ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ซีพี ออลล์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 28:
* ร้านสาขาบริษัท เป็นร้านที่บริษัทเป็นเจ้าของและบริหารเองทั้งหมด
* ร้าน Store Business Partner (SBP) เป็นร้านที่ทางบริษัทช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจแก่นักลงทุน โดยเลือกจากเซเว่น อีเลฟเว่นของทางบริษัทที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว หรืออาจทำธุรกิจในทำเลของตัวเอง โดยระยะเวลาอนุญาตให้ดำเนินการร้านและผลประโยชน์ตอบแทน ขึ้นอยู่กับประเภทของ SBP
* ผู้ประกอบการรับสิทธิ์ช่วงในอาณาเขต (Sub-Area License) เป็นร้านที่บริษัททำสัญญาอนุญาตให้สิทธิ์ช่วงแก่ผู้ประกอบการท้องถิ่น เฉพาะโดยมีกลุ่มตันตรานนท์ ผู้ประกอบการค้าปลีกท้องถิ่นรายใหญ่ของเชียงใหม่ ดูแลพื้นที่เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน, กลุ่มงามทวี ดูแลพื้นที่ภาคใต้ตอนบน เช่น ภูเก็ต กระบี่ ตรัง, กลุ่มศรีสมัย ดูแลบางจังหวัดในภาคใต้ตอนล่าง เช่น ยะลา และกลุ่มยิ่งยง ดูแลการขยายเซเว่น อีเลฟเว่นใน 4 จังหวัดภาคอีสาน ได้แก่ [[ภูเก็ต]]อุบลราชธานี [[ยะลา]]สุรินทร์ [[เชียงใหม่]]ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ<ref>[[อุบลราชธานี]https://www.brandbuffet.in.th/2017/12/cpall-create-sub-area-license-model-expand-province/ ล้วงลึก “ระบบ Sub-Area License” โมเดลขยายสาขา “เซเว่น อีเลฟเว่น” ในต่างจังหวัด]</ref> โดยผู้กลุ่มเหล่านี้ได้รับสิทธิ์ช่วงจะช่วงะรับผิดชอบการเปิดสาขาและบริหารร้าน
 
===การตลาด===
เซเว่น อีเลฟเว่น ในยุคแรกมีรูปแบบเป็น[[มินิมาร์ต]] คือเน้นขายสินค้าที่ไม่ใช่อาหารมากกว่า ในช่วง 20 สาขาแรก ได้มีการลงทุนเองโดยการซื้อตึกมาเปิดสาขาเอง แต่หลังจากนั้นหันมาใช้วิธีการเช่าแทนจึงทำให้สามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว หลังจากปี พ.ศ. 2533 ได้เปลี่ยนกลยุทธ์การใช้ระบบแฟรนไชส์ และซับแอเรียไลเซนซ์ (ผู้ประกอบการรับสิทธิ์ช่วงในอาณาเขต) ถือเป็นที่แรกในโลกที่ใช้ระบบซับแอเรียไลเซนซ์<ref name="brandage">[http://www.brandage.com/article/9336/7-Eleven 5 จุดเปลี่ยนเซเว่น อีเลฟเว่น ก่อนที่จะเป็นเบอร์ 1 แบบแกร่งทั่วแผ่น]</ref> เมื่อขยายได้เกิน 400 สาขา ทำให้บริษัทผ่านจุดคุ้มทุน จึงมีเงินเหลือในการลงทุนด้านต่าง ๆ เพื่อเข้ามาสนับสนุนการทำตลาด เช่น เปิดสถาบันปัญญาภิวัฒน์ เพื่อพัฒนาทีมงานด้านค้าปลีกโดยเฉพาะ<ref name="brandage"/>