ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เหงียน ฟุก กั๋ญ"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
แอนเดอร์สัน (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 26:
การเสด็จในครั้งนั้นมีผู้ติดตามจากราชสำนักเวียดนามอันประกอบด้วยขุนนางสองคน พระญาติพระองค์หนึ่งซึ่งต่อมาได้เข้ารีตเป็น[[คริสตัง]]และถูกเรียกอย่างลำลองว่าเจ้าชายปัสกาล (Prince Pascal) นอกจากนี้ยังมีทหารและข้าราชบริพารอีกจำนวนหนึ่ง<ref name="Mantienne, p.84, p.200">Mantienne, p.84, p.200</ref> ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1785 ได้มีงานเลี้ยงรับรองหลังเสด็จถึงเมือง[[พอนดิเชอร์รี]] (Pondicherry)<ref name="Mantienne, p.84, p.200"/> ต่อมาออกเดินทางจากพอนดิเชอร์รีไปยังฝรั่งเศสในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1786<ref>Mantienne, p.92</ref> จนถึงประเทศฝรั่งเศสในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1787<ref>Mantienne, p.93</ref>
หลังเสด็จถึงได้ระยะหนึ่ง [[พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส]]จึงทรงถวายการต้อนรับด้วยการงานเลี้ยงฉลองพระราชอาคันตุกะในวันที่ 5 หรือ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1787 ก่อนลงพระนามาภิไธยใน[[สนธิสัญญาแวร์ซาย (ค.ศ. 1787)|สนธิสัญญาแวร์ซาย]]เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนปีเดียวกัน<ref>Mantienne, p.97</ref> การเสด็จมาของเจ้าชาย
เจ้าชายกั๋ญทรงสนพระทัยใน[[คริสต์ศาสนา]]เป็นอันมาก<ref>"ถึงเขา [บาทหลวงปีแยร์ ปีโญ เดอ เบแอน] จะเปลี่ยนให้ [จักรพรรดิ] ซา ล็องเข้ารีตในคริสต์ศาสนามิได้ แต่เขาก็ประสบความสำเร็จในการที่ทำให้เจ้าชายกั๋ญให้เป็นคริสตังที่สนพระทัยในพระศาสนาอย่างยิ่งยวด พระองค์ถูกติเตียนอย่างรุนแรงหลังพระองค์ทรงบอกพระราชชนนีให้ปาพระบังคนหนักใส่หมู่พระพุทธรูป" (He had not converted Gia Long to Christianity, but had succeeded in making Prince Canh a Catholic zealot, universally condemned for having told his mother to throw feces on Buddhist images) ใน ''A History of Vietnam'' by Oscar Chapuis, p.179 [https://books.google.com/books?id=Jskyi00bspcC&pg=PA179&dq=Canh+Catholic&sig=ACfU3U3V_Q_FNrkjzog6uahkNVu-jYzVTw]</ref> ด้วยมีพระราชศรัทธาที่จะเข้า[[พิธีรับเข้าเป็นคริสต์ศาสนิกชน|พิธีล้างบาป]]เป็นกำลัง<ref>Mantienne, p.200</ref> แต่บาทหลวงปีแยร์ ปีโญ เดอ เบแอนถวายคำแนะนำว่าไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะเกรงว่าอาจสร้างปฏิกิริยาเชิงลบจากราชสำนักเวียดนาม<ref>Mantienne, p.122</ref>
|