (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย Horus ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว |
{{กระบะทรายผู้ใช้}} thumb|169x169px|สัญลักษณ์ประจำหน่วย == <big>กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2</big> == กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 เป็นหน่วยขึ้นตรงกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน มีที่ตั้งอยู่ที่ถนนทหาร แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ภายในกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน == ประวัติความเป็นมาของหน่วย == หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 กระทรวงกลาโหมได้พิจารณาสั่งซื้อปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ขนาดความกว้างปากลำกล้อง 40 มม. แบบอัตโนมัติ ติดตั้งบนรถสายพานหลังคาเปน ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560 |
||
บรรทัด 1:
{{DISPLAYTITLE:กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่2}}
== <big>กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2</big> ==
{{กล่องข้อมูล หน่วยทหาร|unit_name=กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2|image=[[ไฟล์:Aaa2.jpg.png|150px]]|founded=16 กุมภาพันธ์ 2497|country=ไทย|branche=ทหารปืนใหญ่ artillery|type=กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน|command_structure1=พล.ปตอ.|command_structure2=ปตอ.2 พัน.1 รอ.
ปตอ.2 พัน.2
ปตอ.2 พัน.4|size=สนับสนุนการรบ|colors=ฟ้า - เหลือง|commander1=พ.อ.ไพบูลย์ พุ่มพิเชฏฐ์|commander1_label=ผบ.ปตอ.2 ปัจจุบัน}}
กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 เป็นหน่วยขึ้นตรงกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน มีที่ตั้งอยู่ที่ถนนทหาร แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ภายในกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน{{กระบะทรายผู้ใช้}}
== ประวัติความเป็นมาของหน่วย ==
หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 กระทรวงกลาโหมได้พิจารณาสั่งซื้อปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ขนาดความกว้างปากลำกล้อง 40 มม. แบบอัตโนมัติ ติดตั้งบนรถสายพานหลังคาเปิด มีเกราะเหล็กรอบด้านจากบริษัท วิคเกอร์อาร์มสตรอง ประเทศอังกฤษ โดยสั่งผ่านบริษัทบาโรบราวน์ในประเทศไทย มาถึงประเทศไทยในเดือน สิงหาคม พ.ศ.2476 และขึ้นทะเบียนเป็นอาวุธประจำการ เป็นปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานแบบ 76 ขนาด 40 มม. นับว่าเป็นต้นกำเนิดของปืนใหญ่แบบเคลื่อนที่ด้วยตัวเอง ซึ่งกำลังใช้อยู่ในประเทศมหาอำนาจในขณะนั้น ในตอนที่ได้รับ ปตอ.แบบ 76 มาใหม่ๆ ยังมิทันจะปรับปรุงจัดกำลังแต่ประการใด ก็ได้เกิดการกบฏขึ้น เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2476 โดยได้มีบุคคลคณะหนึ่งมี พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าบวรเดชฯ เป็นหัวหน้ายกกำลังทหารหัวเมืองเข้ามายังจังหวัดพระนคร เพื่อยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาล โดยตั้งกองบัญชาการอยู่ที่กรมอากาศยานดอนเมือง ทางฝ่ายรัฐบาลได้ยกกำลังออกปราบปรามจนฝ่ายตรงข้ามล่าถอย และพ่ายแพ้ในที่สุด ในการกบฏคราวนั้น หน่วยทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ได้มีส่วนร่วมในการทำการปราบปรามด้วย เมื่อบ้านเมืองสงบเรียบร้อยแล้ว ในปี พ.ศ.2477 รัฐบาลได้สั่งซื้อ ปตอ.ขนาด 75 มม. จากสวีเดนเข้ามาอีก และเรียกชื่อว่า ปตอ.แบบ 77 เมื่อซื้อเข้ามาได้มากพอแล้วทางราชการจึงได้ตราพระราชบัญญัติ จัดตั้งกรมป้องกันต่อสู้อากาศยานขึ้น โดยมอบภารกิจในเรื่องการจัดการป้องกันภัยทางอากาศ ทำให้กรมป้องกันต่อสู้อากาศยานจึงถือกำเนิดขึ้น เมื่อเกิดสงครามมหาเอเซียบูรพา ประเทศไทยยอมร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับญี่ปุ่น รัฐบาลได้สั่งซื้อปืนต่อสู้รถถัง ขนาด 20 มม. มาดัดแปลงให้สามารถยิงเครื่องบินได้ จำนวน 25 กระบอก เรียกชื่อว่า “ปตอ.แบบ 85” และจัดตั้ง พัน ปตอ.ขึ้นอีก 2 กองพัน เป็น กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 4 และ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 5 ต่อมาหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางราชการได้โอนการป้องกันฝ่ายพลเรือนให้กระทรวงมหาดไทย อาวุธปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ใช้อยู่ล้าสมัย ทางราชการจึงได้ยุบหน่วย ปตอ.ลงตามไปด้วย พัน.ปตอ. ที่ยุบได้แก่ พัน.ปตอ.แบบ 76 จำนวน 1 กองพัน และ พัน.ปตอ. แบบ 85 (ญี่ปุ่น) จำนวน 2 กองพัน และได้แปรสภาพจากกรมป้องกันต่อสู้อากาศยาน เป็น กรมต่อสู้อากาศยาน (กรม ตอ.) ในปี พ.ศ.2492
