ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Pongsak ksm (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ป้ายระบุ: ผู้ใช้ใหม่เพิ่มลิงก์ไปยังเว็บอื่น การแก้ไขแบบเห็นภาพ |
||
บรรทัด 27:
== ประวัติ ==
โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา เดิมเป็นโรงเรียนเดียวกับโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ ในปี พ.ศ. 2496 จึงขออนุมัติแยกเป็นสองโรงเรียน โดยใช้นามใหม่ว่า “โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา” มีบาทหลวงทองดี กฤษเจริญ เป็นเจ้าของ นายเฉลิมวงศ์ ปิตรังสี เป็นผู้จัดการ นางนวม วานิชโช เป็นครูใหญ่ การเรียนการสอนดำเนินการมาด้วยดีเป็นลำดับจนกระทั่งกระทรวงศึกษาธิการรับรองวิทยฐานะ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายม พ.ศ.2498 และดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน
ดังได้กล่าวมาข้างต้นแล้วว่า แต่เดิมนั้นโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษาเป็นโรงเรียนเดียวกับโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์จึงใคร่ขอกล่าวถึงประวัติของโรงเรียน ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ (สาขา) ไว้ที่นี่เพื่อเป็นกาแสดงกตัญญูกตเวทิตา ต่อท่านผู้ก่อตั้งโรงเรียนมาแต่แรกเริ่ม คือบาทหลวงเลโอ แปรูดอง ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดอัสสัมชัญ คุณพ่อเลโอ แปรูดอง จัดตั้งโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษาขึ้นซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม อัสสัมชัญคอนแวนต์ (สาขา) หรือโรงเรียนวัดอัสสัมชัญขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2476 (ค.ศ. 1933) โดยรับบุตรหลานของสัตบุรุษชายหญิงของวัดอัสสัมชัญมาฝากเรียนในบัญชีของโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ โดยทางโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์เป็นผู้รับผิดชอบ ครั้งแรกมีจำนวน 65 คน ซึ่งจำนวนนักเรียนฝากเรียนนี้ทวีขึ้นเป็นลำดับ จนกระทั่ง นักเรียนในบัญชีของโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์มีจำนวนรวมกันถึง 1,757 คน เป็นนักเรียนของโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ 848 คน และเป็นนักเรียนของวัดอัสสัมชัญในบัญชีฝากเรียนจำนวน 909 คน ซึ่งนับเป็นจำนวน นักเรียนที่มากพอจะตั้งโรงเรียนขึ้นเป็นส่วนของโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา จึงขออนุญาตแยกโรงเรียนทั้งสองในปี พ.ศ. 2496 และตั้งชื่อโรงเรียนที่แยกออกมานี้ว่า “โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา” จึงนับว่าโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษาถือ กำเนิดขึ้นโดยสมบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2496 หลังจากที่เป็นโรงเรียนสาขาฝากเรียนอยู่ในบัญชีของโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476 (ค.ศ.1933)
