ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ซันเรโม"

| name = ซานเรโมซันเรโม

| image_caption = ท่าเรือซานซันเรโมในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2008

'''ซานเรโมซันเรโม''' ({{lang-it|Sanremo หรือ San Remo}})<ref>The official spelling of the city is Sanremo, a [[phonetic]] contraction of San Romolo (Saint Romolo), official saint and protector of the city. In the local dialect of [[Ligurian language (Romance)|Ligurian]], it sounds like ''Sanrœmu''. The spelling ''San Remo'', as two words, was introduced in 1924 by the mayor and used in official documents during [[Fascism]]. This form of the name appears still on some road signs and, more rarely, in unofficial tourist information. It has been the most widely used form of the name in English at least since the 19th century.</ref> เป็นเมืองบนชายฝั่ง[[ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ]]ทางตะวันตกของ[[แคว้นลีกูเรีย]] ทางทิศเหนือ-ตะวันตกของ[[ประเทศอิตาลี]] เมืองมีประชากร 56,864 คน (ณ วันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2019) เมืองนี้ก่อตั้งใน[[อาณาจักรโรมัน|ยุคโรมัน]] และเป็นที่รู้จักในฐานะจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว มีการจัดเทศกาลวัฒนธรรมหลายครั้ง อาทิ [[เทศกาลดนตรีซานเรโมซันเรโม]] นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่จัดประชุมนานาชาติเมื่อ ค.ศ. 1920 ของผู้แทนประเทศต่าง ๆ ใน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]]

[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]เคยเสด็จประพาสซานซันเรโมและประทับอยู่เป็นเวลาถึง 15 วัน พระองค์ทรงเปรียบเปรยสภาพบ้านเมืองและความเป็นอยู่ (ในขณะนั้น) ว่าคล้ายเคียงกับ[[เกาะสีชัง]] ของ[[ประเทศไทย]]<ref>https://www.silpa-mag.com/quotes-in-history/article_13455</ref>

ซานซันเรโมสามารถเชื่อมต่อกับ[[เจนัว]]และเวนตีมีเกลียบริเวณพรมแดนชายแดน[[ประเทศฝรั่งเศส]]ได้โดยมอเตอร์เวย์หมายเลข A10 ซึ่งช่วงสุดท้ายของทางหลวงนี้รู้จักกันในชื่อ "มอเตอร์เวย์แห่งดอกไม้" ({{lang-it|Autostrada dei Fiori}}) มอเตอร์เวย์นี้มีจุดยกระดับหลายช่วงซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพชายฝั่งได้ นอกจากนี้ ยังเชื่อมต่อกับทางหลวง A8 ของฝรั่งเศสบริเวณพรมแดนระหว่างเมืองเวนตีมีเกลียกับมอนตอน เส้นทางเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงยุโรป E80 โดยมอเตอร์เวย์ A10 เป็น[[ถนนที่เก็บค่าผ่านทาง]]ตลอดสาย ส่วนทางหลวง A8 เก็บค่าผ่านทางเพียงบางส่วนเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเดินทางจากอิตาลีไปยังฝรั่งเศส ผู้ขับไม่ต้องจ่ายค่าผ่านทางหลังจากที่ผ่านเมืองมอนตอนกับโมนาโกไปแล้ว

ถนนสำคัญสายอื่น ๆ อาทิ ถนน SS1 หรือ "ออเรลาบิส" ซึ่งเชื่อมต่อเมืองนี้กับตักกา เป็นถนนเลี่ยงเมืองที่ไม่เก็บค่าผ่านทาง มักประสบปัญหาจราจรติดขับเนื่องจากมีช่องทางวิ่งเดียว ถนนสายนี้มี[[รถโดยสารประจำทางไฟฟ้า]]ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างซานซันเรโมกับตักกาและเวนตีมีเกลีย วิ่งให้บริการ

ท่าอากาศยานที่ใกล้ที่สุดคือท่าอากาศยานโกตดิอาซูร์ที่เมือง[[นีซ]]ในประเทศฝรั่งเศส ใช้เวลาขับรถจากซานซันเรโมประมาณ 45 นาที นอกจากนี้ ยังมีสายรถไฟเชื่อมต่อระหว่างซานซันเรโมกับเมืองอื่น ๆ ในแคว้นเดียวกันอย่างอิมปีราและเจนัว รวมไปถึงเมืองที่ห่างออกไปอย่างนีซ [[มิลาน]] [[ตูริน]] และ[[โรม]]

เคยมีสายรถไฟเจนัว–เวนตีมีเกลีย ซึ่งวิ่งเลียบชายฝั่งและให้ทิวทัศน์แก่นักท่องเที่ยว ต่อมาทางรถไฟได้ถูกปรับให้ลงใต้ดินเพื่อให้รถไฟวิ่งได้เร็วขึ้น [[สถานีรถไฟซานเรโมซันเรโม]]ก็ถูกย้ายที่ตั้งไปอยู่ข้างศาลาว่าการ ส่วนสถานีรถไฟแห่งเก่าถูกปรับปรุงให้เป็นถนนคนเดินและทางวิ่งรถจักรยาน เมืองนี้มีเส้นทางรถจักรยานเช่าเที่ยวชมชายหาด ระยะทาง {{cvt|24|km}} ตั้งแต่ย่านซันโลเรนโซอัลมาเรทางทิศตะวันตก ไปจนถึงย่านโอสเปดาเลตตีทางทิศตะวันออก<ref>https://italy-cycling-guide.info/traffic-free-cycleways/cycling-riviera/</ref>

ซานซันเรโมเป็นเมืองแฝดกับ

{{commons category|Sanremo|ซานเรโมซันเรโม}}

{{Wikivoyage|Sanremo|ซานเรโมซันเรโม}}