[[ไฟล์:Ceremony1801.jpg|right|312x312px|กรมสวนสนามร่วมในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาน และสวนสนามต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย ]]
ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2497 กองพลน้อยทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ได้มีการแปรสภาพตามคำสั่งกระทรวงกลาโหม ทำให้มีหน่วยขึ้นตรง 2 หน่วย คือ กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 และ กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 หลังจากนั้นกองทัพบก ได้มีการปรับการบังคับบัญชาและการจัดหน่วยอีกหลายครั้ง จนกระทั่งวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2528 โดยกรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 ประกอบด้วย กองบังคับการ และ กองร้อยกองบังคับการกรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2, กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 รักษาพระองค์, กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2, กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 4
== การปฏิบัติงานที่สำคัญ ==
พ.ศ.2510 จัดกำลัง 1 ร้อย.ปตอ. ออกปฏิบัติการตามแผนธนูเพลิง ปฏิบัติการยิงต่อเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ไม่ปรากฏสัญชาติและคุ้มครองประชาชนที่อยู่ในเขตรับผิดชอบ ตามแนวลำน้ำโขง อ.มุกดาหาร, อ.ธาตุพนม ตั้งแต่ 10 ก.ย.2510 ถึง 24 ต.ค.2510 ผลการปฏิบัติสามารถยับยั้ง และลดการลักลอบเข้ามาปฏิบัติการของเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ไม่ปรากฏสัญชาติลงได้อย่างดียิ่ง
พ.ศ.2514 การปฏิบัติการที่ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ตามอนุมัติผู้บัญชาการทหารบก โดยหน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ได้เข้าปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. – 8 เม.ย.2514 ในพื้นที่ อ.สหัสขันธุ์ จ.กาฬสินธุ์
พ.ศ.2515 การปฏิบัติการตามแผนยุทธการภูขวาง หน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ได้เข้าปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.2515 – 30 เม.ย.2515 ในพื้นที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดยมีเหตุการณ์สำคัญคือ
- วันที่ 15 เม.ย.2515 ฝ่ายเราได้ตั้งฐานอยู่บริเวณห้วยขมิ้น โดยมีกำลัง 1 หมู่ ประกอบด้วย ปตอ.เอ็ม42 จำนวน 1 หน่วยยิง และ ปตอ.เอ็ม16 จำนวน 1 หน่วยยิง ได้มีข้าศึกไม่ทราบจำนวนเข้ามาโจมตีโฉบฉวยที่ฐาน ฝ่ายเราได้ทำการตอบโต้จนกระทั่งข้าศึกได้ถอยหนีเข้าป่า
พ.ศ.2516 การปฏิบัติตามแผนยุทธการรามสูร หน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ได้เข้าปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค. – 23 มี.ค.2516 ในพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งการปฏิบัติการครั้งนี้หน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน สามารถปฏิบัติภารกิจได้หลายภารกิจ คือ
1. แสดงแสนยานุภาพ
2. ลาดตระเวนหาข่าว
3. ตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุงของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์
4. ยิงที่หมายทางอากาศ (เฮลิคอปเตอร์และ เครื่องบินไม่ทราบฝ่าย)
การปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศ สนับสนุนกองทัพภาคที่ 1 โดยมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น 2 ครั้ง คือ[[ไฟล์:Aaa22.jpg.jpg|thumb|191x191px]] ครั้งที่ 1 ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารเวียดนาม ซึ่งรุกล้ำเข้ามาทางบ้านโนนหมากมุ่น กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 รักษาพระองค์ได้รับมอบภารกิจให้ไปป้องกันฐานยิงของ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 201 กองร้อยที่ 2 ที่บ้านโคกสว่าง และในวันที่ 25 มิ.ย.2523 หน่วยจึงได้จัดอาวุธปืนใหญ่ต่อสู่อากาศยาน จากบ้านตะแบกป่า บ้านแชร์ออ ทำการป้องกัน 4 หน่วยยิง ประกอบด้วย ปตอ.40 มม. จำนวน 2 หน่วยยิง และ ปตอ.12.7 มม. จำนวน 2 หน่วยยิง ผลการปฏิบัติคือ ข้าศึกได้รับความสูญเสียไปเป็นจำนวนมาก