ความดำริชอบของบาทหลวงเลโอ แปรูดอง ในการจัดตั้งสถานศึกษาขึ้นนั้น ประการหนึ่งเพราะความกรุณาแก่ปวง กุลบุตรและกุลธิดาของสัตบุรุษทั้งหลาย ซึ่งจะได้มีที่พึ่งในในการช่วยอบรมเสริมสร้างอนาคตให้แก่บุตรหลานของเขาให้เป็นผู้มีศีลธรรมจรรยาดี อีกประการหนึ่ง ก็คงจะเป็นเพราะเกิดความมีจิตเมตตาสงสารและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของตัวท่านและในฐานะที่ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอัสสัมชัญนี้เอง คงจะเป็นเหตุหนึ่งที่บรรดาสัตบุรุษผู้มีฐานะยากจนเป็นอันมากได้มาขอร้องท่านในเรื่องไม่สามารถจะหาเงินส่งบุตรหลาน ให้เข้าเรียนในสถานศึกษาที่ดีและเป็นโรงเรียนในสถานศึกษาคาทอลิกด้วยได้ เมื่อเป็นดังนี้ สถานศึกษา “แห่งความปราณี” แห่งนี้จึงได้จัดตั้งขึ้น เมื่อท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอัสสัมชัญได้ไม่นานนักและท่านยังรับเป็นผู้อุปถัมภ์โรงเรียนนี้สืบมา
สภาพของโรงเรียนเริ่มต้นจากโรงเรียนเล็กที่สุด และเจริญเติบโตใหญ่ขึ้นเป็นโรงเรียนใหญ่ที่มีคุณภาพยิ่งในกาลต่อมา เดิมตัวโรงเรียนประกอบด้วยเรือนไม้ชั้นเดียวเล็กๆ มีห้องเรียน 5 ห้อง มีครูประมาณ 4-5 คน นักเรียนส่วนใหญ่เป็นบุตรหลานของ สัตบุรุษคริสตังที่ยากจน บางคนก็มีค่าเล่าเรียนพอชำระอยู่บ้างไม่พอชำระบ้าง ผู้ใดยากจนจริงๆ ก็ได้รับความอุปการะจาก คุณพ่อ เลโอ แปรูดอง โดยไม่ต้องชำระค่าเล่าเรียนเลย ซึ่งนักเรียนประเภทนี้มีอยู่เป็นจำนวนมาก
ด้วยความมานะพยายามของคุณพ่อ เลโอ แปรูดอง ในครั้งนั้น โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษาเป็นโรงเรียนที่ทันสมัยและมีคุณภาพดีแห่งหนึ่ง มีนักเรียนมากจนไม่สามารถบรรจุนักเรียนได้ทั้งหมด อนึ่งในจำนวนนักเรียนดังกล่าวนี้ มีทั้งเด็กที่เป็นคาทอลิกและเด็กที่นับถือศาสนาอื่นด้วย นั่นย่อมหมายถึงว่าความกรุณานั้นไม่จำกัดอยู่เฉพาะในหมู่คาทอลิกเท่านั้น แม้เด็กที่ถือศาสนาอื่นก็ได้รับการเกื้อกูลจากคุณพ่อ เลโอ แปรูดองด้วย ทั้งๆ ที่ท่านเองก็มีภาระหนักทางด้านศาสนกิจมากพออยู่แล้ว
น้ำใจเมตตาปราณีของคุณพ่อ เลโอ แปรูดอง นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดในบรรดาครูอาจารย์ทั้งหลายที่สอนอยู่ในโรงเรียนของท่าน ซึ่งนับได้ว่าอยู่ในความอุปการะของท่านอีกสถานหนึ่งเช่นเดียวกัน ทุกคนต่างมีจิตเลื่อมใสศรัทธาเห็นพร้องด้วยในเจตนาดีของคุณพ่อเลโอ แปรูดอง จึงเป็นแรงผลักดันให้บังเกิดความมานะสามัคคีพากเพียรตั้งใจ ทำการอบรมสั่งสอนเด็กนักเรียนให้เจริญด้วยวิทยาการ ศีลธรรมและจรรยามารยาทอันดีงาม สมดังปณิธานที่คุณพ่อเลโอ แปรูดอง ได้อุตส่าห์เสียสละความเหนื่อยยากทั้งกายและใจ สละความคิด ตลอดจนทุนทรัพย์ที่ต้องใช้จ่ายในการนี้ อีกทั้งคอยให้คำแนะนำแนวทางการดำเนินงาน แก่บรรดาคณะครูอาจารย์ตลอดมา จนกระทั่งเป็นที่เชื่อถือแก่บรรดาผู้ปกครองทั้งหลายโดยทั่วกัน
เมื่อโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษาแยกตัวออกมาจากโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์นั้นได้เลือกบุคคลที่เคยดำเนินงานในโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 ปี มาดำเนินกิจการของโรงเรียนต่อไป
หลังจากท่านบาทหลวงทองดี กฤษเจริญ มรณภาพ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2508 หน้าที่ผู้จัดการโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษานั้น ท่านบาทหลวงวิลเลียม ตัน เป็นผู้ดำเนินงานต่อไป ท่านได้ดำเนินมาด้วยความราบรื่นและเจริญขึ้นเป็นลำดับเป็นนักพัฒนาโดยแท้ ด้วยความสามารถอันยอดเยี่ยมของท่าน อาคารเรียนไม้เก่า 3 หลังก็ได้กลายสภาพเป็นตึกอันโอ่โถง มีห้องเรียนและห้องอุปกรณ์ต่างๆ สมกับเป็นโรงเรียนที่ได้รับรองวิทยฐานะเทียบเท่าโรงเรียนของรัฐ นอกจากท่านจะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอัสสัมชัญและเป็นผู้จัดการโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษาแล้วท่านยังเอาใจใส่อบรมมารยาทแก่นักเรียนในความดูแลของท่าน และที่สำคัญก็คือท่านได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ทางด้านภาษาต่างประเทศแก่ลูกศิษย์ระดับมัธยมของโรงเรียนสำเร็จไปแล้วหลายรุ่นซึ่งลูกศิษย์ทั้งหลายก็ ยังระลึกถึงพระคุณของท่านมิรู้ลืมเลือนตลอดไป
สำหรับหลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนทั้งสอง คงดำเนินไปเช่นเดียวกันโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์เปิดสอนชั้น ป.1–ป.4/ม.1–ม.3 (เทียบเท่า ป.7) โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษาเปิดสอนชั้น ป.1–ป.4 เป็นสหศึกษา
{| class="wikitable"
| -> พุทธศักราช 2496
|ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา
|-
| -> ปีการศึกษา 2498
|วันที่ 21 มิถุนายน กระทรวงศึกษาธิการรับรองวิทยฐานะเทียบเท่าโรงเรียนรัฐบาล
|-
| -> ปีการศึกษา 2503
|เลิกรับนักเรียนชาย จนถึง พ.ศ. 2510 นักเรียนชายจึงหมดรุ่นไปจากโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา
|-
| -> ปีการศึกษา 2508
|สร้างอาคาร เทเรซา อาคารเซซีลีอา และอาคารมารีอา
|-
| -> ปีการศึกษา 2516
|โรงเรียนปรับปรุงสนามใหญ่ และขยายตึกเรียนจากตึกมารีอาเดิมออกไปอีก สองปีก
|-
| -> ปีการศึกษา 2518
|เปิดแผนกอนุบาล คุณพ่อชัชวาล แสงแก้วเป็นผู้ดูแล รับนักเรียนเพิ่มขึ้นเป็น 2,295 คน
|-
| -> ปีการศึกษา 2520
|ก่อตั้งสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา
|-
| -> ปีการศึกษา 2535
|ก่อตั้งสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา
|-
| -> ปีการศึกษา 2536
|จัดฉลองการก่อตั้งโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษาครบ 60 ปี
|-
| -> ปีการศึกษา 2540
|ต่อเติมชั้น อาคารมารีอา ปีกด้านตะวันออก และส่วนกลางทำเป็นหอพักและที่พักซิสเตอร์
|-
| -> ปีการศึกษา 2542
|ปรับปรุงด้านอาคารสถานที่ โดยสร้างหลังคาคลุมสนามหลังอาคารมารีอาด้านติดวัดสวนพลู รื้อกำแพงโถงใต้ตึกมารีอาออกให้บริเวณใต้ตึกต่อเนื่องกับสนามที่สร้างหลังคาใหม่ ปรับขนาดห้องสมุดโดยขยายออกมาถึงระเบียงเดิม ทำให้กว้างและมีบรรยากาศโปร่งตาขึ้น
|-
| -> ปีการศึกษา 2543