ครั้งที่ 2 กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 รักษาพระองค์ ได้รับภารกิจจากกองทัพภาคที่ 1 ให้ไปทำการยิงป้องปรามของฝ่ายตรงข้ามที่บินเข้ามาในทิศทางหลักเขตที่ 28 บริเวณช่องเขากิ่ว และเขาทิ้งกับ ในห้วงเวลาตั้งแต่ 1900 – 2100 หน่วยได้จัดอาวุธออกไป 4 หน่วยยิง จากฐานตานี ไปเข้าที่รวมพลที่ฐานเอกราช ซึ่งเป็นหน่วยของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารที่ 1 รักษาพระองค์ และในวันที่ 16 ม.ค.2524 เวลา 2030 หน่วยได้ปฏิบัติภารกิจยิงต่อเครื่องบินข้าศึกที่บริเวณดังกล่าวได้อีก ผลการปฏิบัติสามารถป้องปรามมิให้เครื่องบินข้าศึกมาบินที่บริเวณพื้นที่ดังกล่าวได้อีก
การปฏิบัติภารกิจด้านการป้องก้ันและบรรเทาสาธาณภัย กรณีเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ พ.ศ. 2554 โดยกรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบพื้นที่บรรเทาสาธารณภัย จังหวัดนนทบุรี ในขณะนั้น ทั้งด้านการป้องกัน ช่วยเหลือ และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย ภารกิจในครั้งนั้นมีทหารกองประจำการของหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก ที่ครบกำหนดปลดประจำการ แต่สมัครใจอยู่ต่อ จำนวน 420 นาย ในขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมยังคงดำเนินอยู่ต่อไป ทำให้ได้รับความชื่นชมเป็นอย่างมาก กองทัพบกจึงได้มอบประกาศเกียรติคุณให้เพื่อเป็นการขอบคุณในความเสียสละของกำลังพลเหล่านั้น
== หน่วยขึ้นตรง ==
<references />
กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 มีหน่วยขึ้นตรง จำนวน 3 กองพัน คือ
* กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 รักษาพระองค์
* กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 กรมทหารปืนใหญ่่ต่อสู้อากาศยานที่ 2
* กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 4 กรมทหารปืนใหญ่่ต่อสู้อากาศยานที่ 2
== วันสถาปนาหน่วย ==
ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2497 กองพลน้อยทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ได้มีการแปรสภาพตามคำสั่งกระทรวงกลาโหม ทำให้มีหน่วยขึ้นตรง 2 หน่วย คือ กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 และ กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 ดังนั้นจึงกำหนดให้วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวันสถาปนาหน่วย โดยยึดถือเป็นประเพณีสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน
== รายนามผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ==
{| class="wikitable sortable mw-collapsible mw-collapsed"
|+
!ลำดับที่
!ยศ - ชื่อ
!สกุล
!ปีที่ดำรงตำแหน่ง
|-
|1.
|พ.อ.สัมฤทธิ์
|แพทย์เจริญ
|พ.ศ. 2497 – 2505
|-
|2.
|พ.อ.สิทธิ
|ศิลปสุขุม
|พ.ศ. 2505 – 2513
|-
|3.
|พ.อ.ปวัฒนวงศ์
|หุตะเสวี
|พ.ศ. 2513 – 2516
|-
|4.
|พ.อ.พูน
|ทรงศิลป์
|พ.ศ. 2516 – 2522
|-
|5.
|พ.อ.บุลศักดิ์
|โพธิเจริญ
|พ.ศ. 2522 – 2524
|-
|6.
|พ.อ.การุญ
|ฉายเหมือนวงศ์
|พ.ศ. 2524 – 2525
|-
|7.
|พ.อ.ประเสริฐ
|ชูหมื่นไวย
|พ.ศ. 2525 – 2527
|-
|8.
|พ.อ.สำเภา
|ชูศรี
|พ.ศ. 2527 – 2531
|-
|9.
|พ.อ.เถกิง
|มุ่งธัญญา
|พ.ศ. 2531 –2533
|-
|10.
|พ.อ.สุรเชษฐ์
|ห่อประทุม
|พ.ศ. 2533 – 2535
|-
|11.
|พ.อ.สุรพันธ์
|พุ่มแก้ว
|พ.ศ. 2535 – 2539
|-
|12.
|พ.อ.ฦๅฤทธิ์
|จุลกรังคะ
|พ.ศ. 2539 – 2542
|-
|13.
|พ.อ.ยุทธศิลป์
|โดยชื่นงาม
|พ.ศ. 2542 – 2545
|-
|14.
|พ.อ.จิรเดช
|สิทธิประณีต
|พ.ศ. 2545 – 2546
|-
|15.
|พ.อ.มณฑล
|ไชยเสวี
|พ.ศ. 2546 – 2547
|-
|16.
|พ.อ.ทวีป
|กิ่งเกล้า
|พ.ศ. 2547 – 2548
|-
|17.
|พ.อ.โชติอนันต์ปรีชา
|ทรัพย์หิรัญ
|พ.ศ. 2548 – 2551
|-
|18.
|พ.อ.ศักดิ์ณรงค์
|เอียงพยุง
|พ.ศ. 2551 – 2552
|-
|19.
|พ.อ.วิรัตน์
|นาคจู
|พ.ศ. 2552 – 2553
|-
|20.
|พ.อ.วรวุฒิ
|วุฒิศิริ
|พ.ศ. 2553 – 2556
|-
|21.
|พ.อ.พัลลภ
|เฟื่องฟู
|พ.ศ. 2556 – 2558
|-
|22.
|พ.อ.เกรียงศักดิ์
|เสนาะพิน
|พ.ศ.2558 – 2560
|-
|23.
|พ.อ.ไพบูลย์
|พุ่มพิเชฏฐ์
|พ.ศ. 2560 - ปัจจุบัน
|}
|