|ขยายห้องเรียนระดับประถม จาก 4 ห้อง เป็น 5 ห้อง โดยใช้บริเวณชั้น 3-4 ของอาคารเซซีลีอาทำเป็นห้องเรียน 4 ห้อง ห้องพักครู 1 ห้อง และต่อเติมชั้น 5 อาคารมารีอา ปีกด้านตะวันตกทำเป็นห้องเรียนได้ 2 ห้องเรียนและห้องหมวดได้ 1 ห้อง สร้างลิฟท์ที่บริเวณหัวตึกมารีอา ต่อเติมชั้นลอยใต้ตึกมารีอาขึ้นอีก 1 ส่วน เป็นห้องคำสอน ห้องกิจการนักเรียน ห้องรับแขก และห้องเก็บของรวมทั้งส่วนซ่อมบำรุง ช่วงเวลาเดียวกันก็ได้มีการรื้อบ้านที่ได้คืนมาด้านติดวัดสวนพลูออกไป 2 หลัง ทำให้ลงมือสร้างอาคาร 6 ชั้นขึ้นที่บริเวณดังกล่าวในปีเดียวกันนี้เอง นอกจากนั้น ยังได้มีการสร้างหลังคาถาวรขนาดใหญ่ขึ้นคลุมบริเวณสนามหน้าตึกมารีอา
ในปีการศึกษานี้มีการปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา 2 ห้อง ห้องบริการ 1 ห้อง ติดตั้งห้องคอมพิวเตอร์เพื่อการค้นคว้าบนInternet ที่ห้องสมุด จำนวน 8 เครื่อง และติดตั้งคอมพิวเตอร์ เพื่อการใช้งานให้ฝ่ายและหมวดต่างๆ
ในปีการศึกษา 2543 นี้ โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษาได้รับการคัดเลือกจากกรมศาสนาให้เป็นสถานศึกษาที่จัดจริยศึกษาดีเด่นประจำปีการศึกษา 2542 ด้วย
นอกจากนั้น ทางโรงเรียนยังได้ขอรับประกันคุณภาพการศึกษาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนด้วย
|-
| -> ปีการศึกษา 2543
|โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา ได้รับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษา ระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ตั้งแต่ปีการศึกษา 2543 ถึงปีการศึกษา 2547
|-
| -> ปีการศึกษา 2543
|โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา ได้รับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษา ระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ตั้งแต่ปีการศึกษา2543 ถึงปีการศึกษา 2547
|-
| -> ปีการศึกษา 2545
|โรงเรียนได้ขยายหลักสูตรในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายโดยแบ่งออกเป็น 2 แผนการเรียน คือแผนการเรียนวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ และแผนศิลป์ภาษา อังกฤษ-ฝรั่งเศส และในปีนี้ โรงเรียนได้เข้าร่วมเป็นโรงเรียนเครือข่ายนำร่องในการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในระดับชั้น ป.1, ป.4, ม.1 และ ม.4 นอกจากนั้นยังได้มีการสร้างห้องศูนย์สื่อสำหรับเด็กอนุบาลและโรงอาหาร ได้รับการตรวจจากสำนักงานรับรองคุณภาพมาตรฐานการศึกษา (สมศ.) ในปีการศึกษา 2545 โดยได้รับระดับคุณภาพ 3 ทุกมาตรา (14 มาตรา 53 ตัวบ่งชี้ ) ปีการศึกษา 2545 - 2549
|-
| -> ปีการศึกษา 2546
|โรงเรียนได้ขยายหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในโครงการโรงเรียนเครือข่ายนำร่องในระดับ ป.2, ป.5, ม.2 และ ม.5
|-
| -> ปีการศึกษา 2547
|กิจกรรมฉลองครบรอบ 72 ปี พร้อมมีพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารเรียนหลังใหม่ โดย ฯพณฯ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ในวันเสาร์ที่ 29 มกราคม 2548 เวลาประมาณ 17.00 น.
|-
| -> ปีการศึกษา 2548
|ได้ดำเนินการต่อเติมหลังคา และติดตั้งพัดลมเพดานทุกห้องเรียนและห้องปฏิบัติการต่างๆ
|-
| -> ปีการศึกษา 2549
|ได้รับการรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) รอบสองระดับดีทุกมาตรฐาน
|-
| -> ปีการศึกษา 2550
|อาคารใหม่สร้างเสร็จ นักเรียนชั้น ป.5 – ม.6 ย้าย ทำการเรียน การสอนที่อาคารใหม่เดือนตุลาคม
|-
| -> ปีการศึกษา 2551
|เปิดรับนักเรียนชั้นมัธยมปลาย แผนกภาษาจีน – อังกฤษ
|-
| -> ปีการศึกษา 2552
|จดโดเมนเนมและเปิดใช้งานเว็บไซต์ <nowiki>http://www.as.ac.th</nowiki>
|-
| -> ปีการศึกษา 2553
|ปรับปรุงระบบเครือข่ายและเว็บไซต์
|-
| -> ปีการศึกษา 2554
|เปิดโครงการห้องเรียนทดลองวิทย์ (Gakken) จากประเทศญี่ปุ่น
เปิดรับนักเรียนชายในระดับปฐมวัย (เตรียมอนุบาลถึงอนุบาล 3)
เปิดใช้ห้องกระดานอัจฉริยะ (Smart Board) ในการเรียนการสอน จำนวนสองห้อง
ได้รับการรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) รอบสามระดับดีมากในทุกระดับ
ได้ทำพื้นสนามบาสใหม่ และทำอัฒจรรย์
|-
| -> ปีการศึกษา 2555
|ได้ปรับปรุงสนามบาสและพื้นลานสนามอาคารเธเรซา และทำหลังคาอัฒจรรย์
เปิดรับนักเรียน Special Intensive English Program ใช้ครูเจ้าของภาษา สอนใน 5 วิชา ระดับ ป.1-2
|-
| -> ปีการศึกษา 2556
|เปิดรับนักเรียน Special Intensive English Program ใช้ครูเจ้าของภาษา สอนใน 5 วิชา ระดับ ป.1-3
|-
| -> ปีการศึกษา 2557
|เปิดรับนักเรียน Special Intensive English Program ใช้ครูเจ้าของภาษาสอนใน 5 วิชา ระดับ ป.1-4 ม.1 และ ม.4
เปิดรับนักเรียน Gifted ห้องวิทย์-คณิต ระดับ ม.1 และ ม.4
ทำห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 3 ใหม่ ใช้ Computer All In One และ TV 4 ด้าน
ใช้อาคารห้องประชุมชั้น 4 เป็นโบสถ์ อาสนวิหารปิดปรับปรุงชั่วคราว
ได้รับการรับรองโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษา ที่มีคุณภาพมาตรฐานสู่สากล
ผู้รับใบอนุญาตฯ ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นพระคาร์ดินัล จากองค์สมเด็จพระสันตปาปาฟรังซิส
|-
| -> ปีการศึกษา 2558
|เปิด Face book โรงเรียน <nowiki>https://www.facebook.com/assumptionsuksa.as</nowiki>
ติดตั้งสื่อโทรทัศน์มัลติมีเดียในห้องเรียน
|-
| -> ปีการศึกษา 2560
|ปรังปรุงอาคารเทเรซา ใหม่เป็นแผนกปฐมวัย ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องเครื่องเล่น ห้องดนตรี
เปิดการติดต่อทางโรงเรียนด้วย Line ID: <nowiki>http://line.me/ti/p/~assumpsuksa</nowiki>
|-
|
|สร้างสระว่ายน้ำแผนกปฐมวัย
|-
| -> ปีการศึกษา 2561
|ปรับปรุงห้องสมุด ระดับประถม
ติตตั้ง ระบบ Scan บัตรนักเรียนและผู้ปกครอง เข้า-ออก โรงเรียน
ติดตั้ง ระบบ ซื้ออาหารและอุปกรณ์เครื่องเขียน ผ่านบัตร Smart Card
|}
== สถานที่ตั้ง ==
|